บทที่ 6 สรุปว่าคุณไม่มีสมองใช่ไหม

บทที่ 6 สรุปว่าคุณไม่มีสมองใช่ไหม หยูนจิ้งจีส่ายหัวอย่างรุนแรง ตนกำลังคิดอะไรอยู่นะ! ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับฉิวหยู่เฉิง ก็เป็นแค่อุบัติเหตุ นอกจากนี้ความรับผิดชอบหลักของเรื่องนี้ก็ไม่ได้อยู่ที่ฉิวหยู่เฉิง ถ้าตนใช้ประโยชน์จากเด็กคนนี้เป็นเบี้ย เพื่อขอเงินจากฉิวหยู่เฉิง อย่างนั้น......ก็คงจะเสียสติไปแล้วจริงๆ หยูนจิ้งจีนั่งที่ม้านั่งของโรงพยาบาลทั้งคืน ในใจมีเรื่องราวมากมายถ่วงเอาไว้ เกือบจะทั้งคืนเลยที่ไม่ได้นอน วันที่สองที่ฉิวหยู่เฉิงกับหยูนจิ้งจีพบกัน สถานที่นัดพบจึงเป็นที่โรงพยาบาล เพราะฐานะทางสังคมของฉิวหยู่เฉิง ขั้นตอนการตรวจสุขภาพก็ราบรื่นเหมือนเปิดไฟเขียว ตอนนี้เพิ่งจะเป็นเวลาสายๆ ผลตรวจของหยูนจิ้งจีส่วนใหญ่ก็ออกมาหมดแล้ว “คุณหยูน ผลตรวจสุขภาพของคุณฉันดูอย่างละเอียดแล้ว เนื่องจากผนังมดลูกของคุณค่อนข้างบาง อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ถ้าแท้งอีกครั้ง......ต่อไปโอกาสในการตั้งครรภ์จะยากมากนะครับ” คุณหมอดูรายงานผลการตรวจ พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หนักขนาดนั้นเลยหรือครับ?” คำพูดของคุณหมอก็ทำให้ฉิวหยู่เฉิงค่อนข้างตกใจ ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนจัดการเรื่องการตรวจสุขภาพนี้เอง ก็คงจะคิดว่า นี่เป็นนักแสดงละครเศร้าที่หยูนจิ้งจีหามาหรือเปล่า? “เป็นความจริงที่ค่อนข้างหนัก โดยปกติคนที่มีสุขภาพเหมือนกับคุณหยูน การตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับสุขภาพของเธอแล้วการแท้ง เป็นอันตรายมาก” คุณหมอส่ายหัวอย่างเห็นอกเห็นใจ และอธิบายเพิ่มเติมอีกครั้ง สายตาจากจิตใต้สำนึกของฉิวหยู่เฉิงมองไปที่ร่างของหยูนจิ้งจี ก็ได้เห็นหน้าซีดขาวของเธอ ที่ไม่น่ามอง มือที่วางอยู่บนท้องน้อย จวนจะสั่นไปหมด ในใจของหยูนจิ้งจีกำลังคิดว่า หรือนี่จะเป็นบทลงโทษจากพระเจ้า เป็นคำเตือนที่เธอไม่ให้ความสำคัญกับชีวิตน้อยๆนี้ ความรู้สึกที่หมดหนทางแผ่ไปทั่วร่างของหยูนจิ้งจี คิดถึงแม่ของตนที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลจำเป็นต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เธอจึงกัดฟันพูดออกมา “ฉันทราบแล้วค่ะ ฉันยินยอมให้ผ่าตัดทำแท้ง รบกวนคุณหมอรีบจัดการให้เร็วสักหน่อยนะคะ” ฉิวหยู่เฉิงรู้สึกขึ้นมาอย่างทันทีที่เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดขนาดนั้น สิ่งที่กำลังฟังอยู่ค่อนข้างไม่เข้าหูเขา ตนกำลังครุ่นคิดเพื่อเธอ แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่นึกถึงสุขภาพของตัวเองสักนิดเลย เขาจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้เลือดเย็นไม่มีความรู้สึก ยิ่งกว่าน้ำแข็งเสียอีกได้ไหม? ในที่นี่ฉิวหยู่เฉิงมีอำนาจที่สุด สิทธิขาดคำพูดก็อยู่ที่เขา คุณหมอจึงมองไปที่ร่างของเขาโดยปริยาย รอฟังคำตัดสินจากเขา ราวกับว่าไม่ได้ฟังคำพูดของหยูนจิ้งจีเลย หยูนจิ้งจีแจ้งความประสงค์ของเธอขึ้นมาอีกครั้ง “คุณหมอคะ รบกวนคุณจัดการเรื่องนี้ให้เร็วสักหน่อย ฉันคิดว่ายิ่งเร็วยิ่งดีค่ะ” ที่บริษัทนั้นเธอยังเป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน แต่เดิมไม่สามารถลางานได้หลายวันอยู่แล้ว และแม่ก็ต้องการคนดูแล เธอจำเป็นต้องจัดการเรื่องของฉิวหยู่เฉิงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก็จะพยายามปรับสุขภาพของตนให้ดีขึ้น เพื่อแบกรับหน้าที่ทั้งหมดต่อไป “หยูน！จิ้ง！จี！”ฉิวหยู่เฉิงเรียกชื่อเธอด้วยความโมโหขึ้นมาทันที “นี่สรุปว่าคุณไม่เข้าใจคำพูดของคุณหมอหรือ เข้าใจความหมายไหม?” ผู้หญิงคนนี้ไม่มีสมองใช่ไหม! ภายในใจของหยูนจิ้งจีตอนนี้ก็กลั้นความโมโหเอาไว้เหมือนกัน รวมกับเมื่อวานตอนกลางคืนที่ไม่ได้นอนอย่างสงบเลย ดังนั้นเธอจึงมีอารมณ์ไม่น้อยเลยที่จะคำรามตอบฉิวหยู่เฉิงออกมา “ฉันเข้าใจแล้ว ที่บอกว่าถ้าครั้งนี้แท้งแล้ว ต่อไปก็อาจจะไม่มีลูกอีกเลยตลอดชีวิตใช่ไหม!” มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากจะเป็นแม่บ้าง ได้แต่งงานได้เป็นภรรยา ได้เลี้ยงดูลูกของตนเอง ดูเขาค่อยๆเติบโตทีละนิด...... หยูนจิ้งจีก็เป็นผู้หญิงทั่วไปที่ทั่วไปมากๆคนหนึ่ง มีความคิดเหมือนกับทุกคนนั่นแหละ จู่ๆวันหนึ่ง คุณหมอบอกว่าตลอดชีวิตนี้เธอจะไม่สามารถมีลูกเป็นของตัวเองได้แล้ว สำหรับหยูนจิ้งจีนี่ก็เป็นการโจมตีที่ไม่เล็กเลยสักนิด เด็กที่มาอย่างกะทันหัน เพียงแค่เพิ่มบาปกรรมของเธอเท่านั้น ตอนนี้เธอ ไม่สามารถเก็บเด็กคนนี้ไว้ได้ ฉิวหยู่เฉิงมองผู้หญิงที่คำรามใส่ตนอย่างโมโห สีหน้าแกล้งทำเป็นสงบ แต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาแล้ว ราวกับว่าแค่กะพริบตาทีเดียว น้ำตาก็จะไหลออกมา......