ตอนที่ 3 คุณคิดว่าคุณเป็นใคร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 3 คุณคิดว่าคุณเป็นใคร
ตอนที่ 3 คุณคิดว่าคุณเป็นใคร ประตูห้องถูกปิด ใบหน้าที่เย็นชาของหรงโม่ ดวงตาที่ลึกและดำลึกขึ้นเล็กน้อย มองลงไปที่คราบเลือดสีแดงสดบนผ้าปูที่นอน แล้วชำเลืองมองเงินหนึ่งร้อยหยวนบนเตียง ใบหน้าที่มืดนั้นเย็นยะเยือกมากขึ้นเรื่อย ๆทำให้คาดเดายาก เกือบครึ่งค่อนวัน รอจนกระทั่งหรงโม่แต่งตัวเสร็จและเรียกคนที่อยู่ด้านนอกประตู “เข้ามา” “คุณชาย” ชายชุดดำสี่คนเปิดประตูเข้ามาอย่างสุภาพ ยืนตรงหน้าหรงโม่รอคำสั่ง “ไปสืบรายละเอียดของเธอด้วย” หรงโม่นั่งบนโซฟาอย่างสง่า เหมือนสิงโตที่หลับสนิท สง่าผ่าเผย เธอที่เขาพูดถึงหมายถึงมู่จิ่งเหยียน “ ครับ คุณชาย” ชายเสื้อดำรับคำสั่งอย่างเคารพ “ทางนั้นมีข่าวอะไรบ้าง” “ตอนเช้าผู้ช่วยหวินส่งข่าวมา ณ ตอนนี้หลายเจ้ายังนิ่งอยู่ แต่ก็......” ชายเสื้อดำพูดถึงตรงนี้แล้วหยุดไป เหลือบมองดวงตาที่เย็นชาของหรงโม่แล้วพูดต่อ “ แค่หัวหน้าตระกูลเหอพาคุณหนูใหญ่ตระกูลเหอไปบ้านตระกูลหรงเพื่อหารือเกี่ยวกับการแต่งงานระหว่างสองตระกูล” “ตระกูลเหอ” ดวงตาที่ลึกและดำของหรงโม่มีประกายแวววาวเยือกเย็นและโหดร้าย มองชายชุดดำ “มีข่าวอะไรจากตาเฒ่าไหม” “ตาเฒ่าไม่ได้ตอบตกลง และก็ไม่ได้ปฏิเสธด้วย น่าจะเป็นเพราะอยากรอคุณไปตัดสินใจเอง แต่ดูเหมือนคุณท่านจะพอใจกับการแต่งงานครั้งนี้มาก ถามว่าคุณชายจะกลับไปเมื่อไหร่” ชายชุดดำพูดอย่างเคารพ “ถ้าเขากล้ายุ่งเรื่องของฉัน” หรงโม่มีดวงตาที่ลึกและดำอย่างโหดร้าย “มีเรื่องอะไรอีกไหม” เห็นสี่คนนั้นยังไม่ได้ถอยออกไป หรงโม่พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “คุณชาย ตระกูลซูรู้ว่าท่านมาเมืองb ส่งจดหมายเชิญมา เชิญท่านไปร่วมงานหมั่นคุณหนูใหญ่ตระกูลซู” หนึ่งในชายชุดดำพูดขึ้นด้วยความเคารพ “ตระกูลซู” เสียงเย็นชาของหรงโม่ดังขึ้น ดวงตาที่ลึกเป็นแผ่นลึก ทำให้คนมองรูปลักษณ์และผิวพรรณไม่ชัดเจน “ตกลงแล้ว” ได้ยินหรงโม่ตอบตกลงต่อคำเชิญของตระกูลซู ชายชุดดำสี่คนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ระดับฐานะอย่างคุณชาย ตระกูลซูเล็ก ๆ ในเมืองb ไม่ได้อยู่ในสายตาเลย เมื่อก่อนไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้มาก่อน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าถาม คุณชายจะทำอะไรล้วนมีเหตุผลของท่าน พวกเขามีหน้าที่แค่ทำตาม “ครับ คุณชาย” รอจนกว่าชายเสื้อดำสี่คนจะถอยออกไป ร่างที่เรียวยาวของหรงโม่ยืนขึ้นอย่างสง่างาม เดินไปที่หน้าต่าง ดวงตาลึกนั้นเย็นชาและเลือดเย็น มืดลึกลับ ทั้งร่างกายมีอำนาจบางอย่างทำให้คนรอบข้างเกรงกลัว ทำให้คาดเดาได้ยากว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ส่วนทางนี้ มู่จิ่งเหยียนลากร่างกายที่เจ็บและเหนื่อยล้าออกจากโรงแรม ระหว่างทางด่าว่าสัตว์ร้ายชายคนนั้นที่ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้าไม่มีแรง กลับถึงโรงเรียน จากหน้าประตูโรงเรียนมู่จิ่งเหยียนเริ่มชี้ด่าว่าด้วยสีหน้าดูถูกดูหมิ่น “เฮ่ย คุณดู นั่นก็คือมู่จิ่งเหยียนของคณะบริหารธุรกิจ ทำไมเธอถึงยังมีหน้ามาอีก “ไม่เห็นแปลกเลย ผู้หญิงประเภทนี้หน้าหนาไร้ยางอาย ถ้าเป็นฉันต้องอายตายเลย” “ไร้ยางอาย นางจิ้งจอก มีดีก็แค่ใบหน้า ได้ยินมาว่ามู่จิ่งเหยียนเป็นลูกสาวบุญธรรมของตระกูลซู ไอ้คนอกตัญญู ไม่รู้คุณคน กล้าแย่งคู่หมั้นของน้องสาวตัวเอง” “ใครว่าไม่จริง โชคดีที่รุ่นพี่ซูม่อเป็นคนดีจิตใจงดงามไม่ถือสา” ฟังการเสียดสีที่ดูหมิ่นที่อยู่รอบ ๆ มู่จิ่งเหยียนไม่พอใจขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาเย็นชา สีหน้าเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สนใจสายตาเหล่านั้น เดินต่อไปยังอาคารหอพัก เพิ่งเดินถึงใต้หอพักโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น มู่จิ่งเหยียนหยิบโทรศัพท์ออกมา เห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนโทรมาจึงรับสาย มู่จิ่งเหยียนยังไม่ทันพูด ก็มีเสียงดังตู้มต้ามมารบกวน “เสี่ยวเหยียน คุณเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน เมื่อคืนไปไหนมา ทำไมไม่กลับมาทั้งคืน ฉันเป็นห่วงมาก คุณรู้ไหมว่าส้งเสี้ยนกับซูม่อกำลังจะหมั้น ตอนนี้ทั้งโรงเรียนรู้ข่าวเขาจะหมั้นกันแล้ว อย่าไปสนข่าวลือพวกนั้นนะ คุณรีบกลับมาเร็วๆนะ” เสียงร้อนใจของเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนผ่านเข้ามา หัวใจที่เยือกเย็นของมู่จิ่งเหยียนมีกระแสความอุ่นผ่านเข้ามา แม้ว่าทุกคนจะทรยศต่อเธอ อย่างน้อยก็มีหนึ่งคนที่ยอมรับเธอเป็นเพื่อนที่ดี ไม่เคยทิ้งกัน “เชี่ยนเชี่ยน ฉันสบายดี ฉันอยู่ใต้หอพัก จะขึ้นไปทันที” พูดจบ มู่จิ่งเหยียนก็วางสาย กำลังจะเดินเข้าไปในอาคารหอพัก มีเสียงอันอ่อนโยนมาจากข้างหลังเขา “จิ่งเหยียน” ทันใดนั้น ขณะที่มู่จิ่งเหยียนรู้สึกคุ้นกับเสียงอ่อนโยนนั้น ดวงตาใสๆก็เย็นชาทันที ยิ้มไม่เต็มใจ หันหลังกลับและมองไปเห็นผู้ชายเดินมา ในที่สุดเธอก็รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่สนใจผู้ชายคนนี้แม้ว่าเธอจะสูญเสียความทรงจำก็ตาม เพราะผู้ชายคนนี้เหมือนฉินหยูนข่ายมาก มากจนเธออยากบีบเขาให้ตาย “มีธุระอะไรมิทราบ เสียงเย็นชาก็ดังขึ้น มู่จิ่งเหยียนจ้องส้งเสี้ยนด้วยสายตาที่เย็นชา “จิ่งเหยียน ขอโทษนะ ฉันมาเพื่อเชิญคุณไปร่วมงานหมั้นของฉันกับม่อม่อ” ส้งเสี้ยนยังคงดูสง่างาม ในร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของหนังสือ มองมู่จิ่งเหยียนด้วยความอ่อนโยน มู่จิ่งเหยียนอดหัวเราะไม่ได้ ใบหน้าที่เย็นชา ใบหน้าที่สวยงามและละเอียดอ่อนทำให้คนสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกที่แสดงออกมานั้นแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง สูงส่ง เย็นชา จ้องส้งเสี้ยนที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่อยู่สูง “มั่นใจได้ ฉันจะไปให้ทันงานหมั้นแน่นอน ถ้าไม่มีไรฉันจะขึ้นไปแล้ว” มู่จิ่งเหยียนหันหลังแล้วขึ้นตึกไป ส้งเสี้ยนที่อยู่ด้านหลังคว้ามู่จิ่งเหียนไว้ “จิ่งเหยียน อย่าทำอย่างนี้ หากคุณรู้สึกอึดอัดก็ด่าว่าฉันได้เลย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณ ฉันจริงใจกับบบคุณจริงๆ ฉันก็จะดีกับคุณเช่นนี้ตลอดไป แค่ที่บ้านต้องการฉัน ฉันจำเป็นต้องแต่งงานกับน้องสาวคุณ คุณก็รู้ว่าคุณไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของตระกูลซู ถ้าคุณเป็นลูกสาวแท้ๆของตระกูลซู คนที่ฉันจะต้องแต่งงานด้วยต้องเป็นคุณแน่นอน” ฟังคำพูดของส้งเสี้ยนแล้ว มู่จิ่งเหยียนอดหัวเราะเยาะไม่ได้ หันกลับไปอย่างเย็นชา จ้องส้งเสี้ยนด้วยสายตาที่หยิ่งแบบเย็นชา “ส้งเสี้ยน คุณคิดว่าคุณเป็นใคร มีค่ามากพอให้ฉันมู่จิ่งเหยียนเสียงใจเหรอ อย่าคิดไปเองเลย ถ้าฉันเป็นลูกสาวของตระกูลซูฉันก็ไม่มีทางแต่งงานกับขยะอย่างคุณแน่นอน ปล่อยมือ” “จิ่งเหยียน.......” “ปัง” เสียงดังขึ้น ส้งเสี้ยนยังพูดไม่จบ มู่ขจิ่งเหยียนพลิกมือ แล้วเตะ กดตัวส้งเสี้ยนลงบนพื้นอย่างโหด สายตาเย็นและแดกดัน “อย่าบังคับให้ฉันต้องลงมือกับคุณ ถ้าคุณไม่อยากตายจงอยู่ห่างฉันไว้” พูดจบ มู่จิ่งเหยียนปล่อยให้ส้งเสี้ยนลุกขึ้น จัดดึงเสื้อให้เรียบร้อย แล้วเดินขึ้นตึกไป อย่างสง่างาม อารมณ์เย่อหยิ่ง ไม่เหมือนภาพที่บริสุทธิ์และอ่อนโยน ดูเป็นคนละคนเลย เมื่อเห็นด้านนี้ของมู่จิ่งเหยียนทำให้ส้งเสี้ยนตะลึงไปเลย เหมือนรู้จักมู่จิ่งเหยียนเป็นครั้งแรก นั่งตะลึงอยู่บนพื้น จนกระทั่งได้ยินเสียงการพูดคุยกันอย่างแผ่วเบาจึงลุกจากพื้น คิ้วขมวด ออกจากอาคารหอพักด้วยสีหน้าไม่ดีเลย
已经是最新一章了
加载中