ตอนที่ 13 บทลงโทษอันร้ายแรงแด่ซูม่อ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 13 บทลงโทษอันร้ายแรงแด่ซูม่อ
ตอนที่ 13 บทลงโทษอันร้ายแรงแด่ซูม่อ ใบหน้าของเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนถูกพันไปด้วยผ้าขาว ตอนนี้เธอไม่สามารถพูดได้ มองไปยังโรเบิร์ตและโอหยางเส้าชิง พยักหน้าอย่างเป็นมิตร โรเบิร์ตและโอหยางเส้าชิง ได้ทักทายเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนอย่างเป็นมิตร จากนั้น โรเบิร์ตจึงเริ่มตรวจบาดแผลบนร่างกายของเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยน “ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่โต รอให้บาดแผลบนใบหน้าหายก่อน เราก็สามารถผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนังได้ เมื่อถึงตอนนั้นรับรองว่าต้องสวยกว่าเดิมแน่นอน!” “อย่างนั้นฉันก็วางใจได้หน่อย งั้นเรื่องของเชี่ยนเชี่ยนฉันยกให้คุณนะ” มู่จิ่งเหยียนถอนหายใจเบาๆแสดงความวางใจ “เธอจะไปไหน” ได้ยินเสียงถอนหายใจของมู่จิ่งเหยียน โรเบิร์ตได้เลิกคิ้วขึ้น “มู่มู่ เธอจะไปไหนอีก” โอหยางเส้าชิงรีบออกปาก “ไปเมืองหลวง มีเรื่องที่จะต้องทำ!” มู่จิ่งเหยียนตอบไป เนื่องจากเธอไม่ต้องกังวลใจเรื่องอาการของเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนอีกแล้ว เธอก็ควรที่จะออกเดินทางไปเมืองหลวง แล้ว ความแค้นนี่ช้ามาสามปี ตอนนี้ถึงเวลาล้างแค้นแล้ว “เธอไม่ไปอ้านเย่สักหน่อยเหรอ ทุกคนคิดถึงเธอทั้งนั้น!” “ไว้วันอื่นแล้วกัน!” มู่จิ่งเหยียนตอบด้วยความเยือกเย็น จริงๆเธอคิดถึงคนที่อ้านเย่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะกลับไป หลังจากออกจากโรงพยาบาลในวันนั้น มู่จิ่งเหยียนได้ยินว่าบริษัทตระกูลซู กำลังมีวิกฤตการณ์ทางการเงิน ได้ข่าวว่าหุ้นกำลังตกอย่างหนัก มีคนจำนวนมากกำลังก่อเรื่องที่หน้าประตูใหญ่ของบริษัทตระกูลซู แม้แต่ซูโป๋หลุนก็ได้ถูกทำร้ายที่ศีรษะจากคนที่ยืนล้อมประตูอยู่ กลับถึงมหาวิทยาลัย มู่จิ่งเหยียนได้ทำเรื่องลาออกจากการเรียน จากนั้นกลับไปยังหอพักและเก็บข้าวของ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ายังคงดังไม่หยุด “ฮัลโหล” “ได้ ฉันไปเดี๋ยวนี้!” ฟังปลายสายพูดไม่กี่ประโยค มู่จิ่งเหยียนก็วางสาย ใส่เสื้อโค้ทและได้ออกไปจากมหาวิทยาลัย ที่โรงงานร้างแห่งหนึ่งในเมือง b เสียงกรีดร้องดังมาจากข้างใน เผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนก “ไสหัวไป ไสหัวไปจากฉัน พวกแกรู้มั้ยฉันเป็นใคร ฉันคือคุณหนูตระกูลซู พวกแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่น้อย ฉันจะทำให้แกต้องแบกรับผลที่แกทำ!” “ผลที่ตามมาเหรอ พวกเรากลัวจริงๆเลย ว่ะฮ่าๆ !” เสียงหนึ่งได้สวนตอบไป พร้อมกับเสียงหัวเราะอันบีบคั้นจากคนอีกจำนวนหนึ่ง “ปล่อยฉันไปเถอะ ถ้าพวกแกรีบปล่อยฉัน อยากได้อะไรก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ปล่อยฉันไป ขอร้องพวกแกหละ ปล่อยฉันไปเถอะ!” ซูม่อคลานกลับไปด้วยสีหน้าหวาดกลัว มองไปยังเหล่านักเลงเบื้องหน้าที่กำลังมองเธอ มองดูแล้วช่างน่าขนลุก “นางจิ้กจอก ยังจะกล้าพูดว่าพวกเราอยากได้อะไรก็จะได้ ฮึ ถ้าพวกเราไม่ฉลาด แม้แต่ชีวิตก็คงไม่เหลือแล้ว ผัวะ!” เจ้านักเลงพูดตะคอกไป และเหวี่ยงหมัดไปบนใบหน้าของซูม่อ อย่างแรง “อ๊า อย่านะ อย่าตีฉันๆ พวกแกแค่ฆ่าผู้หญิงเลวๆอย่างมู่จิ่งเหยียน ฉันก็จะให้เงินพวกแกแน่นอน เยอะแค่ไหนก็ได้!” ซูม่อเริ่มจะกลัวเล็กน้อย กลัวลึกๆว่าคนพวกนี้จะต้องฆ่าเธอ “ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฮือ ฮือ!” “ครื้น” ประตูใหญ่ของโรงงานก็เปิดออก รูปร่างอันเย่อหยิ่งเย็นชาของมู่จิ่งเหยียนปรากฏขึ้น สายตาอันเยาะเย้ยมองไปยังซูม่อที่กำลังล้มอยู่บนพื้นอย่างกระอักกระอ่วน รอยยิ้มเย้ยหยันจากริมฝีปากได้แสดงออกมา “ฉันไม่รู้จริงๆว่าน้องสาวผู้แสนดีมีอนาคตไกลของฉัน ทำให้ถึงอยากจะให้ฉันตาย ฉันควรจะดีใจหรือเสียใจดี!” เสียงที่พูดขึ้นมามันช่างเยือกเย็น เหมือนเสียงจากนรกซึ่งหาอะไรเปรียบไม่ได้ เมื่อซูม่อได้ยินเสียงของมู่จิ่งเหยียน เธอได้ตะโกนเรียกขึ้นด้วยเสียงอันดัง “แก ที่แท้ก็คือแก พวกแกรีบฆ่ามันให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฆ่ามันได้ ฉันจะให้เงินพวกแกเป็นหนึ่งเท่า สองเท่า หรือสามเท่าก็ได้” เมื่อได้เห็นมู่จิ่งเหยียน ใบหน้าของซูม่อเต็มไปด้วยอารมณ์ของความเกลียดชัง มู่จิ่งเหยียนยิ้มอย่างเย็นชา สายตากราดมองไปยังเหล่าอันธพาลที่น่ารังเกียจเหล่านั้น พวกอันธพาลบางคนสั่นคลอน นัยน์ตาของพวกเขาบ่งบอกความรู้สึกกลัว “ช่วยฉันดูแลมันให้ดีๆ ถ้าไม่ดี พวกแกคงรู้นะว่าผลที่ตามมามันคืออะไร” มู่จิ่งเหยียนกวาดสายตามองไปยังเหล่าอันธพาลนั้นแล้วออกคำสั่งอย่างเย็นชา จากนั้นก็เดินไปยังประตูโรงงาน “มู่จิ่งเหยียน แกจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ แกลืมไปแล้วเหรอว่าตระกูลของฉันมีบุญคุณกับแกมากนะ ฉันผิดไปแล้ว รีบพาฉันออกไปเถอะ มู่จิ่งเหยียน ฉันเกลียดแก ฉันไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่ๆ!” เบื้องหลังของมู่จิ่งเหยียน มีเสียงอันน่าสยองขวัญดังสวนมาเป็นระยะ ประกายแววตาของเธอบ่งบอกถึงความเยือกเย็น จะว่าไปถ้าซูม่อไม่ทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ไม่สรรหาคนเพื่อมาจัดการกับเธอ เหลิ่งเชี่ยนเชี่ยนก็จะไม่เป็นอะไร เธอก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะรีบฆ่าซูม่อ เพียงแต่ผู้หญิงคนนี้ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจอะไรเลย จึงต้องทำให้เขาได้รับบทเรียนอันแสนทรมานนี้ “เหี้ย พูดอะไรนักหนาวะ พูดอีก กุจะฆ่ามึงเดี๋ยวนี้แหละ!” อันธพาลคนหนึ่งตะคอกขู่ขึ้นมา ซูม่อจึงเลิกพล่ามทันที เมื่อเห็นร่างของมู่จิ่งเหยียนจากออกไปแล้ว เมื่อมองกลับมาที่พวกอันธพาลใกล้ๆตัวเธอแล้ว ซูม่อยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น เช้าของวันที่สอง มู่จิ่งเหยียน ซื้ออาหารเช้าจำนวนหนึ่ง ไปให้พวกเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยน ที่โรงพยาบาล มีโรเบิร์ตอยู่ที่นั่น บาดแผลบนร่างกายเหลิ่งเชี่ยนเชี่ยน ดีขึ้นอย่างเร็วมาก และดีมาก แต่เธอต้องรีบกลับไปเก็บของต่อ มู่จิ่งเหยียนอยู่ในห้องได้ไม่นานก็เดินออกมาจากห้องผู้ป่วย โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น “ฮัลโหล” เดิมทีคิดว่าเป็นพวกอันธพาลนั้นโทรมาหาเธอ ว่าจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้ว แต่ปลายสายอีกด้านกลับเป็นเสียงโทนต่ำที่ค่อนข้างทุ้มเหมือนเสียงคลื่นแม่เหล็ก
已经是最新一章了
加载中