ตอนที่ 6 จับสัตว์ร้าย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 6 จับสัตว์ร้าย
ช่วงเวลาเช้า ชาวบ้านแห่งป่าเขากำลังยืนมองดูสิ่งที่อยู่จุดศูนย์กลาง ล้อมรอบเป็นวงกลมเต็มวง นายพรานที่อยู่ใกล้ๆสิ่งนั้นวางเสื่อลงบนสิ่งไม่มีชีวิตที่ถูกสังหารเมื่อคืนที่แล้ว สภาพศพที่ไร้วิญญาณเปื้อนไปด้วยน้ำเลือดสีแดง ลำคอมีรอยแผลเกือบขาด แผลเริ่มจากหน้าอกจนถึงหน้าท้องถูกฉีกขาด ไส้ขาดหายไปบางส่วน เด็กๆที่มาดูก็ถูกปิดตาจากผู้ใหญ่ ศพนั้นถูกพบกลางป่าเพราะไปล่าสัตว์โดยนายพราน ชายคนหนึ่งโผล่มาจากรอบวง เขาคือหัวหน้าหมู่บ้าน ใบหน้ามีหนวดเคราสีดำเข้มยาวๆ \"ทุกค่ำคืนนี้ ห้ามทุกคนออกจากหมู่บ้านนี้เด็ดขาดไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ปีศาจร้ายจะอาละวาดในช่วงดึกๆ ข้าจะเชิญแม่หมอมาขับไล่ภูตผีปีศาจ\" ป่าวประกาศ เสียงดังสนั่นท่ามกลางผู้คน ทำให้หลายคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นรู้สึกอกสั่นขวัญหายไม่น้อย ใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป ไม่มีใครสักคนที่อยากตายกับสภาพศพเช่นนี้ จางลู่กับจางลิ่วจับมือกันฟังหัวหน้าหมู่บ้านพูด จางลู่ได้สัมผัสถึงความสั่นสะเทือนของมือน้องสาวนามจางลิ่ว \"ท่านพี่หญิง ข้ากลัว \" จางลิ่วจินตนาการไปไกล ไม่รู้ว่าหน้าตาปีศาจร้ายเป็นอย่างไร? และยกมือสองข้างขึ้นมากอดแขนพี่สาวที่ปกคลุมด้วยผ้าสะอาดๆ กลิ่นหอมดั่งเช่นดอกไม้สด \"เจ้าไม่ต้องกลัวแล้ว นี้คือเวลากลางวัน ตอนนี้ไม่ใช่ยามค่ำคืนอันมืดมิด\" จางลู่ถอนหายใจเบาๆ พลางกล่าว เหตุการณ์วันนั้น เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้สาวน้อยจางลู่รู้สึกสนอกสนใจและเกิดความสงสัย นางกำลังคิดแผนการอะไรบางอย่างอยู่ในใจ \"คืนนี้ข้าจะออกจากบ้าน ข้าจะไขความลับและสืบด้วยตัวข้าเองนี้ให้ได้ ถ้ามันเป็นผีจริงๆล่ะก็มันน่าจะโผล่มาแล้ว\" สาวน้อยร่างบางนามจางลู่ยิ้มอ่อนๆ ด้วยความตื่นเต้น และคิดจะทำอะไรพิเรนทร์ เมื่อเพลาค่ำมาถึง จางลู่รีบเข้านอน เตรียมตัวเตรียมใจออกไปสืบค้นหาความจริง สิ่งของที่เตรียมไว้อยู่ข้างๆกายนางและนางได้เก็บซ่อนไว้ ไม่ให้ใครรู้ใครเห็น มีดสั้นจากห้องครัว โคมไฟ เชือก ผ้าคลุม ที่สำคัญที่สุดคือ นางได้เพิ่มพลังหยินหยางให้แข็งแกร่งทั้งกายและใจอย่างอาเฟยหงได้สอนนาง นางสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ ปฎิบัติเช่นนี้ก่อนเข้านอน แต่นางนอนไม่หลับเพราะรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา คิดว่าจะทำอะไรบ้างในเวลาข้างหน้า? ความเงียบสงัดปกคลุมไปทั่วหมู่บ้าน มีแต่เสียงจิ้งหรีด เสียงลมกระทบกิ่งไม้ เวลาค่ำคืนยิ่งหนาวเย็น ก้าวเท้าและย่องให้เบาที่สุดขณะออกจากบ้าน ปิดประตูบ้านอย่างเงียบๆ ในที่อ้างว้างไร้ผู้คน ค่อยๆเดินไป บางจังหวะก็ก้าวเท้าเร็วด้วย รอบนอกหมู่บ้านสังเกตเห็นใครสักคน ยืนอยู่ใกล้แสงไฟ ถ้าจะมองใกล้อีกที ชายหนุ่มจำนวนห้าคนอยู่ข้างหลังแม่หมอที่เคยเจอวันนั้น แม่หมอขยับปากไปมาคล้ายๆปล่อยคาถา ข้างหน้าใกล้ๆเทียนไขสีเหลืองสองเล่ม มีเนื้อไก่สดๆ น้ำเลือดแดงเข้มบรรจุอยู่ในถ้วยใบหนึ่ง \"ข้ากลัว ข้าอยากกลับบ้านแล้ว\" ชายหนึ่งพูดขึ้นขณะถือมีดเล่มยาวอย่างหวาดกลัว \"เราว่าเผ่นหนึก่อนดีกว่า ข้าไม่อยากตาย ข้าไม่อยากตาย\" ชายสองถือขวานในมืออย่างสั่นไหวรุนแรง \"หุบปาก\" แม่หมอตะคอกเสียงดังอย่างน่ารำคาญ \"ข้ากำลังท่องคาถาอยู่ ถ้าไม่อยากตายก็อย่ารบกวนพิธีกรรมของข้า หึ เจ้าเด็กน้อย\" นางลืมตาและมองสองหนุ่มอย่างน่าเกลียดน่ากลัว ดวงตาแข็งกระด้าง สาวน้อยจางลู่ที่หลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่และได้ดับโคมไฟจนมอดดับก็ตะลึงกับดวงตาอันดุดันของแม่หมอภายใต้แสงเทียนสาดส่องใบหน้าเช่นเดียวกัน \"เฮ้อ คนอันใดน่ากลัวยิ่งกว่าผี\" นางพลางคิดในใจ สาวน้อยจางลู่ก็มองดูตรงนั้นอีกครั้ง เงาขนาดใหญ่และแน่นอนคือสัตว์เดียรัจฉานเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าท่ามกลางความมืดมิด แสงจากดวงจันทร์ทำให้มองเห็นตัวประหลาดนั้นอยู่บ้าง หารู้ไม่ว่า มันตามมาทางกลิ่นคาวเลือดจากถ้วยใบหนึ่งที่ตั้งบนโต๊ะบูชา กลิ่นเลือดนั้นทำให้มันโหยหาและกระตุ้นความหิวโหยได้ดี \"นั่นไง มันมาแล้ว\" ชายคนแรกที่เห็นก่อนจึงได้บอกทุกคนรอบกาย \"ในที่สุดก็ออกมาสักที นางปีศาจร้าย หึหึ\" แม่หมอได้หัวเราะดังลั่นหลังจากพูดประโยคหนึ่งเสร็จ \"วันนี้คือวันที่ข้าจะส่งเจ้าลงนรก\" หญิงคนนั้นชักดาบขึ้นมาอย่างมั่นใจ แสงดาบวิบวับต้องแสงจันทรา แต่แล้ว มันไม่ใช่ภูติผีปีศาจอย่างที่แม่หมอคิด \"สะ สะ เสืออออออ\" ชายหนึ่งพูดอย่างสั่นเครือ ทุกคนเผ่นหนึ ยกเว้นแม่หมอ และนางนั้นก็อ้าปากค้างทั้งๆที่ถือดาบเล่มหนึ่งอยู่ ลำคอของนางจึงถูกปกคลุมด้วยปากของสัตว์สี่เท้าขนาดใหญ่ แขนทั้งสองข้างถูกเล็บของมันทิ่มแทง เลือดสีแดงจากลำคอพุ่งกระฉูด แต่เสือไม่รู้จักพอ อยากเก็บเหยื่อไว้ให้มากจนเต็มท้อง และทิ้งร่างอันไร้วิญญาณนางแม่หมอก่อน กระโดดวิ่งไล่ตามชายหนึ่งอีกคนหนึ่ง เขาสะดุดก้อนหินจึงล้มลงไปและนอนคว่ำที่พื้นเต็มไปอันด้วยใบไม้แห้งแสนเปราะบางและกิ่งไม้แห้งแท่งเล็กเท่าไม้ขีดไฟ หลังจากวิ่งสุดชีวิตก็ยังเกิดความพลาดพลั้ง เสือร่างใหญ่จึงมีโอกาสตะครุบเหยื่อที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างดี จางลู่เห็นเสือร้ายวิ่งไปล่าเหยื่อ สาวน้อยคนนี้พุ่งไปหยิบเนื้อไก่สดหนึ่งตัวทันที วิ่งอย่างรวดเร็วตามเสือตัวใหญ่ นางได้ละทิ้งโคมไฟระหว่างทางเพราะของที่ติดตัวมันดูเกะกะ วิ่งไม่สะดวก ในกำมือน้อยๆนั้นมีเชือก ไก่สด ส่วนมีดสั้นคาดเอวไว้ด้วยผ้าผืนยาวๆ สักแวบหนึ่ง นางคิดวิธีล่อเสือโคร่งตัวสีเหลือง ลายสีดำ เชือดไก่จนน้ำสีแดงไหลหยดย้อยลงพื้น กลิ่นอันน่าหิวโหยลอยมากระทบประสาทรับรู้กลิ่นของมัน ทันใดนั้นเองวิธีนี้ก็ได้ผล เสือนั้นจึงหยุด มองหาที่มาหรือต้นตอของกลิ่นนั้นๆ เดินวนขวาครึ่งวงกลม ภาพที่เห็นคือ สาวน้อยยื่นเนื้อไก่อาบเลือดตรงหน้า แต่เจ้าเสือโลภมากอยากได้ทั้งไก่และมนุษย์ ชายหนุ่มที่นอนกองกับพื้นดินปะปนด้วยใบไม้แห้งและกิ่งไม้ กำลังมองดูนางฟ้ามาโปรด ค่อยๆมีความหวังขึ้นมาบ้าง นางเริ่มพูดกับเสือ \"เข้ามาสิ ไอ้เสือบ้า กล้าดีนักหรือ? ข้ามีอาหารอันโอชะมาให้เจ้าแล้ว\" แต่เสือมันไม่เข้าใจภาษามนุษย์ สิ่งที่มันตอบกลับคือ ส่งเสียงคำรามอันดังก้องพร้อมกับความหิวโหยกลางป่าเขา เวลานั้นเอง เท้าของเจ้าลู่เริ่มเร่ง จนเสือขยี้ฝีเท้าก่อนจะวิ่งตาม มีหรือสาวน้อยคนนี้จะมีความหวาดกลัว? นางไม่ได้คิดจะหนีไปไกลเพราะนางมีแผนในใจ และวิ่งไปสู่ต้นใหญ่ที่มีความไกลสัก 15 ก้าว เท้าเหยียบต้นไม้เหมือนเดินบนพื้นดินอย่างว่องไวถ้าช้าจะปีนขึ้นไม่ได้ พลังหยินหยางช่วยได้จริงๆ เหมือนได้ทานข้าวหลายจานจนได้พลังงานมากมายเหลือล้น และแล้วความเร็วของเสือทำให้พุ่งกระทบกับต้นไม้อย่างแรง ความรู้สึกเจ็บบนหน้าผากของเจ้าเสือโคร่งลายสีดำตามตัว พร้อมกับความบวมช้ำที่เป็นร่องรอยสีม่วงและแดงของเลือดมารวมตัวกัน ร่างบางๆของสาวน้อยพลิกกลับและดิ่งลงบนตัวเสือทำให้ได้ขี่คอเสือในเวลานั้น ใช้เชือกรัดคออย่างรวดเร็วและแน่นขึ้น แต่เสือก็ยังดิ้นไม่หยุด ถ้ามีดาบพกติดตัวก็ยังดี ความยาวของดาบทำให้เสือได้แผลที่ลึกขึ้นได้ ความเจ็บปวดในลำคอของสัตว์สี่เท้าอย่างเสือโคร่ง พยายามดิ้นแรงขึ้นจนร่างบางๆสาวน้อยจางลู่พลัดพรากจากร่างเสือ นางไม่ลดละความพยายาม คว้าเนื้อไก่สดแล้วใช้ปลายเชือกมามัดเพื่อน้ำหนักของเชือกเส้นหนึ่ง ก่อนโยนขึ้นท้องฟ้าและลอยผ่านอากาศจนสามารถผูกติดกับกิ่งไม้ที่มีแข็งแรงเพียงพอ นางตะโกนเรียก \"ท่านพี่ ท่านพี่ มาช่วยข้าจับเชือกเส้นนี้ มาดึงเชือกนี้เร็ว จะมองดูทำไมให้นาน? เดี๋ยวข้าจะจัดการเสือตัวนี้เองเจ้าค่ะ\" \"ได้ เดี๋ยวข้าช่วยเจ้า\" ชายผอมบางคนหนึ่งตอบรับอย่างไม่ลังเล สักพักชายหนุ่มหุ่นผอมบาง เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่นเนื่องจากหกล้ม รอยแผลนิดๆปรากฏตามท้องแขนทั้งสองข้าง เขาจึงก้าวเท้าอย่างรวดเร็วแต่ยังมีความหวาดกลัวภายในใจแต่ก็จำใจต้องทำเพื่อความปลอดภัยในชีวิต ร่างของเสือห้อยโต่งเตงกับกิ่งใหญ่และหนาของต้นไม้ น้ำหนักของเสือทำให้คนเดียวยกขึ้นไม่ไหว วิธีที่ดีที่สุดในการปราบเสือ คือ ใช้เวลาไม่นาน \"ท่านพี่ดึงตรงนี้คนเดียวเจ้าค่ะ ท่านพี่ไม่ต้องห่วง อดทนไว้เถิดเจ้าค่ะ\" สิ้นคำพูด นางก็เร่งมือ มือข้างขวาจับด้ามมีด ดึงออกจากผ้าที่แนบไว้ข้างกาย ผ้าผืนนั้นถูกตัดขาดเสียแล้วเพราะความคมของใบมีด นางไม่สนใจผ้าผืนนั้นหรอกว่าจะมีราคาแพงสักเพียงใด สิ่งที่นางสนใจที่สุดคือวิ่งและกระโดด มองดูตรงหน้าอกของสัตว์เดียรัจฉาน ณ เวลานั้นเอง ตัวนางลอยละลิ่วกลางอากาศ ความมืดใต้ดวงดาวและดวงจันทร์ หญิงหนึ่ง ชายคนหนึ่ง และเสือที่อยู่ท่ามกลางแมกไม้หลายต้น ’ฉึบ!’ เสียงของมีดสั้นถูกปักบนร่างของเสือ หัวใจของมันถูกทำลายจนกระทั่งหยุดเต้น หยดเลือดสีแดงคล้ายถั่วแดงเม็ดหนึ่งก็ได้ดิ่งสู่พื้นบนใบไม้แห้ง สาวน้อยคนนั้นสามารถปราบปรามเสือโคร่งทั้งที่อายุยังน้อย แถมยังมีความเป็นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งด้วยซ้ำ มีคนเดียวที่จับเชือกค้างไว้อยู่ก่อนจะปล่อยให้หลุดมือก็รู้สึกตะลึงลานกับความกล้าหาญของนาง ดวงตาและปากได้เบิกกว้างเมื่อเห็นภาพวาดสาวน้อยสังหารพยัคฆ์ร้ายใต้แสงจันทร์
已经是最新一章了
加载中