ตอนที่ 14 เริ่มผจญภัยต่างแดน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 14 เริ่มผจญภัยต่างแดน
หิมะสีขาวโพลนค่อยๆ จางลงตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง ทำให้เริ่มเห็นสีเขียวบนต้นไม้อย่างชัดเจนขึ้น มองเห็นสีตาล อมดำของเปลือกไม้อย่างชัดเจนขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน หิมะกำลังละลายกลายเป็นน้ำ ทำให้พื้นนั้นลื่นและเปียกชื้น จึงค่อยเดินอย่างระมัดระวัง ไม่งั้นอาจจะลื่นล้มได้ สระน้ำกลางเรือนเริ่มปรากฏได้ชัดเจนขึ้น คนใช้ถือได้ปล่อยปลาคราฟสีสันหลากหลายและมีความสวยงามลงอยู่ในบ่อนั้น น้ำสะอาดใสจนเห็นก้นสระ ใต้ผืนน้ำประกอบไปด้วยหินและกรวด รอบๆ สระนั้นได้ปลูกดอกเบญจมาศ ดอกทานตะวันและกุหลาบสีขาว สีชมพู และสีแดงซึ่งถูกจัดเป็นกลุ่มสีต่างและตัดกัน บ่งบอกได้ว่าฤดูร้อนใกล้เข้ามาเยือน หลงหู พี่ชายของจางลู่ แผลของเขานั้นเริ่มแห้ง มองเห็นเกล็ดเลือดสีดำที่ติดกับผิวหนัง สามารถเปิดผ้าปิดแผลออกมาได้ พอเดินได้สะดวกยิ่งขึ้น อาการบาดเจ็บก็ทุเลาลงด้วย ขณะที่จางลู่กำลังพับเสื้อผ้า จัดเก็บสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวใส่ในหีบไม้ และมีแม่นางฟางฟ่าง สาวใช้อีกคนมาช่วยอีกแรง \"คุณหนูลืมอันใดหรือไม่เจ้าคะ? \" แม่นางฟางฟ่างพลางก้มหน้าตรวจสอบสัมภาระที่อยู่เบื้องหน้า และสาวน้อยจางลู่ก้มหน้าพลางพับผ้าพลางเช่นเดียวกัน \"งั้น บอกข้ามาสิ\" แม่นางฟางฟ่างมองไปที่เพดานแล้วนึก ราวกำลังครุ่นคิดบางอย่าง\"ปิ่นปักผม หวี แป้ง ลิปทาปาก\" \"ข้าไม่ได้แต่งหน้า ประทินเพื่อแสดงความงามต่อชาวบ้าน ข้าจะไปตามหายารักษาน้องสาวของข้า\" จางลู่หยุดพูดแล้วนึกคิดสักครู่ \"อ่อ งั้น เอาไปเผื่อด้วย ถ้าจำเป็นต้องได้ใช้มัน\" และจางลู่ก็ยอมเปลี่ยนใจ \"เจ้าค่ะ เจ้าค่ะคุณหนู เอ่อ.... แล้วให้ข้าไปด้วยได้หรือไม่? \" แม่นางฟางฟ่างฉีกยิ้มอย่างชื่นบาน จางลู่ตอบเสียงแข็ง \"ไม่ได้ ไม่ได้ มันอันตราย เจ้ารู้หรือไม่? \" \"รู้เจ้าค่ะ แต่...แต่ใครจะคอยรับใช้ คอยดูแลคุณหนูเจ้าคะ? คุณหนูจะลำบากเป็นแน่\" จากนั้น แม่นางฟางฟ่างก็เปลี่ยนสีหน้าราวเป็นกังวล \"อืม งั้นเจ้าต้องพกมีดไปด้วย ถ้าเจ้าอยากไป\" จางลู่ตอบรับ แม่นางฟางฟ่างพูดด้วยความหวั่นไหว \"ห๊ะ อันใดเจ้าคะ? ข้าฆ่าคนไม่ได้ ข้าทำไม่ได้! ไม่! ข้าไม่ทำ! \" นางส่ายศีรษะยิกๆ ยืนยันคำเดิม จางลู่ถอนหายใจยาว \"ถ้าเจ้าไม่ทำ เจ้าก็ต้องตาย เจ้าอยู่ที่นี่แหละ ดูแลน้องสาวของข้า\" \"เอ้า คุณหนู! ข้ากลัวแล้วเจ้าค่ะ\" นางพูดอย่างเสียงสั่น แม่นางฟางฟ่างก็ยอมทำตามที่คุณหนูสั่ง \"ตกลง เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่? \" จางลู่มองหน้าแม่นางฟางฟ่างขณะพับเสื้อผ้าอยู่ แม่นางฟางฟ่างก้มศีรษะเบาๆ ใบหน้าเปลี่ยนแล้วฉีกยิ้ม \"ไป ไปเจ้าค่ะ\" สักพักหนึ่งสาวน้อยจางลู่มองดูถุงขนาดเล็กสีเหลือง ผูกด้วยด้ายหนาๆ แล้วเปิดออกหลังจากที่นางพับผ้าเสร็จ \"นี้คือ สองหยวนเป่ากับสิบเหรียญ\" ฟางฟ่างทำหน้างุนงง \"โห คุณหนูให้ข้าเยอะขนาดนี้เลยหรือ? \" \"ไม่ใช่ ข้าให้เจ้าไปซื้อมีดสั้นมาสองเล่ม เล่มหนึ่งสำหรับข้า อีกเล่มสำหรับเจ้า ซื้อมาไว้ป้องกันตัว เจ้าจะรับหรือไม่? \" บนฝ่ามือจางลู่มีเงินทองอยู่เบื้องหน้า ยื่นให้สาวใช้ แม่นางฟางฟ่างจึงแบมือข้างขวารับ \"เจ้าค่ะ\" แล้วนางลุกขึ้นเพื่อออกไปข้างนอก \"เดี๋ยวก่อนแม่นางฟางฟ่าง\" จางลู่เรียกสาวใช้ทันใดเพราะรู้สึกว่าต้องการบางอย่าง แม่นางฟางฟ่างก็หันหลังกลับ จางลู่พูดช้าๆ นึกคิดพลาง \"ข้าลืมไป ซื้ออีกเล่มหนึ่งสำหรับเสี่ยวปาลี่ ซื้อผลไม้แห้งด้วย แล้วอย่าลืมบอกเสี่ยวปาลี่ว่าห่อบะหมี่ที่ตากแห้งแล้วมาด้วย\" แม่นางฟางฟ่างก้มศีรษะหนึ่งครั้ง \"ได้เจ้าค่ะ\" ยามเช้ามืด หน้าเรือนทางเข้า-ออกประตูใหญ่ ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินผ่านกำแพงที่ทำด้วยอิฐและผ่านประตูหน้าเรือนไปมา บ้างก็หาบสินค้า บ้างก็ถือตะกร้า เสียงเด็กน้อยหยอกล้อกันไปมาอย่างสนุกสนาน บางคนก็อุ้มเด็กน้อยตัวเล็กเพื่อเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยที่ร้านค้ากลางเมือง แม่นางหลิวอี้กอดบุตรีคนหนึ่งอย่างแนบแน่นและลูบเส้นผมยาวๆ อย่างนุ่มนวล นางกล่าวทั้งน้ำตาและได้กล่าวอย่างเป็นห่วงว่า \"จางลู่ลูกแม่ เจ้าจะออกเดินทางแล้ว ขอให้เดินทางด้วยความปลอดภัยเถิด ดูแลตัวเองให้ดีๆ ลูกไปอยู่ห่างไกลครั้งแรก แม่คงคิดถึงเจ้ามากยิ่งนัก\" จากนั้นนางก็หอมแก้มจางลู่ทั้งซ้ายและขวา สาวน้อยจางลู่กอดมารดานางหนึ่งอยู่ แล้วกล่าวกับมารดาอย่างอ่อนโยน \"ท่านแม่ก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ เช่นกันเจ้าค่ะ ข้าคงไม่ได้มาดูน้องสาวนานๆ ครั้ง ฝากท่านแม่ดูแลจางลิ่วด้วยเจ้าค่ะ\" \"เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวทางนี้ข้าจะดูแลน้องเอง\" นางยังคงกอดบุตรสาวอยู่ตรงนั้นเหมือนไม่ให้บุตรสาวไปไหน จากนั้นจางลู่เข้าไปหาท่านพ่อหลงหานและพี่ชายใหญ่ ก่อนจะกล่าวบางอย่าง \"ข้าขอลา ท่านพ่อและท่านพี่เจ้าค่ะ\" จางลู่ประสานมือเบื้องหน้าเหมือนแสดงความเคารพ และพ่อหลงหานก็แตะศีรษะของสาวน้อยจางลู่เบาๆ และได้มอบแผนที่กับจดหมายหนึ่งฉบับส่งไปที่จางลู่ \"ลูกพ่อ รีบกลับมาเถิดหนา ข้าจะรอ\" ท่านพ่อหลงหานกล่าวอย่างโศกเศร้า เวลานั้นน้ำตาหลั่งไหลเป็นหยดเล็กๆ ดั่งสายฝนทำให้แก้มทั้งสองข้างของบุตรสาวเปียกทันใด โจเลี้ยวเดินเข้ามาพร้อมด้วยนักรบสามนาย เขายิ้มแย้มและเป็นมิตร กล่าวกับพี่สะใภ้อย่างยินดีว่า \"ข้าขอมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้ท่านพี่หญิงขอรับ หวังว่าท่านพี่หญิงจะถูกใจ\" จางลู่รู้สึกประหลาดใจขณะที่แก้มของนางเปื้อนน้ำตาอยู่ จึงได้ถามโจเลี้ยวด้วยความสงสัย \"ของขวัญท่านพี่อยู่ข้างหลังข้า ท่านพี่เห็นหรือไม่? \" และนางก็เหลียวมองขึ้นลง วนซ้ายวนขวาเหมือนหาอะไรไม่เจอ \"ข้าไม่เห็นมีอันใด? นี่เจ้าล้อเล่นกับข้าหรือ? ทำไมมันว่างเปล่าเยี่ยงนี้ ของขวัญอันใดเล่า ในมือก็ไม่มีสักชิ้น\" จางลู่ได้กล่าวทั้งหัวเราะ ทั้งน้ำตาไหลทำให้นางปรับอารมณ์ไม่ทัน เหมือนทั้งสองคนกำลังหยอกล้อกัน \"ข้าไม่ได้ล้อเล่นขอรับท่านพี่หญิงของขวัญในที่นี้ แท้จริงแล้ว คือ....? \" โจเลี้ยวก็ได้พลิกลำตัว เอียงไปข้างหลัง \"แท้จริงแล้ว คือ นักรบทั้งสามนายที่ข้าจะมอบให้เพื่อดูแลความปลอดภัยของท่านพี่หญิงขอรับ สองคนนั้นจะเน้นใช้ดาบ อีกคนหนึ่งนั้นแม่นธนูขอรับ\" วินาทีนั้น จางลู่อ้าปากค้างและใช้มือปิดปากอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ นางรู้สึกดีอกดีใจและขอบคุณอย่างบอกไม่ถูก มีเพื่อนร่วมเดินทางมาอีกสามคน นางสะบัดมือ กระทบบ่าของโจเลี้ยวเบาๆ \"ข้านึกว่าเจ้าจะล้อข้าเล่นเสียแล้ว ที่แท้ของขวัญเจ้าก็เป็นคนเหล่านั้นนี้เอง งั้น ถ้าข้าไม่ได้ใช้งาน ข้าต้องคืนเจ้าหรือไม่? \" โจเลี้ยวยกมือขึ้นมาสะบัดซ้ายขวา \"ไม่ต้องคืนขอรับ ท่านพี่หญิง เขาคือคนของพวกเรา เราไม่จำเป็นต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน และที่สำคัญท่านพี่สามารถใช้คำสั่งตามที่ท่านพี่ต้องการ เพราะว่าท่านพี่คือเจ้านายของเขาอีกคนหนึ่ง วางใจได้ขอรับ\" จางลู่ยิ้มกว้าง \"น้องเขย น้องเขย เจ้าช่างมีน้ำใจต่อข้ายิ่งนัก ข้ารู้สึกปลาบปลื้มใจเหลือเกิน งั้นข้าจะดูแลพวกเขาให้ดี ให้สมกับที่เจ้าดูแลพวกเขา เหมือนกับว่าเขามาฝากชะตาชีวิตไว้กับพวกเรา ข้าขอขอบน้ำใจเจ้ามาก\" และเวลาได้หมุนไป เสี่ยวปาลี่ทำหน้าที่เป็นคนขับเกวียนม้าเช่นเดิม ภายในพาหนะนั้นมีผู้โดยสารทั้งหมดสองคน คือ สาวน้อยจางลู่และสาวใช้นามฟางฟ่าง ส่วนนักรบสามนายนั้นนั่งบนหลังม้าคนละตัว และรอบๆ เกวียนม้านั้น มีนักรบอยู่ข้างซ้ายหนึ่งคน ข้างขวาหนึ่งคนและข้างหลังหนึ่งคน ทำหน้าที่คุ้มกันภัยอย่างแน่นหนาราวรักษาของมีค่าด้วยชีวิต มองไปที่หลังเกวียนนั้นจะพบว่า มีหีบขนาดใหญ่สองหีบสำหรับใส่เสื้อผ้าอาภรณ์และอีกหีบหนึ่งคือสำหรับกักตุนอาหารไว้บริโภคระหว่างทางหรือหยุดพัก พวกเขาได้เดินทางผ่านบ้านเรือนตั้งหลายหลัง จางลู่มองเห็นครอบครัวของตนเองยืนอยู่กับที่ที่หน้าเรือนและอีกสักพักเขาก็เดินเข้าเรือน สนทนาอย่างรื่นเริงกันไปพลาง รู้สึกอาลัยอาวรณ์ไปพลาง นี้คือครั้งแรกของสาวน้อยจางลู่ที่ห่างไกลจากครอบครัวทำให้ต้องมีการปรับตัวกับสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยพบเจอ เมื่อเริ่มออกจากอาณาเขตของเมืองนั้น เริ่มมีป่าไม้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และพบแมกไม้ทีละต้น เสียงล้อหมุนกระทบพื้นดินและหินเล็กๆ ปะปนกับเสียงฝีเท้าของม้าอีกหลายตัว สาวน้อยจางลู่วางฝักดาบเล่มหนึ่งไว้บนตักและนั่งตรงข้ามกับแม่นางฟางฟ่าง ทำให้มองเห็นและสบตากันอย่างชัดเจน ทั้งสองคนสนทนากันไปมา แต่ข้างนอกเกวียนแทบไม่มีเสียงคนกล่าววาจาสักคน นอกจากเสียงม้าร้องกับเสียงขยับเท้าของเหล่าอาชาทั้งหลาย
已经是最新一章了
加载中