บทที่346 เปิดเผยเรื่องแต่งงาน

บทที่346 เปิดเผยเรื่องแต่งงาน “ขอแต่งงาน! ขอแต่งงาน!” “คุณจิรภาส รีบขอคุณจิดาภาแต่งงานเลยสิครับ!” ทุกคนต่างพากันตะโกนด้วยความยินดีออกมาไม่หยุด ทั้งกองถ่ายรายล้อมไปด้วยเสียงของคำอวยพร แต่ทว่าจิรภาสกลับหยิบเอกสารการแต่งงานของพวกเขาออกมา “เรื่องแต่งงาน เราแต่งกันเรียบร้อยแล้วครับ” ในเมื่อวันนี้เตรียมที่จะเปิดเผยเรื่องนี้แล้วนั้น ก็แสดงเอกสารการแต่งงานเหล่านี้ออกมาให้พวกเขาเห็นกันเสียเลยก็คงจะไม่เป็นไร เมื่อจิรภาสออกตัวมาเช่นนี้แล้ว ทำให้ทุกคนต่างพากันตกตะลึง ไม่นึกว่าพวกเขาจะเป็นสามีภรรยากันไปเรียบร้อยแล้ว.... “พระเจ้า พวกคุณจดทะเบียนกันแล้วหรือ?” “ว้าว ช่างมีความสุขเหลือเกิน โชคดีที่พวกเราไม่ได้เคยรังแกคุณจิดาภา มิเช่นนั้นพวกเราคงลำบากแน่ๆ!” “ภรรยาของท่านประธาน!” “ในเมื่อยังมีคำพูดเพ้อเจ้อของนักข่าวที่ว่าเป็นไม่ได้ที่คุณจิรภาสจะแต่งงานกับคุณจิดาภา นี่ถือว่าเป็นการตอกหน้าพวกนั้นกลับไปเลยสินะ” นักข่าว? จิรภาสมีอาการจริงจังขึ้นมา วันนี้เขาเพียงแค่เปิดเผยความสัมพันธ์เรื่องที่พวกเขาแต่งงานกันแล้วในขอบเขตเล็กๆเพียงเท่านั้น หลักๆเขาต้องการบอกกับคนของตระกูลวีรภัทรเมธี ตอนนี้ ควรจะถึงเวลาที่จะต้องบอกให้คนทั้งโลกได้รู้เสียแล้ว “คุณ Bieber ตอนกลางคืนผมจะเลี้ยงอาหารคนทั้งกองถ่ายเลยนะครับ ส่วนคุณจิดาภาผมขอพาเธอกลับก่อนแล้วกัน” “ขอบคุณครับคุณจิรภาส!” คนในกองถ่ายต่างพากันส่งเสียงร้องกันอย่างยินดี ครั้งนี้ประธานบริษัทเค.เอฟเลี้ยงเชียวนะ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องไปอยู่แล้ว หลังจากนั้น จิดาภาจึงเอ่ยขอบคุณชาครขึ้นอีกครั้ง “พี่ชาคร ขอบคุณนะคะที่ช่วงระยะเวลานี้พี่ดูแลฉันมาตลอด ฉันจะเก็บรักษาหนังสือที่พี่ให้มาเล่มนั้นไว้อย่างดีเลยค่ะ” “พอจะช่วยเธอได้บ้างก็ดีแล้ว ต่อไปยังมีโอกาสได้ร่วมงานกันอีก” ชาครยิ้ม “ฉันจะพยายามค่ะ!” หากอยากจะร่วมงานแสดงกับนักแสดงระดับอย่างเขานั้น จิดาภาจำเป็นที่จะต้องพยายามมากขึ้นอีกหลายเท่า “ขอให้เธอกับคุณจิรภาสอยู่ด้วยกันไปนานๆนะ” “ขอบคุณนะคะ” ช่วงเวลานี้ เธอได้เรียนรู้อะไรมากมายจากกองถ่ายละครนี้ และนับตั้งแต่วันนี้ไป เธอก็จะใช้สถานะที่ดีที่สุดของตัวเองเป็นภรรยาของจิรภาสให้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน ....... หลังจากที่จิดาภากลับไปแล้วนั้น ท่านจิรชยาอยู่ในห้องหนังสือใช้เวลาครุ่นคิดมาตลอด ญาณิดาจะต้องไม่มีทางยอมรับจิดาภาอย่างแน่นอน เรื่องเป็นเช่นนี้ เขาจะสามารถมอบตระกูลนี้ให้ใครได้กัน? เสียงเคาะประตูห้องหนังสือดังขึ้น ญาณิดาเอาชาโสมเข้ามาให้เขา ขอบตาของเธอยังคงแดงๆอยู่ “คุณปู่คะ พักผ่อนเสียหน่อยดีกว่านะคะ” “อา....”ท่านจิรชยาถอนหายใจออกมา จากเรื่องวุ่นวายในวันนี้ เขาจะพักผ่อนลงได้อย่างไรกัน? “คุณปู่ หนูรู้ว่าวันนี้หนูทำไม่ถูก แต่ขอให้คุณปู่ยกโทษให้หนูด้วยนะคะ หนูไม่สามารถยอมรับแม่ของจิดาภาได้จริงๆ รวมทั้งยอมรับตัวเธอด้วย หนูไม่ได้ดีขนาดนั้น....เพียงแค่คิดถึงแม่ หนูก็.....” ญาณิศากล่าว ทั้งยังสะอึกสะอื้นขึ้นมาอีก “แล้วเธอว่า ควรจะทำอย่างไร?” ญาณิศาวางชาโสมลง แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อเธอเป็นคนบอกเองว่าจะตัดขาดจากตระกูลของเราแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ประกาศออกมาเลยสิคะว่าเธอกับตระกูลวีรภัทรเมธีของเราไม่ได้มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด เพียงแต่ตอนที่แม่ของเธอแต่งงานใหม่นั้นพาเธอเข้ามาอยู่ด้วยเฉยๆ” หากเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าต่อไปจิดาภาจะอยู่ในวงการบันเทิงนี้ได้อย่างไร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลของเธอแล้ว ท่านจิรชยาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขากลับยกมือขึ้น เพื่อให้ญาณิศาออกไปก่อน หัวใจของเขาตอนนี้รู้สึกบอบช้ำเหลือเกิน ทำไมคนในครอบครัวของเขาถึงได้ทำเรื่องวุ่นวายให้กลายมาเป็นเช่นนี้..... เพียงแต่ญาณิดากลับเข้าใจว่า ที่ท่านจิรชยาไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับเช่นนี้ เป็นการยอมรับไปโดยปริยายแล้ว ในเมื่อจะตัดให้ขาด ก็ต้องตัดออกให้หมดสิ้น! …….. “จริงๆแล้วจิดาภากับตระกูลวีรภัทรเมธีก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดนี่เอง!” “แม่ของเธอก็ไม่ได้เป็นชู้ เพียงแค่แต่งงานใหม่เท่านั้นเอง เธอก็เลยเข้าไปอยู่ที่บ้านตระกูลวีรภัทรเมธีกับแม่ของเธอ มิน่าล่ะ.....” “แท้จริงแล้วเป็นคุณหนูผู้สูงส่งตัวปลอมนี่เอง ยังคิดว่าเบื้องหลังของเธอจะเก่งกว่านี้เสียอีก!” “แต่ที่ตระกูลวีรภัทรเมธีทำเช่นนี้ ก็เท่ากับว่าพวกเขาจะสลัดจิดาภาทิ้งแล้วหรือเปล่า? ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกทางสายเลือด พวกเขาประกาศออกมาแบบนี้นั่นก็แสดงว่าพวกเขาต้องการจะตัดขาดกับจิดาภาแล้วใช่ไหม? ช่างเจ็บปวดเสียจริงๆ...” “พวกตระกูลคนมีเงินมีอำนาจ จะหาความจริงใจได้จากที่ไหนกัน?” ตระกูลวีรภัทรเมธีแสดงออกมาว่าจิดาภาไม่ได้เป็นสายเลือดของพวกเขา เรื่องที่แม่ของเธอเป็นชู้ก็เป็นเพียงข่าวลือ แต่เช่นนี้ คนที่เยาะเย้ยจิดาภาอยู่นั้นก็ยังเพิ่มขึ้นไม่มีลดลงเลย ทั้งยังคิดว่าเธอเป็นลูกสาวผู้สูงส่งของตระกูลวีรภัทรเมธี แล้วตอนนี้....นับว่าเธอเป็นอะไรกัน? ตระกูลวีรภัทรเมธีจะต้องไม่ยอมรับการมีตัวตนของเธออย่างแน่นอน เธอถึงได้มาเข้าวงการบันเทิงเช่นนี้ ข่าวลือที่ออกมาเกี่ยวกับเธอและตระกูลวีรภัทรเมธีเหล่านั้นอาจจะมาจากเธอที่เป็นคนปล่อยข่าวพวกนี้ออกมาเองก็ได้ คิดอยากจะเพิ่มกระแสนิยมของตัวเอง แต่กลับถูกคนตระกูลวีรภัทรเมธีปฏิเสธ ............. คืนนี้เอง จิดาภาได้เห็นการแถลงข่าวนี้ของตระกูลวีรภัทรเมธี “เพื่อชื่อเสียงของตระกูล พวกเขาประกาศออกมาแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติแล้วล่ะ” เจนจิราที่อยู่ข้างๆเธอรู้สึกร้อนใจเสียจนแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว “แต่ว่าพวกเขาพูดออกมาแบบนี้ นั่นก็เท่ากับว่าพวกเขาหลอกใช้พี่นะ! พี่ไม่แคร์เลยหรือ?” “พี่จะแคร์หรือไม่แคร์ พวกเขาก็คงจะทำแบบนี้อยู่ดี” จะมากหรือน้อยอารมณ์ของจิดาภานั้นก็ต้องรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง “พี่จะไม่ใช้ความทุกข์เพื่อต่อสู้กับพวกเขา การแสดงออกว่ายอมแพ้ไม่ได้ทำให้พวกเขายอมปล่อยพี่ไปหรอก เพียงแค่ช่วยให้พวกเขาเย่อหยิ่งวางมาดใหญ่โตได้เพียงเท่านั้น ให้พวกเขารู้สึกว่าพี่ไร้ความสามารถ พี่อยากจะใช้ชีวิตตัวเองให้ดี พยายามให้มากกว่าเมื่อก่อน นี่ถึงจะเป็นวิธีตอบโต้พวกเขาที่ดีที่สุดต่างหาก” เจนจิรากำหมัดแน่น แล้วพยักหน้ารับแรงๆ “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ พี่จิดาภา” จิรภาสเองก็โทรมาหาเธออย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน “หลังจากนี้อีกหนึ่งชั่วโมงผมจะส่งรถไปรับคุณ มางานแถลงข่าวนะครับ” จิดาภาพยักหน้ารับ “ฉันทราบค่ะ คุณจิรภาส ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ.....” วันนี้ถือว่าเป็นวันของพวกเขา เธอไม่อยากให้จิรภาสต้องมามีความรู้สึกโกรธแค้นเพราะเรื่องพวกนี้ จากปลายสายเธอก็ฟังออกแล้วว่าเขากำลังพยายามระงับความโมโหของตัวเองอยู่ “ผมพยายามควบคุมแล้ว ผมเพียงแค่เกลียดตัวเอง ทำไมไม่เจอคุณให้เร็วกว่านี้ ทำไมจะต้องทำให้คุณได้รับการถูกทำร้ายตั้งมากมายขนาดนั้น! ผมผิดเอง” “ไม่ค่ะ พวกเราเจอกันในเวลาที่เหมาะพอดีต่างหาก เป็นคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้” จิดาภาพยายามไม่ร้องไห้ออกมา “ฉันจะเก็บของรอรถที่คุณจะให้มารับฉันนะคะ แล้วพบกันค่ะ” เธอรู้ว่าจิรภาสต้องการจิดาภาที่สวยที่สุดและมีความมั่นใจที่สุด เธอจะไม่ทำให้เขาต้องผิดหวัง เธอจะต้องทำให้คนที่รอเยาะเย้ยเธอพวกนั้นผิดหวังให้ได้! มีเพียงเช่นนี้ ถึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่สามารถจะปกป้องตัวเองได้ เรื่องที่ผ่านมาตั้งมากมาย เธอยังข้ามผ่านมันมาได้เลย เธอจะมาทำให้พังลงตรงนี้ไม่ได้! ในเมื่อตระกูลวีรภัทรเมธีปฏิเสธเธอว่าไม่ได้เป็นสายเลือดของตระกูลแล้วนั้น เธอเองก็จะได้เตรียมตัว ว่านับตั้งแต่นี้ไป เธอเองก็จะไม่คิดว่าตัวเองยังคงเป็นลูกหลานอันสูงส่งของตระกูลวีรภัทรเมธีอีกต่อไปเช่นกัน ไม่นาน ช่างแต่งหน้าก็มาถึง แล้วเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าและทำผมให้เธอ และในเวลานี้ ที่ออฟฟิศของเค.เอฟ จิรภาสวางสาย ด้วยสีหน้าที่ยังคงดูเคร่งขรึมเช่นเคย “ท่านจิรชยาคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่? ประกาศแบบนี้ออกมาจะส่งผลดีต่อตระกูลพวกเขาซักเท่าไหร่กันเชียว? ทำไมจะต้องบีบคุณจิดาภาขนาดนี้” Rickขมวดคิ้ว แล้วเอาข้อมูลในมือวางไว้บนโต๊ะ “ถึงแม้ว่าจิดาภาจะไม่ใช่สายเลือดของตระกูลวีรภัทรเมธีจริงๆ เขาก็ไม่ควรที่จะเสียสละเธอไปแบบนั้น” “แล้วคุณจิดาภา....” Rickที่เอ่ยถามไปเพียงครึ่งเดียว ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรต่ออีก จิรภาสไม่ได้แสดงอารมณ์ของตัวเองออกมาจนมากเกินไป เพียงแต่ในแววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความอันตรายและความเย็นชาปรากฏอยู่เช่นนั้น ตั้งแต่ที่ได้ยินข่าวนี้ เขาก็พยายามจะควบคุมตัวเองจนถึงที่สุด มิเช่นนั้น เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำเรื่องอะไรลงไปบ้าง “ต่อไป เธอก็จะไม่ต้องพูดถึงคนในตระกูลวีรภัทรเมธีอีกต่อไปแล้ว” Rickพยักหน้ารับ “ผมเข้าใจแล้วครับ เดี๋ยวหลังจากที่รอพวกนักข่าวมาแล้ว ผมจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่างให้ได้ครับ”