บทที่349 ชายอาวุโสป่วยอีกครั้ง
1/
บทที่349 ชายอาวุโสป่วยอีกครั้ง
ประธานาธิบดีไม่ดี
(
)
已经是第一章了
บทที่349 ชายอาวุโสป่วยอีกครั้ง
บทที่349 ชายอาวุโสป่วยอีกครั้ง หลังจากที่จิดาภาพูดสิ่งเหล่านี้ออกมานั้น ขอบตาของเธอนั้นเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา น้ำเสียงของเธอนั้นมีความสะอึกสะอื้นอยู่เล็กน้อย และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมานั้น มุมปากปรากฏรอยยิ้มแห่งความซาบซึ้งใจ เนื่องจากคำพูดนี้ของเธอทำให้นักข่าวหลายๆคนรู้สึกซึ้งใจยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไร ก็ล้วนแล้วแต่หวังว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะสนับสนุนตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไขด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอาชีพนักแสดงเช่นนี้ เป็นอาชีพที่ได้รับความสนใจจากผู้คนภายนอกยิ่งนัก "คุณจิดาภา ยินดีกับพวกคุณด้วยนะคะ!" "ขอให้พวกคุณมีความสุขตลอดไป!" "จะต้องมีแต่ความสุขนะ!" "จิดาภา มุ่งมั่นให้จนถึงที่สุดนะ ให้พวกคนที่พูดไร้สาระเหล่านั้นได้แปลกใจกันไปเลย" จิดาภาได้รับคำอวยพรจากทุกคน เธอยิ้มพร้อมกับจับมือของจิรภาสไว้ "ทุกท่านคะ หวังว่าทุกท่านจะสามารถรายงานข่าวดีๆในวันนี้ แล้วก็หวังว่าในอนาคตจะร่วมมือกันกับทางบริษัทเค.เอฟ เพื่อทำให้กระแสความนิยมในวงการบันเทิงเราเฉิดฉายยิ่งๆขึ้นไป!" Rickกล่าวบอกทุกคน "หลังจากที่งานแถลงข่าวนี้เสร็จสิ้นลง ห้องประชุมชั้น8ของโรงแรม มีจัดงานเลี้ยงต้อนรับทุกท่านในช่วงค่ำคืนนี้อยู่นะครับ" นี่สินะคืองานของเค.เอฟ! จัดงานเลี้ยงให้นักข่าวทั่วทั้งเมืองในโรงแรมระดับสูงเช่นนี้....... เมื่อนักข่าวได้ยินดังนั้น จึงพากันตื่นเต้นขึ้นมาทันที เวลานี้เอง ข่าวของการแถลงข่าวและคลิปวีดิโอได้ถูกเผยแพร่ลงบนอินเตอร์เน็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จิรภาสคาดการณ์ไว้ก่อนทั้งหมดแล้วเช่นกัน "ว้าว! ในที่สุดวันที่ฉันรอคอยก็มาถึง!" "ในที่สุดพวกเขาก็ประกาศแล้ว? บอสเท่ห์มากๆเลย! ดูเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งจริงๆ....." "รูปร่างของจิดาภาก็ดีมากเกินไปแล้ว! ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนนึง ฉันรู้สึกละอายใจจัง" "ประกาศเรื่องแต่งงานออกมาโดยไม่คาดคิดแบบนี้ คาดว่าทางฝั่งตระกูลวีรภัทรเมธีคงจะรู้สึกโมโหจนแทบเป็นบ้าไปแล้วสิ! พวกเขายังคิดว่าจะมารังแกจิดาภาได้ ครั้งนี้เป็นอย่างไรล่ะ ถูกตีหน้ากลับไปเจ็บหรือเปล่า!" "ไม่ว่าจิดาภาจะมีสายเลือดเดียวกันกับพวกเขาหรือไม่นั้น พวกเขาประกาศเรื่องเหล่านั้นออกมาในเวลานี้ พวกเขาทำเกินไปแล้วจริงๆ" "ใช่ จิดาภาของพวกเราไม่ได้รู้สึกเสียดายตำแหน่งคุณหนูของตระกูลผู้สูงส่งอะไรนั่นเลย เป็นภรรยาของจิรภาสดีกว่า!" ........... และเวลานี้ทางตระกูลวีรภัทรเมธีก็เงียบหายไป จิรภาสใช้ข้อได้เปรียบจากสื่อในวงการนี้ พลิกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เลขาของท่านจิรชยาได้รับโทรศัพท์จากผู้บริหารของบริษัท ทั้งยังมีสื่อนักข่าวมากมายที่มารอฟังข่าวคราวจากตระกูลวีรภัทรเมธี ที่สำคัญที่สุดคือ จิรภาสได้ส่งทนายความมาเจรจาที่บ้านตระกูลวีรภัทรเมธีจริงๆ "คุณท่าน ทนายของเค.เอฟมาถึงแล้วครับ ควรจะทำอย่างไร......" เลขาขอคำแนะนำจากเขา "จะทำอย่างไรได้? ให้เขาเข้ามาเถอะ" ท่านจิรชยาเองก็รู้สึกว่าไม่มีทางเลือกแล้ว เรื่องมาถึงขั้นนี้ คงเป็นเพราะกรรมตามสนองเขาแล้ว! "ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะฉันให้ท้ายพี่น้องอย่างพวกเขาตั้งแต่แรก ก็คงไม่เป็นแบบนี้" "ทั้งๆที่ฉันก็รู้ว่าญาณิดาจะไม่ยอมรามือง่ายๆ แล้วก็รู้นิสัยของจิดาภาด้วย กลับยังอยากที่จะให้เธอกลับมาในตระกูลของเรา เป็นเพราะฉันที่ไม่ได้คิดถึงจุดยืนของเธอ ทำร้ายจิตใจเธอ" "ฉันเป็นนักธุรกิจที่ดี แต่ฉันไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่น่าเคารพเอาเสียเลย อย่างน้อยสำหรับจิดาภาแล้ว ฉันคงไม่ใช่" "คุณท่าน....." เวลานี้เองทางเลขาก็ไม่มีวิธีการแก้ปัญหานี้เลยเช่นกัน ราวกับว่าตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของจิรภาสไปแล้ว หากทางตระกูลไม่ประกาศเรื่องนั้นออกไป บางทีอาจจะยังพอมีพื้นที่ว่างให้พอกลับตัวได้บ้าง แต่ตอนนี้ พวกเขาเหมือนกับถูกคนเอาปืนมาจ่ออยู่ที่ขมับ หันไปข้างหน้าหรือข้างหลัง ก็ตายอย่างเดียว ถึงแม้ว่าลูกหลานของตระกูลวีรภัทรเมธีจะมีมาก แต่กลับไม่มีใครที่จะทำให้ท่านจิรชยาไว้ใจได้เลย นอกจากจิดาภา... ตอนนี้เขากลับทำร้ายจิดาภาเสียอย่างนั้น แล้วต่อไปตระกูลวีรภัทรเมธีจะทำอย่างไร? เขาเฝ้ารักษาตระกูลวีรภัทรเมธีมาตั้งนานหลายปี จะต้องให้มาพังลงตรงนี้อย่างนั้นหรือ? ท่านจิรชยาส่ายหน้าด้วยความทุกข์ แล้วใช้ไม้เท้ายันตัวเองให้ลุกขึ้น “ทนายคนนั้นอยู่ที่ไหน ฉันจะไปพบเขาเอง!” เขาอยากรู้ว่า จิรภาสส่งคนของเขามานั้นจะมาบอกอะไรเขากันแน่ ทนายความนั่งอยู่บนโซฟา เมื่อเห็นท่านจิรชยาเดินออกมาแล้วนั้น จึงรีบลุกขึ้น “สวัสดีครับท่านจิรชยา” “มีธุระอะไรก็ว่ามาเลยเถอะ!” ท่านจิรชยาถือไม้เท้า เคยคุยกับจิรภาสและพูดคุยกับเขาเพียงครั้งเดียว ถึงแม้จะไม่เข้าใจอะไรในตัวเขามาก แต่ท่านจิรชยารู้ดีว่าจิรภาสนับว่าเป็นเด็กหนุ่มที่มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวมากคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นคนที่มีความอดทนและฉลาดมากอีกด้วย “ท่านจิรชยาครับ ท่านพูดมาแบบนี้ เรื่องก็น่าจะหาทางแก้ไขกันได้ง่าย สิ่งที่คุณจิรภาสต้องการนั้นง่ายมากครับ เพียงสองคำเท่านั้น คือ ขอโทษ” ทนายกล่าวกับเขาพลางส่งยิ้มให้ “เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ได้เอาเอกสารอะไรมาเลย เพราะสำหรับคุณจิรภาสแล้ว เขาไม่ได้ต้องการค่าชดเชยใดๆ ตระกูลปรีดาอัครกุลมีทุกอย่างแล้ว ไม่ได้ขาดอะไรครับ” “ท่านเองก็เป็นคนตรงไปตรงมา ที่คุณจิรภาสให้ผมมาในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะให้ตระกูลวีรภัทรเมธีได้รู้ว่า จริงๆแล้วเรื่องราวจะไม่วุ่นวายเช่นนี้ แต่นี่เป็นเพราะคนตระกูลวีรภัทรเมธีทำร้ายภรรยาของคุณจิรภาส และเพื่อปกป้องภรรยาของเขาและรักษาคำพูดของเขา คุณจิรภาสจึงจะต้องใช้วิธีนี้กับตระกูลวีรภัทรเมธี” “พวกคุณต้องการให้ใครขอโทษกัน? แล้วขอโทษอย่างไร?” “เรื่องนี้คุณจิรภาสไม่ได้บอกไว้ครับ ผมคิดว่าน่าจะทำตามวิธีของคุณเลยดีกว่า จะได้ดูมีความจริงใจมากกว่าด้วยครับ” ท่านจิรชยานั่งพิงโซฟาอยู่พักหนึ่งจึงเอ่ยบอกกับเขา “คุณกลับไปเถอะ แล้วบอกกับเขาว่า ผมเข้าใจความหมายของเขาแล้ว” ทนายลุกขึ้นยืน “ถ้าอย่างนั้น พวกเราไม่รบกวนแล้วครับ” รอจนทนายกลับออกไปแล้วนั้น ท่านจิรชยาใช้ไม้เท้ายันตัวเองลุกขึ้น แล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่มีแสดงออกถึงความเจ็บปวด “ฉันจะเป็นคนออกมาขอโทษเธอเอง” “ท่าน....” “ทั้งหมดเป็นเพราะฉันถือทิฐิมากเกินไป จะไม่ต้องให้ฉันเป็นคนขอโทษหรอกหรือ?” ท่านจิรชยาใช้แรงเคาะไม้เท้าขึ้น “ฉันให้ความสำคัญกับเธอขนาดนั้น อยากจะยกทุกอย่างของตระกูลวีรภัทรเมธีให้กับเธอ ฉันผิดด้วยหรือ?” “ท่านอย่าโมโหเลยนะครับ ผมคิดว่าเป็นเพราะคุณจิดาภากำลังเสียใจ ถึงได้.....” “ฉันรู้! ฉันจะไม่รู้ได้อย่างไร แต่ฉันจะทำอย่างไรได้ล่ะ?” ท่านจิรชยาถอนหายใจออกมาด้วยความโมโห แล้วจู่ๆเขาก็หายใจไม่ทัน แล้วหมดสติไบนโซฟา โชคดีที่เลขาอยู่ตรงข้างๆเขา จึงสามารถประคองเขาไว้ได้ทัน แล้วพาเขาไปส่งโรงพยาบาล หลังจากที่พวกญาณิดารู้ข่าวแล้วนั้น จึงรีบไปยังโรงพยาบาลในทันที “คุณปู่ของฉันเป็นอย่างไรบ้าง?” “ผู้ป่วยยังต้องได้รับการปฐมพยาบาลนะคะ ขอให้ญาติออกไปก่อนค่ะ” พยาบาลเข้ามาขวางพวกเขาไว้ แล้วปิดประตูห้องผ่าตัดลง “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆถึงเป็นแบบนี้!” เลขาไม่รู้ว่าจะพูดออกมาอย่างไรดี และเวลานี้ก็มีคนพูดขึ้นมาเสียก่อน “ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะจิดาภาหรอกหรือ! เธอเพียงกลับมาปรากฏตัวที่บ้านเรา ก็ทำให้คุณปู่ต้องโมโหเสียจนต้องป่วยแบบนี้แล้ว” เลขามองดูพวกเขาที่เอะอะโวยวายกันเช่นนั้น จึงไม่ได้เอาเรื่องที่ทนายของเค.เอฟมาที่บ้านบอกกับพวกเขา ทุกคนพากันโทษว่าที่ท่านจิรชยาต้องป่วยจนหมดสติไปนั้นเป็นความผิดของจิดาภา “คุณหนูใหญ่ครับ จริงๆแล้วที่ท่านโมโหขนาดนี้ เป็นเพราะคุณต่างหาก” เลขาทนไม่ได้จึงต้องเอ่ยพูดออกมาบ้าง “หากคุณไม่ไปหาเรื่องคุณหนูรอง เรื่องก็จะไม่เป็นแบบนี้” “คุณหุบปากไปซะ คุณจะไปเข้าใจอะไร!” ญาณิดารู้สึกโมโหขึ้นมาทันที เธอชี้หน้าเลขาแล้วเอ่ยพูดกับเขาเสียงดัง วรพลรีบขวางเธอไว้ “จะตะโกนทำไม! นี่โรงพยาบาลนะ พูดให้น้อยๆลงหน่อย” “ถ้าไม่เป็นเพราะพวกเขาแม่ลูก ตระกูลวีรภัทรเมธีของเราจะกลายเป็นแบบนี้ไหม? ทำไมพ่อถึงไม่โทษพวกเขา ทำไมต้องมาโทษว่าเป็นเพราะหนู!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่349 ชายอาวุโสป่วยอีกครั้ง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A