บทที่ 28 ประกาศศักดา
1/
บทที่ 28 ประกาศศักดา
โซ่เสน่หา
(
)
已经是第一章了
บทที่ 28 ประกาศศักดา
เมื่อวาสนาโบ้ยมา หม่อมวิลาวัณก็ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้มที่ปั้นแต่งอย่างเต็มที่ “ดิฉันในฐานะ แม่ ของ คุณชายกรภัทร” หม่อมจงใจลงเสียงหนักให้ผู้มาใหม่รับรู้ “มีเรื่องราวดีๆ ที่จะต้องแจ้งท่านทั้งหลายให้ร่วมเป็นสักขีพยานด้วยเช่นกันค่ะ” พิชัยถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายเมื่อรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เขาสังหรณ์ใจว่าเรื่องราวดีๆ ที่ภรรยากับหม่อมสร้างขึ้น จะเป็นเรื่องราวที่บุตรสาวต้องมาหน้าแตกทีหลัง ยลนานั่งกอดอกเบะปาก สงสารคุณชายที่กำลังจะถูกบัญชาจากผู้บังเกิดเกล้าจับใจ อนิษการ์ซึ่งสงสัยในความสัมพันธ์ของคุณครูกับผู้จัดการร้านทำหน้าคว่ำ อุตส่าห์จับจองเขาอยู่ในใจ ทว่าหม่อมกลับจะประกาศเรื่องราวดีๆ ซะนี่ คนที่ยืนยิ้มแฉ่งเห็นจะมีแค่วาสนากับกวินตรา ซึ่งฝ่ายหลังถือจานผลไม้ออกมายืนเด่นเป็นสง่าราวกับอยู่บนแคทวอล์ค ติณณ์ถอนหายใจพรืดอย่างไม่รักษามารยาท ยังรักษาระยะห่างระหว่างตัวเองและบุคคลทั้งสามอยู่ หากปรารถนายืนไม่ไหวเขาก็จะ... “ครอบครัวของพวกเราก็รู้จักสนิทสนมกันมานาน ฉันซึ่งเป็นเสมือนน้องสาวของท่านประธาน เห็นทีจะต้องรบกวนท่าน เป็นเถ้าแก่ฝ่ายชายให้กับครอบครัว เนื่องในโอกาสที่คุณเล็ก จะสมรสสมรัก...กับหนูกวินตรา ในฤกษ์งามยามดีอีกสองสัปดาห์ข้างหน้านี้ค่ะ” ในที่สุด...ก็ประกาศออกไปแล้ว คนที่คิด ไม่ใช่หม่อมวิลาวัณ หากแต่เป็นปรารถนาที่ยืนกำส้อมมือไม้สั่น หัวใจโหวงเหวงคล้ายจะเป็นลม ตอนที่ได้ยินจากปากของกวินตรา เธอยังไม่เจ็บปวดถึงเพียงนี้ แต่เมื่อคนพูดเป็นมารดาของเขา ความปลาบปลื้มที่มีนั้นก็ระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ “ดูเหมือนหม่อมแม่กับคุณวาสนา จะเข้าใจผิดไปแล้วนะครับ” กรภัทรวางจานในมือ คำพูดของเขาเหมือนลูกธนูที่แหวกอากาศท่ามกลางความเงียบสงัด “ขะ...เข้าใจผิดอะไรกันคะเล็ก...ใครๆ ก็รู้ว่าเราเป็นคู่หมายกันตั้งแต่เด็กๆ” กวินตรารีบยกเหตุผลขึ้นมากล่าวอ้าง “ผมไม่ปฏิเสธเรื่องราวดีๆ ที่หม่อมแม่ประกาศต่อหน้าทุกคนนะครับ” เขาไม่พาดพิงคนอื่น หากแต่จ้องตากับมารดาโดยตรง “ละ...แล้วอะไรล่ะคะ ที่ว่าเข้าใจผิด” วาสนาถามเสียงสั่นกลัวหน้าแตก “ผมคงเป็นคู่หมายหรือสามีของกวินไม่ได้ เพราะผมไม่เคยรักเธอ คนที่ผมรักไม่ใช่กวินตรา” “คุณเล็ก!” สามสาวเจ้าของเรื่องราวดีๆ ร้องขึ้นพร้อมกัน “คุณเล็กจะต้องแต่งงาน!” หม่อมวิลาวัณสั่งเสียงเฉียบ ไม่อาจทนเห็นหุ้นในเอ็มไพร์กรุ๊ปอีกตัวกระเด็นหลุดหายไปจากมือต่อหน้าต่อตา “ครับ ผมจะแต่งงาน” เขารับคำเสียงหนัก ถอดแว่นตายัดใส่กระเป๋ากางเกง “แต่ไม่ใช่กับกวินตรา” “เป็นบ้าไปแล้วเหรอคุณเล็ก!!” ผู้เป็นมารดาตวาดเสียงสั่นเทิ้ม กรภัทรสงสารมารดา ที่บัดนี้โกรธจัดจนหน้าเขียว ก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ยอมรับข้อกล่าวหาของมารดาอย่างเต็มใจ “ครับ...ผมคงจะบ้าไปแล้วจริงๆ” พูดจบ โดยที่ไม่มีใครคาดคิด เขาก็คว้าตัวปรารถนาเข้ามากอด ก่อนจะก้มลงประทับจุมพิตหนักๆ ลงบนริมฝีปากของเธอ เพล้ง!! จานแก้วของหญิงสาวหลุดจากมือ พร้อมๆ กับเสียงกรีดร้องของกวินตรา ทุกคนในห้องได้แต่ตะลึงงัน กรภัทรคืนริมฝีปากเธอสู่อิสระ ผละห่างเพียงเล็กน้อย จ้องมองดวงตากลมโตที่กำลังงงงวยด้วยความเอ็นดู “แว่นคู่ของเรา ทำให้ผมจูบปลั๊กไม่ถนัดเลย” เขาไม่นำพาต่อปฏิกิริยาคนทั้งห้อง ดึงแว่นของเธอออก และประทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง งานแต่งงานของประธานเอ็มไพร์กรุ๊ปพังครืนไม่เป็นท่า เพราะช็อตจุมพิตสองครั้งซ้อนของกรภัทร ทำให้เกิดพายุทอร์นาโดลูกใหญ่ตามมา หม่อมวิลาวัณตัวสั่นเทิ้มจนยืนไม่อยู่ แทบจะเป็นลมล้มพับลงบนเก้าอี้ ทว่านางเป็นสตรีที่แข็งแรงที่สุดในโลก จึงไม่อาจใช้มารยาตบตาทุกคนได้ วาสนาคำรามฮึ่มฮ่ำอยู่ในลำคอ บอกลาทุกคนแล้วลากกวินตราที่ได้แต่กรีดร้องเสียงแหลมกลับบ้าน ก่อนไปยังส่งค้อนใส่หม่อมวงเบ้อเร่อที่ทำให้เธอกับลูกสาวเสียหน้า มีเพียงพิชัยที่กล่าวอวยพรคู่บ่าวสาวสั้นๆ แล้วขอตัวกลับกับครอบครัว เจ้าสัวทรงชัยพร้อมบุตรชายทั้งห้าคนส่งกระเช้าอวยพรก่อนจะขอตัวกลับ มิได้เห็นเหตุการณ์วันนี้เป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร เพราะรู้จักคลุกคลีกับเอ็มไพร์กรุ๊ปมานาน มีเพียงอนิษการ์ที่แอบเซ็งนิดๆ เพราะอุตส่าห์หมายตาคุณชายไว้ ยลนาซึ่งไม่อินังขังขอบกับอะไรอยู่แล้ว ได้โอกาสขอตัวออกไปสูดอากาศข้างนอก ก่อนจะยกหูโทรศัพท์นัดแนะเพื่อนในกลุ่มเตรียมตัวไปเที่ยวคืนนี้ แล้วก็ขับรถบึ่งออกจากรีสอร์ทไปเลย “แกก็จะกลับแล้วหรือติณณ์?” กุลธรถามบุตรชาย ซึ่งกำลังกลัดกระดุมเสื้อสูทด้วยใบหน้าบึ้งตึง “งานเลี้ยงจบแล้ว ผมจะเข้าบริษัท” “งั้นก็ไปเถอะ จะเป็นประธานในอนาคตก็ต้องยุ่งอย่างนี้ล่ะ” ติณณ์ไม่สนคำพูดของบิดา เดินผ่านกรภัทรและปรารถนาซึ่งเป็นแขกสองคนสุดท้ายไปโดยไม่ได้เหลือบตามองสักนิด สุภาวดียังคงนิ่งเหมือนรูปปั้น มองลูกสาวและคุณชายสลับกันไปมา เห็นเค้าลางของสงครามขึ้นมารำไร “เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว แต่มาเจอกันทีไร คุณเล็กมักมีเรื่องเซอร์ไพรส์ลุงเสมอ” เมื่อเหลือกันเพียงสองคู่ กุลธรก็หันไปพูดกับผู้เป็นหลาน ราวกับไม่ได้ตกอกตกใจกับความชุลมุนวุ่นวายที่เพิ่งเกิดขึ้นเลยสักนิด “มิได้ครับ...ทุกการกระทำของผม ย่อมผ่านการตรึกตรองมาดีแล้ว” กรภัทรก้มศีรษะลงเล็กน้อย “ผมต้องขออภัยที่ทำให้งานแต่งของคุณลุงกับคุณอาเป็นแบบนี้” “ฮ่าๆๆๆ” กุลธรกลับหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี “...นี่เป็นการเริ่มต้นที่มีนิมิตรหมายที่ดีต่างหากล่ะ” ปรารถนาไม่เข้าใจ ว่าทำไมคุณกุลธรถึงยังหัวเราะ ทั้งๆ ที่เธออยากจะร้องไห้เต็มแก่ พวกเขาเป็นอะไรกันไปแล้ว ทำไมยังเฉยอยู่ได้ แม้แต่แม่...ก็ดูสงบเกินไปด้วยซ้ำ “ว่ายังไงล่ะคุณสุ?” เขาหันไปถามภรรยาหมาดๆ “ดิฉัน...ไม่เป็นไรค่ะ” สุภาวดีตอบเบาๆ ปรารถนามองหน้าซีดเซียวของมารดาแล้วน้ำตาคลอเบ้า แม่ที่เมื่อไหร่ก็ไร้ปากเสียง แม่ที่ไม่เคยแสดงความโกรธเกลียดเคียดแค้นใคร แม่ที่นั่งตัวลีบอยู่ข้างท่านประธานราวกับแมวเซื่องซึมตัวหนึ่งที่ถูกกักขังไว้ แม่...มีความสุขจริงๆ หรือเปล่า ที่นั่งของแม่ในตอนนี้ ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปกราบขออภัยด้วยซ้ำ ราวกับเป็นคนอื่นคนไกลกันไปแล้ว ทั้งคุณกุลธร คุณชาย และแม่... ราวกับเป็นคนแปลกหน้าที่เธอไม่เคยรู้จัก “แม่จ๊ะ...ปลั๊ก...ขอโทษสำหรับทุกๆ อย่าง” เธอเงยหน้ามองมารดา ก่อนจะลุกขึ้นยืน โค้งคำนับบุคคลทั้งสอง แล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ เธอเห็นทุกอย่าง ความวุ่นวายทั้งหมด นับแต่เหยียบย่างเข้ามา เรื่องราวทุกอย่างในวันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นละครอย่างที่คุณชายพูดมาทั้งสิ้น เธอ กำลังจะกลายเป็นญาติของเขา กำลังก้าวเข้าสู่วังวนของความโหดร้ายที่ไร้ซึ่งความจริงใจต่อกัน ไม่มีใครต้อนรับเธอกับแม่ พวกเธอมันก็แค่หมากตัวหนึ่งที่กุลธรมีไว้ต่อรองราคาหุ้นของเอ็มไพร์กรุ๊ปเท่านั้น “ผมจะต้องขออนุญาตคุณสุภาวดี เพื่ออธิบายเรื่องเมื่อครู่ในเร็วๆ นี้นะครับ” กรภัทรลุกขึ้นโดยไม่รอคำตอบ ยกมือไหว้คนทั้งสองแล้วเดินลิ่วๆ ตามปรารถนาออกไป ในห้องอันกว้างใหญ่ จึงเหลือเพียงคู่บ่าวสาวเพียงสองคน ท่ามมกลางอาหารที่พร่องไปเพียงเล็กน้อย เศษจาน แก้วน้ำ ที่แตกกระจายอยู่บนพื้น ราวกับทุกคนตั้งใจส่งพวกเขาเข้าห้องหอ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 28 ประกาศศักดา
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A