ตอนที่ 15 ฉันต้องการแค่เธอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 15 ฉันต้องการแค่เธอ
ตอนที่ 15 ฉันต้องการแค่เธอ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ทุกครั้งที่เจอเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะต้องโอบกอดเธอไว้แน่นแล้วจูบลงบนริมฝีปากอันอ่อนนุ่ม ราวกับต้องมนตร์สะกด เดิมทีก็แค่จะเบาๆแล้วหยุด แต่เมื่อได้จูบไปแล้วก็ไม่สามารถหยุดมันได้ ลมหายใจระหว่างทั้งสองคนเริ่มเร่าร้อนขึ้นเล็กน้อย แนบแน่นอยู่ด้วยกัน มู่จิ่งเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ผลักหรงโม่ออกไป มีเพียงแค่สายตาที่เย็นชาคู่นั้นเริ่มเปล่งประกายแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนที่ยากจะเข้าใจ จนกระทั่งริมฝีปากของเธอค่อยๆอ้าปากค้างเล็กน้อย หรงโม่ยังไม่ค่อยเต็มใจที่จะปล่อยเธอ เขา ยังคงกอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขน ครั้งนี้เธอไม่ได้ขัดขืนเขา และยังคงอ้าปากเล็กน้อย อย่างเงียบๆ ขณะซบอยู่ในอ้อมกอด ได้ยินเสียงหัวใจอันทรงพลังเต้นอย่างรวดเร็วในหน้าอกเขา หัวใจนั้นเต้นเร็วมาก ราวกับว่าเป็นเช่นนี้ก็เพราะเธอ ภายในใจมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ “เธอคิดถึงฉันมั้ย” สักพักหนึ่ง เสียงที่ทุ้มต่ำของหรงโม่ได้ลอดเข้าไปยังหูของมู่จิ่งเหยียน เมื่อมองไปยังริมฝีปากอันแดงของผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน และกำลังถูกตนเองจูบนั้น ปากที่อ่อนช้อยดูน่ารัก แววตาที่แดงก็ค่อยๆดำสนิท ประกายตาดำแดงนั้นเปล่งประกายขึ้น แล้วถามไปเบาๆ มู่จิ่งเหยียน ยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร หรงโม่โอดครวญเล็กน้อย มีความกังวลทุกข์อยู่หัวใจลึกๆ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนใจแข็งจริงๆ ไม่นึกเลยว่าเธอจะไม่คิดถึงเขาเลยแม้แต่น้อย “เรื่องบริษัทตระกูลซู เป็นฝีมือคุณใช่มั้ย” มู่จิ่งเหยียนถามเขาอีกครั้งหลังจากเงียบไปช่วงหนึ่ง “ใช่” หรงโม่ตอบอย่างเรียบๆไม่ได้มีเหตุผล หรือข้อแก้ตัวใดๆ “เพราะอะไร” มู่จิ่งเหยียนประหลาดใจ มีบางอย่างที่เธอยังไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำ แต่ไม่อาจเงยหน้าขึ้นมองสายตาที่เยือกเย็นและลึกล้ำของหรงโม่ได้ “นั่นเป็นเพราะเธอ พวกเขารังแกเธอ ฉันก็เลยทำให้พวกเขาต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุด ขอแค่มีฉันอยู่ ฉันจะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้งเธอได้” หรงโม่พูดอย่างเยือกเย็น ความเย็นชาและเย่อหยิ่งในตัวเขา เผยให้เห็นถึงความสูงส่งและเอาแต่ใจ เมื่อมู่จิ่งเหยียนได้ฟังคำตอบของหรงโม่ หัวใจก็รู้สึกจุกขึ้นมาทันที แววตาที่เฉยเมยเริ่มพร่ามัว และนิ่งเงียบอีกครั้ง ภายในรถตอนนี้ ทั้งคันเต็มไปด้วยความเงียบอย่างผิดปกติ ผ่านไปห้วงเวลาหนึ่ง เขาคิดว่า มู่จิ่งเหยียนกำลังหลับอยู่ในอ้อมแขนตนเอง มีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆของมู่จิ่งเหยียน “นายต้องการอะไรจากฉัน” “ฉันแค่ต้องการเธอ!” หรงโม่ตอบอย่างจริงจัง แววตาที่ลึกล้ำนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะให้ได้ดั่งใจ ไม่กี่คำสั้นๆที่เด็ดขาดตรงไปตรงมานั้น ทำให้หัวใจของมู่จิ่งเหยียนเริ่มสั่น “หรือว่านายชอบฉันเหรอ” มู่จิ่งเหยียนมองตรงไปยังหรงโม่ สายตาอันเยือกเย็นมองเข้าไปยังหัวใจของหรงโม่ จู่ๆก็เอ่ยปากขึ้น ทันทีที่ได้ยินคำไม่กี่คำนั้น ร่างกายของหรงโม่ก็เริ่มสั่น ใบหน้าของเขาก็เริ่มแดงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เขาก็ไม่รู้ว่าเขาชอบรึเปล่า เขาแค่รู้ว่าเพิ่งจะได้พบกับผู้หญิงคนนี้เพียงไม่กี่ครั้ง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งทำให้ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอนั้นมันยิ่งฝังรากลึกไปภายในใจ หากไม่ได้พบเธอ เขารู้สึกลนลานอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดถึงเธอมาก จนไม่สามารถหลีกหนีออกจากผู้หญิงคนนี้ไปได้ นี่คือผู้หญิงคนแรกที่ไม่ทำให้เขารู้สึกรำคาญใจ และยังเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกอยากใกล้ชิดมาก เขาต้องการที่จะมอบความอ่อนโยนให้กับผู้หญิงคนนี้ และดูแลเธอให้ดีๆ ถ้าทำได้ เขาคิดที่จะมอบทั้งชีวิตนี้เพื่อให้ความอ่อนโยนเยียวยาเธอจากความอ้างว้างและเย็นชา “ถ้าฉันตอบตกลง คุณเต็มใจที่จะอยู่กับฉันไปตลอดใช่มั้ย” สายตาของหรงโม่มองจ้องไปยังมู่จิ่งเหยียน สายตาของทั้งคู่จ้องมองกัน อย่างไม่มีใครยอมใคร หรงโม่ถามออกไปอย่างจริงจัง “ไม่มีทาง!” มู่จิ่งเหยียนตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล โดยไม่ได้เบือนหน้าหนี แต่ก็ไม่กล้ามองเขาเต็มตา ดูเหมือนว่ากลัวที่จะถลำเข้าไปในดวงตาอันลึกล้ำของเขา สีหน้าของหรงโม่เริ่มหนักอึ้ง แววตาอันลึกล้ำเริ่มแสดงรัศมีของความเย็นชา แล้วถามออกไปอย่างหงุดหงิด “เพราะอะไร” “เพราะฉันไม่ได้ชอบนาย!” เธอตอบออกไปอย่างเด็ดขาด โดยไม่ลังเลสักนิด เสียงที่เย็นชาโดยไม่ผันผวนแม่แต่น้อย เหมือนดาบที่แทงทะลุเข้าไปยังหน้าอกเขา มันทำให้เขาตกตะลึงไปราวกับถูกฆ่า ริมฝีปากอันเย้ายวนถูกเม้มไว้แน่น หรงโม่มองไปยังใบหน้าของมู่จิ่งเหยียนอย่างสับสน รัศมีของอำนาจนั้นสะกดผ่านออกมาจากดวงตาอันลึกล้ำ พูดไปอย่างเยือกเย็น แฝงไปด้วยความเผด็จการและเอาแต่ใจ “วันหนึ่งฉันจะทำให้เธอชอบฉันให้ได้ ฉันเชื่อว่าวันนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว!” “นายแน่ใจเหรอ ว่าจะทำให้ฉันชอบนายได้” มู่จิ่งเหยียนอดไม่ได้ที่จะพูดถากถาง ผู้ชายคนนี้ไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหนกัน ชอบ เหอะ ตั้งแต่สามปีก่อนที่เธอถูกคนสองคนทรยศหักหลัง มู่จิ่งเหยียนก็ไม่เคยเชื่ออะไรในความรัก! “ใช่!” หรงโม่พยักหน้า ไม่ใช่เพราะเขาหยิ่ง แต่เป็นเพราะเขามั่นใจมากพอ มั่นใจว่ามีเสน่ห์ที่มากพอจะทำให้ผู้หญิงคนนี้รักเขาอย่างสุดหัวใจ มู่จิ่งเหยียนไม่แสดงความเห็น ได้แต่ยิ้มอย่างเฉยเมย รอยิ้มที่เย็นชาแลดูขัดหูขัดตา ความไม่มีเหตุผลนี้ทำให้เขาไม่พอใจและขมวดคิ้ว รัศมีของดวงตาเขาตอนนี้เผยให้เห็นความลึกล้ำที่ดูอันตราย มองที่เธอเบาๆ “หรงโม่ ไม่ว่านายจะมีเป้าหมายอะไร แต่ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็ไม่มีทางอยู่กับนาย หลังจากนี้ขอให้นายอย่ามาหาฉันอีก ลาก่อน” เสียงที่เยือกเย็นนั้นไม่มีอะไรจะเปรียบ คำต่อคำที่เคาะตีลงไปในหัวใจของหรงโม่ มันทำให้ใจของเขาจุกแน่น เมื่อเขารู้สึกตัว ก็พบว่ามู่จิ่งเหยียนได้ลงจากรถไปแล้ว ร่างกายที่อ่อนแอนั้นยังคงตั้งตรง เขารู้สึกโดดเดี่ยวและเฉยเมย ทำให้หรงโม่อดไม่ได้ที่จะปวดใจและสงสารตัวเอง รัศมีของดวงตานั้นบ่งบอกถึงความสับสน เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ใจแข็งอย่างกับหิน แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิงแบบนี้ โดยไม่มีทางหนีทีไล่เลยสักนิด เขาได้แต่ฝืนยิ้ม มือเอื้อมไปหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด แววตาแสดงออกถึงความรู้สึกโดดเดี่ยว ลอดผ่านหมอกควัน ไปยังประตูของมหาวิทยาลัยที่มีคู่รักเดินไปมากันอยู่ หัวใจรู้สึกขมขื่น เต็มไปด้วยความขื่นขมและเปลี่ยวเหงาอย่างบอกไม่ถูก โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อเขาก็ดังขึ้นมาพอเหมาะพอดี หรงโม่ขมวดคิ้ว มีเสียงสำลักควันบุหรี่ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมารับสาย ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะอันดูเจ้าเล่ห์ดังสวนมาจากปลายสาย “ได้ข่าวว่า หัวใจอันหนักแน่นไม่หวั่นไหวมาสามสิบปี ของคุณหรงถูกสั่นไหวซะแล้ว ผู้หญิงจากไหนกัน จะมีเสน่ห์มากพอจนทำให้ผู้มีจิตใจเยือกเย็นดั่งโพธิสัตว์ สามารถหวั่นไหวได้ ฉันนี่อยากรู้จริงๆ!” เสียงหัวเราะอันเย้ยหยันแสนเจ้าเล่ห์นั้น ทำให้หรงโม่ไม่พอใจจนขมวดคิ้ว รัศมีความเยือกเย็นได้แผ่ซ่านออกมาจากแววตาอันลึกล้ำมืดดำ “ช่วงนี้นายคงจะว่างมากสินะ ดูเหมือนว่า ฉันจำเป็นจะต้องไปเตือนคุณปู่ของนาย ให้รีบจัดการวางแผนเรื่องการนัดดูตัวแล้วหละ...” “โธ่โธ่ ได้ กับฉันนี่ไม่เห็นบอกอะไรเลยนะ ขี้งกจริงๆ ไม่ใช่ว่าเพราะฉันใส่ใจคุณเหรอ เป็นยังไง เมื่อไหร่จะกลับมาให้ฉันดูสักหน่อย มาเติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นให้ฉันหน่อย” เสียงเย้ยหยันนั้นยังคงพูดต่อไป เขาคือเพื่อนที่โตมาด้วยกันกับหรงโม่ ชื่อ ลู่เหวินเย่ “ไปให้พ้น!” “ไม่ใช่สิ อย่าบอกนะว่านายยังจัดการเรื่องผู้หญิงคนนั้นไม่เรียบร้อย หึ หึ เป็นถึงฮ่องเต้น้อยผู้สูงส่งอันดับหนึ่งของเมืองหลวง แต่ไม่สามารถจัดการเรื่องผู้หญิงคนเดียวได้ หรือว่านายต้องการให้ฉันไปช่วย ถ้าฉันลงมือให้นะ รับประกันว่าคว้ามาได้แน่นอน!” ลู่เหวินเย่หัวเราะเยาะเย้ย ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข “ถ้านายไปยุ่งกับเธอ ฉันจะจัดการกับนายก่อน!” “ไม่ใช่ล่ะ นี่นายเอาจริงเหรอ” “ก็นายพูดเอง!” หรงโม่พูดออกไปอย่างเย็นชาเพียงไม่กี่คำ ก็รู้สึกถึงได้ความไม่ปลอดภัย รัศมีอันดำมืดเผยให้เห็นถึงดวงตาอันลึกล้ำที่ไร้จุดสิ้นสุด ทำให้ลู่เหวินเย่ที่อยู่ปลายสาย ตัวสั่นอย่างไร้เหตุผล เหี้ยเอ้ย พ่อพระหัวใจสั่นไหวแล้ว มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ!
已经是最新一章了
加载中