บทที่344 คุณอย่าเสียใจภายหลัง
1/
บทที่344 คุณอย่าเสียใจภายหลัง
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
บทที่344 คุณอย่าเสียใจภายหลัง
บทที่344 คุณอย่าเสียใจภายหลัง สีหน้าของจิดาภาไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ มีเพียงแต่ความเย็นชาเท่านั้น แววตาทั้งสองของเธอนั้นเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง ทำให้ไม่มีใครกล้าสบตากับเธอ ลักษณะท่าทางของเธอไม่ได้ดูอันตรายเหมือนกับจิรภาส แต่กลับแสดงออกถึงการสะกดความรู้สึกและเด็ดเดี่ยวออกมาให้เห็น เธอไม่ได้ล้อเล่น หากญาณิดาไม่ฟังคำเตือนของเธอ เธอจะทำให้ญาณิดาต้องรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต จิดาภาไม่ได้สนใจญาณิดาอีก เธอหันกลับมาโค้งศีรษะให้กับท่านจิรชยา “ข่าวพวกนั้น จะหายไปในเร็วๆนี้ ขอให้คุณปู่วางใจได้ค่ะ วันนี้รบกวนคุณปู่มากแล้ว” เมื่อพูดจบ จิดาภาก็จะหันหลังกลับออกไป เพียงแต่.... “เธอออกจากวงการบันเทิงซะ แล้วเรื่องเมื่อก่อน ฉันจะไม่ตำหนิเรื่องความผิดในอดีตพวกนั้น!” “คุณปู่รู้ค่ะว่าฉันจะไม่ทำแบบนั้น เมื่อวานฉันพูดกับคุณปู่ชัดเจนแล้ว” จิดาภาไม่ได้หันกลับมา น้ำเสียงของเธอนั้นฟังดูหมองลงเล็กน้อย “ได้....ถ้าเธอออกไปจากที่นี่อีก ฉันจะไม่ให้โอกาสเธออีกเลย เธอจะเป็นเหมือนญาณิดา ที่จะไม่ใช่หลานสาวของฉันอีกต่อไป!” ท่านจิรชยาใช้แรงพยุงไม้เท้าไว้ “ญาณิดาทำผิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เธอทำนั้นถูก! ถ้าเธอไม่ได้เข้าไปอยู่ในวงการนี้ จะมีเหตุการณ์อย่างวันนี้เกิดขึ้นไหม?” “คุณปู่อาจจะเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่เคยคิดจะทำให้ตระกูลวีรภัทรเมธีต้องขายหน้า” “ไม่เคยคิดอย่างนั้นหรือ? ตอนนี้ที่เธอเข้าร่วมการแข่งขันพวกนั้น ถ่ายโฆษณา นั่นก็เป็นการทำให้ตระกูลเราต้องอับอายขายหน้าแล้ว!” ท่านจิรชยายังคงดูถูกอาชีพนักแสดงเช่นนี้ “ถ้าหากคุณปู่จะเข้าใจผิดแบบนี้ต่อไป ฉันก็คงไม่มีวิธีแล้วล่ะค่ะ” อารมณ์โกรธของท่านจิรชยาถูกจิดาภาจุดไฟให้ลุกขึ้นมาอีก “เธอไม่สนใจฉันไม่เป็นไร แต่แม้แต่พ่อแม่เธอก็จะไม่เห็นแก่พวกเขาเสียหน่อยรึไง?” “จิดาภา กลับมาเถอะนะ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน มีอะไรทำไมจะนั่งคุยกันดีๆไม่ได้?” วรพลลุกขึ้นมาเกลี้ยกล่อมเธอ จิดาภาส่ายหน้า เรื่องบางเรื่องเมื่อก้าวเท้าออกไปแล้ว ก็ไม่สามารถหันย้อนกลับมาได้อีก อีกทั้งเธอเองก็ไม่ได้อยากกลับมายังตระกูลวีรภัทรเมธีนี้อีก และในขณะที่จิดาภาเตรียมจะเดินออกไปนั้น รุจาภาจึงเอ่ยขึ้น “เป็นฉันเองค่ะที่ทำผิดต่อเขา เขาเกลียดฉัน ยอมที่จะไม่มีแม่อย่างฉัน...” “ถ้าหากไม่มีฉันอยู่ในโลกนี้ เธออาจจะไม่ต้องมาแบกรับภาระหนักๆอะไรแบบนี้” รุจาภากล่าวด้วยน้ำตา วรพลจึงรีบปลอบใจเธอ “ลูกไม่คิดแบบนั้นหรอก คุณอย่าพูดแบบนี้เลยนะ” ท่านจิรชยาเมื่อได้เห็นฉากตรงหน้านี้แล้วนั้น จึงเอ่ยออกมา “วันนี้จิดาภาจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ฉันจะส่งคนไปจัดการเรื่องข่าวพวกนั้น ส่วนญาณิดา....ครั้งนี้จะยกให้ครั้งนึง มิเช่นนั้น ฉันจะไล่เธอออกไปจากบ้านหลังนี้จริงๆ” จิดาภาก้มหน้าลง น้ำเสียงเศร้าหมองลง “ขอโทษนะคะคุณปู่ ฉันทิ้งงานแสดงไปไม่ได้” “ต่อไปไม่อนุญาตให้เธอออกจากบ้านหลังนี้ไปแม้แต่ก้าวเดียว!” ท่านจิรชยาออกคำสั่ง ให้พ่อบ้านคนสนิทขวางหน้าจิดาภาไว้ “ตอนนี้เธอหันกลับมายังทัน กลับมาเป็นทายาทที่สูงส่งของตระกูลวีรภัทรเมธี จะไม่ดีไปกว่าไปเป็นนักแสดงแบบนั้นเลยหรือ?” จิดาภาไม่ได้โต้ตอบอะไร แต่หันกลับไปด้วยท่าทางเงียบๆของเธอ แล้วเอ่ยพูดกับท่านจิรชยาว่า “คุณปู่คะ คุณปู่จะใช้วิธีนี้เพื่อรั้งฉันไว้จริงๆหรือคะ?” ท่านจิรชยากำไม้เท้าไว้แน่น ตั้งแต่ที่จิดาภาเดินเข้ามาจนถึงตอนนี้ เขาก็รับรู้ได้เลยว่าหลานสาวตรงหน้าเขาคนนี้ไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนที่ใครจะมารังแกได้ง่ายๆอีกต่อไปแล้ว ความตั้งใจของเธอที่มีแต่ความมุ่งมั่น จิดาภาที่เป็นแบบนี้ เขาจะรั้งไว้ได้หรือ? ญาณิดาคุกเข่าลงไปที่พื้น แล้วหลับตาลงด้วยความทุกข์ทรมาน ได้ยินท่านจิรชยาที่พยายามรั้งจิดาภาไว้เช่นนี้แล้ว หัวใจของเธอราวกับแตกออกไปเสี่ยงๆด้วยความเจ็บปวด “คุณปู่ อยากจะให้เขากลับมาจริงๆหรือคะ?” ญาณิดาลุกขึ้นยืน สายตากวาดมองไปเห็นมีดผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาแล้วเอามีดมาจ่ออยู่ที่คอของตัวเอง “ถ้าหากหนูอยากให้คุณปู่เลือกเพียงแค่คนเดียวล่ะคะ?” “ถ้าหากคุณปู่ต้องการให้จิดาภากลับมา ฉันก็คงมีเพียงแค่ทางเลือกเดียวแล้ว” “เธอ!” ท่านจิรชยาตัวสั่นเทา “รีบวางมีดลงซะ!” ญาณิดากัดริมฝีปากแดงของตัวเอง แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “คุณปู่ หนูไม่ได้ล้อเล่น บ้านหลังนี้ ยอมเธอได้ แต่ยอมหนูไม่ได้อย่างนั้นหรือ!” “เธอจะทำอะไร!” ท่านจิรชยารีบเข้าไป แล้วออกแรงดึงมือญาณิดาเอาไว้ “ปล่อยเดี๋ยวนี้!” ญาณิดาเห็นท่านจิรชยาเป็นห่วงตัวเองเช่นนี้ น้ำตาไหลออกมา แล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดท่านจิรชยา “พวกเราเชื่อฟังกตัญญูกับคุณปู่ดีไม่พอใช่ไหมคะ? ทำไมจะต้องให้เธอกลับมาด้วย? หลายปีมานี้ ทั้งๆที่เธอไม่เคยมองเห็นพวกเราเป็นครอบครัวของเธอเลย บ้านหลังนี้สำหรับเธอแล้วไม่ได้มีความหมายอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ!” “มีอะไรก็พูดคุยกันดีๆ อย่าทำเรื่องโง่ๆแบบนี้” อีกเพียงนิดเดียวท่านจิรชยาจะรู้สึกโมโหเสียจนอาการป่วยกำเริบอยู่แล้ว “คุณปู่ รับปากหนูนะคะว่าจะไม่ให้จิดาภากลับมาที่บ้านของเราอีก ไม่อย่างนั้นหนูคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว” ญาณิดาใช้วิธีนี้ในการบีบบังคับท่านจิรชยา และในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ เขาจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับ “ได้ ฉันรับปาก” และเวลานั้นเอง ใบหน้าของญาณิดาจึงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นอีกครั้ง ส่วนในใจของจิดาภานั้นมีความรู้สึกที่เหมือนจมดิ่งลงไปในทะเลอีกครั้งหนึ่ง “จิดาภา พ่อให้คนไปส่งลูกกลับก่อนนะ แล้ววันหลัง พ่อจะไปรับลูกกลับมา” วรพลเอ่ยขอร้องจิดาภา เพียงแต่.... จิดาภาผลักมือเขาออกไป “ไม่ต้องหรอกค่ะ ดูแลเธอให้ดีเถอะค่ะ นับตั้งแต่วันนี้ไป ฉันกับตระกูลวีรภัทรเมธีของพวกคุณไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ถ้าหากเธอยังมาหาเรื่องฉันอีกล่ะก็ ผลที่จะตามมาก็รับผิดชอบกันเอาเองนะคะ” “คุณท่านครับ ประธานบริษัทเค.เอฟมาครับ!” หลังจากที่จิดาภาพูดจบนั้น พ่อบ้านคนสนิทจึงรีบวิ่งเข้ามารายงาน “ให้เขากลับไป!” ท่านจิรชยาได้ยินดังนั้นแล้ว จึงรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก “ให้เขาเข้ามาค่ะ” จิดาภาโต้ตอบกลับไป พ่อบ้านลังเล..... “นี่เป็นเรื่องภายในของครอบครัวเรา เกี่ยวอะไรกับคนนอกอย่างเขาด้วย?” “ได้ค่ะ ถ้าหากไม่ให้เขาเข้ามาล่ะก็ ฉันจะได้เอามีดมาจ่อคอตัวเองให้เป็นร่องรอยไว้บ้าง” จิดาภากล่าวออกมาด้วยความเย็นชา ท่านจิรชยาทำอะไรไม่ได้เมื่อเจอคำพูดเช่นนี้ของเธอเข้า จึงเพียงพยักหน้า ให้พ่อบ้านพาเขาเข้ามา เพียงแต่จิรภาสนั้นไม่ได้มาเพียงคนเดียว เขาพาบอร์ดี้การ์ดที่แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำมาด้วยเป็นสิบคน ทำให้บรรยากาศภายในห้องรับแขกของตระกูลวีรภัทรเมธีอึดอัดยิ่งไปกว่าเดิมเสียอีก “คุณจิรภาส คุณทำแบบนี้หมายความว่าอะไร?” ท่านจิรชยาเอ่ยถามจิรภาสออกไปอย่างไม่เกรงใจ สำหรับผู้ชายคนที่จะแย่งหลานสาวของเขาไปนั้น ท่านจิรชยาพร้อมที่จะขัดขวางอย่างเต็มที่ จิรภาสไม่ได้เผชิญหน้ากับท่านจิรชยาโดยตรง แต่เขากลับเดินมาหยุดตรงข้างๆจิดาภา “โอเคมั้ยครับ? ผมมาช้าไปหน่อย” น้ำตาของจิดาภากำลังจะไหลออกมา เธอก้มหน้าลงจับมือของจิรภาสไว้ “คุณสามีคะ...พาฉันออกไปจากที่นี่ที” “ครับ ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้” จิรภาสโอบเธอไว้ให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา ใบหน้าอันแสนเย็นชาปรากฏความไม่พอใจ “จัดการอย่างนั้นหรือ? อา ที่นี่ไม่ใช่ที่คุณจะมาทำอะไรตามใจก็ได้ บ้านของเราไม่ต้อนรับคุณ ขอให้คุณปล่อยหลานสาวของผมด้วย แล้วออกไปจากที่นี่ซะ!” ท่านจิรชยาตะโกนออกมาเสียงดัง เพียงแต่จิรภาสยกยิ้มออกมาอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยกับเขาไปตรงๆ “ผมมารับคนตระกูลปรีดาอัครกุลของผมกลับ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?” “เธอเป็นหลานสาวของผม กลายเป็นคนตระกูลปรีดาอัครกุลของคุณไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!” จิรภาสไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพียงแต่หยิบเอกสารการแต่งงานของพวกเขาออกมา “ผมเป็นสามีของจิดาภา แบบนี้เธอเป็นคนของตระกูลปรีดาอัครกุลได้หรือยังครับ?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่344 คุณอย่าเสียใจภายหลัง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A