ตอนที่ 21   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 21
ข้าวนั่งลงบนที่นั่งตรงข้ามกับออกพระสุรัสวดีโดยเจ้าพระยาวสุนั่งอยู่ที่หัวกลาง นางทาสยกของหวานเข้ามาวางไว้บนที่นั่งให้ทั้งสามพร้อมน้ำโรยดอกมะลิกลิ่นหอมเย้ายวนในขันแล้วเดินออกไปทันที “เป็นอย่างไรบ้างแม่จันทร์หอม อยู่ที่นี่สุขสบายดีหรือไม่” เจ้าพระยาวสุเอ่ยถามเกริ่นนำเรียกความสนใจหญิงสาวที่กำลังจ้องมองขนมหวานด้วยรอยยิ้ม “เจ้าค่ะ ได้อยู่กับพี่สาวไม่มีอะไรจะสุขใจไปมากกว่านี้อีกแล้ว” ข้าวตอบพร้อมจดจ่ออยู่กับถ้วยขนมหวานที่หยิบยกมากัดชิมลิ้มรส “คิดเยี่ยงนั้นก็ดีแล้ว” เจ้าพระยาวสุยิ้มกริ่มวางมือลงบนหน้าขาอย่างผ่าเผยเช่นเดียวกับออกพระสุรัสวดีที่เลิกคิ้วมองท่าทีตื่นตาตื่นใจของหญิงตรงข้ามก่อนหันกลับมาสนทนากับชายรุ่นราวคราวเดียวกัน “ไหนๆข้าก็มาแล้วอย่าช้ารีรออันใดอีกเลย ข้าจะเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเอง” “เห็นสมควรเช่นนั้นเหมือนกัน พ่อภาพย์น่าจะได้ฤกษ์งามจากพระคุณเจ้า เรือนหอนับวันยิ่งใกล้เสร็จเรียบร้อยทันเข้าอยู่ทำบุญขึ้นเรือนใหม่พอดิบพอดี” คำพูดคำกล่าวของชายผู้มียศสูงทั้งสองคนทำข้าวเริ่มตงิดใจหันมองชายทั้งสองที่เลื่อนสายตามาหยุดลงที่เธออย่างชี้ชัดว่ากำลังหมายถึงเรื่องอะไร “เอ่อ คือ…” “ต้องเตรียมงานให้สมเกียรติกับที่รับปากไว้กับพระยาเดชาเสนาบดีกรมการคลัง” เจ้าพระยาวสุยิ้มกริ่มแทรกขึ้นทันที “คือว่า..” “ได้เห็นหนุ่มสาวเข้าพิธีซัดน้ำชักเริ่มกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเสียแล้ว อีกประเดี๋ยวเด็กๆได้วิ่งเต็มสองเรือน” ออกพระสุรัสวดีออกปากหยอกเจ้าพระยาวสุที่ยิ้มกริ่มจับหน้าขา “ยามแก่ตัวก็ต้องมีหลานๆมาวิ่งเล่นให้ครื้นเครงเรือนจะได้ไม่เงียบเหงา หากเป็นหลานชายคงต้องตามรอยบิดา” “แต่หากเป็นหญิงก็อาจตามรอยบิดาได้เช่นกันใช่หรือไม่แม่จันทร์หอม” ออกพระสุรัสวดีหันมายิ้มแหย่ข้าวที่ยิ้มแห้งๆงับปากกินขนมหวานอย่างนิ่งเงียบหมดไร้ซึ่งการคัดค้านก่อนมองชายหนุ่มล่ำสันสง่าผ่าเผยเข้ามายกมือไหว้ออกพระสุรัสวดีแล้วหันมาสบตากับข้าวที่ค่อยๆเคี้ยวขนมหวานช้าๆเลื่อนสายตาหนี “มาแล้วรึได้ฤกษ์อย่างไรบ้าง” เจ้าพระยาวสุมองหน้าบุตรชายพร้อมเอ่ยถามอย่างตรงประเด็น “สิบวันนับแต่บัดนี้ขอรับ” ภาพย์เดินเข้ามานั่งลงข้างข้าวที่เบิกตาโตเอียงหน้ามองชายหนุ่มอย่างตกใจจนภาพย์หยุดสายตาลงที่เธอ “อะไรรึ” “สิบวันไม่เร็วไปหรอ เลื่อนเป็นสักอีกห้าเดือนอะไรแบบนี้ ยังไม่ได้ทำอะไรอีกตั้งเยอะ ถ้าแต่งแล้วก็ต้องย้ายเข้ามาอยู่เรือนชาย ข้าอยู่กับพี่สาวมาก่อนจะให้ย้ายปุ๊บปั๊บตั้งตัวไม่ทันหรอก” ข้าวเฉไฉทำหน้าสลดเม้มปากกัดฟัน “ตั้งตนไม่ทันหรือต้องการไปเมืองเหนือก่อน” คำพูดของภาพย์จี้จุดข้าวให้เงยหน้ามองเขาที่เหมือนรู้ทัน “เมืองเหนืองั้นรึ จะไปทำไมเล่า” ออกพระสุรัสวดีเลิกคิ้วถามฉงนอย่างไม่เข้าใจ “ข้าลืมบางอย่างไว้ที่นั้นเจ้าค่ะ ข้าต้องการไปจริงๆ แล้วท่านขุนรู้ได้ยังไง อ่อ คุณหลวงสินะ แหมบอกกันเป็นลูกโซ่เชียว” ข้าวอ้าปากกินขนมหวานหน้าบึ้งตึง “เรือนเจ้าถูกรื้อถอนไปแล้วลืมอะไรให้คนไปเอาไม่ได้เชียวรึเหตุใดต้องดั้นด้นไปเองให้เหนื่อยแรงเหนื่อยใจ” ออกพระสุรัสวดียังคงถามยื้อคำถามเดิม “ไม่เหนื่อยหรอกเจ้าค่ะ เป็นของที่ไม่ว่าใครก็หาไม่เจอ ลับสุดยอด” ข้าวป้องปากฉีกยิ้มก่อนวางมือลงวางมาดกินขนมต่อ “ลับขนาดนั้นเชียวรึ เยี่ยงนั้นก็ให้พ่อภาพย์พาไป” เจ้าพระยาวสุบอกบทสรุปด้วยรอยยิ้มทำให้ข้าฉีกยิ้มรับเอียงหน้ามองภาพย์ที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างสง่าผ่าเผย “เรียกคุณพี่แล้วจะพาไป” แต่คำบอกกล่าวของชายหนุ่มทำข้าวหน้าแห้งเหือดมองค้อนทันที ภาพย์ยิ้มกริ่มมองหน้าเธอหวังให้หญิงที่แสนดื้อจนมุม ออกพระสุรัสวดีหันมองหน้ากับเจ้าพระยาวสุด้วยรอยยิ้มเอ็นดูความสัมพันธ์ของชายหญิงที่หยอกเย้าแหย่กัน “เจ้าเล่ห์เหมือนหมาป่า” ข้าวหยิบทองหยอดเข้าปากอย่างไม่พอใจจ้องเขม็งภาพย์ที่เอียงตัวมองเธอด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม “เรียกเสียสิแม่จันทร์หอม ประเดี๋ยวมืดค่ำไม่ได้เก็บนุ่นกันพอดี” เจ้าพระยาวสุกล่าวอย่างให้ท้ายบุตรชายที่ยกมุมปากฉีกยิ้ม “คุณพี่ก็คุณพี่ คุณพี่ก็ได้” ข้าวทำหน้างอสะบัดหน้าหนีเคี้ยวขนมหวานอย่างไม่สบอารมณ์ “ก็แค่นั้นไม่เห็นยาก” ภาพย์ยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ “พาแม่จันทร์หอมไปเก็บนุ่นหลังเรือนเดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน พ่อจักหารือกับออกพระต่อ” เจ้าพระยาตัดบทแนะนำเชื้อเชิญให้ท้ายบุตรชายทำข้าวจนมุมชนิดดิ้นไม่หลุด “ออกกำลังเสียหน่อยทานของหวานเข้าไปมากเช่นนั้น” เสียงหยอกเย้าของออกพระสุรัสวดีกล่าวสมทบทำข้าวชะงักยกมือตบอกเบาๆสำลักวางถาดขนมลงข้างลำตัวแล้วยกมือไหว้ลาชายวัยกลางคนสองคน ภาพย์ยกมือไหว้ออกพระสุรัสวดีก่อนเดินนำข้าวลงเรือนไป ข้าวมองบ่าวสามรำยืนอยู่ข้างแก้วก้มหน้าก้มตาก่อนหยุดชะงักเดินเข้ามายื่นหน้ากระซิบข้างแก้วช้าๆทำให้ภาพย์หันหลังกลับมามองตามอย่างไม่พอใจ “ได้มาหรือยัง” “มาแล้วขอรับ” “ไปเอาของที่แก้วแล้วนำไปไว้ที่เรือ ข้าเสร็จจากนี้จะรีบกลับ” ข้าวหันมาสั่งบ่าวสามรำที่พยักหน้าพร้อมตอบรับอย่างกล้าๆกลัวๆเมื่อมีร่างหนายืนกอดอกคมเข้มอยู่หลังข้าวโดยที่เธอไม่รู้ตัว “เจ้าค่ะ” “จัดไปตามนี้” ข้าวฉีกยิ้มยืดตัวตรงหันกลับมาชนชายที่ยืนอยู่ด้านหลังจนเกือบเซล้มตามแรงหมุนตัว มือใหญ่คว้าเอวรวบดึงเข้ามาในอ้อมแขนได้ทันท่วงที แก้วชำเลืองมองด้วยรอยยิ้มก่อนก้าวถอยวักมือเรียกบ่าวสามรำให้เดินตามตนไปปล่อยให้เจ้านายยืนสบตากันอย่างลึกซึ้ง “ปล่อยได้แล้วมั้ง” ข้าวยกมือปิดอกพยายามข่มใจให้หยุดเต้นเร่งเร้าไม่เป็นจังหวะราวกับจะตกลงสู่ตาตุ่ม “หากไม่บอกว่าของที่เจ้าให้บ่าวไปหามาคืออันใดก็อย่าหวังว่าจะได้ถูกปล่อยตัวไปง่ายๆ” คำพูดรวบรัดของชายหนุ่มทำข้าวมองตาปริบๆพยายามขยับออกห่างแต่ยิ่งถูกดึงเข้าหาตัวชายหนุ่มมากขึ้นจนไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมองอยู่ที่หน้าต่างแววตาเศร้าหมองมองชายหญิงใกล้ชิดกันอย่างหวานซึ้ง “ก็แค่ของธรรมดาไว้แต่งกันเมื่อไหร่แล้วจะบอก” ข้าวตอบกลับเบี่ยงสายตาหลบไม่กล้าสู้เสน่ห์ของชายตรงหน้าที่พาใจเต้นแรงมากขึ้นทวีคูณ “รับปากแล้วอย่าคืนคำเชียว” ภาพย์ปล่อยมือออกอมยิ้มก่อนเดินเคียงคู่ไปกับข้าวที่เริ่มประหม่าใจลอบมองชายหนุ่มเป็นระยะก่อนมองเห็นต้นนุ่นสูงใหญ่เธอเงยหน้ามองอย่างชอบอกชอบใจรีบก้าวเข้าไปที่ลำต้น “จะทำอะไรแม่จันทร์หอม” ภาพย์คว้าแขนข้าวดึงกลับมายืนข้างตนทันทีเมื่อเห็นเธอเดินไปที่ลำต้น “เก็บนุ่นไง” “ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าอยู่เฉยๆ” เสียงเคร่งขึมของชายหนุ่มห้ามปรามอีกทั้งยังจับแขนเธอรั้งไว้ไม่ยอมปล่อยก่อนหันไปตะเบ็งเสียงสั่งทาสในเรือน “ปีนขึ้นไปเก็บฝักนุ่นให้แม่หญิง” “ขอรับท่านขุน” เสียงตอบรับจากชายฉกรรจ์ผู้เป็นทาสสามคนเดินเข้าไปที่ลำต้นแล้วปีนเก็บทันที ข้าวเงยหน้ามองก่อนเหล่มองภาพย์ที่ปล่อยมือออกเอามือไพล่หลังมองฝักนุ่นที่ถูกเก็บอย่างสุุขุม ข้าวยิ้มกริ่มยกมือกอดอกมองตามสายตาของภาพย์ “เลือกฝักใหญ่หน่อยนะ” ข้าวป้องปากตะโกนบอก “คราวนี้ก็หยุดดื้อดึงเปลี่ยนเป็นเชื่อฟังได้เสียทีนะแม่จันทร์หอม” ภาพย์ลดสายตามองข้าวที่ฉีกยิ้มก่อนหันมามองตน “ทำไม่ได้หรอกมันเป็นสันดาน” คำยียวนของหญิงสาวผสมกับรอยยิ้มจริงใจทำชายหนุ่มที่ได้ฟังยิ้มชอบใจส่ายหน้าไปมากับวาจาที่ตรงไปตรงมาลอบมองเธอจนไม่อาจเลื่อนสายตามองไปทางอื่นได้
已经是最新一章了
加载中