บทที่353 ฉันไม่อยากปล่อยเธอไป   1/    
已经是第一章了
บทที่353 ฉันไม่อยากปล่อยเธอไป
บทที่353 ฉันไม่อยากปล่อยเธอไป รุจาภาชะงักเท้าที่กำลังเดินอยู่ ญาณิดาคิดว่าเธอกลัว จึงหัวเราะออกมาอย่างพอใจ "ครั้งที่แล้วเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ครั้งนี้มีหลักฐาน ที่คุณมาล่อลวงพ่อฉัน ทำให้แม่ฉันต้องตาย คนทั้งโลกจะต้องรู้เรื่องนี้!" "ญาณิดา เธอจะใส่ร้ายฉันแบบนี้ ฉันรับได้ แต่ที่เธอทำร้ายและรังแกลูกสาวฉันครั้งแล้วครั้งเล่า....ได้ ถ้าเธอทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เธอก็อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกน!" หน้าอกของรุจาภาขึ้นลงไปตามการหายใจ บทสรุปเช่นนี้สำหรับเธอแล้ว ถึงจะถือว่าเป็นการหลุดพ้น ญาณิดาไม่คิดว่ารุจาภาจะมีปฏิกิริยาตอบกลับไปเช่นนี้ จึงร้อนใจพลางเอ่ยถาม "คุณพูดมาให้ชัดเจนนะ!" รุจาภาไม่ได้สนใจเธออีก แล้วกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งพี่พวกเขาบีบบังคับเธอเอง ........... เนื่องจากจะต้องเข้ากองถ่ายแล้ว จิดาภาจึงเริ่มเก็บสัมภาระและเครื่องสำอางของเธอ จิรภาสที่อยู่กับเธออยู่ข้างๆนั้น อดไม่ได้ที่จะดึงมือเธอเอาไว้ "ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจได้ไหมครับ ไม่อยากให้คุณไปแล้ว?" "คุณผู้จัดการคะ นี่เป็นงานที่คุณจัดให้ฉันเองนะ" จิดาภาเองก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก "อีกอย่าง ฉันไปเพียงแค่ไม่กี่เดือนเอง เดี๋ยวฉันก็กลับมาแล้วค่ะ" "แต่ ครั้งนี้สถานที่ถ่ายทำของคุณอยู่แถบเขตภูเขาทั้งนั้นเลย ผมไม่สามารถจะไปหาคุณได้ตลอดเวลาแบบนั้นสิ....." จิรภาสดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่น จิดาภาหัวเราะแล้วหันกลับมากอดตอบเขา "ฉันจะดูแลตัวเองดีๆค่ะ เจนจิราก็คล่องกับการทำงานแล้วด้วย รอให้พี่นัฏกลับมา ก็ให้เธออยู่ที่บริษัทก็ได้ เธอแต่งงานแล้ว จะได้ไม่ต้องตามฉันไปทุกที่" "ผมจะโทรหาคุณทุกวันนะครับ" "ค่ะ......" จิดาภาที่เพิ่งจะตอบรับกลับไป ริมฝีปากของเธอก็ถูกเขาจุมพิตลงไปเสียแล้ว ความสุขุมในเวลาปกตินั้นลดลง เพิ่มเติมด้วยความกระตือรือร้นและใจร้อน ทั้งยังมีความรู้สึกตัดใจไม่ลงซักเท่าไรนัก จิดาภาตอบรับไปด้วยความเขินอาย “คุณจิรภาส....” และวินาทีต่อไปนั้น เขาก็ไม่ปล่อยให้เธอต้องลังเลอีกต่อไป จึงอุ้มเธอเข้าไปในห้องนอนเลยทันที หลังจากที่แต่งงานกัน พวกเขาไม่เคยต้องแยกออกจากกันเป็นเวลานานขนาดนี้ จะให้เขาทนกับความทุกข์นี้ได้อย่างไรกัน..... “นี่เป็นงานละครที่คุณรับมาแทนฉัน ฉันจะต้องแสดงออกมาให้ดีที่สุดค่ะ จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง แบบนี้ถึงจะคู่ควรกับการเป็นภรรยาของคุณ” จิรภาสกระชับกอดเธอแน่นขึ้น จิดาภาที่เป็นเช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาจะต้องรักษาเธอเอาไว้ให้ดี ไม่ว่าโลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เขาจะไม่มีวันปล่อยมือนี้ของเธออย่างแน่นอน ทั้งสองคนยังคงไม่ตื่นลุกออกจากเตียง เป็นเพราะความอ่อนเพลียจากเมื่อคืนที่ใช้แรงกันไปไม่น้อย “คุณจิรภาสคะ...ตื่นเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันยังต้องไปพบกับญาณิดาอีกนะ” จิรภาสลืมตาขึ้น ลุกขึ้นแล้วอุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน แม้จะเป็นในเวลาเช่นนี้ เขาก็ไม่อยากจะเสียเวลาที่จะได้อยู่กับเธอในทุกๆนาทีด้วยเช่นกัน เมื่อคืนเขาราวกับคนบ้าคลั่ง ทิ้งรอยไว้บนเรือนร่างของเธอขนาดนี้ “เจ็บไหมครับ?” “ไม่ค่ะ” จิดาภายิ้มพลางส่ายหน้า “ผมจะไม่ทำให้คุณต้องยอมละทิ้งเรื่องอะไรเพื่อผมอีก ตำแหน่งราชินีภาพยนตร์จะต้องเป็นของคุณแน่นอนครับ” จิรภาสกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีคุณอยู่ ฉันก็มีพลังที่จะพยายามต่อไปแล้วล่ะค่ะ” หลังจากที่สองสามีภรรยาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วนั้น Rickก็ส่งข่าวล่าสุดมาให้พวกเขา “ทางตระกูลวีรภัทรเมธีเปิดเผยข้อมูลและรูปถ่ายออกมาหลายใบเลยครับ พุ่งประเด็นไปที่ว่าคุณแม่ของคุณจิดาภาเป็นมือที่สามจริงๆ ทำลายความสัมพันธ์ในตระกูลของพวกเขาครับ” จิรภาสวางสายไปทันที แล้วเปิดดูหน้าอินเทอร์เน็ต จิดาภาที่เห็นท่าทางโมโหของเขานั้นจึงเอ่ยถาม “เป็นอะไรหรือคะ?” “ไปพบพวกเขาก่อนดีกว่าครับ วันนี้คงจะต้องคิดบัญชีกันยาว” จิรภาสยื่นโทรศัพท์มือถือให้เธอ จิดาภาอ่านข้อความที่บาดตาบาดใจเหล่านั้น แล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน พลางพยักหน้ารับ “อืม” ............. สถานที่ที่นัดพบกันนั้นญาณิดาเป็นคนกำหนดเอง ที่ร้านอาหารมูไนท์ ญาณิดาในชุดลำลองสีเทาขาว รวบผมไว้ทางด้านหลัง ใบหน้านั้นปรากฏรอยยิ้มแห่งความพอใจ และทางด้านหลังของเธอนั้นมีนักข่าวยืนอยู่ด้วย ราวกับเธอชนะจิดาภาแล้ว ท่าทางของเธอนั้นดูหยิ่งยโสเป็นอย่างมาก ตอนที่ท่านจิรชยาเป็นผู้ดูแลตระกูลนั้น ตระกูลวีรภัทรเมธีจะดูเงียบๆไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร อย่าว่าแต่การคบค้าสมาคมกับพวกนักข่าวเลย แม้แต่Brand ambassadorของผลิตภัณฑ์ของตระกูลยังมีน้อยเสียด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้วิธีการของญาณิดากลับตรงกันข้ามท่านจิรชยาไปเสียหมด พฤติกรรมที่อวดดีของเธอเช่นนี้เพื่อที่จะโอ้อวดจิดาภา ให้รู้ว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็นผู้มีอำนาจของตระกูลวีรภัทรเมธีแล้ว จะสามารถมองข้ามใครก็ได้ทั้งนั้น และไม่นานก็ถึงเวลานัดพบกัน แต่จิดาภากลับมาช้าไปเล็กน้อย เมื่อเธอเดินเข้ามานั้น ก็เป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คนทั้งหมด รูปร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดกระโปรงยาวสีดำ รองเท้าหนังทำให้ขายาวๆของเธอนั่นน่ามอง ผมยาวปกคลุมมาถึงไหล่ ดูมีรสนิยมเป็นอย่างมาก รูปร่างหน้าตาของสองพี่น้องนั้นดูคล้ายกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้วนั้น ญาณิดาก็มักถูกเปรียบเทียบกับจิดาภาอีกอยู่ดี ถึงอย่างไรเสียนักแสดงที่ออกกล้องบ่อยๆอย่างเธอ ทุกๆความเคลื่อนไหวของจิดาภาก็ทำให้คนรู้สึกหลงใหลอยู่แล้ว บวกกับตอนนี้ที่เธอเป็นภรรยาของจิรภาสด้วยแล้ว ทุกคนต่างก็ไม่กล้าที่จะดูถูกเธอ จิดาภานั่งอยู่ตรงหน้าญาณิดาด้วยความสงบนิ่งในแบบของเธอ แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ฉันนึกว่าเธอจะไม่มาเสียแล้ว......” ญาณิดามองจิดาภาด้วยความอิจฉา ลูกของชู้ ดูจะใช้ชีวิตดียิ่งกว่าเธอที่เป็นคุณหนูของตระกูลสูงส่งเสียอีก ไม่เพียงแค่จะมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงเพียงเท่านั้น ทั้งยังได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีและเก่งอย่างจิรภาสอีกต่างหาก ส่วนเธอ กลับใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจเช่นนี้ในทุกๆวัน.... จิดาภาเพียงแค่แต่งตัวด้วยชุดธรรมดาตามที่ปกติเธอสวมใส่อยู่ แต่เนื่องจากจิรภาสรักเธอมาก เสื้อผ้าของเธอนั้นจึงไม่มีชุดไหนที่ไม่ใช่ของแบรนด์เนมเลย โดยเฉพาะสร้อยข้อมือเพชรที่เธอสวมอยู่นั้น กระทบแสงไฟแล้วดูส่งประกายแวววาวเป็นอย่างมาก ตอนที่จิดาภายังไม่มานั้น บรรดานักข่าวต่างก็พากันรู้สึกว่าญาณิดานั้นเป็นคนที่ดูมีรสนิยมมาก สมกับที่เป็นคุณหนูผู้สูงส่งของตระกูล เมื่อยิ้มออกมาแล้วนั้นช่างดูสง่างามเหลือเกิน แต่พอจิดาภาปรากฏตัวออกมานั้น การเปรียบเทียบกันของทั้งสองคนนั้นมองเห็นได้ง่ายมาก เพียงแค่จิดาภานั่งอยู่ตรงนั้น ก็ทำให้ทุกคนรู้สึกน่าอัศจรรย์มากพอแล้ว “ที่ฉันมาก็เพราะอยากจะรู้ว่าคุณจะทำอะไรกันแน่” จิดาภาเอ่ยขึ้น หลังจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วเปิดเว็บนั้นขึ้น ในนั้นเป็นเนื้อหาที่ญาณิดาให้ผู้ช่วยของเธอเปิดเผยเรื่องแม่ของจิดาภาที่เป็นมือที่สามทั้งหมด ญาณิดาเหลือบมอง แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย จิดาภากลับยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “คุณไม่รู้หรือคะว่าสามีของฉันทำธุรกิจอะไร? ละครแบบนี้ จะหลบหลีกข่าวจากเค.เอฟไปได้อย่างไรกันคะ ต่อไปขอให้คุณคิดเสียก่อนนะคะ คุณญาณิดา ฉันอยู่ในวงการนี้มาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่เพียงแค่จะอาศัยโชคชะตาเท่านั้น” “ฉันไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไร!” "อย่าทำเป็นไม่รู้เลยค่ะ? คุณกลายมาเป็นผู้แทนประธานบริษัทLGD ฉันเองก็ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย แต่รบกวนคุณเก็บความคิดที่ไม่มีประโยชน์เหล่านั้นไปเถอะค่ะ อยู่ให้ห่างจากฉัน คุณเพียงแค่อยากจะใช้ชื่อเสียงเพื่อบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าคุณมีอำนาจมากที่สุดในตระกูลวีรภัทรเมธีเท่านั้นแหล่ะค่ะ" เมื่อถูกแฉมาเช่นนี้ ญาณิดายิ่งรู้สึกทำอะไรไม่ถูกมากขึ้นไปอีก บรรดานักข่าวพากันหยุดถ่ายไว้ช่วยคราว สถานการณ์ตอนนี้คืออะไรกัน? ญาณิดาถูกจิดาภาโจมตีกลับอย่างนั้นหรือ? "คุณปู่สุขภาพร่างกายไม่ดี ถึงได้มอบบริษัทให้คุณ ถ้าหากฉันเป็นคุณ ฉันจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี จะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง......ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด อย่าบังคับให้ฉันต้องลงมือกับคุณเลยค่ะ" "ที่ฉันมาวันนี้ ก็เพื่อจะมาช่วยคุณ ให้คุณได้เรียนรู้ซักครั้งกับความรู้สึกของการได้เป็นดารา" ญาณิดารู้สึกระแวดรังวังขึ้นมาในทันใด "เธอจะทำอะไร!" จิดาภารู้ว่าเธอรู้สึกกลัวแล้วนั้น จึงหัวเราะขึ้นมา "ถึงเวลานั้น คุณก็จะรู้เองค่ะ"
已经是最新一章了
加载中