ตอนที่ 15 ผจญภัยต่างแดน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 15 ผจญภัยต่างแดน
ฝุ่นดินตลบก็ได้กระจายกลางอากาศทำให้มองเห็นทิวทัศน์ได้ไม่ชัดเจนนักราวกับว่ามีม่านสีน้ำตาลกำลังบังตาอยู่ เหมือนฝีเท้าของม้าได้กระทบพื้นแห้งที่มีฝุ่นดินอยู่ตรงนั้น เวลาผ่านไปไม่นานเริ่มมีเสียงน้ำกระทบกันจากที่สูงจนรวมกับข้างล่างเพราะนักเดินทางเดินผ่านสายน้ำในระดับข้อเท้า หินขนาดใหญ่ยกสูงบ้างลึกบ้างจนกลายเป็นแอ่งเก็บน้ำ น้ำดูใสดั่งแก้วเพราะไม่มีดินมาผสม ถ้าจะมีดินก็มีน้อยจนสังเกตไม่เห็น สิ่งต่างๆ ที่อยู่ในน้ำนั้นมีปลาจนมองเห็นได้ชัดยิ่งนัก บ้างก็ลอยเป็นฝูง บ้างก็ลอยมาอย่างโดดเดี่ยว ทั้งยังมีใบไม้มาประดับสายน้ำนั้นจนดูงดงามดั่งภาพวาดธรรมชาติ \"คุณหนู คุณหนูเจ้าค่ะ ข้าเห็นลำธารและน้ำตกตรงนั้น\" แม่นางฟางฟ่างเอ่ยขึ้นหลังจากที่เปิดหน้าต่างของเกวียนม้าด้านข้าง \"คุณหนู เราไม่ได้อาบน้ำมาวันหนึ่งแล้ว ข้ารู้สึกเหนียวตัว ถ้าเราได้อาบน้ำสักครั้ง เราจะได้ตัวหอมๆ ยิ่งขึ้น สดชื่นถูกอกถูกใจเจ้าค่ะ\" แม่นางฟางฟ่างพูดพลางหัวเราะพลางคล้ายรู้สึกตื่นเต้น \"เยี่ยงนั้นก็ดี ข้าจะไปด้วย\" จางลู่รู้สึกเห็นด้วย จากนั้นพูดหนักขึ้นเพื่อบอกคนที่สั่งคนที่อยู่ข้างนอก \"ทุกคน หยุดก่อน\" ต่อมาเท้าของม้าทั้งหลายจึงหยุดอยู่กับที่ตรงนั้นทันที สาวใช้ฟางฟ่างใช้มือทั้งสองแยกประตูเกวียนออกและเอนกายออกไปก่อนเจ้านาย สาวน้อยจางลู่จึงตามหลังมา พอนางยืนอยู่กับพื้น นางจึงได้กล่าวกับทุกคนว่า \"ตอนนี้เราได้ที่หยุดพักอย่างอำนวยความสะดวกแล้ว งั้น เราจะพักใกล้ลำธารตรงนั้น ขอให้ทุกคนได้พักผ่อนตามอัธยาศัย\" และทุกคนก้มหน้าลงหนึ่งครั้ง ก่อนจะแยกตัว \"ขอรับ นายหญิง\" \"เจ้าค่ะ คุณหนู\" สักครู่หนึ่งจางลู่ก็คิดอย่างหนึ่งออก และนางแกล้งทำเป็นเสียงดุ \"อีกอย่าง พวกเจ้าเฝ้าข้ากับแม่นางฟ่างฟ่าง ข้างหน้าก็แล้วกัน ห้ามผู้ใดแอบดูข้ากับนาง ไุม่งั้้น ทุกคนจะต้องถูกดาบของข้าเล่นงาน พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่? \" และทุกคนได้ตอบรับพร้อมกัน \"ขอรับ\" เมื่อทุกคนได้อยู่ประจำ เสี่ยวปาลี่และนักรบสามนายจึงได้พาม้าไปกินหญ้าหรือใบไม้ตามที่ใกล้เคียงแล้วผูกไว้กับต้นไม้ จากนั้นจึงเดินกลับมาเฝ้าข้างหน้าลำธาร ณ ลำธารแห่งหนึ่ง ไหล่ทั้งสองข้างอันขาวนวลของสาวน้อยจางลู่เผยให้เห็นชัดยิ่งเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์สีส้มสดใส หลังจากเปลื้องเสื้อผ้าเพื่อลงอาบน้ำ ชำระร่างกายและผิวพรรณให้สะอาด ฝ่ามืออันบอบบางค่อยๆ ถูแขนอย่างนุ่มนวล \"คุณหนูคิดจะฆ่าผู้ชายที่แอบดูเราทั้งหมดเลยหรือ? \" แม่นางฟางฟ่างถูแขนพลางเอ่ยวาจาพลาง \"ไม่ ไม่ ความจริงข้าไม่ทำหรอก ข้าแค่ขู่ ข้าทำไม่ลงหรอก\" สาวน้อยจางลู่กระซิบใกล้ๆ หลังเคลื่อนกายไปหาสาวใช้ \"เหตุใดหรือเจ้าคะ? \" แม่นางฟางฟ่างสงสัย \"เพราะเขาเป็นคนของเรา ถ้าเราทำ ใครจะช่วยเราในยามคับขัน\" จางลู่ลูบแขนด้วยน้ำพลาง กล่าวพลาง \"อ่อ เป็นเยี่ยงนี้นี่เอง\" และแล้วก็ถูกจางลู่สาดน้ำใส่หน้าสาวใช้และยิ้มขึ้นมาเหมือนอยากหยอกล้อแม่นางฟางฟ่าง ส่วนแม่นางฟางฟ่างก็สาดกลับ ทั้งสองคนจึงได้เล่นน้ำอย่างเพลิดเพลิน ละอองน้ำลอยกลางอากาศด้วยมือใบนั้น แสงแดดสาดส่องละอองน้ำ เหนือพื้นน้ำจะดูอบอุ่น หากผุ้ใดได้สัมผัสพื้นน้ำในลำธารนี้ก็บอกได้ว่าความเย็นในน้ำมีมากกว่าในอากาศ ดวงอาทิตย์เต็มดวงเกือบอยู่กลางท้องฟ้า นั้นคือ เวลาใกล้ถึงเที่ยงวัน หลังจากหญิงสาวทั้งสองนางได้แต่งกาย หวีผมเป็นอันเสร็จสิ้นจึงได้เป็นเวลาของชายหนุ่มทั้งสี่นายมาลงอาบน้ำชำระล้างสิ่งสกปรก แล้วหญิงสาวได้ทำหน้าที่เฝ้าแทน เมื่อทุกคนได้แต่งกายเรียบร้อยแล้ว \"คุณหนูขอรับ เราจับปลามาหลายตัวขอรับ\" เสี่ยวปาลี่กล่าวด้วยความดีใจขณะยกปลาให้ดู \"แน่ใจหรือ? ว่าเจ้าจับเองทั้งหมด\" สาวน้อยจางลู่ก็มองปลาในมือเสี่ยวปาลี่ไปด้วย \"ไม่เชิงขอรับ ชายสามคนช่วยกันจับขอรับ\" เสี่ยวปาลี่ยิ้มแห้ง \"ก็ดี เราได้อาหารแล้ว เดี๋ยวข้าจะช่วยย่างปลา และเราจะหุงข้าว เสี่ยวปาลี่ไปหาฟืนมาด้วย\" และสาวน้อยจางลู่ก็เดินไปที่เกวียนม้าเพื่อหยิบสิ่งของบางอย่าง ต่อมาทุกคนได้ทานอาหารเที่ยงอย่างอิ่มหนำ จางลู่จึงรู้สึกง่วงนอนหลังจากที่ไม่หลับสบายบนเกวียนม้า รวมทั้งรู้สึกอ่อนเพลีย จึงได้ใช้ผ้าสีส้ม ผืนบางปูลงพื้นและทอดกายลงจนหลับสนิทใต้ร่มเงาของต้นไม้ เมื่อตื่นขึ้นมาได้อย่างเต็มที่จึงได้ยินเสียงดีดธนูและเสียงธนูกระทบไม้ในเวลาดวงอาทิตย์ใกล้ตกดิน นางก็ลุกขึ้นเพื่อตามหาสิ่งที่อยากรู้ ปัดใบไม้ที่หล่นทับกายจากอาภรณ์ที่มีใบไม้แห้งจนหมด ก่อนจะก้าวเท้าไปสู่เบื้องหน้าเพื่อตามหาที่มาของเสียง นักรบคนหนึ่งกำลังยืนตัวตรง มือจับธนู สายตามองสู่เบื้องหน้า เล็งไปที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่ง \"ข้าขอใช้ธนูของเจ้าได้หรือไม่? วั่งฉี\" จางลู่เดินเข้าไปใกล้หลังจากที่เขายิงธนูเข้าเป้าเสร็จจึงอยากลองทำบ้าง \"ได้ขอรับ นายหญิง\" นักรบวั่งฉีจึงยื่นคันธนูให้นาง \"แต่ข้าไม่เคยยิงธนูมาก่อน งั้นสอนข้าได้หรือไม่? \" จางลุ่แบมือขึ้นทันใด \"ขอรับ นายหญิงถนัดทางขวาก็คันธนูด้วยมือขวา และมือซ้ายจับลูกธนูขอรับ นายหญิงเล็งสายตาไปที่เป้าหมายขอรับ\" วั่งฉียื่นคันธนูและบอกวิธียิงธนูอยู่ใกล้ๆ \"ปล่อย\" เสียงอันแผ่วเบาของวั่งฉีก็เปล่งออกมา และวั่งฉีเห็นว่าลูกธนูไม่ถูกเป้าหมาย \"พยายามอีกนิด นายหญิง\" \"ปล่อย\" วั่งฉีก็เปล่งวาจาให้สัญญาณอีกครั้ง \"เข้าเป้าแล้วขอรับ นายหญิง\" นักรบวั่งฉีก็รู้สึกยินดี \"ถ้านายหญิงอยากได้ธนูไปฝึกเล่นๆ ข้าจะทำให้คันหนึ่ง\" วั่งฉีกล่าวกับนางด้วยความอ่อนโยน \"ลำบากเจ้าอีกแล้ว\" จางลู่ตีหน้าเศร้า เพราะนางรู้สึกเกรงใจ \"ข้าเต็มใจทำให้ขอรับ ข้ารู้สึกยินดีที่ได้รับใช้นายหญิงเสมอ\" จั่งฉีก็ก้มหน้าหนึ่งครั้งต่อสาวน้อยเจ้าลู่ จางลู่ได้ยืมคันธนูและลูกธนูไว้ชั่วคราว ส่วนนักรบวั่งฉีได้ถือมีดเล่มหนึ่งไปตัดไม้และเหลาลูกธนูให้แหลมเพื่อมอบให้สาวน้อยจางลู่ใช้ สาวน้อยจางลู่นั้นจึงได้ยิงธนูจนถึงเวลาค่ำมืด อีกคนที่เหลือก็ได้หุงหาอาหารค่ำและได้ปลาจากลำธารอีกตัวเหมือนเดิม แถมอีกอย่างหนึ่งพวกเขาก็ได้ผลไม้สดจากป่าด้วย คือ ลิ้นจี่ที่เด็ดมาเป็นพวงและมีหลายลูกได้แบ่งกันกิน เวลานี้สาวน้อยจางลู่ได้ทานอาหารค่ำคนเดียวก่อนเนื่องจากเป็นเจ้านาย ส่วนอีกคนรอทานอาหารค่ำทีหลัง \"พวกเจ้าไม่มาทานพร้อมข้าหรือ? หรือว่าไม่หิว\" จางลู่ถือถ้วยใบเล็กกับตะเกียบและนั่งบนผืนผ้าบางๆ ตรงนั้น \"ข้าเป็นคนใช้ ข้าเกรงอกเกรงใจ\" แม่นางฟางฟ่างกล่าวอย่างนอบน้อม \"ข้าไม่ถือสา พวกเจ้าอย่าคิดมาก\" และนางก็กวักมือเรียกทุกคนด้วยความดีใจ \"ข้าว่า ข้าทานคนเดียวมันไม่อร่อย ข้าอยากมีเพื่อนมานั่งทานอาหารค่ำด้วย\" จางลู่กล่าวอย่างว้าเหว่ อยากมีเพื่อนมาทานข้าวด้วย และแล้วทุกคนก็มาล้อมวงเพื่อรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน สนทนากันไปพลาง คีบอาหารให้กันไปพลาง จางลู่ที่อยู่ในคราบคุณหนู นางก็แสดงความเป็นกันเองและเป็นมิตรกับทุกคน และสามารถคุยกันได้สะดวก ไม่มีพิธีรีตองมากมายจนทุกคนรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับเจ้านาย เวลาผ่านไปที่ดวงดาวเต็มท้องฟ้า พระจันทร์ส่องแสงครึ่งดวง แสงสว่างจากกองไฟยังพอให้เห็น ควันสีขาวลอยฟุ้งไปกลางอากาศผ่านใบไม้ข้างบน นักรบสองนายทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าระวังและดูแลด้านความปลอดภัย และสลับหน้าที่กันไปในแต่ละวัน คนหนึ่งนอนหลับ อีกสองคนทำงานเป็นเวรยาม ถ้าจะให้นอนในเกวียนม้าคงไม่สะดวกเพราะพื้นที่มีจำกัด เพียงนั่งได้อย่างเดียวเท่านั้น ถ้าจะหลับคงหลับไม่สบายเหมือนเตียงขนาดใหญ่จึงได้หลับข้างนอกแทน และแล้วก็มีเชือกสีน้ำตาลมาคล้องคอคุณหนูจางลู่อย่างว่องไวจนไม่รู้สึกตัว เหมือนว่าเป็นเชือกสำหรับล่าสัตว์ป่า และอีกไม่นานนางจึงลืมตาขึ้นแต่ร่างของนางห้อยอยู่บนอากาศใต้ต้นไม้ทันใด พลางใช้มือสอดแทรกเข้าไปในเชือกเพื่อให้แน่นลำคอ มิฉะนั้นจะขาดอากาศหายใจ แม่นางฟางฟ่างก็ตื่นขึ้นเช่นเดียวกัน นางอุทานเสียงดังด้วยความตกใจ อ้าปากค้าง ตาเบิกกว้างอกสั่นขวัญหาย \"คุณหนู! กรี๊ดดดดดด\"
已经是最新一章了
加载中