ตอนที่ 13   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 13
ช่วงหัวค่ำภาพย์ก้าวขึ้นเรือนของตนมองแก้วเอาของไปเก็บในหีบที่จัดแบ่งเป็นนั่งอ่านตำราหาความรู้ของผู้เป็นชายเจ้าเรือนก่อนสังเกตเห็นหญิงสาวร่วมชายคาเดินยกน้ำชาเข้ามาให้สีหน้ายิ้มแย้ม มาแล้ว กลับมาแล้ว เสียงโวกแวกดังลั่นจากใต้ถุนเรือน ภาพย์หันมองไปยังท่าน้ำเห็นไฟส่องสว่างมีเรือใหญ่จอดเทียบท่า แก้วเดินเข้ามาคุกเข่าอยู่ข้างชายหนุ่มพร้อมเอ่ยอย่างรู้ดี “ท่านเจ้าพระยากับคุณหญิงแน่เลยขอรับทูลหัวของบ่าว” “อืม ข้าก็ว่าเช่นนั้น ไปกันเถอะ” ภาพย์พยักหน้าหมุนตัวเดินลงเรือนย้อนกลับไปที่ท่าน้ำอย่างไม่เหลียวแลคนที่ยืนถือถ้วยชา พุดซ้อนมองตามก่อนผ่อนลมหายใจยาวหมุนตัวเดินเอาถ้วยเข้าไปเก็บ ภาพย์ยกมือพนมไหว้ต้อนรับชายวัยกลางคนผู้ที่ตนถอดแบบมากับหญิงวัยกลางคนที่ถือพัดลายนกยูงนุงจูงกระเบนพร้อมสไบทับเสื้อผ้าแพรสีเข้มผมทรงดอกกระทุ่มมองหน้าบุตรชายด้วยรอยยิ้มก่อนมองทาสช่วยกันยกของไปเก็บ “ยกดีๆเป็นริ้วเป็นรอยข้าจะลงหวายให้” เสียงของคุณหญิงนภาทำบ่าวก้มหน้างุดกลัวหัวหดจนเจ้าพระยาวสุมองอย่างเอื้อมระอายกมือจับไหล่ภาพย์แล้วเดินนำขึ้นเรือน ภาพย์ยิ้มบางๆมองคุณหญิงนภาที่ก้าวเข้ามาโอบกอดพร้อมหอมแก้มบุตรชายอย่างคะนึงหาแก้วตาดวงใจ “ขึ้นเรือนเถิดคุณแม่ประเดี๋ยวน้ำค้างจะลง” “ได้เห็นหน้าพ่อภาพย์ของแม่ ต่อให้น้ำค้างลงมาห่าใหญ่แม่ก็หาได้หวั่นเกรงไม่” คุณหญิงนภากล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนถูกประคองขึ้นเรือนมานั่งที่แท่นนั่งข้างเจ้าพระยาวสุที่มองทาสยกหีบใส่สมุดข่อยเข้าไปเก็บ ภาพย์นั่งลงอีกฝั่งทางซ้ายมือมองบ่าวขนของมากมายเข้าเรือนก่อนหันมองผู้เป็นบิดาและมารดา “เป็นเช่นไรบ้างเรื่องราชการ” เจ้าพระยาวสุเกริ่นนำอย่างสุขุม “เจ้าคุณพี่ไม่พักก่อนหรือ กลับมาเหนื่อยๆ” คุณหญิงนภาเอ่ยทักขึ้นทันที “นี่ไม่ใช่เพลาที่จะมาพัก เมื่อมีแรงทำก็จงทำ ว่าอย่างไรพ่อภาพย์ราชการเรียบร้อยดีหรือไม่” เจ้าพระยาวสุตอบผู้เป็นภรรยาก่อนหันมาถามภาพย์อีกครั้งด้วยความสุขุม “เรียบร้อยดีเจ้าคุณพ่อ หาได้มีเรื่องกังวลอันใดไม่ เจ้าคุณพ่อวางใจเถิด” “นั่นสิคุณพี่ พักผ่อนดีหรือไม่ประเดี๋ยวให้แม่พิกุลนวดเนื้อนวดตัวให้จักได้ผ่อนคลาย” คุณหญิงนภาสะบัดพัดหันมาบอกผู้เป็นสามี “หากจักพักผ่อนขอเพียงน้ำอุ่นก็พอ” ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องทันที ภาพย์มองตามด้วยรอยยิ้มก่อนหันมองผู้เป็นแม่ที่ส่ายหน้าไปมายิ้มกริ่มสะบัด “แล้วนี่แม่พุดซ้อนไปไหนเสียเล่า” คุณหญิงนภามองฉงนก่อนหันมาถามบ่าวรับใช้ที่นวดขาให้ “นังอ่อนแม่พุดซ้อนหลานข้าไปไหน ไปตามมาเสีย” “เช่นนั้นลูกขอตัวไปผลัดผ้าก่อน ลูกเองก็เพิ่งกลับมา เชิญคุณแม่สนทนากับแม่หญิงพุดซ้อนตามสบาย” ภาพย์รวบรัดตัดตอนลุกขึ้นไม่ฟังเสียงห้ามใดเดินสวนทางกับพุดซ้อนที่ยกน้ำชาเข้ามา ดวงตาเศร้าหมองมองตามชายที่เดินผ่านตนเองก่อนแสร้งยิ้มให้คุณหญิงนภา “คุณป้าเจ้าคะ ชาอุ่นๆเจ้าค่ะ” พุดซ้อนยื่นถาดชายื่นให้บ่าวที่อยู่ข้างๆที่นั่ง “พ่อภาพย์นี่อย่างไรนะหัวรั้นเสียจริง คงลำบากใจน่าดูสินะแม่พุดซ้อน แต่ถึงอย่างไรป้าก็ต้องการหมั้นหมายปั้นแม่พุดซ้อนให้เป็นหลวงอยู่นะ อย่าเศร้าไปเลย” “บัดนี้คู่หมายของขุนภาพย์อยู่ที่เรือนเอกแล้ว ไม่รู้ว่าหลานจะมีโอกาสนั้นหรือไม่ ขุนภาพย์ไม่เคยแลหางตามองหลานเลยสักนิด เช่นนี้คุณป้ายังจะสนับสนุนอยู่อีกหรือเจ้าคะ” พุดซ้อนกุมมือวางลงบนหน้าตักนั่งพับเพียบอย่างสำรวมอยู่ที่พื้นตรงหน้าคุณหญิงนภา “ชายเมื่อออกเรือนต้องมีเรือนเล็กเรือนน้อยเป็นธรรมดา ใช่ว่าแม่จันทร์หอมจักไม่รู้ขนบธรรมเนียม ตนเองยังเป็นบุตรสาวจากเรือนเล็กของพระยากรมการคลังเหมือนกัน หากใจแคบคงไม่ตีกับข้าตายหรอกรึ” “หากเป็นเช่นนั้นหลานจะดูแลคุณพี่อย่างดีเลยเจ้าค่ะ” พุดซ้อนยิ้มกริ่มอย่างมีหวัง ทำคุณหญิงนภายิ้มระรื่นอย่างชอบใจยกชามาจิบพร้อมมองหญิงสาวด้วยความชื่นชม แสงอาทิตย์ส่องแยงตาหญิงที่นุ่งจูงกระเบนพันผ้ารัดอกไร้สไบยืนอยู่ใต้ต้นตะขบใหญ่ข้างเรือนไทยมือสองข้างเท้าเอวหรี่ตามองลูกตะขบบนหัวอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนหันซ้ายหัวขวาแล้วก้าวไปที่ลำต้นยกมือไต่ปีนกิ่งก้านขึ้นไปทันทีแล้วค่อยๆนั่งลงบนกิ่งที่หนาพอจะรับน้ำหนักตนไหวเอื้อมมือเด็ดลูกตะขบมาชิมอย่างต้องการรู้รส “แม่หญิงเจ้าคะแม่หญิง” รำเพยวิ่งลงเรือนมาที่ต้นตะขบกวาดสายตามองหาอย่างเหนื่อยหอบก่อนยกมือเกาหัวยืนหมุนรอบมองหาผู้เป็นนายที่หัวเราะในลำคอขบขันนั่งเท้ากิ่งก้มมองคนด้านล่าง “ก่อนลงเรือนยังเห็นแม่หญิงอยู่ตรงนี้นี่ หายไปไหน แม่หญิงเจ้าคะอยู่ไหนเจ้าคะ ท่านขุนจะมาแล้วนะเจ้าคะ” เสียงตะโกนของรำเพยทำให้คนที่เดินขึ้นท่าหันมองอย่างสงสัยตรงดิ่งนำบ่าวติดตาม ข้าวเลิกคิ้วแบะปากเหลือกตามองบนกอดอกก้มมองชายที่เดินเข้ามาทำรำเพยก้มหน้างุดถอยห่าง “หาแม่หญิงไม่เจอเยี่ยงนั้นรึ” “เจ้าค่ะ” รำเพยเหล่มองภาพย์ที่หันซ้ายหันขวาก่อนขมวดคิ้วค่อยๆเงยหน้ามองบนต้นไม้ที่ยื่นกิ่งก้านให้ร่มเงา รำเพยกับแก้วเงยหน้ามองตามถึงกับชะงักตกใจเมื่อมีคนนั่งห้อยขาอยู่ “เจ้าขึ้นไปได้เยี่ยงไรแม่จันทร์หอม” เสียงสุขุมดุขึ้นอย่างหวั่นใจกลัวคนข้างบนจะตกลงมา “มีขาก็ปีนขึ้นมาไง มันจะยากตรงไหน” ข้าวเถียงกลับทันควันกระตุกยิ้มชอบใจ “เป็นแม่หญิงทำกิริยาเยี่ยงนี้สมเหตุสมผลแล้วรึ ลงมาบัดเดี๋ยวนี้! รู้หรือไม่หากตกลงมาขาแข้งหักจะทำเช่นไร พี่สาวเจ้าจะห่วงมากแค่ไหนรู้บ้างหรือไม่” ภาพย์ชี้นิ้วดุด้วยความเคร่งขึมอย่างไม่ชอบใจจนบ่าวไพล่สะดุ้งเฮือกก้มหน้าหลบ “มันจะอะไรนักหนา ฉัน เฮ้อ ข้าไม่ใช่เด็กนะจะได้ขยับไปไหนไม่ได้ ขาแข้งจะหักมันก็ขาข้าไม่ใช่ข้าคนอื่น แล้วก็ไม่ง้อคนอื่นให้ดูแลด้วย ดีเหมือนกันถ้าตายไปอาจกลับปัจจุบันก็ได้” “เจ้าว่ากระไรของเจ้า ลงมาบัดเดี๋ยวนี้!” เสียงดุของภาพย์เริ่มแข็งขึ้นจ้องหน้าหญิงข้างบนอย่างหงุดหงิดกับความดื้อของเธอ “ไม่ลง” ข้าวก้มหน้าจับกิ่งโต้ตอบอย่างหาเรื่อง “แม่จันทร์หอม!” “ขาาาคุณพี่ขุนทอง” ข้าวต่อล้อต่อเถียงกระตุกยิ้มมุมปากแกว่งขาไปมาอย่างชอบอกชอบใจกับการยั่วโมโหคนข้างล่าง “ทูลหัวของบ่าวขอรับ” แก้วสะกิดแขนอย่างหวั่นเกรง “อะไรไอ้แก้ว! ไม่รู้จักกาลเทศะเลยรึไง” เสียงตวาดดังขึ้นทำบ่าวสะดุ้งโหยงถอยไปรวมกัน แก้วก้มหน้างุดหลับตาแน่นก่อนชี้ไปทางข้อต่อกิ่งที่ข้าวนั่งแกว่งขาอยู่ค่อยๆแตกหักทีละนิด “แม่จันทร์หอมอยู่เฉยๆ” ภาพย์ยกมือห้ามปรามเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นกิ่งก้านเริ่มหักลง ข้าวเอียงหน้ามองไปทางข้อต่อกิ่งที่กำลังจะหักก่อนลุกขึ้นยืนอย่างท้าทายไม่หวั่นแม้จะตกสู่เบื้องล่าง “หลบไปฉันจะเอาคอลง รับรองกลับปัจจุบันแน่นอน ไม่อยู่ให้ใครต้องมาบ่นต้องมาดุหรอก ชิ ลอดช่อง” ข้าวทรงตัวยืนเท้าเอวก่อนแสยะยิ้มยกขากระทืบเท้า “แม่หญิง!” เสียงบ่าวดังอึกทึกร้องแตกตื่นเช่นเดียวกับรำไพและรำพันที่วิ่งตามหลังสร้อยทองเข้ามา “จันทร์หอม!” สร้อยทองเบิกตาโตมองร่างบางที่แสนดื้อรั้นหัวแข็งร่วงลงพร้อมกิ่งอย่างตกใจยกมือทาบอก
已经是最新一章了
加载中