บทที่ 5-02   1/    
已经是第一章了
บทที่ 5-02
ทั้งสองที่เตรียมของใช้ส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว พวกเธอเลือกวิธีการโดยสารเรือข้ามฟากของเมืองดาเซีย มุ่งสู่ท่าเรืออังกูร ท่าเรือขนส่งสินค้าที่เป็นประตูทางเข้าทางน้ำเพียงท่าเดียวของราชอาณาจักรอเล็กซานเดรีย ระหว่างที่พวกเธอกำลังสบายอารมณ์อยู่บนดาดฟ้าของเรือนั้น พวกเธอก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีคนที่ตามพวกเธอมาตั้งแต่ในเมืองแล้ว และพวกมันกำลังรอให้พวกเธอขึ้นเรือ เพราะเมื่อออกมหาสมุทรแล้ว ทางเลือกที่จะหนีมันแทบจะไม่มี “อากาศดี๊ดี ชีวิตดี๊ดี” หญิงสาวเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนหยักศก เอามือเขี่ยผมที่ปล่อยสบัดกับสายลมระหว่างที่เรือแล่นอยู่บนผิวน้ำ หญิงสาวอีกคนได้แต่มองท่าทีที่ดูสนุกไปกับทุกอย่างของเธอ “ดูนั้นๆ ปลาโลมาฮาเวย์” บีทรีซร้องบอก เมื่อเห็นฝูงปลาโลมาฮาเวย์ ฝูงปลาโลมาที่หายากมากที่สุดในตอนนี้ ด้วยเพราะมันมีเอกลักษณ์ที่เป็นส่วนตัว คือลำตัวของมันจะเป็นสีเผือกผสมชมพู แต่เมื่อมันกระโดดขึ้นเหนือน้ำแล้วสะท้อนแสงจะพบว่าครีบของมันที่แตกต่างจากโลมาประเภทอื่นคือมันจะมีคลีบที่ยาวพริ้มไหวราวกัวกับเส้นผมจะสะท้อนเป็นสีรุ้ง แต่เพราะมันเป็นสิ่งที่สวยงามแถมยังไม่ดุร้าย คนจึงนิยมล่าไปเป็นสัตว์เลี้ยงบ้าง หรือไม่ก็นำส่วนต่างๆ ของมันไปเป็นเครื่องประดับตัวบ้าง ประดับบ้านบาง พวกมันจึงเหลือน้อยลงทุกวัน ทางอเล็กซานเดรียและคาแซนดร้าผู้เป็นเจ้าของน่านน้ำมหาสมุทรแห่งนี้จึงลงนามประกาศอย่างเป็นทางการว่า ที่แห่งนี้เป็นแหล่งงดล่าปลาโลมาฮาเวย์โดยเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกถึงขั้นตลอดชีวิต เนื่องจากการอยู่ในคุกไม่ใช่ความสนุกเท่าไหร่นัก ผู้คนจึงไม่มีใครกล้าขัดคำประกาศนั้น ปลาโลมาฮาเวย์จึงเหลือรอดอยู่แค่มหาสมุทรแอทเวนเชียนเท่านั้น “สวยจัง มีเยอะด้วย” ทั้งสองสาวที่กำลังเพลิดเพลินอยู่นั้นกลับยื่นนิ่งเมื่อจู่ ๆ ปลายมีดแหลม ๆ ก็เข้ามาจ่อที่คอของพวกเธอ “อย่าขยับ ไม่งั้นมีดนี้ทะลุคอพวกเธอแน่ ๆ” เสียงเข้ม ๆ สั่งพวกเธอจากด้านหลัง ก่อนจะไล่ต้อนพวกเธอเข้าไปในท้องเรือ ภายในใต้ท้องเรือมีคนที่อยู่ในระดับหัวหน้านั่งรอพวกมันอยู่ พวกเธอถูกจับคุกเข่าลงกับพื้นเรือตรงหน้าของหัวหน้าของพวกมัน “ไม่นึกว่าหมูจะมาติดกับง่าย ๆนะเนี่ย ฮ่า ๆ” ผู้ชายที่เป็นหัวหน้า แต่สองสาวลงความเห็นเดียวกันว่าอาจจะไม่ใช่ผู้ชายแท้ เขาหัวเราะอย่างชอบใจที่จับเธอได้ พวกนี้คงอยากได้ค่าหัวจากเฮเรนน่าแน่นอน “เอาไงดีเฮเรนน่า” บีทรีซหันไปกระซิบ “รอให้ถึงอเล็กซานเดรียแล้วค่อยหนีก็ได้” เฮเรนน่าตอบกลับไป “นี่อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึง จะให้ฉันนั่งแบบนี้ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอ” บีทรีซเริ่มร้องเรียกสิทธิของตน “นี่นังหนู เธอไม่ได้อยู่ในสถานภาพที่เรียกร้องได้นะ” “อ้าว! แต่อย่าลืมนะเพื่อนฉันมีราคาตั้งเท่าไหร่ ดูแลกันหน่อยน้า มีแต่คุ้มกับคุ้มนะ” บีทรีซบอกอย่างไม่เกรงกลัว แม้คนตรงหน้าจะมีแต่ชายชกรรจ์ แต่ไม่ได้ทำให้เธอหวั่นใจแต่อย่างใด “ก็ได้ย่ะ เด็ก ๆ พาพวกนางไปขังในห้อง” ในห้องที่ว่างคือห้องเก็บของ แถมยังเป็นของสด ของดอง ของคาวอีกต่างหาก บีทรีซถึงกับฉุนกึกทีเดียว ก็ในนี้มันน่าอาเจียนจะตายไป กลิ่นอะไรก็ไม่รู้ตลบอบอวนไปหมด ไม่มีห้องที่ดีกว่านี้ให้เธออยู่หรือไง ไอ้พวกบ้า รู้แบบนี้ลุกขึ้นไปเตะให้สลบเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องมานั่งอุดอู้อยู่ในนี้ตั้งหลายชั่วโมงแบบนี้หรอก คอยดูนะออกไปได้เมื่อไหร่จะไปอ้วกใส่หน้าพวกมัน ว่าแต่เอาจริง ๆ เธอก็ออกไปได้นี่นา ระหว่างที่พวกเธอกำลังเซ็งอยู่ในห้องเก็บของ จู่ๆ ก็มีเสียงระเบิดเข้ามากระทบเรือดังปั๊ง! และดูเหมือนผู้คนเรือกำลังแตกตื่นกันด้วย เฮเรนน่าใช้เวทมนต์ปลดล็อกกุญแจเพื่อออกไปด้านบน แม้คนที่เฝ้าหน้าห้องจะโวยวายที่พวกเธอหนีออกมาแต่ต้องสงบปากสงบคำลงเมื่อบีทรีซยกขาเตะฟาดเข้าที่ก้านคอของพวกมันคนล่ะที จนสลบเหมือดไป เห็นแบบนั้นแล้วเฮเรนน่าก็สบายใจขึ้นมาทันที เพื่อนสาวของเธอคงไม่ธรรมดา เมื่อขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือก็พบว่า มีกองเรือโจรสลัดห้อมล้อมเรือที่พวกเธอโดยสารมาอยู่ โจรสลัดกลุ่มใหญ่จะมาปล้นเรือขนสินค้ากระจิดร้อยเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้ นอกเสียว่ามันไม่ได้มาปล้นเรือ แต่มันมาปล้นหญิงสาวผู้มีค่าหัวสูงยิ่งกว่าสินค้าในเรือทั้งหมดต่างหาก “ฉันรู้ว่าเธออยู่ในเรือนี้เฮเรนน่า เทรเวอร์ ถ้าไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน ปรากฏตัวออกมา” กัปตันกองเรือโจรสลัดออกมาประกาศลั่น จนหญิงสาวต้องเผยตัวอย่างช่วนไม่ได้ บนเรือนี้มีคนมากมายที่ไม่รู้เรื่องด้วย เธอไม่อยากเอาพวกเขามาเกี่ยวข้อง แต่สำหรับพวกนั้น ค่อยว่ากันอีกที “ฉันเอง เฮเรนน่า เทรเวอร์” คนในเรือขนสินค้าต่างมองหน้ากันเลิกหลักที่เห็น “ไม่ได้นะ ฉันพบเธอก่อน” ชายหนุ่มไม่แท้รีบวิ่งเข้ามาคว้าตัวเธอไปทันที “หรือแกอยากให้ฉัน คว่ำเรือของแก อยากอยู่ลอยคออยู่ในทะเลสักอาทิตย์ก็เอาสิ” กัปตันโจรสลัดพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่กลับทำให้หัวหน้าโจรขาสั่น ก่อนจะปล่อยตัวเธออย่างโดยดี ลูกเรือโจรสลัดกระโดดลงมาเพื่อรับตัวพวกเธอสองคนขึ้นเรือไป “พูดกันดี ๆ ก็ไม่ต้องมีใครบาดเจ็บจริงไหม” กัปตันโจรสลัดพูดทิ้งท้าย ก่อนจะดีดนิ้วเปาะ เรือขนส่งสินค้าที่หักพังก็กลับเป็นเหมือนเดิมทันที กองเรือโจรสลัดเสร็จภารกิจชิงตัวประกันจึงถอยทัพออกไป พวกเธอทั้งสองถูกพาไปในห้องประชุมในท้องเรือ เรือนี้มีขนาดใหญ่และหรูหรากว่าเรือลำเมื่อกี้มาก แถมความสะดวกสบายก็ยังเทียบกันไม่ติด จากที่นั่งพิงลังไม้เหม็นคาว ตอนนี้พวกเธอมานั่งอยู่บนโซฟาหรูๆ นุ่มๆ แล้ว แถมยังมีขนมมากมายมาเสิร์ฟราวกับรู้ใจเพื่อนเธอเหลือเกิน “สวัสดี” กัปตันโจรสลัดเดินเข้ามาภายในห้องด้วยรอยยิ้มสดใส เขาไม่ได้ใส่หมวกปิดหน้าปิดตาแล้ว ทำให้บีทรีซเห็นว่าเขาหนุ่มและหล่อมากแค่ไหน แถมรอยยิ้มนั้นยังทำหัวใจเธอแทบหยุดเต้นอีกต่างหาก “ไง เฮเรนน่า หวังว่าขนมพวกนี้จะถูกใจเธอ” ไร้คำตอบจากคนพูดด้วย เพราะเธอสนใจกินมากกว่า บรรยากาศที่เปลี่ยนไปทำให้บีทรีซรู้สึกตัวว่านี้มันบรรยากาศของความเป็นมิตรมากกว่าศัตรู “สวัสดีครับคนสวย ผมกัปตัน ธีโอดอร์ วิสเชส ขอโทษที่แนะนำตัวช้าครับ” เขาก้มหัวให้เธอเป็นมรรยาทในการแนะนำตัวที่ดี ก่อนที่เธอจะรีบย่อกายทำความเคารพเขากลับไปเช่นกัน “บีทรีซ่า ฮัลล์ เรียกบีทรีซก็ได้ค่ะ” “ทำตัวตามสบายนะครับ ที่จริงแล้วผมเป็นเพื่อนกับเฮเรนน่า เป็นเพื่อนรักกันซ่ะด้วย” เขาบอกพลางมองไปที่เฮเรนน่าที่ไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อมีขนมหวานมากองตรงหน้า เฮเรนน่าก็เหมือนพวกตัดขาดจาดโลกภายนอกทันที “ยัยเฮเรนน่ามีเพื่อนหล่อขนาดนี้เลยหรอค่ะ ไม่เห็นจะรู้มาก่อนเลย” “ฮ่าๆ ชมผมแบบนี้ก็เขินนะครับ พอดีว่าผมทราบมาว่าเฮเรนน่ากำลังโดยสารทางเรือ แต่ยัยนี้รู้สถานะตัวเองแต่ไม่ระวังตัวเลยสักนิด คิดไว้แล้วต้องมีพวกล่าค่าหัวตามจับอยู่” “ฉันไม่ได้เดือดร้อนขนาดร้องขอให้นายมาช่วยสักหน่อย” คนที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นบ้าง “รู้หรอกหน่าว่าเก่ง แต่ก็อดห่วงไม่ได้” “ว่างหรือไง” “สำหรับเธอฉันว่างเสมอ” คนฟังมองค้อนด้วยเพราะคำพูดเลี่ยนๆ แต่บีทรีซกลับกรี๊ดอย่างเขอะเขินแทน “นั้นอะไร” เฮเรนน่าลุกขึ้นไปหยิบแผนที่ที่วางอยู่บนโต๊ะ บนแผนที่บอกถึงลักษณะของเกาะๆ หนึ่ง ทันที่ที่แตะมัน เสียงประหลาดก็พุ่งเข้ามาในหัวสมองเธอทันที ‘ข้อรอท่านอยู่นายท่าน’ ‘ท่านจะต้องปลอดภัย’ ‘ลืมตาตื่นขึ้นมาได้แล้วนายท่าน’ เธอลืมปล่อยมันทันที เมื่อคำพูดและเสียงประหลาดนั้นทำให้เธอรู้สึกปวดหัว “เป็นอะไร เฮเรนน่า” ธีโอดอร์เอ่ยถาม “นายเคยไปที่นี้หรือเปล่า” “ไม่ล่ะ พึ่งได้มันมา ยังไม่มีเวลาไปสำรวจเพราะมันไกลและฉันก็ยังไม่ว่างขนาดนั้น” ทีเมื่อกี้ยังบอกว่าว่างอยู่เลยไม่ใช่หรือไง “เธอสนใจมันหรอ” ไม่ได้สนใจแต่บางสิ่งบางอย่างมันกำลังส่งเสียงร้องเรียกเธอไปหาต่างหาก “อืม....ขอได้ไหม” “เฮ้!! นี่เธอจะชิงสมบัติฉันไปต่อหน้าต่อตาเลยหรอ เธอมันร้ายกว่ากองโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่อีกนะ” “แล้วโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่นาซเซอร์ก็ต้องยอมสละสมบัติชิ้นนั้นให้ฉัน เพราะฉันต้องการ” จบ...การทำการค้าระหว่างหญิงสาวหน้าตายกับกัปตันโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้ เขาถึงกับคอตกกับการค้าที่ไร้ซึ่งความยุติธรรมทันที โจรสลัดนามว่านาซเซอร์ ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่มากที่สุดในโลก จนกองโจรสลัดอื่นๆ ไม่กล้ามาต่อรองหรือปะทะโดยตรง เพราะถ้าเมื่อใดที่คิดเป็นศัตรูกับนาซเซอร์เท่ากับฆ่าตัวตายทันที เพราะเขามีกัปตันท์ที่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยม เย็นชา และร้ายกาจ แต่ทว่ากลับมาพลาดท่าให้กับหญิงสาวผู้ไม่ยิ้มคนนี้ได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เธอเอ่ยปาก “คุณน่ะดูจะแพ้ทางเฮเรนน่านะค่ะ” บีทรีซเอ่ยแซว ระหว่างที่พวกเขาออกมาบนดาดฟ้าเรือ ส่วนเฮเรนน่าขอนอนอยู่ในห้อง ก่อนที่เจ้าตัวจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มแปร้น “สำหรับเธอ ผมยังไงก็ได้อยู่แล้วครับ เพราะเธอเป็นเพื่อนคนสำคัญของผมน่ะครับ” “โชดีจังเลยนะค่ะ ที่เธอมีเพื่อนแบบคุณ ฉันคิดว่าจะมีแต่คนจ้องทำร้ายเธอสักอีก” “ครับ เฮเรนน่าเป็นคนที่ดีผิดกับหน้าตาน่ะครับ ฮ่าๆ ผมหมายถึงหน้าตาของเธอมันจะดูเหย่อหยิ่งและร้ายกาจไม่ค่อยเป็นมิตรนะครับ แต่ผมก็ยังไม่รู้สาเหตุที่เธอทำเรื่องร้ายกาจแบบนั้นเหมือนกัน” “คุณไม่รังเกียจเธอหรอกค่ะ” “ไม่หรอกครับ เฮเรนน่ามีเหตุผล และเป็นพวกปากหนักไม่ค่อยชอบอธิบายอะไรเท่าไหร่ ผมว่าที่เธอทำไปมันต้องมีที่มาที่ไปทั้งนั้น” ใช่! เขาคิดแบบเธอ เฮเรนน่ามีเหตุผลเพียงพอในการทำเรื่องร้ายกาจ แต่เหตุผลนั้นมันจะออกมาแก้ผิดให้เธอได้แค่ไหนในตอนนี้เท่านั้นเอง “ผมตามหาเธอหลังจากรู้ข่าวว่าเธอบาดเจ็บหนัก แต่ก็ติดต่อไม่ได้เลย จนเจอเธอที่ท่าเรือแล้วก็ตามมา” “ค่ะ ตอนนั้นเฮเรนน่าอยู่กับฉันค่ะ ตอนนี้เธอก็ปลอดภัยแล้วด้วย” “คุณช่วยเธอไว้หรอครับ” “จะว่าแบบนั้นก็ได้ค่ะ” “คุณไม่ตกใจหรอครับที่รู้ว่าเป็นเธอ” “ฮ่าๆ ฉันดีใจซ่ะอีก มีเพื่อนเป็นพวกคนดัง ชีวิตมันตื่นเต้นดี ตอนแรกก็กลัวนะค่ะว่าเธอจะเป็นยังไง อยู่ไปอยู่มาก็พบว่าเฮเรนน่าไม่ค่อยสนใจอะไรนอกจากกินขนมอย่างเดียว” คำพูดของบีทรีซทำให้พวกเขาทั้งคู่หัวเราะออกมมาพร้อมกันจนดังดาดฟ้าเรือ จนลูกเรือของเขาต้องหันมามอง ‘นายท่านมาหาข้าสิ’ “ที่ไหนแล้วฉันจะไปได้ยังไง” ‘มาตามเสียงเรียกของข้าแล้วท่านจะพบ’ “จะบ้าหรือไง แล้วฉันจะไปรู้ได้ไง” ‘ข้าจะรอท่าน นายท่านของข้า’ เสียงประหลาดนั้นสงบไปพร้อมกับดวงตาสีทับทิมที่เปิดโพลงขึ้นมา เธอขยับตัวเองลุกขึ้นมานั่ง ช่วงนี้หลับทีไรก็ได้ยินตลอด นอกจากนั้นยังเห็นวัตถุประหลาดวาวแสงตรงหน้าอีก หรือเธอควรจะไปตามแผนที่นั้น...... “ธีโอ!!!!!”
已经是最新一章了
加载中