บทนำ - ความฝัน หรือ ความจริง
1/
บทนำ - ความฝัน หรือ ความจริง
Breekfic: Fate Return บลีกฟิก สงครามชิงอาณาจักร ภาค โชคชะตาที่ไม่อาจหลีกหนี
(
)
已经是第一章了
บทนำ - ความฝัน หรือ ความจริง
บทนำ ความฝัน หรือ ความจริง สิ่งที่คู่กับสงคราม คือเลือดที่หลั่งรินและชีวิตที่ดับสูญ แม้จะเป็นสงครามใหญ่หรือสงครามเล็ก จะพ่ายแพ้หรือได้รับชัยชนะ สิ่งสุดท้ายที่ได้รับก็คือ...การสูญเสีย ความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงอันเนื่องมาจากการสูญเสียคนสำคัญ เปรียบได้ดั่งเช่นเสาที่ตั้งอยู่อย่างมั่นคงพังทลายลงมาในเพียงแค่พริบตา ความรู้สึกเหล่านั้นได้ถูกแปรเปลี่ยนมาเป็นความเคียดแค้นกัดกินจิตใจที่บริสุทธิ์ให้กลายเป็นอสูรร้ายที่น่ารังเกียจ สั่งสมอารมณ์กรุ่นโกรธไว้ในจิตใจส่วนลึกแล้วนำมันออกมาเป็นอาวุธ...เสมือนเชื้อเพลิงในการก่อสงคราม แล้วมันก็จะเกิดการสูญเสียอีกครั้ง แค่ส่งเธอไปให้พวกมัน จะไปยากเย็นอะไรกัน หญิงสาวรูปร่างผอมเพรียวสมส่วน ดวงตาเฉียบคมเจ้าของนัยน์ตาสีแดงเข้มดุจดั่งโลหิตที่ฉายแววเยือกเย็น ขณะที่มือขาวซีดกำแน่นแนบเคียงอยู่ข้างลำตัวมันกำแน่นเสียจนสั่นสะท้าน เป็นให้เล็บจิกลงไปยังผิวเนื้อบางจนเกิดรอยแผลบาง ๆ ที่เริ่มจะมีเลือดรินไหล ในขณะที่ร่างกายคุกรุ่นไปด้วยความไม่สงบใจ เธอก็กำลังจ้องมองออกไปยังนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคิดหลากหลาย สิ่งที่ปรากฏอยู่ในโลกข้างนอกนั้นคือท้องฟ้าสีแดงฉานราวกับถูกแต่งแต้มด้วยสีน้ำจากพู่กันโดยจิตรกรชั้นเอก ทว่าสิ่งที่ทำให้เกิดท้องฟ้าสีแดงนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่าอภิรมย์เท่าไรนัก เมื่อมันเกิดจากเพลิงไฟในสมรภูมิรบที่มอดไหม้พื้นดินจนสะท้อนไปสู่ท้องฟ้าเบื้องบน เสียงผู้คนที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรส่งเสียงดังกรีดแทงทะลุผ่านเข้ามาถึงภายในตัวปราสาทใจกลางเมือง ทั้งคนและพวกที่ไม่ใช่คนต่างร้องโหยหวนออกมาเช่นเดียวกัน เสียงร้องแห่งความทรมานจากความรุนแรงอันป่าเถื่อน ทุก ๆ เสียงร้องที่ดังเข้ามา ราวกับเป็นค้อนหินที่ทุบลงไปยังหัวใจที่ถูกแช่แข็ง ทุกคนลุกฮือมุ่งหน้าเพื่อไปต่อสู้อย่างผู้ที่ไร้ชัยชนะ ภายในสงครามที่ไร้เหตุผลนอกจากเลือดเนื้อที่สูญเสียไป... สิ่งที่ได้จากสงครามนี้คืออะไรกันแน่ สูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า คนนั้นตาย คนนี้ตาย หากชนะก็ยังคงต้องสูญเสีย หากแพ้ก็แค่การสูญเสียที่ยิ่งกว่า กล่าวว่าต้องการอาณาจักรแต่การกระทำในตอนนี้ต่างจากการทำลายที่ตรงไหน แล้วเธอ... เธอเป็นได้แค่หญิงสาวผู้ที่ต้องได้รับการปกป้องอยู่หลังกำแพงเมืองอันหนาแน่นหรือไรกัน พวกเขาประมาทกันเกินไป เขาไม่เชื่อใจมากพอ ขอเพียงไม่นานยามเมื่อเวทมนตร์ได้ลดลงไปตามกำลังของเจ้าของเวทที่พยายามสู้อยู่ในสนามรบแห่งนั้น เมื่อเวลานั้นมาถึงเธอจะแก้ไขเรื่องทั้งหมด ‘ข้าจะไม่ยอมเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ จนดูน่าสมเพชหรอกนะ’ เสียงหนึ่งประกาศก้องอยู่ในใจ ขณะที่ดวงตาคมยิ่งหม่นหมองลงไปทุกชั่วขณะ พวกโง่เง่า! ยิ่งคิดคิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันแน่น พอ ๆ กับมือทั้งสองข้างที่สั่นระริกไปด้วยความโกรธ แม้เล็บจะจิกลงไปยังบนผิวบางจนเลือดสีแดงสดเริ่มไหลอาบ แต่เธอก็ยังไร้ซึ่งความรู้สึกเจ็บปวด ปล่อยให้เลือดเหล่านั้นหยดลงบนพื้นหินทีละหยด ทีละหยด เพราะความเจ็บปวดทางกายเหล่านี้ ไม่อาจเทียบได้กับความเจ็บปวดที่ต้องทนเป็นเหมือนคนไร้ค่ารอให้คนอื่นต้องมาปกป้องจนตาย! เธอคือสาเหตุหลักในสงครามครั้งนี้ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ หากแค่ส่งตัวให้กับเจ้าพวกนั้นไป ทุกคนก็จะสงบสุขดั่งเช่นวันวาน “คิดว่าจะไปที่ไหนน่ะ!” เสียงคำรามกึกก้องที่ทุ้มตั้งดังขึ้นภายในมุมมืดพร้อมกับเสียงคำราม เมื่อเห็นว่าหญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีดำกำลังเดินออกห่างจากหน้าต่างบานใหญ่ เดินวนผ่านเตียงไม้สีขาวไปยังบานประตูใหญ่ที่แข็งแกร่งกว่าตัว เจ้าของเสียงคำรามที่ดุดันพลันกระโดดออกมาขวางหน้าในทันใด อุ้งเล็บคมใหญ่เกือบตวัดเฉี่ยวใบหน้าที่นิ่งเรียบจนเกิดรอยแผล แต่หญิงสาวผู้นี้ก็ไม่มีท่าทีหวาดหวั่นออกมาให้ได้เห็น แม้เจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นถึงสิงโตตัวเมียที่กำลังแยกเขี้ยวคมกริบขู่อยู่ ดวงตาแดงสว่างของสิงโตสาวปะทะกับดวงตาสีแดงก่ำราวกับสีเลือดของมนุษย์สาว ไม่สิ...ไม่ใช่มนุษย์ นี่มันหญิงสาวผู้ที่มีสายเลือดของเทพและปีศาจอยู่ในร่าง และถูกแม่มดที่เป็นมนุษย์อมตะเป็นผู้เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ สิงโตเพียงแค่ตัวเดียวไม่อาจทำให้เธอหวาดกลัวได้ ต่อให้ร่างใหญ่ยักษ์โดดเข้าใส่ ก็ไม่แน่ว่าใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายอยู่รอด ด้วยขนาดที่ใหญ่ยิ่งกว่าสิงโตทั่วไป มันสามารถทำให้ผู้คนทั่วไปที่พบเห็นอาจจะต้องสติแตกหรือร้องเสียงหลงด้วยความหวาดกลัว ทว่าในตอนนี้แม้จะแยกเขี้ยวขู่หรือส่งเสียงข่มขวัญ ก็ไม่อาจทำอะไรร่างบางที่ยืนเผชิญหน้าอยู่ได้เลย หญิงสาวจ้องมองกลับยังร่างตรงหน้าด้วยแววตาท้าทาย ความดุดันในดวงตาที่แข็งกล้าไม่ต่างจากสัตว์ร้าย ทำให้สิงโตตรงหน้าเริ่มอ่อนให้ แม้นางจะไม่มีเขี้ยวหรือเล็บที่แหลมคมมาข่มขู่ก็ตาม “หลีกทางไป” หญิงสาวกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นแฝงไปด้วยพลังอำนาจ คำพูดของเธอเป็นเสมือนกับคำสั่งที่ทำให้ทุกคนที่ได้ยินตัวน้อมรับบัญชา ทันใดนั้นลมแรงหอบใหญ่ก็พัดเข้ามาภายในห้อง ลมที่แรงทำให้ข้าวของหล่นกระจัดกระจายลงบนพื้น แต่เธอกลับยืนปะทะมันอย่างแน่นิ่ง ขัดกับรูปร่างที่ผอมเพรียวอย่างลิบลับ เธอปล่อยให้ผมสีขาวโพลนราวกับหิมะปลิวไสวไปตามกระแสลม เจ้าตัวพยายามหยุดการปลิวของผมที่ปกปิดหน้าตาอยู่โดยการเอามันทัดกับใบหู แต่แล้วจากแรงลมก็กลายเป็นพื้นดินสั่นไหวขนาดหนักจนต้องเอามือยันเสาภายในห้องเอาไว้ไม่ให้ล้ม เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างภายนอกกำแพงอันสู่ใหญ่ ควันขนาดยักษ์สีดำพลันค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นสูงสู่ท้องฟ้าเบื้องบน การระเบิดขนาดใหญ่อยู่ไม่ห่างจากกำแพงเมืองสักเท่าไร ผู้ที่ทำให้เกิดแรงระเบิดมหาศาลเช่นนี้ได้ต้องผู้ใช้เวทระดับสูงไม่เช่นนั้นคนผู้นั้นก็จะต้องเป็นแม่มด “ปิดหน้าต่างซะ...โอลิเวีย” เจ้าสิงโตพูดขึ้นทำลายความสงบ สีหน้าที่ดุดันของมันอ่อนลงจนไม่เหลือเคล้าโครงความแข็งกร้าวอีก แม้แต่น้ำเสียงก็ไม่ดุดันข่มขู่เช่นเคย มันเหมือนกับเสียงของหญิงสาวผู้หนึ่งเท่านั้น ที่กล่าวเตือนออกมาด้วยความเป็นห่วง “ไม่ต้องมาสั่ง” หญิงสาวที่ชื่อโอลิเวียตอบกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ในเวลาแบบนี้จะให้มาทำเป็นเมินเฉยได้ยังไงกัน ปล่อยไว้ไม่ได้ เธอจะไม่ยอมถูกขังไว้ในปราสาทเสมือนกับเป็นเจ้าหญิงที่ทำอะไรไม่เป็น ในขณะที่เพื่อนพ้องรวมไปถึงครอบครัวกำลังต่อสู้อยู่ในสมรภูมิแห่งความตาย “ท่านแม่มดสั่งข้ามาว่าห้ามให้เจ้าออกไปจากห้องนี้เป็นอันขาด” เจ้าสิงโตสาว แม้จะมีท่าทีอ่อนลงแต่ก็ยังคงยืนขว้างหน้าประตูเอาไว้ ราวกับรู้ว่าหญิงสาวนั้นคิดที่จะหนีออกไป โอลิเวียตวัดสายตาที่เดือดดาลจ้องมองไปที่มันแล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า “เจ้าเป็นสัตว์ภูตของข้า คนที่มีสิทธิ์สั่งเจ้าคือข้าเพียงคนเดียว ไม่ใช่แม่มดผู้นั้นที่กำลังต่อสู้อยู่กลางสนามรบ... เอาละไบท์ เจ้ามีทางเลือกเพียงแค่สองทาง หนึ่งคือหลบออกไปจากประตู หรือจะให้ข้าโดดลงจากหอคอยนี้” “ข้า...” มันลังเล โอลิเวียคือผู้ที่ทำพันธสัญญากับมัน เปรียบเสมือนเจ้าที่ต้องทำตามคำสั่งแลกกับการดูดกลืนพลังเวทมาเปลี่ยนเป็นพลังชีวิต การฝ่าฝืนคำสั่งจะทำให้ผู้ที่ผูกสัญญามีสิทธิ์ยกเลิกสัญญานั้น แต่ทว่าพวกเขาทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าไม่มีทางตัดขาดออกจากกันอย่างแน่นอน ดังนั้นโอลิเวียจึงเลือกที่จะยอมเจ็บตัวเพื่อไปยังสนามรบ ไม่ว่าทางไหนหญิงสาวก็จะไปที่นั่นให้ได้ หอคอยแห่งนี้ช่างสูงชัน แม้โอลิเวียจะมีพลังล้นเหลือแต่ด้วยกำไลข้อมือสีทองที่สะกดพลังเอาไว้ มันทำให้เธอไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาคนหนึ่ง แทนที่จะปล่อยให้เจ้านายตัวเองต้องเจ็บตัว ในที่สุดไบท์ก็ตัดสินใจให้หญิงสาวขึ้นขี่หลังตนแล้วกระโดดลงไปจากหอคอยอันสูงชัน แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังหน้าเมืองที่เต็มไปด้วยซากศพอย่างรวดเร็ว ณ เมืองน้อยอันห่างไกลจากตัวเมืองใหญ่ รายล้อมไปด้วยลำธาร ทะเลสาบ ป่าเขา เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ แต่ถึงจะดูเป็นธรรมชาติสักเพียงไหน ผู้คนในยุคใหม่ก็ยึดติดกับเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย เสียจนไม่มีเวลาพอที่จะไปสนใจความงดงามของธรรมชาติที่อยู่เคียงข้างแม้แต่น้อย ในเมืองเล็กและอบอุ่นได้มีโรงเรียนประจำเมืองตั้งเด่นสง่าอยู่ตรงกลางของแผนที่ โรงเรียนแห่งนี้พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครั้น เพียงพอสำหรับนักเรียนที่มีจำนวนไม่มากได้ใช้กันทั่วทุกคน เนื่องมาจากตัวเมืองที่เล็กผู้คนในเมืองย่อมน้อยตามไปด้วย แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่จากเมืองไปที่อื่นที่ดีกว่า ด้วยประวัติศาสตร์อันลึกลับและน่าค้นหาทำให้พวกเขาเลือกที่จะอยู่เพื่อสืบหาข้อมูลอันน่าเหลือเชื่อของเมืองนี้ไปวัน ๆ พร้อมกับการสร้างครอบครัวสุขสันต์ขึ้นมาด้วย หญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้านหลังเล็กบริเวณชายป่าดิบชื้นของเมือง เธอสวมชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนประจำเมืองที่มีเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อคลุมสีเทา กระโปรงสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยสีดำสนิท รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาลเข้าคู่กับถุงน่องที่ยาวอยู่ใต้กระโปรงเพียงไม่กี่เซนติเมตร เธอเดินออกมาจากบ้านด้วยท่าทางที่เฉื่อยชา มือขวาสะพายกระเป๋าเป้สีดำ ใบหน้าหวานถอนหายใจอยู่คนเดียว ขณะที่เดินต้านกระแสลมหนาวไปทางถนนด้านซ้ายมือ ลมหนาวของฤดูหนาวที่มาไวกว่าที่คิด พัดเอาผมยาวสลวยสีดำโบกไสวไปตามแรงลม เธอจัดการผมที่พัดบังหน้าตัวเองโดยการเอามันทัดหูอย่างที่ทำเป็นปกติ ในขณะที่ปากก็ได้แต่บ่นสายลมไปอย่างหงุดหงิด แต่ความหนาวของมันก็ไม่สามารถทำอะไรได้แม้จะเป็นความเย็นที่หนาวเสียดแทงแค่ไหนก็ตาม ตั้งแต่ที่จำความมาได้ ความหนาวไม่สามารถทำอะไรเธอได้มาแต่ไหนแต่ไร ลมเย็น ๆ พวกนี้อย่างมากก็แค่ทำให้เธอรู้สึกเย็นกำลังดีเท่านั้น หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มเดินตามถนนไปเรื่อย ๆ ในเมืองยามเช้าตรู่ ผู้คนมากมายยังไม่ตื่นกันมาสักเท่าไร อาจจะมีบ้างที่ตื่นขึ้นมาทำธุระส่วนตัวเตรียมข้าวของไว้ค้าขาย หรือไม่ก็มีเด็กเรียนบางส่วนที่รีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปอ่านหนังสือเตรียมการเรียนในวันนี้ โดยรวมแล้วจัดได้ว่าเวลานี้เมืองออกจะร้างผู้คนอย่างมาก ยิ่งหมอกที่ลงต่ำในเวลาแบบนี้ยิ่งชวนให้รู้สึกโดดเดี่ยวราวกับอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบใหญ่ เมื่อเดินผ่านร้านต่าง ๆ ที่ยังคงปิดสนิทมาจนถึงใจกลางเมือง บริเวณที่ตรงนี้เป็นสถานที่ที่ใหญ่โตและสวยงามซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนประจำเมือง ตัวอาคารถูกบูรณะตกแต่งให้เข้ากับยุคสมัยที่เจริญรุ่งเรือง แต่ก็มีบางส่วนที่ยังคงเค้าเดิมไว้ อย่างเช่นพิพิธภัณฑ์ประจำเมืองที่ตั้งอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ เป็นที่เก็บสิ่งของที่มีอายุยาวนานนับหลายร้อยปี ทั้งเก่าแก่ บางชิ้นอาจผุพัง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงความสวยงาม เขาว่ากันว่าสิ่งของเหล่านี้ต่างมีที่มาที่ไปอันลึกลับชวนค้นหา โดยปกติแล้วตัวเธอนั้นไม่ใช่คนที่ชอบตื่นเช้าหรือมาโรงเรียนเช้าอะไรขนาดนี้ ในเวลาแบบนี้เพื่อนในห้องก็ยังไม่มีใครมากันเลยด้วยซ้ำไป แต่มันมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ต้องตื่นขึ้นจากห้วงความฝันและไม่อาจนอนหลับต่อได้ ซึ่งมันคือความฝันที่ราวกับเป็นความจริง เรื่องของสงคราม เวทมนตร์ หญิงสาว และชายหนุ่ม ไม่อาจทราบได้เลยว่าเรื่องพวกนี้ทำไมมันถึงได้ชอบมาให้ฝันเห็นอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความที่ไม่สามารถหาคำตอบมาลบล้างได้ ทางเดียวที่ทำก็คือการสรุปว่าเรื่องที่ฝันเห็นเหล่านั้นเกิดขึ้นก็เพราะว่าอ่านหนังสือมากเกินไป
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทนำ - ความฝัน หรือ ความจริง
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A