บทที่003 แขกคนแรก   1/    
已经是第一章了
บทที่003 แขกคนแรก
บทที่003 แขกคนแรก เมื่อพี่หงเห็นวาฉันยังคงลังเลไม่หยุด เธอก็ยิ้มให้ฉันก่อนจะพูดว่า “เมิ่งเมิ่ง คุณรอที่นี่ไปก่อนนะ อีกสักพักจะมีแม่นมกลับมา เดี๋ยวฉันค่อยมาคุยกับคุณอีกที!มานี่สิ มาดูอะไรนี่!” เมื่อพี่หงพูดจบ จากนั้นก็ค้นข้อมูลต่างๆออกมาให้ฉันดู เธอบอกว่านี่เป็นข้อมูลภายในบริษัท เป็นคนที่ให้นมกับชาวน้ำนมโดยเฉพาะ ชาวน้ำนมที่ว่าเป็นชื่อเรียกของผู้ใหญ่ที่มาดื่มนม คนที่อยู่ในวงการนี้ก็เรียกแบบนี้กันทั้งนั้น พี่หงมองฉันก่อนจะพูดว่า “เมิ่งเมิ่ง คุณดูสิ พวกเธอหลายคนไม่มีใครสวยเท่าคุณเลย แถมยังไม่ได้เป็นวัยรุ่นเหมือนคุณด้วย น้ำนมก็ไม่ได้มีมากเท่าคุณ นมก็ไม่ได้ใหญ่เท่าคุณ แต่ว่าพวกเธอออกไปแต่ละที แขกก็ให้อย่างน้อยแปดร้อยหยวนแล้วนะ ถ้าหากเป็นคุณ อย่างๆต่ำๆก็น่าจะได้สักพันนึงเลยล่ะ!” ขณะที่พี่หงกำลังแนะนำอะไรต่างๆให้ฉันดู แม่นมที่ชื่อว่าจวนจื่อก็กลับมา ฉันมองอยู่ชั่วครู่ จวนจื่อดูแล้วน่าจะโตกว่าฉันสัก สี่ถึงห้าปีได้ และเต้านมก็ดูเล็กไปมาก จวนจื่อพูดพลางถอนหายใจออกมาว่า “ เห้อ ไม่ไหวแล้ว น้ำนมนั้นมีแต่จะน้อยลงๆ แต่ว่าแขกนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆเลย!” จวนจื่อเห็นฉันก็พูดว่า “นี่น้องสาว ฉันว่าหน้าอกของคุณนั้นยังตึงอยู่มาก ตอนนี้น้ำนมคงจะยังเยอะอยู่ใช่ไหม? ตอนนี้รีบเข้ามาทำงานเถอะ รอไปอีกสักพักจะทำก็ไม่มีทางทำได้แล้ว ตอนแรกฉันก็เป็นแบบคุณนี่แหละ!” ตอนนั้นฉันถูกกรอกหูโดยพี่หงกับจวนจื่อแล้ว ก็เริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมา แต่ว่าฉันยังคงตัดสินใจไม่ได้ เพราะว่าฉันมีความคิดที่ค่อนข้างจะหัวโบราณ ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจที่จะกลับบ้านไปคิดๆดูก่อน ในตอนนั้นเอง จวนจื่อกับพี่หงก็พูดกับฉันว่า “เมิ่งเมิ่ง เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ไม่ว่าคุณจะตกลงทำหรือไม่ทำ ฉันจะช่วยคุณถ่ายรูปเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน คุณว่าอย่างไร?ดูสิว่าจะมีลูกค้าสักกี่คงที่เต็มใจจะจ่ายให้กับคุณ คุณค่อยตัดสินใจอีกที ดีไหม?ฉันว่าคุณจะต้องได้รับความสนใจเป็นอย่างมากแน่นอน!” เมื่อถูกพวกเธอทั้งสองคนพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็เข้าใจความหมายที่พี่หงพยายามจะสื่อถึง พี่หงจึงได้พาฉันเข้าไปในห้อง ก่อนจะให้ฉันถกเสื้อขึ้น และช่วยถ่ายภาพและอัพโหลดรูปหน้าอกของฉันบนอินเตอร์เน็ต เธอเห็นหน้าอกที่เต่งตึงอมชมพูของฉัน ก็ยิ้มขึ้นก่อนจะพูดว่า “เมิ่งเมิ่ง จากนี้ครึ่งปีอาชีพนี้ของคุณจะต้องโด่งดังมากแน่ๆ ไม่แน่ว่าชาวน้ำนมทุกคนอาจจะชื่นชอบคุณ ราคาของคุณจะต้องสูงที่สุดแน่นอน!” หลังจากที่พี่หงช่วยถ่ายรูปให้ฉันแล้ว ก็ให้ฉันกรอกใบสมัคร หลังจากที่ฉันเขียนเสร็จ ด้วยความลังเลครั้งสุดท้ายแต่ว่าฉันก็ยอมใส่เบอร์โทรศัพท์ลงไป เช้าวันที่สอง สามีออกไปทำงาน ฉันพักอยู่ที่บ้านก่อนจะเตรียมตัวไปซื้อกับข้าว จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉันเห็นว่าเป็นแบอร์แปลกโทรมา ฉันจึงกดรับโทรศัพท์ จากนั้นปลายสายก็เป็นเสียงของพี่หง เธอพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “ฮัลโหล ใช่เมิ่งเมิ่งหรือเปล่า?” ฉันพูดว่า “อือ คุณใช่พี่หงไหม?” พี่หงพูดด้วยความดีใจว่า “เมิ่งเมิ่ง ฉันจะบอกให้นะ เมื่อคืนฉันเอาข้อมูลของคุณโพสลงบนอินเตอร์เน็ต ก็มีชาวน้ำนมสนใจคุณมากมาย วันนี้ตอนเช้าตรู่มีแขกคนเก่ามานัดคุณแล้ว คุณเดาสิว่าเขาจะจ่ายให้เท่าไหร่?” ยังไม่ทันจะรอให้ฉันพูด พี่หงก็พูดด้วยความตื่นเต้นดีใจว่า “เมิ่งเมิ่ง สองพัน เขาให้สองพันเลยนะ!” เมื่อได้ยินพี่หงพูดแบบนี้ ฉันก็ใจเต้นขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงสามีที่ออกไปทำงานตากแดดทุกวัน เดือนหนึ่งกลับหาเงินได้แค่สามสี่พันเท่านั้นเอง บางทีไม่มีงานให้ทำก็ต้องอดมื้อกินมื้อ ฉันคิดๆดูแล้ว เงินสองพันนี่หามาได้ง่ายๆเลย อีกอย่างก็แค่ให้ลูกค้าดื่มน้ำนมก็เท่านั้นเอง แต่ก็ได้เงินเยอะแยะมากมายแล้ว เพียงแต่ว่าคนที่มากินนมไม่ใช่เด็กแต่เป็นผู้ใหญ่ก็เท่านั้นเอง ความคิดของฉันก็หยุดไปชั่วครู่ พลางถูกเงินสองพันนั้นดูดเข้าไปในทันที ฉันจึงพูดว่า “พี่หง จริงเหรอ?ที่ไหนล่ะ?” พี่หงได้ยินดังนั้นก็พูดขึ้นด้วยความดีใจว่า “เมิ่งเมิ่ง คุณมาที่บริษัทก่อนเถอะ!” หลังจากวางโทรศัพท์ ฉันก็รีบบึ่งไปที่บริษัทของพี่หง ขณะนี้เธอกำลังมายืนต้อนรับฉันที่หน้าประตูอย่างดีอกดีใจ เมื่อเธอฉันก็เผยสีหน้ายิ้มแย้มออกมาอยู่สดใส จากนั้นก็เชิญฉันเข้ามาราวกับว่าฉันเป็นเด็กตัวน้อยๆน่าทะนุถนอม เมื่อขึ้นมาที่ชั้นสอง พี่หงก็เอาเครื่องดื่มมาให้ฉันโดยเฉพาะ จากนั้นจึงพูดว่า “เมิ่งเมิ่ง เดี๋ยวช่วงสิบเอ็ดโมง คุณนั่งแท็กซี่ไปที่โรงแรมซังไซห้อง308นะ เมื่อไปถึงจะมีแขกรออยู่ที่นั่น!” ฉันฟังดังนั้นก็ตอบ “อ๋อ” จากนั้นจึงถามพี่หงต่อว่า “พี่หง งั้นฉันต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?” พี่หงพูดด้วยความใจดีว่า “เมิ่งเมิ่ง คุณไปถึงต้องอย่าลืมว่าต้องเก็บเงินก่อน เป็นจำนวนเงินที่พวกเราเคยคุยกันก็คือสองพันหยวน แต่แขกเป็นข้าราชการนะ แล้วก็เป็นลูกค้าประจำด้วยค่อนข้างน่าเชื่อถือ คุณไม่ต้องกังวลอะไรมากหรอก!” ฉันยังคงถามด้วยความกังวลใจว่า “แล้วจะไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายเหรอ?” พี่หงได้ยินดังนั้นก็ตอบด้วยความมั่นใจว่า “เมิ่งเมิ่ง คุณวางใจเถอะ คนพวกนี้ปกติแล้วก็ดื่มแค่นม ไม่ทำอะไรอย่างอื่นหรอก อีกอย่าง พอกินข้าวเสร็จ พวกเขาก็จะให้คุณกลับได้ วางใจเถอะ!” เมื่อใกล้ถึงเวลาแล้ว พี่หงกับอกเรื่องการเตรียมตัวต่างๆเอาไว้ให้ฉันจากนั้นก็ให้ฉันลงจากตึกไป พี่หงยังบอกอีกว่าค่าแท็กซี่ลูกค้าก็จะเป็นคนออกให้ เมื่อถึงแล้วให้ฉันเอาบิลไปเบิกกับแขกก็พอ หลังจากที่ลงจากตึกไป พี่หงก็ช่วยฉันโบกแท็กซี่อีกด้วย จากนั้นก็บอกคนขับรถว่าจะไปลงที่โรงแรมซังไซ แท็กซี่ขับไปเร็วมาก ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงที่โรงแรมซังไซแล้ว หลังจากที่ฉันจ่ายเงินไป ฉันลืมขอบิลจากคนขับรถ จากนั้นฉันจึงเดินเข้าไปในโรงแรมทั้งๆที่ไม่มีบิลค่ารถ เมื่อฉันเดินเข้าไปในโรงแรม ผู้รักษาความปลอดภัยในโรงแรมเห็นฉันจากนั้นจึงใช้สายตาเป็นกังวลถามฉันว่า “สาวน้อย คุณจะไปห้องไหน?” ฉันหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดด้วยความประหม่าว่า “ห้อง308!” เมื่อฉันพูดจบ ยามคนนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีหน้ารับแขก จากนั้นจึงพูดกับฉันพลางยิ้มขึ้นว่า “สวัสดี เชิญคุณมาทางด้านนี้!”เขาเริ่มพูดขึ้นก่อนจะพาฉันเดินไปทางลิฟต์ หลังจากที่ฉันขึ้นลิฟต์เองไปถึงชั้นสาม จากนั้นก็เริ่มหาห้องหมายเลข308 เมื่อฉันเห็นสัญลักษณ์ ไม่นานฉันก็หาห้อง308เจอ ขณะนี้ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ก็พบว่านี่มันเวลา11:30แล้ว ฉันจึงเคาะประตูที่ห้อง308 ขณะที่ฉันกำลังจะยื่นมือมาเคาะประตู ประตูนั้นก็ถูกเปิดออก เป็นชายที่อายุประมาณสามสิบกว่าๆ เขาตัวค่อนข้างสูงแต่ว่าเขาผอมมาก ดูแล้วไม่ได้ดูมีราศีสักเท่าไหร่ แต่ว่ากลับพูดจาอย่างสุภาพ หลังจากที่เขาเห็นฉัน ก็ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา พลางพูดว่า “คุณคือคนของพี่หงที่เพิ่งมาใหม่ชื่อเมิ่งเมิ่ง ใช่ไหม?” ฉันพยักหน้าอย่าเขินอายพลางพูดว่า “อืม ใช่แล้ว!” เขาหลังจากที่ได้ฟังดังนั้นก็รีบเชิญฉันเข้าไปในห้อง หลังจากที่เข้าไปแล้ว เขาก็พูดกับฉันด้วยหน้าสียิ้มแย้มว่า “เมิ่งเมิ่ง ฉันแซ่เฉินนะ คุณเรียกฉันว่าพี่เฉินก็ได้!” ฉันทั้งรู้สึกประหม่าและกังวลก่อนจะพยักหน้า พี่เฉินมองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่าฉันเครียด เขาจึงยิ้มพลางพูดว่า “เมิ่งเมิ่ง คุณอยู่ที่เซินไห่มานานแค่ไหนแล้ว?ออกมาพร้อมกับสามีหรือเปล่า?” เมื่อถูกพี่เฉินถามพลางขำแบบนี้ ความเครียดของฉันก็เริ่มคลายหายไป แต่ฉันก็ยังไม่กล้าสบตาพี่เฉินก่อนจะพูดว่า “อือ ยังมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน สามีของฉันเองก็มาทำงานที่นี่!” หลังจากที่เขาได้ฟังดังนั้นจากนั้นจึงเริ่มยิ้มเล็กๆ ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมาที่หน้าอกของฉัน เมื่อจู่ๆฉันถูกพี่เฉินมองด้วยสายตาแบบนั้นก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมา เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันทำงานนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันควรจะทำอย่างไร พี่เฉินจ้องมาที่เห็นสักพักก่อนจะพูดว่า “เมิ่งเมิ่ง ลูกคุณโตแค่ไหนแล้ว?” ฉันก้มหน้าก้มตาพูดเบาๆว่า “หกเดือนแล้ว แต่ว่าฉันให้แม่ของสามีเป็นคนดูแลอยู่ที่บ้านเก่า!” เมื่อพี่เฉินได้ยินคำตอบของฉันก็ดูจะพึงพอใจ ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มที่ตั้งแต่เจอฉันก็ยังยิ้มให้ไม่หยุดออกมา เมื่อผ่านไปชักพักเขาก็พูดต่อว่า “เมิ่งเมิ่ง อันที่จริงมันจะเป็นแบบนี้ คือว่าลำไส้ของฉันนั้นไม่ค่อยดี หมอแนะนำว่าน้ำนมของผู้หญิงสามารถช่วยได้ ดังนั้นฉันเลยต้องมาทำอะไรแนวๆนี้!” ฉันได้ฟังดังนั้น ก็ตอบไปทั้งๆที่ยังกังวลอยู่ว่า “อ๋อ!” พี่เฉินมองออกว่าฉันนั้นเครียดอยู่ แต่ว่าเขาก็ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจอะไร เพียงแต่เห็นว่าเขาหยิบเงินจำนวนสองพันออกมาจากกระเป๋าและกำใส่มือของฉันก่อนจะพูดว่า “เมิ่งเมิ่ง นี่เงินของคุณ จากนี้พวกเรามาเริ่มกันดีกว่า!” ขณะนี้ฉันรับเงินเอาไว้ด้วยความเป็นกังวล สุดท้ายฉันก็เอาเงินใส่ไว้ในกระเป๋า ในตอนนั้นเอง พี่เฉินให้ฉันนั่งอยู่บนเตียงใหญ่ หลังจากที่ฉันขึ้นนั่งแล้ว พี่เฉินก็หยิบเก้าอี้ตัวเล็กๆมานั่งข้างๆ จากนั้นฉันก็เริ่มให้นมเขา พี่เฉินเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขากินนมอยู่สักพัก กินไปชั่วครู่ ฉันก็รู้สึกถึงมืออีกข้างหนึ่งของพี่เฉินที่โอบกอดเรือนร่างของฉันเอาไว้อย่างแน่น จู่ๆมือของพี่เฉินก็เริ่มลูกคลำต้นขาของฉัน เรือนร่างของฉันก็รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต ฉันก็รีบใช้มือฟัดมือของพี่เฉินออก จากนั้นก็พูดด้วยความสั่นกลัวว่า “พี่เฉิน คุณจะทำอะไรน่ะ?” เมื่อพี่เฉินเห็นปฏิกิริยาของฉัน ก็ยิ้มด้วยความทำตัวไม่ถูกก่อนจะพูดขึ้นว่า “ขอโทษที มันเป็นการตอบสนองโดยธรรมชาติน่ะ!” ขณะนี้ฉันตกใจจนดึงเสื้อของฉันเองลงมา ฉันที่เพิ่งจะโดนมือของพี่เฉินมาลูบคลำต้นขาจนทำให้ตกใจเป็นอย่างมาก แต่ว่าพี่เฉินกลับทำเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ เขาไม่ได้รู้สึกกังวลหรือรู้สึกอึดอัดใจอะไรเลย เมื่อฉันจัดเสื้อผ้าเสร็จและเตรียมจะกลับแล้ว จู่ๆพี่เฉินก็เรียกฉัน ฉันจึงหันกลับมามอง พี่เฉินหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าอีก ก่อนที่เขาจะยิ้มให้แล้วพูดว่า “เมิ่งเมิ่ง นี่เงินสองพัน คุณนอนกับฉันก่อนเถอะแล้วเงินนี้ฉันจะให้คุณเลยทันที!”
已经是最新一章了
加载中