ตอนที่ 17
ข้าวนั่งอยู่บนศาลาพักเหนื่อยยกมือพัดแก้ร้อนมองชาวบ้านเดินผ่านไปผ่านมาก่อนหรี่ตามองบางอย่างจากที่ไกลๆจึงรีบลุกขึ้นวิ่งไปหาทันที
“ว๊ายย แม่หญิงจะไปไหนเจ้าคะ รอบ่าวด้วย” เสียงรำพันตะเบ็งลั่นรีบลุกพรวดวิ่งนำรำเพยกับรำไพไปก่อนหยุดกะทันหันชนกันหน้าทิ่มเมื่อภาพย์โผล่ออกมาจากหัวมุมในมือถือรองเท้าสานมองบ่าวสามรำช่วยกันพยุงตนลุกขึ้นก้มหน้าก้มตาก่อนหันมองหญิงที่ยืนดูแม่ค้าหาบเร่ขายน้ำมะพร้าวใส่กระบอกไม้ไผ่ ภาพย์เดินเข้าไปหาเธอทันทีด้วยรอยยิ้ม
“เอามาสี่กระบอก” ข้าวสั่งก่อนล้วงหยิบถุงใส่อัฐ
“เพิ่มอีกกระบอก” ภาพย์สั่งทับพร้อมยื่นอัฐจ่ายตัดหน้าเธอที่แหงนมองเขาช้าๆ บ่าวสามรำรีบวิ่งเข้ามารับกระบอกไม้ไผ่แทนผู้เป็นนายด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าจะเพิ่มให้ตัวเองก็ต้องเพิ่มบ่าวด้วยสิ ไม่มีน้ำใจเอาซะเลย” ข้าวเชิดปลายคางหันไปหยิบอัฐจ่ายเพิ่มอีกหนึ่งกระบอก “เอาอีกหนึ่ง”
ข้าวมองค้อนใส่ภาพย์ที่มองเธอรับกระบอกไม้ไผ่ยื่นให้แก้วที่เก้กังยืนเหวอก่อนที่ภาพย์จะยื่นกระบอกในมือตนส่งให้แก้วแล้วรับกระบอกจากมือข้าวแทน
“เจ้านี่มีน้ำใจเสียจริงนะแม่จันทร์หอม เยี่ยงนั้นรับน้ำใจจากพี่ไว้ด้วยแล้วกัน” ภาพย์พูดจบย่อตัวชันเข่าตรงหน้า แก้วรับกระบอกของภาพย์มาช่วยถือไว้ด้วยรอยยิ้มมองนายวางรองเท้าสานลงพื้นหน้าเท้าหญิงสาว ข้าวก้มมองด้วยความอึ้งกับการกระทำอันฉุกละหุกของชายหนุ่มจนกลายเป็นจุดเด่นพาคนมองซุบซิบนินทา
“ถอดสิ” ภาพย์เอ่ยขึ้นพร้อมมองหน้าเธอ
“อะไร ถอดอะไรตรงนี้ อายไหมเนี้ย” ข้าวรีบถอดรองเท้าแล้วรีบสวมรองเท้าสานก้มมองดูอย่างรู้สึกแปลกใหม่ก่อนมองหน้าคนที่กำลังยืนขึ้นอยู่ตรงหน้าห่างกันเพียงหนึ่งช่วงตัว รำเพยยิ้มกริ่มก้มลงเก็บรองเท้าของเจ้านายมาถือไว้
“รองเท้าคู่นี้” ข้าวขมวดคิ้วยกมือทัดผมเหน็บหูสงสัย
“ทำไมรึ” ภาพย์อมยิ้มมองหน้าเธอที่เลื่อนหลบยกกระบอกน้ำไม่ไผ่ขึ้นดื่มบ่ายเบี่ยง
“ไม่มีอะไร”
“พี่มีที่นึงจักพาเจ้าไป จะไปกับพี่หรือไม่” คำชวนหวานหูเอ่ยขึ้นอย่างดึงดูดทำเธอเกือบสำลักน้ำมะพร้าวลดกระบอกไม้ไผ่ลงสบตาเขา
“ไม่ไป”
“ดีมาก” ภาพย์คว้ามือข้าวจับไว้แล้วเดินมุ่งหน้าไปอีกทาง บ่าวสามรำมองตามด้วยรอยยิ้มก่อนคว้าตัวแก้วที่จะเดินตามให้หยุดชะงัก
“เอ็งจะไปไหนไอ้แก้ว” รำไพเท้าเอวดักหน้าแก้วถามเสียงแข็ง
“ตามนายสิถามแปลกๆ”
“เอ็งนี่ไม่รู้เพลาเสียจริงปล่อยให้คู่หมั้นคู่หมายเขาอยู่ด้วยกันสิไอ้โง่” รำพันยกมือบิดหูแก้วพร้อมลากไปอีกทาง รำเพยยกมือหัวเราะชอบใจถือรองเท้าของข้าวเดินตามรำไพไป
“บอกว่าไม่ไปไงฟังไม่รู้เรื่องหรือไงนะ” ช้าวยกมือพยายามใช้มืออีกข้างที่ถือกระบอกไม้ไผ่แกะมือเขาออกระหว่างเดิน
“คำดื้อรั้นของแม่หญิงแสนดื้อไม่เห็นต้องฟังให้มากความ”
“ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนเนี้ย! ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย อะไรกันนี่ยังไม่แต่งก็ข่มเหงรังแกข้าซะแล้ว ผู้ชายนี่มันยังไงฮะ!” ข้าวโวยวายลั่นสะบัดมือไปมาก่อนหยุดชะงักเมื่อภาพย์หันกลับมา
“พี่นะรึรังแกเจ้า หากเจ้าเชื่อฟังใครเล่าจะรังแกได้”
“แล้วที่ทำอยู่นี่ไม่ได้รังแกหรือไง อยากเจอมวยไทยหรอ เดี๋ยวกระโดดตีเข่าคู่ซะเลย” ข้าวกัดฟันจ้องเขม็งขู่เขาพร้อมยกมือใช้ปากกัดมือชายหนุ่มจนต้องปล่อยออก
“แม่จันทร์หอม!” ภาพย์ก้มมองรอยฟันที่มือก่อนมองหน้าข้าวที่กอดอกกระดกน้ำเข้าปากลดกระบอกลงยักคิ้วท้าทาย
“เยี่ยงนั้นก็แต่งกันภายในสามวันเลยดีหรือไม่ จักได้รู้กันไปว่าพี่รังแกเจ้าได้มากกว่านี้เสียอีก” ภาพย์คว้าเอวเธอโอบดึงเข้ามาชิดตัวพร้อมส่งคำพูดที่ผ่านสีหน้าจริงจังให้เธอพานิ่งค้างกระบอกน้ำหลุดจากมือ
“จะบ้าหรือไง” ข้าวยกมือดันอกเขาออกที่ยอมละแต่โดยดียิ้มกริ่มมองหญิงสาวที่ยกมือปาดเหงื่อ
“หญิงแสนดื้อเพลาเขินอายน่าเอ็นดูเสียจริง” คำบอกเล่าของเขาทำข้าวชะงักมองตาไม่กระพริบยกมือจับแก้มโดยอัตโนมัติความรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาบนใบหน้าอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ทันก่อนมีเสียงระนาดดังแว่วเข้าหู ภาพย์หันมองตามเสียงก่อนมองมาที่ข้าวด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าชอบไม่ใช่รึ นี่อย่างไรเล่าที่พี่จักพามา คราวนี้ไปกันได้หรือยังแม่จันทร์หอม”
“เอ่อ...” ข้าวกระพริบตาถี่พยายามตั้งสติแล้วพยักหน้ารับ “นำเลยเจ้าค่ะ”
“ช้างเท้าหน้าทำอันใดต้องให้เกียรติช้างเท้าหลัง เดินเคียงข้างพี่เถิดนะ” คำพูดหวานหูเอ่ยขึ้นอีกรอบทำใบหน้าหญิงสาวร้อนผ่าวอีกครั้งอย่างไม่รู้จบ
“ก็ไปสิเจ้าคะ” ข้าวหลับตาแน่นก่อนลืมตาก้าวขาเดินตีคู่ไปกับเขา พยายามไม่มองคนข้างๆที่เริ่มประหม่าใจตนเอง ภาพย์อมยิ้มลอบมองหญิงข้างกายอย่างไม่วางตาจนเดินเข้ามาในวงล้อมชาวบ้าน วงปี่พาทย์บรรเลงพร้อมนางรำร่ายรำอย่างอ่อนช้อยสะกดสายตาข้าวให้มองตามพลางยกมือลูบแขนขนลุกขยับเข้าไปยืนใกล้ชายหนุ่ม
“เหตุใดเจ้าถึงสนใจนัก” ภาพย์เอียงหน้ามองข้าวที่เงยหน้ามองตนเช่นกันก่อนตอบ
“มีเสน่ห์ที่ไพเราะ เครื่องดนตรีไทยที่น่าหลงใหลไม่ใช่ใครจะจับมาเล่นก็ได้หากไม่ฝึกฝนหรือมีพรสวรรค์จริงๆ ท่านขุนเล่นเป็นไหมเล่า”
“ต้องให้บอกกล่าวสักกี่ครา เหตุใดถึงไม่เรียกพี่ว่าคุณพี่เหมือนแต่ก่อน”
“มันฟังดูสนิทเกินไป”
“อีกประเดี๋ยวก็ได้สนิทกันมากกว่านี้เสียอีก เจ้าเตรียมตัวเตรียมกายไว้ให้ดีแล้วกันแม่จันทร์หอม” ภาพย์ยิ้มกริ่มเอามือไขว้หลังชมการร่ายรำ
“ย้ำจริงย้ำจัง ย้ำอยู่นั่นแหละ ลอดช่องแล้วอิฉัน งามไส้” ข้าวสะบัดหน้าสบถพึมพำคนเดียวยืนกอดอกมองตรงไปด้านหน้าก่อนขมวดคิ้วเมื่อเห็นหญิงมอมแมมยืนหลบๆซ่อนๆอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ข้าวละตัวออกจากภาพย์ทันทีเดินแหวกชาวบ้านแล้วออกตัววิ่งไปยังจุดหมายที่กำลังหันหลบก้าวขาวิ่งหนี การวิ่งไล่ได้เกิดขึ้นอย่างไม่สนใจรอบข้างจนเลยเถิดเข้ามาหยุดอยู่หน้าศาลใต้ต้นใหญ่ไร้ผู้คนรอบข้างมีแต่ต้นไม้ทำข้าวเริ่มวังเวงกวาดสายตามองหาคนที่วิ่งหนีตน
“ม้วย! ออกมาเดี๋ยวนี้” ข้าวตะโกนลั่นพร้อมหมุนตัวมองรอบเสียงอีกาดังรอบทิศก่อนได้ยินเสียงเหยียบหญ้าแห้งใกล้เข้ามา ข้าวหมุนตัวหันกลับพร้อมยกมือรั้งไม้ที่หวังฟาดลงใส่ศีรษะจากหญิงที่สวมผ้าคลุมเป็นทาสเรือนใดเรือนหนึ่งไม่ใช่คนที่เธอตามหา ข้าวยกขาขึ้นถีบหน้าท้องหญิงที่ปองร้ายเซถลาออกจนไม้หลุดมือรีบก้มลงคว้าไม้ก่อนมองปลายเท้าที่เหยียบไม้อยู่ช้าๆ ข้าวถลกจูงกระเบนขึ้นยกขาอีกข้างยันถีบไหล่หญิงดังกล่าวทันทีอย่างไม่รีรอแล้วก้มลงหยิบไม้ขึ้นมาถือควงเล่นยกมืออีกข้างจับไหล่นวดไปมาให้ถือไม้อย่างคล่องตัว แววตาไร้มิตรไม่พูดไม่จาก้าวขาเข้าไปหาทาสที่ล้มพยายามประคองตัวหนีก่อนถูกไม้ฟาดเข้าไปที่หน้าอย่างแรงจนหน้าหันรีบยกมือไหว้หญิงที่กำลังง้างไม้ขึ้นสูง
“อย่าเจ้าคะแม่หญิง บ่าวกลัวแล้ว อย่าทำอะไรบ่าวเลยเจ้าคะ”
“รู้จักฉันใช่ไหม อืมไม่สิ รู้จักจันทร์หอมแน่ๆ อย่าบอกนะว่านี่คือสาเหตุที่จันทร์หอมหายไป เป็นบ่าวเรือนไหน” ข้าวยื่นไม้ชี้หน้าอย่างเกรี้ยวกราด
“บ่าวไม่ใช่ทาสเรือนไหนเลยเจ้าคะ ไว้ชีวิตบ่าวเถิดเจ้าคะ แม่หญิงผู้มีเมตตา”
“หึ เมตตาหรอ ช่าย ฉันไงฉันนี่แหละผู้เมตตาที่สุด ไหนบอกมาสิว่ามาทำร้ายกันทำไม” เสียงกดต่ำเอ่ยช้าๆด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเลือดเย็น
“ต้องการอัฐเจ้าค่ะ”
“งั้นหรอ ถ้างั้นเอาอัฐนี่ไปรักษาขาแล้วกัน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว” สิ้นเสียงไม้ยกขึ้นสูงก่อนฟาดลงที่หน้าแข้งซ้ำหลายรอบจนทาสดังกล่าวร้องโอดโอยอ้อนวอนหลับตาน้ำตาเล็ดน้ำตาเลี่ย ข้าวโยนไม้ทิ้งก่อนหยิบถุงอัฐปาใส่หน้าหญิงดังกล่าวแล้วนั่งลงชันเข่าทับตัวนางทาสพร้อมเอามือจิกศีรษะกดสายตามองเหยียด
“คนสมัยนี้ไม่รู้จักยูยิสสูสินะ เป็นไงถึงทรวงไหมบ่าวผู้จงรักภักดีต่อนาย ไม่ว่านายมึงจะเป็นใครแอบให้ดีอย่าให้รู้ ไม่งั้นจะไม่ใช่แค่หักขาหักกระดูก” ข้าวผลักหญิงดังกล่าวออกแล้วลุกขึ้นปัดมือไปมาเดินย้อนกลับไปอย่างอารมณ์ดี