บทที่356 จิดาภาก็สายเป็นเหมือนกัน   1/    
已经是第一章了
บทที่356 จิดาภาก็สายเป็นเหมือนกัน
บทที่356 จิดาภาก็สายเป็นเหมือนกัน เนื่องจากเป็นเพราะผู้กำกับที่กังวลเรื่องงาน นักแสดงประกอบในกองถ่ายหลายๆคนต่างก็มีความคิดเห็นกับจิดาภากันอย่างมาก แม้แต่นักแสดงหญิงเบอร์หนึ่งที่เป็นเพราะอาการหวัดของเธอจึงทำให้ส่งผลต่อการถ่ายทำให้เลื่อนออกไปอีกสองวัน ผู้กำกับเองก็เพื่อที่จะต้องเร่งงานคืบหน้าจึงต้องให้เธอรีบมาทำงานโดยเร็ว และนั่นจึงเป็นสาเหตุให้เธอต้องเป็นลมไปกลางกองถ่ายในที่สุด ทุกคนก็ต่างเริ่มบ่นกันขึ้นมา รู้สึกว่าจิดาภาจะชอบแสดงออกมากเกินไปแล้ว ทำให้พวกเขาตกอยู่ในที่นั่งลำบาก “เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า มีเวทีดีๆที่จะไปได้ขนาดนั้นแล้ว ยังจะมาจริงจังขนาดนี้อีก? ทำดีไปให้ใครดูกัน!” “พระเจ้าเถอะ ฉันไม่เคยเห็นใครที่ทุ่มเทจนสุดตัวขนาดนี้มาก่อน นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการฆ่าพวกเราเลยหรือไง?” “ที่ผู้กำกับยอมรับเธอแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่ารับเงินจากเค.เอฟไปตั้งเท่าไหร่!” คำนินทาที่ออกมาให้ได้ยินกันภายในกองถ่ายนั้นยิ่งฟังไม่ได้ขึ้นทุกที เจนจิราที่ได้ยินคนเหล่านั้นนินทาลับหลัง ทำให้เธอรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก จึงกลับไปปรึกษากับจิดาภา “พี่จิดาภา คนพวกนั้นนินทาลับหลังเราทุกวัน เป็นแบบนี้ต่อไป พี่จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากนะคะ ยิ่งบอสอยู่ตั้งไกลขนาดนี้อีก หากเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็คงมาไม่ทันการอยู่ดี....” ผู้กำกับคนนั้นไม่เป็นเอาเสียเลย เขาแสดงออกชัดเจนขนาดนั้น จะไม่เป็นการสร้างศัตรูให้กับจิดาภาหรืออย่างไรกัน? จิดาภาที่สนใจแต่กับการฝึกฝนของตัวเอง ไม่อยากจะเป็นตัวถ่วงของกองถ่าย ไม่ได้คิดถึงขั้นนี้ ซึ่งหลังจากที่ฟังคำเตือนนี้ของเจนจิราแล้ว เธอก็รู้สึกสะเทือนใจขึ้นมาบ้าง “เธอไม่ต้องกังวลหรอก พี่รู้แล้วล่ะ” เจนจิรายิ่งรู้สึกกังวลขึ้นไปอีก กับคำว่ารู้แล้วของจิดาภาแบบนี้เพียงคำเดียว? เนื่องจากเจนจิรายังไม่เคยเจอกับสถานการณ์ที่จิดาภาสามารถเอาชนะใจคนอื่นได้ ดังนั้นเธอจึงยังไม่ค่อยรู้อะไรดีนัก วันถัดไป จิดาภาที่ปกติแล้วจะมาปรากฏตัวอยู่ที่กองถ่ายตั้งแต่เช้านั้น วันนี้เธอกลับยังไม่ปรากฏตัวออกมาเสียนี่! ทั้งยังให้ช่างแต่งหน้ารอเธออีกเป็นชั่วโมง ผู้กำกับที่ถ่ายทำไปถึงช่วงที่สะดุดไม่ราบรื่นนั้น เขาที่คิดจะหยิบยกเอาจิดาภามาเป็นตัวอย่างนั้น กลับพบว่าจิดาภายังไม่มาตั้งแต่แรกแล้ว “เจ้าตัวล่ะ?” “ยังไม่มาค่ะ” รองผู้กำกับเอ่ยตอบ ผู้กำกับรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาในทันที แม้แต่แบบอย่างที่ดีที่สุดอย่างจิดาภายังไม่ขยันเลย....เขาจึงทำได้เพียงกระแอมขึ้นมาเล็กน้อย “เอาล่ะ มีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย อีกรอบครับ!” พวกนักแสดงหญิงสบตากัน ปรากฏรอยยิ้มออกมา คราวนี้ล่ะ มาดูกันว่าผู้กำกับจะพูดถึงจิดาภาอีกได้อย่างไร หลังจากที่ถ่ายทำกันไปแล้วสองฉากนั้น จิดาภาถึงเดินทางมาถึง ด้วยใบหน้าที่เหน็ดเหนื่อย เมื่อผู้กำกับเห็นแล้วนั้น เขาจึงเดินเข้าไปถามเธอ “คุณจิดาภา คุณมาช้าขนาดนี้ รู้หรือเปล่าว่าเป็นเพราะคุณทำให้พวกเราจะต้องทำโอกันคืนนี้!” เจนจิราก้มหน้าลงอยู่ข้างๆ เธออยากจะอธิบายแทนจิดาภา ว่าเป็นเพราะจิดาภาฝึกซ้อมทั้งคืน จึงทำให้ให้เธอตื่นสาย แต่จิดาภากลับแย่งเธอพูดขึ้นเสียก่อน “ขอโทษค่ะผู้กำกับ เมื่อวานมีธุระส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ” “ธุระส่วนตัว?” ผู้กำกับพึมพำออกมา “คุณจะต้องรับผิดชอบต่องานของคุณด้วย ทำไมถึงได้ไม่ใส่ใจแบบนี้กัน? เป็นแบบนี้อีก จะถ่ายทำกันได้อย่างไร? เอาล่ะ รีบไปเตรียมตัว!” “ขอโทษนะคะ ผู้กำกับ” จิดาภาเอ่ยขอโทษอย่างจริงจัง หลังจากนั้นจึงพาเจนจิราเข้าไปยังห้องแต่งหน้า ผู้กำกับส่ายหน้า ต่อไปเขาจะเอาจิดาภามาเป็นแบบอย่างที่ดีในการสั่งสอนคนอื่นๆได้อย่างไรกัน? หลังจากที่จิดาภาถูกว่าแล้วนั้น นักแสดงเหล่านั้นก็รู้สึกถึงความเท่าเทียมกันขึ้นมาบ้างแล้ว “ดูสิ โดนว่าเหมือนกันแล้วไง!” “ให้เธอรู้สึกพอใจอีก ก็คงไม่พ้นต้องถูกว่าอีกหรอก” เจนจิราที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็เข้าใจความหมายของจิดาภาในทันที “พี่จิดาภา เมื่อกี้ฉันยังอยากจะอธิบายอยู่เลย....อีกนิดเดียวก็เข้าใจผิดแล้ว ขอโทษนะคะ” เธอยังเด็กเกินไป คิดไม่ถึงขั้นนี้เลยจริงๆ เพียงแค่คำพูดไม่กี่ประโยคของจิดาภา ก็ทำให้นักแสดงคนอื่นๆไม่ได้รู้สึกอิจฉาเธอขนาดนั้นแล้ว เธอใช้วิธีง่ายๆ แต่เจนจิราเองกลับคิดไม่ถึงเลย นี่สิถึงจะเป็นคนที่มีอีคิว..... “คุณจิรภาสบอกว่าคืนนี้จะให้คนส่งของมาให้ เธออย่าลืมไปเอาด้วยนะ” “ดีจังเลยค่ะ!” เจนจิรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเธอจะทนความยากลำบากได้จริงอยู่ แต่อาหารการกินที่นี่กินได้ยากมากจริงๆ จิดาภาหัวเราะออกมา หลังจากที่เมื่อคืนเข้าคุยโทรศัพท์กับจิรภาสแล้วนั้น พูดถึงสิ่งของที่เธออยากจะได้มากมาย แต่สิ่งที่เธออยากได้มากที่สุดนั้น ไม่สามารถส่งมาถึงเธอได้เลย กองถ่ายเรื่องนี้และเรื่องส่วนความทรงจำนั้นแตกต่างกัน ทุกคนต่างก็ต้องการให้เธอได้สัมผัสกับสิ่งใหม่ๆอีกครั้ง เวลาจะทำอะไรก็ต้องระมัดระวังอีกเป็นเท่าตัว “สิ่งที่ฉันต้องการที่สุด ก็คือให้คุณมาอยู่ข้างๆฉัน” จิดาภาไม่ได้ปิดบังอะไร บอกกับทางปลายสายออกมาเลยตรงๆ “ผมก็อยากไปหาคุณเหมือนกันครับ” จิรภาสกล่าว “ตอนนี้ผมรู้สึกเสียใจจริงๆที่ปล่อยให้คุณไป” จิดาภากัดริมฝีปากตัวเองไว้ เธอพยายามอดทนไว้ มิเช่นนั้นเธอกลัวว่าจะเธอจะหลุดปากออกไปจริงๆว่าเธออยากจะกลับไป กลับไปอยู่ข้างๆเขา อยากจะบอกว่าเธอไม่อยากจะทำงานแล้ว อยากจะอยู่แค่กับเขา เป็นภรรยาของเขาเพียงเท่านั้น แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ในที่สุดการสนทนากันของทั้งสองคนก็เงียบไป จิรภาสรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเธอ จึงเปลี่ยนเรื่องคุย หากยังคงพูดต่อไปนั้น มีแต่จะทำให้เธอเป็นทุกข์เสียเปล่าๆ “ของที่คุณต้องการ ผมจะจัดการให้นะครับ” “คุณจิรภาส.....” ฉันคิดถึงคุณ จิดาภาพูดประโยคนี้ขึ้นในใจ “ผมอยู่นี่ครับ” “ไม่มีอะไรค่ะ ดูและตัวเองดีๆนะคะ” จิดาภาบอกกับเขา เธอไม่กล้าพูดอะไรออกมามาก กลัวว่าหากเธอพูดมากไปกว่านี้ เธอจนอดไม่ได้ที่จะกลับไปหาเขาเสียก่อน ได้ยินดังนั้น น้ำเสียงของจิรภาสก็แฝงไปด้วยรอยยิ้ม “เราก็ไม่ได้ห่างกันไกลขนาดนั้นนี่ครับ ถ้าหากคุณคิดถึงผมขนาดนั้น ผมไปหาคุณได้นะ ไปดูงานด้วยซักสองสามวัน ก็ไม่ใช่เรื่องยากนี่ครับ หรือผมไปหาคุณทุกอาทิตย์ คุณจะได้ไม่ต้องลำบากคิดถึงผมขนาดนี้ ดีไหมครับ?” เช่นนี้ ราวกับว่าจะทำให้งานหนักของเธอได้ผ่อนคลายขึ้นมาไม่น้อยเลย จิดาภาตอบรับกลับไป “ค่ะ!” จริงๆแล้วจิรภาสถามถึงสถานการณ์ของจิดาภาทางนั้นกับเจนจิราทุกวัน เธอกินอะไร อากาศทางนั้นเป็นอย่างไร เกิดเรื่องอะไรในกองถ่ายบ้าง? เขาเป็นคนนั้นที่ห่วงใยเธอมากที่สุดอยู่แล้ว เรื่องที่เขาตัดใจไม่ได้นี้ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจเพียงเท่านั้น ไม่สามารถให้จิดาภารับรู้ได้ ........... ไม่นานจิดาภาก็จะต้องเล่นเป็นบทขอทานแล้ว เธอสวมใส่เสื้อเชิ้ตขาดๆ หมวกเก่าๆ แต่งหน้าให้ดูเลอะเทอะ ถ้าหากเป็นนักแสดงคนอื่นคงจะรับไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะที่ผมของเธอนั้นมีทาอะไรแปลกๆเหล่านั้นอยู่ ทำให้คนที่เห็นต้องรู้สึกสะอิดสะเอียดเป็นอย่างมาก บวกกับบนใบหน้าซีกซ้ายที่มีรอยปานปรากฏอยู่..... ทั้งหมดนี้ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงน่าเกลียดอัปลักษณ์คนหนึ่ง! แต่จิดาภานั้นไม่มีท่าทีปฏิเสธแต่อย่างใด เธอยังคงมีท่าทางที่นิ่งๆเช่นเคย “เธอเห็นจิดาภาแต่งหน้าแล้วหรือยัง? ฉันตกใจจริงๆนะ แต่งเป็นแบบนั้น โชคร้ายจริงๆ!” “เธอได้บทนี้ โชคไม่ดีจริงๆนั่นแหล่ะ” “แต่ ฉันรู้สึกว่าเธอมีความจริงจังมากๆเลยนะ ถ้าหากเป็นพวกเราที่จะต้องแต่งเป็นแบบนั้น คงจะต้องไปคุยกับผู้กำกับตั้งแต่แรกแล้วล่ะ?” “เธอเป็นนักแสดงที่มีความตั้งใจในการทำงานมากคนหนึ่งจริงๆ” นักแสดงประกอบสองสามคนที่กำลังยืนวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ข้างๆ มองจิดาภาที่เดินออกมาจากห้องแต่งหน้า ต่างก็พากันก้าวถอยหลังไป เนื่องจากว่าการแต่งหน้าเช่นนี้ของเธอนั้นช่างดูน่ากลัวเสียจริงๆ จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้กำกับต้องการ เขาต้องการให้เขาถึงบทบาทได้สมจริงอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นบนศีรษะของจิดาภานั้นจึงถูกช่างแต่งหน้าใช้ไข่ไก่เน่ามาแต่งอยู่จริงๆ ยังจะมีรองเท้า รอยเลอะเทอะเปรอะเปื้อนตามเสื้อผ้าของเธอ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ขุดออกมาจากท่อระบายน้ำเหม็นๆทั้งสิ้น “เหม็นเกินไปแล้วหรือเปล่า!” “ยังเหม็นอีกด้วย! กลิ่นอะไรกัน?” “อา..เธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยหรือ?”
已经是最新一章了
加载中