บทที่011 มุ่งร้าย   1/    
已经是第一章了
บทที่011 มุ่งร้าย
บทที่011 มุ่งร้าย เมื่อฉันได้ฟังดังนั้น ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เฉินเป็นอะไรกันแน่ แต่ว่าฉันเองก็ยอมทำตามที่พี่เฉินบอกโดยการปิดประตูลับนั้นเอาไว้สนิท จากนั้นฉันก็หันเดินไปทางพี่เฉิน และในตอนนี้เองพี่เฉินก็มองมาที่หน้าอกของฉัน พลางหัวเราะฮ่าๆ ก่อนจะพูดออกมาด้วยว่า: “เมิ่งเมิ่ง รสชาติของน้ำนมของเซียงเซียงน่ะมันจืดไปหน่อย!” เมื่อได้ยินพี่เฉินพูดออกมาแบบนั้น ใจของฉันก็อดไม่ได้ที่จะต้องเกิดความกังวลขึ้นมา พลางคิดว่าพี่เฉินตั้งใจจะไม่จ่ายเงินใช่ไหม?ขณะที่ฉันกำลังเดาอยู่นั้น พี่เฉินก็มองฉันก่อนจะพูดต่อว่า: “แต่ว่าคุณวางใจเถอะ ฉันจะให้เงินโดยไม่หักแม้แต่บาทเดียวเลย แต่ว่าวันนี้คุณต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันนะ!” เมื่อได้ยินพี่เฉินพูดออกมาแบบนั้น ฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าพี่เฉินตั้งใจจะพูดอะไรกันแน่ ฉันนั้นรู้สึกชาไปทั้งตัว เมื่อพี่เฉินเห็นว่าฉันไม่ตอบสนองอะไรเลย เขายิ้มๆ ก่อนจะชี้ไปที่น้องชายของเขาพลางพูดว่า: “เมิ่งเมิ่ง คุณดูสิ เป็นเพราะพวกคุณสองคนทำนะเนี่ย ฉันถึงได้รู้สึกทุกข์ทรมานขนาดนี้!” หลังจากที่พี่เฉินทำไปสักพักหนึ่ง บนหน้าผากก็เต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาเพราะความตื่นเต้น ตอนนี้ฉันหน้าแดงขึ้นมาแต่ก็พลางนอนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่ในใจของฉันนั้น ฉันก็รู้สึกมีอารมณ์อยู่ไม่น้อย ท่าทีของพี่เฉินนั้นอ่อนโยน ทำให้ฉันรู้สึกสบาย แต่ว่าพี่เฉินนั้นทำได้ไม่นานก็เสร็จกิจแล้ว หลังจากนั้นพี่เฉินก็นอนอยู่บนเรือนร่างของฉันพลางรู้สึกใจหายอย่างแรง พวกเรานอนพักอยู่แบบนี้สักพัก จากนั้นพี่เฉินก็พูดกับฉันด้วยความดีใจว่า: “เมิ่งเมิ่ง คุณนี่เป็นดวงดาวนำโชคของฉันจริงๆ เลยนะ ฉันไม่ได้มีความรักแบบสามีภรรยามาตั้งนานแล้ว หลังจากที่ครั้งนั้นได้กินน้ำนมของคุณ ฉันก็รู้สึกว่าในด้านนี้ของตัวเองนั้นต้องเริ่มเติมเต็มขึ้นมาอีกครั้ง จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเหมือนฉันเด็กลงไปสิบปีเลยล่ะ ฮ่าๆ !” เมื่อตอนที่ฉันใส่เสื้อผ้า พี่เฉินก็ลงจากเตียง เขาใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขาใส่เสื้อผ้าเสร็จก็หยิบเงินออกมาจากกระเป๋าจำนวนสองพันแล้วเอามาใส่ในมือของฉัน เขาจึงยิ้มขึ้นพลางพูดว่า: “เมิ่งเมิ่ง นี่เงินสองพัน คุณแบ่งกับเซียงเซียงคนละพันก็แล้วกัน น้อยไปไหม?” พี่เฉินพูดพลางยิ้มด้วยความประหม่า ฉันจึงรับเงินมาก่อนจะพูดออกมาด้วยความเขินอายว่า: “พี่เฉิน พูดออกมาแบบนี้ได้อย่างไรกัน วันนี้คุณเลี้ยงข้าวพวกเราดีขนาดนี้ น่าจะใช้เงินไปไม่น้อยเลยใช่ไหม?” หลังจากที่พี่เฉินได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้นอย่างดีใจพลางพูดออกมาว่า: “เมิ่งเมิ่ง ฉันชอบคุณ คุณไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น หนึ่งพันนี้ฉันให้คุณ!” เมื่อพี่เฉินพูดจบก็หยิบเงินออกมาจากกระเป๋าอีกหนึ่งพันพลางส่งมาให้ฉัน ฉันยังไม่ทันจะตอบสนองอะไร พี่เฉินก็รีบยัดเงินใส่กระเป๋ากางเกงของฉัน พี่เฉินยิ้มพลางพูดว่า: “เมิ่งเมิ่ง ไม่ต้องมานั่งทำตาแป๋วอยู่ตรงนี้หรอก ถ้าคุณทำดีกับฉัน ฉันก็จะไม่ทำให้พวกคุณต้องรู้สึกโชคร้ายเลย เข้าใจไหม?จริงสิ อย่าลืมว่ากลับไปต้องให้เซียงเซียงกินอาหารบำรุงเยอะๆ นะ จะได้เพิ่มคุณค่าทางสารอาหารได้ ไม่อย่างนั้นก็คงจะเสียดายหุ่นดีๆ ของเธอน่ะ จริงสิ ครั้งหน้าฉันก็อยากกินนมเธออีกนะ!” เมื่อฉันได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มขึ้นก่อนจะพูดว่า: “อื้ม ได้สิ พี่เฉิน คุณวางใจเถอะ ฉันจะกลับไปสอนเธอ!” เมื่อพี่เฉินเตรียมตัวจะเดินไปเปิดประตูเขาก็หันกลับมาพูดว่า: “เออจริงสิ เมิ่งเมิ่งอย่าลืมนะว่าอย่าเพิ่งให้เซียงเซียงไปรับแขกที่เหลี่ยมจัด เพราะว่าเซียงเซียงนั้นยังสดใสบริสุทธิ์อยู่เลย ฉันหลังว่าเธอจะไม่โดนพวกชาวน้ำนมหื่นๆ มาทำให้เธอเสียหายได้ เข้าใจไหม?อย่าลืมช่วยฉันดูแลเธอด้วยล่ะ!” ฉันฟังจบก็พยักหน้า ดูๆ ไปแล้วพี่เฉินดูจะสนใจเซียงเซียง เขาไม่อยากจะให้เรือนร่างที่บริสุทธิ์และเรียบง่ายของเซียงเซียงนั้นต้องหายไป แล้วจะต้องไปเหมือนกับแม่นมคนอื่นๆ กลายเป็นแม่นมที่ทำได้แต่หาเงินเข้ากระเป๋าเท่านั้น พี่เฉินนั้นไม่อยากจะเห็นอะไรแบบนั้นแน่นอน หลังจากที่พวกเราออกมาแล้ว เซียงเซียงก็ยังคงมองพวกเราด้วยความกังวล พี่เฉินจึงยิ้มให้เซียงเซียงพลางพูดว่า: “เซียงเซียง วันนี้คุณทำได้ไม่เลวเลยนะ กลับไปก็หาอะไรดีๆ กินล่ะ เสริมร่างกายหน่อย เข้าใจไหม?” เซียงเซียงก้มหน้าก้มตาพยักหน้าให้กับพี่เฉิน พี่เฉินยิ้มด้วยความพึงพอใจก่อนจะเดินออกไปจากห้องรับรอง พวกเราจึงส่งเขาทางด้านหลัง เมื่อพี่เฉินเดินออกไปแล้ว ใบหน้าของฉันก็เผยให้เห็นความพึงพอใจเป็นอย่างมากออกมา จากนั้นฉันก็หยิบเงินออกมาจากกระเป๋าจำนวนหนึ่งพันบาทก่อนจะส่งให้เซียงเซียง ฉันยิ้มก่อนจะพูดขึ้นมาว่า: “เซียงเซียง นี่เป็นค่าตอบแทนที่คุณป้อนนมในวันนี้!” หลังจากที่เซียงเซียงเห็นเงินหนึ่งพันบาทแล้ว ก็ดีใจจนแทบจะกระโดดตัวลอย และพูดออกมาด้วยความดีใจว่า: “ว้าว หนึ่งพันเลยเหรอ เงินหนึ่งพันเลยนะเนี่ย!ฉันไม่เคยหาเงินได้เยอะขนาดนี้มาก่อนเลย!ตื่นเต้นจังเลย!” เมื่อเห็นเซียงเซียงดีใจขนาดนั้น ฉันก็รู้สึกดีใจขึ้นมาเหมือนกัน ในวันนั้นระหว่างที่ฉันกำลังเดินกลับกับเซียงเซียง เซียงเซียงก็พูดว่าจะเลี้ยงข้าวฉันเมื่อมีเวลา ฉันจึงยิ้มพลางพูดขึ้นว่า: “ไม่ต้องรีบนะ รอให้คุณหาเงินได้เยอะๆ แล้วค่อยมาเลี้ยงข้าวฉันก็ได้!” หลังจากกลับถึงบ้าน สามีก็พูดกับฉันด้วยความดีใจว่า: “ที่รัก วันนี้มีเพื่อนแนะนำแขกมาให้ฉันด้วย พรุ่งนี้เย็นๆ ฉันพาคุณไปเจอหน่อยดีไหม?” ฉันได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะถามว่า: “ที่รัก เป็นแขกอะไรเหรอ?” สามีเห็นว่าฉันถามทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกก็เลยพูดออกมาด้วยความเซ็งว่า: “ที่รัก ครั้งก่อนฉันเคยบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่ามีพวกที่เรียกว่าชาวน้ำนมน่ะ งานอดิเรกของพวกเขาก็คือการกินนมของผู้ใหญ่ไง เข้าใจไหม?” เมื่อได้ยินสามีพูดออกมาแบบนั้น ฉันก็เข้าใจสิ่งที่สามีพยายามจะสื่อได้ทันที ที่แท้สามีก็ขอให้เพื่อแนะนำลูกค้าให้ฉัน อยากจะให้ฉันไปให้นมกับคนอื่น ก็คือการให้น้ำนมกับคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่พอฉันได้ฟังแล้วก็ไม่สบายใจจึงพูดออกมาว่า: “ที่รัก คุณอยากจะให้ฉันไปทำจริงๆ เหรอ?ไม่ใช่ว่าต่อจากนี้จะแนะนำลูกค้าให้ฉันแล้วให้ฉันเป็นคนหาเงินทางนี้เหรอ?” เมื่อฉันพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจแบบนั้น สามีเองก็รู้สึกผิดเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงด้วยความประหม่า เขาพูดออกมาด้วยความหมดหนทางว่า: “ที่รัก ไม่ใช่แบบนั้นนะ ฉันเองก็ต้องพูดกับคุณตรงๆ ว่าก่อนที่คุณจะมาที่นี่ ฉันมักจะไปเล่นการพนันและก็แพ้ไปไม่น้อยเลย ตอนนี้ฉันติดเงินคนอื่นอยู่อีกห้าพันกว่าแหนะ ช่วงนี้เขาได้ยินมาว่าคุณอยู่ในระหว่างที่ร่างกายยังผลิตน้ำนม เขาบอกว่าถ้าให้เขากินนมของคุณสักครั้ง เงินที่ติดอยู่ก้อนนี้ก็ถือเป็นอันหายกัน!” ในตอนนี้ตาของฉันเริ่มมีน้ำตาซึมออกมา ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าสามีจะทำเหมือนฉันเป็นของขัดดอกใช้หนี้แบบนี้ ฉันกระแอมก่อนจะพูดว่า: “ที่รัก ฉันมาที่เซินไห่คุณก็จะให้ฉันไปใช้หนี้แทนแล้วเหรอ?แล้วยังจะขายฉันให้กับคนอื่นอีกเหรอ?” เมื่อสามีได้ฟังดังนั้นก็พูดออกมาด้วยความอับอายว่า: “โอ้ย เมิ่งเมิ่ง ไม่ใช่แบบนั้นนะ เขาก็แค่อยากจะกินนมของคุณก็เท่านั้นเอง ไม่ได้จะเอาคุณไปสักหน่อย อีกอย่างน้ำนมของคุณถ้าไม่ได้กินก็ต้องบีบทิ้งไม่ใช่เหรอ?คุณให้คนอื่นกินหน่อยก็ถือว่าเป็นการช่วยฉันไปในตัวด้วยได้ไหม?” จากนั้นฉันก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ สามีคิดว่าฉันไม่เต็มใจ จึงพยายามพูดโน้มน้าวข้างๆ หูของฉันต่อ เมื่อพูดจบ จู่ๆ สามีก็หยิบสร้อยออกมาจากกระเป๋าพลางส่งมามือของฉัน จากนั้นกุมมือของฉันเอาไว้แน่นก่อนจะพูดว่า: “ที่รัก นี่เป็นของที่ฉันตั้งใจซื้อให้คุณโดยเฉพาะเลยนะ ฉันใส่ให้คุณตอนนี้เลย ดีไหม?” ฉันมองสร้อยเส้นนั้นที่อยู่ในมือ ก็พบว่าเป็นแค่สร้อยเงินเท่านั้นเอง แต่พูดตามตรงว่าลึกๆ ในใจฉันก็รู้สึกซาบซึ้งอยู่ไม่น้อย ถึงยังไงตอนแต่งงานสามีไม่ได้ให้อะไรเป็นของขวัญเลย สามีมองดูก่อนจะพูดออกมาด้วยความเขินอายว่า: “ที่รัก ครั้งนี้ฉันซื้อสร้อยเงินให้คุณก่อนก็แล้วกัน เดือนหน้าถ้าเงินเดือนออกแล้วฉันจะซื้อสร้อยทองให้คุณนะ ดีไหม?” เมื่อได้ยินสามีพูดออกมาแบบนั้น ฉันก็ใจอ่อนขึ้นมา นี่ถือเป็นจุดอ่อนที่สุดของฉันเลยก็ว่าได้ โดยปกติสามีแค่เอาอกเอาใจฉันเพียงนิดเดียวฉันก็ยอมแล้ว ฉันจึงพูดว่า: “โอเค ที่รัก ฉันจะช่วยคุณสักครั้ง!” จากนั้นสามีก็อุ้มฉันมาที่เตียง ฉันจึงพูดด้วยน้ำเสียงเขินอายว่า: “ที่รัก เรายังไม่ได้อาบน้ำกันเลย ตัวสกปรกหน่า!” สามีขำพลางพูดขึ้นว่า: “ไม่เป็นไรหรอก ที่รัก มานี่มา มาหอมหน่อย ฉันว่าช่วงนี้ฉันไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวคุณเลยนะ!” คืนวันที่สอง สามีก็พาฉันไปเจอลูกค้า ฉันจำได้เพียงว่าพวกสามีเรียกเขาว่าเหล่าหลิว เขาน่าจะทำธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และมักจะมาหาพวกสามีที่ไซต์งานเล็กๆ นี้ เพราะว่าธุรกิจวัสดุก่อสร้างเขาเองก็ไม่ได้ใหญ่มาก ตกดึก สามีก็พาฉันขึ้นแท็กซี่ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ฉันเองลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าโรงแรมนั้นชื่ออะไร ฉันจำได้แค่ว่าโรงแรมนั้นดูดีมีระดับ สามีพาเดินเข้าไปจากนั้นก็เดินตรงไปที่ห้องรับรองหนึ่ง หลังจากที่ฉันเดินเข้าไป ฉันก็เห็นคนที่ชื่อเหล่าหลิว ดูแล้วอายุราวๆ สามสิบกว่าปี ส่วนผมก็ดูมันเงา ราวกับว่าทาเจลมาไม่น้อย ดูเงาวับเลยทีเดียว เขาคิดว่าทรงนี้มันกำลังเป็นที่นิยม แต่ว่าฉันเห็นแล้วอยากจะอ้วกออกมาตรงนั้นเลยทีเดียว เมื่อสามีเดินเข้าไปในนั้นก็ขำก่อนจะพูดออกมาว่า: “เถ้าแก่หลิว สวัสดีครับ คนนี้คือภรรยาของฉันชื่อเมิ่งเมิ่ง!” เมื่อสามีพูดจบก็หันกลับมาหาฉันพลางพูดว่า: “ที่รัก เขาคือเถ้าแก่หลิวที่ฉันเคยเล่าให้ฟังน่ะ!” ฉันมองเหล่าหลิวอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มด้วยความประมาทเพื่อเป็นการทักทายเขา แต่ว่าดูๆ ไปแล้วเหล่าหลิวจะเป็นคนที่หื่นกามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะสายตาของเขาในตอนนี้เอาแต่มองฉันไม่หยุดเลย จนเหมือนจะมีน้ำลายไหลออกมาจากปากของเขา หลังจากที่ฉันนั่งลง แววตาของเหล่าหลิวดูเหมือนจะไม่อยากจะละสายตาออกจากเรือนร่างของฉัน เพราะเขายังคงใช้สายตาที่เต็มไปด้วยตัณหามองมาที่ฉัน มองจนฉันรู้สึกอึดอัดใจ ในตอนนั้นเอง สามีก็ลุกขึ้นแล้วพูดว่า: “เถ้าแก่หลิว พวกเรากินข้าวกันก่อนดีกว่า เรื่องอื่นเราค่อยมาคุยกัน เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ!” หลังจากที่เหล่าหลิวได้ยินดังนั้นก็พูดออกมาด้วยความดีใจว่า: “อื้ม ได้สิ พวกเรากินข้าวกันก่อน!” เมื่อเหล่าหลิวพูดจบก็เรียกพนักงานนมาเพื่อให้พวกเขานำอาหารมาเสิร์ฟ จากนั้นเหล่าหลิวก็พูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า: “ไอ่หยาง พวกเราดื่มกันสักหน่อยไหม ?เมิ่งเมิ่งล่ะ?อยากจะดื่มอะไรไหม?” เมื่อเหล่าหลิวพูดจบก็มองมาที่ฉันอีกครั้ง สามีมองอยู่สักพักพลางพูดว่า: “เถ้าแก่หลิว งั้นก็ดื่มกันตามสบายเลยดีกว่า!” เหล่าหลิวคิดอยู่สักพักพลางพูดว่า: “อื้ม งั้นก็ดี ถ้างั้นเย็นนี้พวกเรากินไวน์องุ่นดีไหม?แบบนี้เมิ่งเมิ่งจะได้กินได้ด้วยไงล่ะ ว่ากันว่าไวน์แดงทำให้สวยขึ้นด้วยนะ!” เมื่อเหล่าหลิวพูดจบก็สั่งไวน์มาขวดหนึ่ง
已经是最新一章了
加载中