ตอนที่ 18 โดนตีก้น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 18 โดนตีก้น
ตอนที่ 18 โดนตีก้น เธอคิดว่าพ่อเธอโทรกลับมาอีกครั้ง มู่จิ่งเหยียนก็ได้พูดน้ำเสียงที่เย็นชาออกไปโดยที่ไม่ทันได้ดู “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องกลับมาอีก พ่อฟังไม่รู้เรื่องรึไง!” ปลายสายโทรศัพท์อีกฝั่งหนึ่งเงียบไปชั่วขณะ และมีเสียงต่ำคล้ายเสียงคลื่นแม่เหล็กจากปลายสายดังขึ้น มีเสน่ห์ราวกับเสียงของเชลโล่ เผยให้เห็นถึงความสง่าผ่าเผยและความเยือกเย็นที่ไม่อาจต้านทานได้ “เธอเพิ่งคุยโทรศัพท์กับใครเหรอ” “นายเองเหรอ” เมื่อเธอได้ยินเสียง มู่จิ่งเหยียนก็ได้กระพริบตา เธอไม่คาดคิดว่าหรงโม่จะโทรมา“แล้วเธอคิดว่าใครล่ะ เธออยู่ไหน” ความเยือกเย็นและอันตรายของปลายเสียงอีกฝั่งในสาย ถามด้วยความโกรธและข่มเหงอย่างบอกไม่ถูก มู่จิ่งเหยียนได้ขมวดคิ้ว และพูดคำสองคำออกมาอย่างเย็นชา “เมืองหลวง!” “ตรงไหนของเมืองหลวง” ชายผู้กดขี่คนนั้นก็ได้รู้สึกโกรธแค้นและแสดงความไม่พอใจกลับมาอีกครั้ง เสียงโทนต่ำที่แหบห้าวนั้นเย็นชาและข่มขู่ “โรงแรมหวงเฉา!” “ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ……” มู่จิ่งเหยียนเพิ่งจะพูดออกมาแค่สี่คำ อีกฝั่งก็ได้ตัดสายไป และเป็นครั้งแรกที่มู่จิ่งเหยียนถูกชายคนนั้นตัดสาย เธอได้จ้องโทรศัพท์ในมืออยู่ครู่หนึ่ง แววตาที่เป็นประกายของเธอรู้สึกงุนงงเล็กน้อย อีกด้านหนึ่ง หรงโม่ได้วางโทรศัพท์ไป มีสีหน้าที่น่ากลัวจนน่าตกใจ รอบๆตัวเขา เผยให้เห็นถึงความเยือกเย็น และอันตรายอย่างยิ่ง ดวงตาสีเข้มคู่นั้นเผยให้เห็นถึงความโกรธอันน่าสะพรึงกลัว จนทำให้ผู้ช่วยหวินที่อยู่ข้างหลังรู้สึกตกใจเล็กน้อยจากความโกรธกับของเจ้านาย เขาได้อยู่กับเจ้านายคนนี้มาตั้งแต่อายุยังน้อยมาก และรู้จักอารมณ์ของเจ้านายดีที่สุด ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้น เจ้านายก็ไม่เคยไม่มีเสียงหัวเราะอีกเลย ปกติแล้วเขามักจะเป็นคนที่มีจิตใจเย็นชาไร้ความรู้สึก ราวกับเกิดมาอย่างไม่แยแสใคร เพียงแต่ไม่คิดว่าวันนี้จะโกรธพลุ่งพล่านขนาดนี้ ในขณะนั้นผู้ช่วยหวินก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น สุดท้ายแล้วผู้หญิงแบบไหนที่จะสามารถทำให้เขาไม่กลายเป็นคนขี้โมโหและใจเย็นลง อาจเป็นผู้หญิงบนข้อมูลนั้น ถึงแม้เป็นเพียงเอกสารแค่สามปี แต่ก็ไม่คิดว่าผู้หญิงที่ชื่อมู่จิ่งเหยียน จะพิเศษอะไรขนาดนี้! รถคันหนึ่งได้มาถึงชั้นล่างของโรงแรมหวงเฉาอย่างรวดเร็ว หรงโม่ได้ลงจากรถและได้มุ่งตรงไปในโรงแรมทันที ความโกรธทั่วทั้งร่างของเขาไม่มีท่าทีที่จะลดลง นึกถึงแต่ผู้หญิงคนนั้นโดยไม่มีคำพูดใดๆและก็ได้ออกจากเมืองb เขานึกว่าเขาจะสูญเสียเธอไปเสียแล้ว ถึงตอนนี้เขารู้สึกตื่นตระหนกขึ้นในใจอย่างชัดเจน เมื่อเขาหาเธอไม่เจอ ตามหาจนทั่วเมืองb สุดท้าย เมื่อหาไปที่บริษัทสายการบินก็ได้พบข้อมูลเที่ยวบินของผู้หญิงใจแข็งคนนั้น ยิ่งคิดหรงโม่ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น สีหน้าก็เริ่มบึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆ เขาช่างน่ากลัวซะจริงๆ เธอถึงได้เกลียดเขาขนาดนี้ เกลียดจนทนไม่ไหวก็เลยต้องหนีออกมาแบบนี้ เขาได้ถามหมายเลขห้องที่มู่จิ่งเหยียนเข้าพักกับพนักงานแผนกต้อนรับ แม้แต่บัตรห้องพักก็ได้ถูกจัดเตรียมเอาไว้ โรงแรมหวงเฉาเดิมเป็นโรงแรมที่อยู่ภายใต้ของบริษัทตระกูลซู จึงไม่มีใครกล้าที่จะขัดขวาง หรงโม่เดินไปพร้อมกับความโกรธเป็นฟืนไฟ และคิดอยู่ในหัวว่าจะลงโทษกับผู้หญิงที่ไม่เชื่อฟังคนนี้ได้อย่างไร บทเรียนครั้งนี้เธอจะต้องจดจำได้อย่างลึกซึ้งแน่นอน ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไปหากเธอหนีไปไหนอีก แล้วเขาหาไม่เจอจะทำอย่างไร! “แอ๊ด” เสียงประตูห้องที่มู่จิ่งเหยียนอยู่ในนั้นได้ถูกเปิดออก หรงโม่ผลักประตูเบาๆแล้วเข้าไป ทั้งห้องมืดสนิท มีเพียงแสงไฟงดงามลอดผ่านหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน ภายในห้องที่เย็น หรงโม่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ย่องเข้าไปในห้อง ได้เห็นร่างเธอนอนหลับอย่างสนิทอยู่บนเตียงผ่านเงาของแสงจันทร์ เมื่อได้มองดูร่างเพรียวบาง ทำให้เขาคิดจะทำอะไรบางสิ่งบางอย่างที่บ้าคลั่ง ความโกรธที่มีก็หายไปในทันที ดวงตาสีเข้มจดจ้องมองร่างเล็กที่อยู่บนเตียงอย่างไม่กระพริบ ในดวงตามีความรู้สึกเยือกเย็นที่สัมผัสไม่ได้ยากที่จะอธิบาย เสียงอันเงียบงันอยู่ทางประตูห้องสักพักหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงหายใจต่ำในอากาศที่นิ่งเงียบ ในใจก็เต็มไปด้วยความหงุดหงิด และรู้สึกได้ว่ามันได้กระซิบใกล้เข้ามาข้างๆเตียงนอน และปลุกให้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เงามืดก็ได้ปกคลุมลงท่ามกลางความสะลึมสะลือ มู่จิ่งเหยียนที่กำลังนอนอยู่ก็รู้สึกถึงบรรยากาศผิดปกติไปจากที่คุ้นเคย เหมือนกำลังอยู่ในความลึกลับที่ ในตอนแรกตื่นขึ้นมาพร้อมความงุนงง ดวงตาสีดำเข้มที่เย็นชาก็ได้ปรากฏขึ้นมาในความมืด แวบแรกก็เห็นมีร่างสูงยืนอยู่ข้างเตียง “ใคร” เสียงอันเย็นชาได้ส่องผ่านความเยือกเย็นมายังกระดูก ทันใดนั้นร่างสูงก็เดินเข้ามาข้างเตียง และร่างเล็กกะทัดรัดก็ได้ยื่นมือออกไปที่หรงโม่รวดเร็วราวกับเสือชีตาห์ หรงโม่ได้สะดุ้งตกใจ ทันใดนั้นเขาได้โดนผู้หญิงร่างเล็กที่กำลังนอนหลับอยู่กรีดร้องใส่ และเขาได้ยื่นมือใหญ่ของเขาออกมาปะทะกันอย่างฉับพลัน สวมร่างเล็กรัดไว้ในอ้อมแขนอันเอาแต่ใจ และได้กอดรัดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา เส้นเสียงโทนต่ำอันเยือกเย็นก็ได้ดังขึ้น อยู่ในความมืดมนอย่างแผ่วเบา “ฉันเอง!” เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนั้น มู่จิ่งเหยียนก็พลันตกใจ ลมหายใจที่มีกลิ่นของบุหรี่ที่คุ้นเคยได้โชยเข้าไปยังปลายจมูก เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น “นายมาอยู่นี่ได้ยังไง” ทันทีที่ได้เขาได้ยินมู่จิ่งเหยียนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา หรงโม่ก็ได้สำลักลมหายใจออกมา ตอนที่ได้เห็นผู้หญิงตัวน้อย ความโกรธเป็นฟืนไฟก็ได้พลันสลายไป ดวงตาอันคมเข้มได้มองลึกไปยังผู้หญิงในอ้อมแขนที่มีความเย็นผ่านเข้ากระดูก จ้องมองหญิงสาวในอ้อมแขนอย่างน่าอันตราย จู่ๆ ก็ได้คว้าเอาร่างเล็กของสาวน้อยกอดรัดไว้ด้วยไหล่อย่างแนบแน่น พร้อมยื่นมือเรียวเหมือนหยก ฟาดไปที่ก้นของมู่จิ่งเหยียนอย่างเต็มแรง ความแรงไม่หนักแต่ก็ไม่เบา เสียง ”เพี๊ยะเพี๊ยะ” นั้นดังชัดมากภายในห้องที่เงียบสงบ แป๊บเดียวมู่จิ่งเหยียนก็ได้หลับตาปี๋ สะดุ้งตกใจ จนพูดอะไรไม่ออก หรงโม่กระชากเธอเข้ามาในอ้อมแขนแล้วก็ตีก้นของเธอซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นช่วงเวลาที่อยู่เฉยๆก็น่ารัก จนกระทั่งความรู้สึกที่กำลังตกใจอยู่นั้นได้กลับมา สงสัยว่าชายคนที่กำลังกอดรัดตัวเองอยู่นั้น กำลังคิดจะทำอะไรอยู่ ผู้ชายที่อยู่ๆมาตีก้นเธอ ทำให้ใบหน้าที่เย็นชาของเธอเริ่มมีสีแดงเขินอายขึ้นมาจริงๆ “หรงโม่ นายทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” โตมาจนป่านนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกตีก้น อีกทั้งคนที่มาตีก็ยังเป็นผู้ชายอีก ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายคนนี้ยังเป็นผู้ชายอันตรายที่อาจจะทำให้เกิดเรื่องความสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืน บนใบหน้ารูปไข่เล็กๆที่เขินอายของมู่จิ่งเหยียนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง และไม่มีความเฉยเมยของความเย็นชาอีกต่อไป มีแต่เพียงความรู้สึกอับอาย และหน้าก็ได้แดงเพิ่มขึ้น! ผู้ชายคนนี้มาตีก้นอันน้อยๆของเธออย่างไร้ยางอายได้อย่างไรกัน! หรงโม่ได้แต่จับมือเธอที่กำลังขัดขืนอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้เธอหลุดออกไปไหนได้ มืออีกข้างหนึ่งก็ยังไม่หยุดตีก้นของมู่จิ่งเหยียน ไม่มีทีท่าที่จะหยุดแม้แต่น้อย แต่กลับยิ่งตีหนักขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าทำให้มู่จิ่งเหยียนได้จดจำบทเรียนครั้งนี้ ใครใช้ให้ผู้หญิงคนนี้ไปไหนแบบไม่บอกสักคำ
已经是最新一章了
加载中