บทที่354 ดูแลตัวเองดีๆ   1/    
已经是第一章了
บทที่354 ดูแลตัวเองดีๆ
บทที่354 ดูแลตัวเองดีๆ ถึงแม้ว่าจิดาภาจะต้องไปเข้ากองถ่ายละครแล้ว จะไม่กลับมาซักระยะหนึ่ง และแม้เธอออกมาจากตระกูลวีรภัทรเมธีมานานแล้ว ก็ไม่คิดที่จะกลับไปเช่นกัน แต่ที่ญาณิดาใช้ประโยชน์จากรุจาภาครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนั้น เธอก็ทนดูต่อไปไม่ได้เช่นกัน "ฉันยังมีงานต่อ ขอตัวก่อนนะคะ" เมื่อกล่าวจบ เธอจึงลุกขึ้น แล้วเดินออกมาจากร้านอาหารไปโดยที่ไม่ได้สนใจญาณิดาอีก ญาณิดานั่งอยู่ตรงนั้น ด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือตอนนี้ ราวกับเธอเองไม่สามารถทำอะไรจิดาภาได้เลย ทั้งยังมักจะเสียเปรียบตอนอยู่ต่อหน้าจิดาภาเสมอ และเป็นเพราะความรู้สึกพ่ายแพ้เช่นนี้ เธอถึงได้อยากที่จะเอาชนะจิดาภามาโดยตลอด.....ความเกลียดชังแบบนั้นได้ฝังลงเข้ากระดูกดำเธอไปเสียแล้ว "ท่านประธานคะ จะดำเนินต่อไหมคะ?" "จะทำอะไรต่ออีกล่ะ? เจ้าตัวไปแล้วนี่!" ญาณิดากล่าวออกมาด้วยความโมโห และเตรียมจะพาคนของเธอกลับออกไปด้วย แต่เธอยังไม่ทันที่จะได้ออกไปจากร้านอาหาร ก็มีนักข่าวกลุ่มหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาหาเธอ แล้วล้อมเธอไว้ แล้วยื่นไมโครโฟนมาตรงหน้าเธอ นักข่าวต่างพากันตะโกนเรียกชื่อเธอและเอ่ยถามเธอกันไม่หยุด "คุณญาณิดาคะ ได้ข่าวว่าคุณใช้อำนาจบีบแม่เลี้ยงของคุณหลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังเปิดเผยความลับที่ปิดไว้มานานของตระกูลวีรภัทรเมธี เพื่อยึดอำนาจนี้มาจริงหรือเปล่าคะ?" "คุณญาณิดาคะ มีคนบอกว่าคุณอิจฉาคุณจิดาภามาโดยตลอด ความสัมพันธ์พี่น้องที่ลงรอยกัน คุณมีความคิดเห็นอย่างไรคะ?" "คุณญาดิดา ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตพวกนั้นคุณเป็นคนเผยแพร่ออกไปเองใช่ไหมคะ?" "พวกคุณ......" ญาณิดาถูกดักหน้าไว้เสียจนออกไปไม่ได้ ถูกนักข่าวล้อมไว้อย่างตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์ในการรับมือกับบรรดานักข่าว อาการของญาณิดานั้นแสดงออกมาว่าจนมุม แม้กระทั่งตะโกนด่าว่านักข่าว โดยไม่หลงเหลือท่าทางที่สง่างามเมื่อซักครู่นี้อยู่เลย ด้านนอกร้านกาแฟ จิดาภานั่งอยู่บนรถมองเห็นเหตุการณ์ตรงหน้ากับตาตัวเอง เธอยกยิ้มมุมปากขึ้น “เจนจิรา นักข่าวที่หามานี่ทำงานเป็นมากเลยนะ” เจนจิราหัวเราะแล้วเอ่ยกลับไป “ช่วยอะไรได้บ้างก็ดีแล้วล่ะค่ะ!” ถ้าหากไม่ใช่ว่าครั้งนี้ญาณิดาทำเกินไปจริงๆล่ะก็ จิดาภาเองก็คงจะไม่ทำแบบนี้กับเธอ จะใช้ประโยชน์จากนักข่าวเพื่อทำให้เธอต้องขายหน้าอย่างนั้นหรือ? ศีรษะเธอได้รับการกระทบกระเทือนหรือเปล่า จิดาภาอยู่ในวงการบันเทิงมานานขนาดนี้ เธอจะมาเป็นฝ่ายเสียเปรียบในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร “ตอนนี้เธอคงจะต้องรู้สึกเสียใจแล้วล่ะสิ? แบบนี้คงจะไม่กล้าปฏิบัติกับคุณป้าอย่างไม่มีมารยาทแบบนั้นอีกแล้วล่ะมั้งคะ” เพียงญาณิดาทำอะไรกับรุจาภา ก็จะมีปาปารัซซี่คอยตามถ่ายรูปไว้ เพื่อหุ้นส่วนของเธอในกิจการของตระกูล เธอคงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามอย่างแน่นอน เนื่องจากท่านจิรชยาจะไม่มอบอำนาจให้กับคนที่มีความเกี่ยวข้องกับพวกนักข่าว ดังนั้นญาณิดาจึงจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก “เพื่อจะรักษาสภาพไว้ เธอก็ควรจะฉลาดขึ้นมาเสียหน่อย....” ใกล้ชิดสนิทสนมกับรุจาภาไว้ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จิดาภาพบว่าเจนจิรานั้นเป็นคนที่ฉลาดมากจริงๆ ทั้งยังมีพรสวรรค์ทางด้านการประชาสัมพันธ์อีกด้วย ถ้าหากเป็นพี่นัฎ ตอนนี้ก็คงจะยังคิดไม่ได้ถึงขั้นนี้ วิธีนี้เป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาชั่วคราวเพียงเท่านั้น ตำแหน่งที่รุจาภาอยู่ในตระกูลวีรภัทรเมธีนั้นนับตั้งแต่วันที่เธอแต่งงานเข้าบ้านหลังนี้ นั่นก็ถือเป็นการตัดสินใจของเธอแล้ว เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ต่อไปเธอเองก็จะไม่สนใจเรื่องของคนตระกูลวีรภัทรเมธีอีกแล้ว เรื่องเหล่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ เธอเพียงแค่อยากจะทำงานของตัวเองออกมาให้ดี และก้าวไปเรื่อยๆให้ระยะห่างระหว่างเธอกับจิรภาสได้ใกล้กันมากขึ้นเพียงเท่านั้น เพียงแต่เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ว่าจิดาภาคิดจะหลบเลี่ยงแล้วจะสามารถทำได้เช่นนั้น ตอนนี้ญาณิดายังไม่รู้เรื่องที่ท่านจิรชยาได้ร่างพินัยกรรมขึ้น แล้วยกทุกอย่างให้กับจิดาภา หากรอจนถึงวันที่เธอรู้เรื่องนี้ จะต้องอาละวาดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน “พี่จิดาภา หลังจากพิธีเปิดกล้อง ก็จะต้องเดินทางไปกองถ่ายแล้ว พี่จะกลับไปหาบอสเสียหน่อยไหมคะ?” เจนจิราเอ่ยถาม จิดาภามองไปยังวิวข้างถนนที่อยู่นอกหน้าต่าง แล้วพึมพำขึ้นมาเบาๆสองคำ “เจอหรือ?” ไปเจอกันเดี๋ยวก็ต้องแยกกันอีกอยู่ดี กลับยิ่งจะทำให้เธอคิดถึงเขามากขึ้นไปกว่าเดิมเสียอีก ......... บ่ายสองโมงวันนั้น ณ กองถ่ายชามตะวันตกนักแสดงหลักและนักแสดงสมทบทุกคนของเรื่องคนป่าเถื่อนตอนคืนได้มาถึงงาน และเข้าร่วมพิธีบวงสรวงเปิดกล้อง หนึ่งในนั้นก็มีนักแสดงดังที่ดูลึกลับคนนั้น สมภพ เขาเพิ่งจะเข้าวงการมาได้สี่ปี ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาและร่างกายแข็งแรงกำยำมีกล้ามเนื้อของเขานั้นทำให้มีแฟนคลับที่คลั่งไคล้เขานับหมื่นคน ทั้งยังโดดเด่นที่เข้าแย่งชิงภาพยนตร์อีกหลายๆเรื่อง ได้รับรางวัลมากาย ยิ่งทำให้เขากลายเป็นนักแสดงชายดีเด่นของเทศกาลภาพยนตร์ชีน่าที่อายุน้อยที่สุดไปแล้ว อีกทั้งผู้กำกับหลายๆคนต่างก็พากันชื่นชมในความสามารถที่แสดงออกมาให้เห็นของเขา เนื่องจากเขาสามารถสื่อสารอธิบายบทบาทของเขาออกมาได้อย่างครบถ้วน แม้แต่พื้นฐานความชำนาญในเรื่องของบท ก็มีทักษะที่ดีมาก เพียงแต่เขามีความแปลกประหลาดอยู่ตรงที่ชอบถ่ายแต่ละคร ไม่มีเรื่องซุบซิบนินทา และรับงานโฆษณาน้อยมาก ยิ่งไม่เหมือนกับคนที่มีความสามารถ ที่ทำเพียงแค่ถ่ายละครเท่านั้น เพื่อการถ่ายละคร ในเวลาหนึ่งเดือนเขาสามารถที่จะไม่ออกจากคอนโดได้เลย นักแสดงที่ร่วมงานกับเขานั้นต่างก็พากันรู้สึกกดดัน เนื่องจากสมภพไม่เพียงแค่เข้มงวดกับตัวเองเพียงเท่านั้น กับนักแสดงที่ร่วมถ่ายทำกับเขานั้นเขาก็เข้มงวดมากด้วยเช่นกัน หลังจากที่จิดาภารู้แล้วว่าเขาเป็นนักแสดงนำชายของเรื่องนั้น ก็รู้สึกแปลกใจ ชื่อเสียงที่มีแต่ข่าวซุบซิบนินทาอย่างเธอ จะตามดาราดังอย่างเขาได้อย่างไร พิธีการเปิดกล้องดำเนินไปอย่างราบรื่น ถึงแม้ว่าจิดาภาจะเป็นนักแสดงหญิงที่อยู่ในลำดับที่สี่ แต่กลับอยู่ไม่ห่างจากตำแหน่งของสมภพ เพื่อมารยาท เธอเอ่ยทักเขาขึ้นก่อน “พี่สมภพสวัสดีค่ะ” หลังจากนั้นที่สมภพได้ยินเสียงนั้น จึงมองเธอกับด้วยสีหน้าเรียบๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย นั่นก็นับว่าเป็นการตอบรับแล้ว จิดาภากระพริบตา แล้วหันกลับไป ในใจเธอไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะถึงอย่างไรแล้วในเรื่องเธอจะต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ตลอด ถ้าหากเขามีท่าทางที่เย็นชาเช่นนี้ การร่วมงานกันของเธอกับเขาราวกับจะยากขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว เวลานี้เอง จิรภาสอยู่ตรงใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากตรงนั้น คอยมองจิดาภาอยู่ตลอดพิธีเปิดกล้อง แต่เขาไม่ได้ปรากฏตัวออกไป เพราะเขารู้ดีว่าถึงแม้เขาจะปรากฏตัวออกไปแล้วนั้น ก็ไม่สามารถขัดขวางความจริงที่จิดาภาจะต้องไปกับทีมกองถ่ายนั่นได้อยู่แล้ว และหลังจากที่พิธีเปิดกล้องเสร็จสิ้นลงแล้วนั้น จิดาภาที่อยู่บนรถจึงกดโทรออกหาจิรภาส “คุณจิรภาสคะ เรากำลังจะออกเดินทางกันแล้ว คุณดูแลตัวเองดีๆนะคะ” “.......ครับ” จิรภาสมองรถของทีมกองถ่ายที่ขับออกไปยังทางไปสนามบิน สายตาของเขากำลังจดจ้องไปยังคันที่จิดาภานั่งอยู่คนนั้น “ผมรอคุณกลับมานะครับ” จริงๆแล้ว เขาอยากจะตามไปรั้งจิดาภาไว้ อยากจะกอดเธออีก แล้วบอกกับเธอ ว่าเขาทำใจลำบากมากแค่ไหน ......... ทางด้านญาณิดาที่กว่าจะกำจัดพวกนักข่าวออกไปได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เธอกลับบ้านตระกูลวีรภัทรเมธีด้วยลักษณะท่าทางที่จนมุม ไม่หลงเหลือท่าทางความเย่อหยิ่งเหล่านั้นอยู่เลย แววตาของเธอนั้นฉายแววความเกลียดชัง เนื่องจากการประโคมข่าวของบรรดานักข่าวเหล่านั้น จากทายาทผู้สืบทอดกิจการของตระกูลวีรภัทรเมธีอย่างเธอนั้น ได้กลายเป็นลูกสาวที่ร้ายกาจใช้อำนาจบีบแม่เลี้ยงของเธอไปเสียแล้ว! ญาณิดาไม่ได้จัดการกับจิดาภาเลยเสียด้วยซ้ำ แต่นี่เธอยังหาเรื่องใส่ตัวเองอีกเสียนี่ ถ้าหากให้ท่านจิรชยารู้ จะต้องโกรธเธอมากอย่างแน่นอน หากจะยึดอำนาจผู้แทนประธานบริษัทของเธอไปล่ะ..... นายหญิงของตระกูลวีรภัทรเมธีของเธอนี้ราวกับว่าเธอจะสู้จิดาภาไม่ได้ ทุกครั้งเธอแพ้อย่างดูไม่ได้เลย เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา ก็พบกับรุจาภา แล้วพุ่งไปหารุจาภาด้วยความเกลียดชัง อยากจะไล่ให้รุจาภาออกไปจากบ้านเสียเดี๋ยวนี้ แต่ตอนนี้ข้างนอกมีพวกปาปารัซซี่ที่วนเวียนกันอยู่ เธอไม่สามารถทำให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีกได้ “คุณน้า ฉันกลับมาแล้วค่ะ” รุจาภารู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก หลายปีมานี้ ญาณิดาเคยยิ้มให้เธอเสียที่ไหนกัน? เกิดอะไรขึ้น! รุจาภาพยักหน้ารับ แต่ก็ไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น มองญาณิดาเดินขึ้นชั้นบนไปด้วยความตกใจ และเมื่อญาณิดาปิดประตูห้องลงแล้ว ก็ตะโกนออกมาเสียงดัง ทำลายข้าวของในห้องเสียจนกระจุยกระจายไปหมด! ทำไมเธอถึงไม่เคยสู้จิดาภาได้เลย! เธอจะต้องทำอย่างไร? เธอเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลวีรภัทรปรีดา และตระกูลวีรภัทรปรีดาจะต้องเป็นของเธอ
已经是最新一章了
加载中