บทที่ 10 ผมพูดจริงนะ
1/
บทที่ 10 ผมพูดจริงนะ
โซ่เสน่หา
(
)
已经是第一章了
บทที่ 10 ผมพูดจริงนะ
กวินตรายืนกระฟัดกระเฟียดอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นเห็นว่าเขาไม่กลับมาแน่แล้ว จึงก้าวฉับๆ เข้าไปในห้องทำงานของเขา ซึ่งยศสินีกำลังพิมพ์งานอยู่ที่นั่น “ผู้จัดการจะกลับเข้ามาอีกหรือเปล่า?” “ไม่ทราบค่ะ แต่ปกติวันธรรมดาก็ไม่ได้มานะคะ จะมาเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ค่ะ” ยศสินีตอบ ทั้งรีบรั้วนิ้วในแป้นพิมพ์เมื่อเห็นเพื่อนของคุณชายอารมณ์ไม่ดีซะแล้ว “หมายความว่า ช่วงนี้เข้าร้านไม่เป็นเวลาอย่างนั้นหรือ?” กวินตรายังเสียงห้วน ถือวิสาสะไปนั่งเก้าอี้ของชายหนุ่มเพื่อรอเอกสาร และถือโอกาสสำรวจห้องของเขาไปในตัว “ค่ะ” “แล้วเธอกับเพื่อนเธอทำงานทุกวันหรือเปล่า?” “ทุกวันค่ะ วันละสองชั่วโมง ถ้ารวมโอทีด้วยก็สี่ชั่วโมงค่ะ” ยศสินีถอนหายใจโล่งอก ที่สามารถพิมพ์เสร็จทันตามเวลากำหนด เธอจึงรีบกดสั่งปริ้นท์ ระหว่างรอเอกสารจากเครื่องปริ้นท์ กวินตราก็เอนหลังลงพนักพิงเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด ทว่าสายตาของเธอกลับมองเห็นอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะของกรภัทร “ยัยอ้วน!” “คะ!?” ยศสินีสะดุ้ง ที่จู่ๆ กวินตราก็เรียกเธอเสียงเข้ม ด้วยสรรพนามบาดหู “ผู้จัดการสายตาสั้นหรือ?” “เอ๋? ไม่นะคะ ก็ปกตินี่คะ” กวินตราไม่สนใจคำตอบของยศสินี เธอยื่นมือไปหยิบกล่องแว่นตาออกมา แล้วเปิดดูข้างใน ทันทีที่เปิดมันออก หัวใจของเธอก็เต้นรัว แทบจะร้องกรี๊ดเมื่อเห็นกรอบแว่นและยี่ห้อของมัน เป็นยี่ห้อและแบบเดียวกันกับยัยแว่น! ที่โฆษณาหราอยู่หน้าช็อปว่า “โปรแว่นสำหรับคู่เลิฟ!!” ปรารถนาตรงดิ่งไปที่วินจักรยานยนต์ เพราะคำนวณเวลาแล้วประหยัดกว่าการเดินไปสถานีรถไฟฟ้า เข้าแถวหยอดเงินซื้อตั๋ว และเบียดเสียดกับผู้คนกว่าจะถึงปลายทาง ยอมเสียเงินเพิ่มและเสี่ยงชีวิตกับมอเตอร์ไซด์ เพื่อไปให้ทันเวลาดีกว่าปล่อยให้ทุกคนรอ ป่านนี้ยศสินีคงกำลังวุ่นวายกับเพื่อนของคุณชายที่ดูเหมือนจะไม่เป็นมิตรกับเธอเอาเสียเลย ตั้งแต่วันที่เจอกันในคอฟฟี่ช็อป แล้ววันนี้ก็ดูเหมือนฝ่ายหญิง ตั้งใจให้เธอได้เห็นถึงความใกล้ชิดสนิทสนม ราวกับจะแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของคุณชายอย่างไรอย่างนั้น ไม่เห็นจำเป็นเลยสักนิด อย่างเธอน่ะหรือจะริอาจไปเป็นคู่แข่งของใคร คุณชายก็ใจดีกับทุกคนนั่นล่ะ “ผมว่ากรอบแบบนี้เหมาะกับปลั๊กมากกว่านะ” เสียงของกรภัทร ในวันที่พาเธอไปเลือกแว่นแวบเข้ามา พร้อมกับภาพที่ปรากฏขึ้นในความคิดราวกับภาพยนตร์ที่ถูกหยิบมาฉายซ้ำ “มันสวยเกินไปมั้งคะ” เธอปฏิเสธ เพราะเห็นว่าราคาแพงเกินไป แถมยังเป็นแพ็กเกจของโปรโมชั่น “สำหรับคู่เลิฟ” เสียอีก “ลองดูก่อนสิ” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ จับไหล่เธอให้อยู่นิ่งๆ ก่อนจะค่อยๆ สวมแว่นตาให้ แก้มของเธออุ่นซ่าน เพราะปลายนิ้วของเขาเฉียดผิวแก้มไปมาในขณะที่สวมมันให้ เงาที่สะท้อนในกระจกทำให้เห็นราวกับว่ากำลังถูกคุณชายสวมกอดอยู่ “เห็นไหม พอดีเลย เอาอันนี้ล่ะ ผมจะได้เอาของแถมเป็นแว่นอีกอันหนึ่ง” นึกถึงตรงนี้ ปรารถนาก็ขยับแว่นอย่างเหม่อลอย ครั้นนึกขึ้นได้ว่าตัวเองต้องทดเวลาที่เสียไป ก็เร่งฝีเท้าจนแทบจะกลายเป็นวิ่ง ทว่า ยังเดินไม่ถึงถนนใหญ่ แสงไฟจากหน้ารถที่ตามมาข้างหลังก็สาดส่อง พร้อมกับเสียงบีบแตรปิ๊นๆ เธอชะงักฝีเท้า พลางหันหลังกลับไปมอง ขณะที่รถแล่นมาเลียบจอดอยู่ริมฟุตบาท แล้วคนขับก็ไขกระจกลง แล้วหัวใจของเธอก็กระตุก ราวกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งไปทั่วร่าง เมื่อคนที่เธอคิดถึงเมื่อครู่ ส่งยิ้มอันอ่อนโยนมาให้ พร้อมกับพูดประโยคที่ทำให้เธอหัวใจสั่น “นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว!” แม้ว่านี่จะเป็นครั้งที่สอง ที่ปรารถนาได้นั่งรถหรูของคุณชาย ทว่าเธอก็ยังรู้สึกอึดอัดและตื่นเต้นไม่ต่างจากครั้งแรก คงเพราะเพิ่งจะหวนคิดถึงเรื่องราวในวันนั้นไปหยกๆ ทั้งยังแอบมีความสุขเล็กๆ กับสิ่งที่คิดไปเองฝ่ายเดียวแบบหน้าไม่อายอีกด้วย คุณชายจะจับได้ไหมว่าเธอกำลังคิดถึงเขาอยู่ จะรู้หรือเปล่าว่าตั้งแต่วันนั้น หัวใจของเธอก็กระตุกแปลกๆ ทุกครั้งที่ได้เห็นหน้า หรือว่าเธอ จะเป็นโรคเดียวกันกับยศสินี โรคคลั่งคุณชาย? “ขึ้นมาสิ ผมจะไปส่ง” “คะ...ค่ะ” เธอรีบเปิดประตูรถ ก้าวพรวดเข้าไปนั่ง แล้วปิดประตูเสียงดังปัง! “ขอโทษค่ะ! คือ ปลั๊กกลัวว่าจะปิดไม่สนิท มะ...มันจะพังหรือเปล่าคะ?” “ฮะๆๆๆ” กรภัทรหัวเราะเบาๆ แล้วออกรถด้วยท่าทีสบายๆ “นั่นสิ จะพังหรือเปล่าน๊า...” เขาเอนหลังพิงเบาะ เหลือบมองคนข้างๆ ที่กำลังบีบมือตัวเองอยู่บนตัก ทั้งก้มหน้านั่งตัวเกร็งราวกับเขาเป็นใครที่เธอไม่รู้จักซะอย่างนั้น “ผู้จัดการจะหักเงินเดือนปลั๊กก็ได้นะคะ” เธอพูดเสียงอ่อย “อืม ประตูข้างหนึ่งก็หลายหมื่น แต่รถคันนี้เปลี่ยนข้างเดียวไม่ได้ ต้องเปลี่ยนพร้อมกันสองข้างเลยนี่สิ” “จริงเหรอคะ?” เธอยกมืออุดปากครางเสียงแผ่ว ได้ยินว่าอาจต้องเสียเงินแสน หูตาก็พร่าเลือน เงินเดือนที่ได้รับจากร้านรวมโอทีหากทำโดยไม่มีวันหยุดก็ได้อย่างมากหมื่นกว่าบาท ค่าสอนพิเศษที่ได้จากเจ้าสัวอีกหนึ่งหมื่น รวมเป็นสองหมื่นกว่าบาท แต่เธอจะต้องหักค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร และรายจ่ายอื่นๆ อีก ต้องโดนหักเงินเดือนกี่เดือนกันละคราวนี้ แล้วกรภัทรก็โพล่งขึ้น “ก็ดีนะ ผมจะค่อยๆ หัก ปลั๊กจะได้อยู่กับผมนานๆ ไงล่ะ” หัวใจของเธอชาวาบ ตัวรุมๆ เหมือนจะเป็นไข้ ลมหายใจติดขัด ใบหน้าที่ก้มอยู่แล้ว แทบจะม้วนลงไปอยู่ตรงหน้าตัก โอย เขาจะรู้ไหมนี่ ว่าคำพูดนั้น อาจทำให้เธอคิดเข้าข้างตัวเองได้ ไม่นะๆ ไม่ อย่าคิดเพ้อเจ้อน่ายัยปลั๊ก! “ผมล้อเล่น” เขาพูดกลั้วหัวเราะ “แค่นี้ประตูรถผมไม่พังหรอก ถึงพังก็มีประกันชั้นหนึ่ง แล้ว...ปลั๊กนัดกับคุณแม่ไว้ที่ไหนล่ะ?” ปรารถนาเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อปรับสภาพจิตใจให้เป็นปกติ นึกถึงใบหน้าของสุภาวดีที่บัดนี้กำลังตกอยู่ในวงล้อมของครอบครัวใหม่ ตายแล้ว เธอจะมัวมาคิดไร้สาระไม่ได้ แม่อาจกำลังตกอยู่ในอันตราย! “ส่งปลั๊กที่เดิมก็ได้ค่ะ” “ได้เลย” ครืด ครืด ครืด กรภัทรกดปุ่มรับสายที่บลูทูธเมื่อโทรศัพท์ของเขาสั่นขึ้น ปรารถนาที่นั่งอยู่ข้างๆ จึงรีบเสมองไปข้างนอกเสีย เพราะอาจเป็นสายของคุณกวินตรา “นายนั่นเอง?” “...” “อ้าว แล้วพ่อนายล่ะ?” “...” “หืม? เอาอย่างนั้นก็ได้ ฉันกำลังจะไปที่นั่นพอดี” ตรู๊ดๆๆ สายนั้นวางไปแล้ว กรภัทรจึงหันไปทางหญิงสาวซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตามองทิวทัศน์ข้างทางอย่างตั้งใจ “เพื่อนโทรมาน่ะ “ค่ะ” หญิงสาวหันไปยิ้มแหยๆ ไม่เข้าใจว่าคุณชายบอกเธอทำไม “ผมต้องขอโทษแทนกวินตราด้วย ที่เธอออกจะจุกจิกไปหน่อย และอาจทำให้ปลั๊กไม่สบายใจ” “ไม่เลยค่ะ คุณกวินตราเป็นคนละเอียดรอบคอบ ถ้าเรามีบาร์น้ำ ก็จะได้ลูกค้าเป็นเด็กมหาลัยเพิ่มขึ้น คราวนี้ผู้จัดการอาจจะต้องเข้าร้านทุกวันแล้วล่ะค่ะ” ปรารถนาโล่งอก ที่รถแล่นมาถึงที่หมายเสียที เพราะไม่รู้ว่าหัวใจจะวายกับคำพูดของคุณชายเมื่อไหร่ กรภัทรเลี้ยวรถเข้าไปหน้าลานห้างสรรพสินค้า เขาไม่ได้ดับเครื่อง หากแต่จอดนิ่งสนิทและกดปลดล็อคประตูให้เธอเฉยๆ “ขอบคุณค่ะ” ปรารถนาพนมมือไหว้ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถอย่างระมัดระวัง “เดี๋ยวก่อนปลั๊ก” “คะ?” มือของเธอจับบานประตูไว้แน่น กลัวจะเผลอทำรถเขาพังจริงๆ “ผมพูดจริงนะ” “คะ?” “ที่บอกว่า อยากให้ปลั๊กอยู่กับผมนานๆ น่ะ...ผมไม่ได้ล้อเล่น” “อ่ะ เอ่อ” ปรารถนาพูดไม่ออก สมองตื้อไปชั่วขณะ ก่อนจะเผลอปล่อยมือจากประตูรถ แล้วหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าแดงซ่าน ปัง “หึๆๆๆ” อีกครั้งแล้วที่ประตูรถอาจจะพัง แต่กรภัทรก็ยังยิ้มอย่างอารมณ์ดี เขานั่งมองจนเธอเดินหายเข้าไปในห้างสรรพสินค้า จึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 10 ผมพูดจริงนะ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A