ตอนที่ 37 ฃะตากรรมของหญิงสาว
1/
ตอนที่ 37 ฃะตากรรมของหญิงสาว
จอมนางจางลู่
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 37 ฃะตากรรมของหญิงสาว
ท่ามกลางหอนางโลมที่รื่นเริงด้วยเสียงดนตรีอันไพเราะจากแคว้นลิ่วเฉียน ลูกค้าที่มาเยี่ยมชมกลับตื่นตระหนกเพราะจะมีคนปะทะกันเสียแล้ว เกรงว่าจะโดนลูกหลงไปด้วยจึงวิ่งหนีออกจากประตูทางเข้าออกหอนางโลมอย่างจ้าละหวั่น กลุ่มคนที่เหลือจะต่อสู้เพื่อเงินทอง ศักดิ์ศรี หรือชีวิตของตนเองและผู้อื่น? บุคคลสี่คนที่ติดตามมากับจางลู่ พวกเขาทำหน้าที่คล้ายองครักษ์ ปกป้องสิ่งที่มีค่าอยู่ตรงกลางของวงกลม ก่อนที่จะเข้าหอนางโลมนั้น เพราะชายที่เป็นยามในหอนางโลมได้ตรวจเข้ม ไม่ให้นำอาวุธใดๆ เข้าไป หากมีอาวุธที่น่าสงสัยจะต้องถูกยึด แต่พวกเขารู้ทันจึงเก็บซ่อนอาวุธไว้ที่เรือนให้ปลอดภัย ดังนั้นจึงต้องต่อสู้ด้วยมือเปล่า \"นายท่าน พวกมันมีมากนัก ข้าว่านายท่านจะรับมือไหวหรือขอรับ? ลำพังเราก็ไม่มีอาวุธติดตัว\" วั่งฉีเอ่ยขึ้น พลางใช้ห่างตาดูศัตรูหากอันตรายเข้ามาใกล้จะได้ตั้งตัวทัน \"งั้น เจ้าจะต้องแย่งดาบหรือมีดจากเขามาให้ได้\" เฉาหลิงไม่ได้มองไปที่วั่งฉี เพราะมีศัตรูคอยโจมตีอยู่ \"ข้าก็คิดเยี่ยงนั้นขอรับ\" เหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าวั่งฉี หากมืธนูสักคันติดมือมาด้วย คงจะสังหารศัตรูได้เป็นกองแน่ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ด้วยสัญชาตญาณของวั่งฉีที่เป็นนักแม่นธนูจึงสังเกตเห็นอาวุธขนาดเล็กกำลังพุ่งมาใกล้ตัวตนเรื่อยๆ ชายที่แฝงตัวในคราบยามจากชั้นสอง ใช้กระบอกไม้ไผ่ขนาดสั้น มีความยาวจากปลายนิ้วถึงข้อศอก ยกกระบอกลำนั้นขึ้นมาคล้ายเป่าปี่พร้อมกัน ดันลมออกจากปากจนไม่สามารถเห็นลูกกระสุนได้ชัดเจนนัก มันเป็นวัตถุขนาดเล็กคล้ายเข็มเย็บผ้า ลอยฝ่าอากาศประมาณหกเล่ม ด้วยความสามารถของวั่งฉี เขามีสายตาอันเฉียบคมคล้ายเหยี่ยว เขาจึงไหวตัวทัน ฟิ้วววว! \"นายท่าน นายหญิง ทุกคนระวัง!! \" วั่งฉีตะโกนเตือนทุกคนกลางหอนางโลมด้วยความกังวล ท่อนแขนสองข้างของวั่งฉีสะบัดขึ้นเพื่อหยุดเข็มนี้ให้ได้ แต่มันยากลำบากยิ่งกว่าหลบลูกธนูเสียอีก เข็มหนึ่งเล่มหยุดค้างกลางอากาศทันใด วั่งฉีหลบเข็มพลาง เอนตัวพลาง นิ้วชี้และนิ้วโป้งงับเข็มได้เล่มหนึ่ง ฉึบ! ข้างนี้ป้องกันตัวเอง คือ เล่มที่หนึ่ง ฉึบ! ข้างนี้ป้องกันเฉาหลิงที่อยู่ใกล้สุด เล่มที่สอง แต่แขนมีสองแขน หากมีหลายๆ แขนคล้ายอนุษย์คงจะช่วยทุกคนได้อย่างฉิวเฉียด นายหญิงจางลู่ จำปา และไว่เถ้าละ? แม่หญิงจำปาอยู่ใกล้วั่งฉีที่ไม่ต่างจากเฉาหลิง ดังนั้นจึงใช้วิธีอื่นนอกจากงับเข็มด้วยนิ้วมือทั้งสอง เขาจึงใช้ขาข้างขวาสะบัดร่างแม่หญิงจำปาให้ห่างจากจุดศูนย์กลางที่อาวุธขนาดเล็กกำลังพุ่งสู่เป้าหมาย และแม่หญิงจำปาลอยห่างจากอันตรายได้อย่างฉิวเฉียด ล้มลงบนพื้นแต่พลิกตัวให้ตั้งตระหง่านได้ทัน ไม่งั้นศัตรูจะหาโอกาสโจมตีนางได้อย่างง่ายดายเป็นแน่ คนที่สำคัญที่สุดที่จะคลาดสายตาไม่ได้คือ นายหญิงจางลู่ หากเสียหญิงสาวคนนี้ พละกำลังการโจมตีจะลดลงหลายเท่า ไม่ถูกจับก็ถูกสังหารอยู่ตรงนี้ แต่ด้วยเสียงดังลั่นของวั่งฉี ไว่เถ้าจึงได้ทำหน้าที่แทนวั่งฉีอย่างสุดความสามารถแม้สายตาไม่ได้เฉียบคมคล้ายเหยี่ยวเหมือนกับนักแม่นธนูอย่างวั่งฉี ร่างของเขาก็ฟุบลงพื้นทันใด ก่อนที่แม่หญิงจำปาถูกแรงสะบัดจากชายผู้คุ้มกันนามไว่เถ้า และไว่เถ้ายังมีชีวิตอยู่เพราะเข็มนั้นไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต เขาเพียงนอนหลับและหายใจได้อย่างปกติ เพราะว่าเข็มหนึ่งเล่มถูกชุบด้วยยานอนหลับ ไม่ต่างจากจางลู่ถูกเข็มปักที่แขนจนสลบไปเมื่อวันที่นางเพิ่งมาถึงแคว้นสุโขทัยครั้งแรก \"ไว่เถ้า ไว่เถ้า\" ทุกคนเปล่งเสียงออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ตะลึงลานไปชั่วขณะ หากตกใจนานกว่านี้จะตั้งตัวไม่ทันแน่ ทุกคนเรียกสติตัวเองเพื่อตั้งรับการต่อสู้ เข็มสองเข็มนั้นได้ปักตรงบ่าและท่อนแขนไว่เถ้าผู้เป็นเหยื่อรายแรก [อาวุธที่มีชื่อว่า พุไม้ไผ่ ความพิเศษของมันเพื่อความสะดวกในการพกพาจึงทำให้มีขนาดสั้นลงคล้ายปี่ มันได้วิวัฒนาการมาจากพุไม้ไผ่ที่มีความยาวประมาณสองเมตร ปกติพุไม้ไผ่ใช้ในการล่าสัตว์ เช่น กบ ส่วนลูกกระสุนนั้น เรียกว่า ลูกดอก ส่วนของลูกดอกใช้ด้ายพันรอบปุยนุ่นเพื่อควบคุมทิศทางในการเคลื่อนไหวเหมือนกับธนูใช้ขนนก แต่เพื่ออำพรางสายตาศัตรูจึงต้องใช้เข็มล้วน ทำจากไม้ไผ่เหลาแหลมหรือโลหะก็ได้] หลังจากนั้น เหล่าลูกน้องของเหนียนปอปอก็พุ่งเข้ามาแทนเข็มลูกดอกพร้อมอาวุธในมือ คนที่รอดจากเข็มชุบยาสลบจึงได้ปะทะกันกับพวกเหล่านี้ จางลู่ฝ่าฟันศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างย่อยยับ ก่อนจะดีดตัวขึ้นกลางอากาศ นางได้เหยียบเไหล่และศีรษะของศัตรูจึงฝ่าไปได้อย่างง่าย แต่จะส่วนที่ต้องระมัดระวังที่สุด คือ อวัยวะที่อยู่ล่างสุด เช่น เท้าและขา เพราะศัตรูเอื้อมถึงตรงนั้นได้ง่ายที่สุด บุคคลที่อยู่เบื้องล่างก็เหมือนพื้นดิน เพื่อให้ได้อยู่กลางอากาศได้อย่างต่อเนื่อง นางได้ใช้ผ้าคลุมไหล่ผืนยาวสะบัดไปด้านหน้าและควบคุมผ้าให้พันรอบระเบียง ราวกับว่ากำลังโหนเถาวัลย์กลางป่า ระหว่างนั้นจึงเป็นจังหวะที่แม่นางหวั่นหวั่นและเหนียนปอปอหนีไป \"เหนียนปอปอ นางหวั่นหวั่น อย่าเพิ่งหนีไป อย่าขี้โกง มาสู้กับข้าก่อน\" จางลู่เปล่าเสียงเรียบอย่างร้อนรน มือจับผ้าผืนยาวพลาง ดีดร่างตัวเองไปเบื้องหน้าจนถึงชั้นสองได้อย่างรวดเร็ว \"แน่จริงก็ตามข้าให้ทันสิ\" เสียงแหลมเล็กจากแม่นางหวั่นหวั่นเล็ดลอดเข้ามาขณะเร่งฝีเท้าตามชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้า \"เอ้า พวกมันหายไปไหนแล้ว? \" จางลู่บ่นพึมพำ สายตากวาดหาคู่ต่อสู้พลาง สักพักก็พบกับบุคคลคุ้นหน้า ร่างกายก็ดูแข็งแรงดี ไม่มีบาดแผลใดๆ นางโผล่ออกมาจากห้องหนึ่ง \"เฮ้อ แม่นางฟางฟ่าง เจ้าจริงๆ ด้วย ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน ในที่สุดข้าก็เจอเจ้าแล้ว\" จางลู่กล่าวด้วยความดีใจและเผยรอยยิ้มขึ้นมา ยิ้มได้ไม่นานก็ครุ่นคิดบางอย่างได้และจะต้องไม่พลาดเป็นครั้งที่สอง \"นี่ เจ้า เจ้าเปลี่ยนชุดตั้งแต่เมื่อใด? \" สีหน้าจางลู่เปลี่ยนเป็นความเด็ดเดี่ยว \"เฮ้อ ข้าเกือบจะหลอกเจ้าได้แล้วเชียว\" นางแสยะยิ้มและเพ่งเล็งจางลู่ด้วยสายตาอันโหดเหี้ยม \"จางลู่ ข้าคิดถึงเจ้าเหมือนกัน มาให้ข้ากอดให้หายคิดถึงที\" นางตัวปลอมอ้าแขนรอรับด้วยน้ำเสียงออดอ้อน \"อย่าเข้ามา นาง หวั่น หวั่น ไม่งั้นข้าจะปลิดชีพเจ้าเป็นแน่\" จางลู่เอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ \"เหอ เหอ อุ๊ย ข้านึกแต่ว่าเจ้าเป็นเด็กไร้เดียงสา คงจะฆ่าคนไม่ลงหรอก เจ้า สม ควร ตายยยยย\" สายตาอาฆาตและน้ำเสียงเย็นชาเปล่งออกมา ก่อนที่จะแปลงโฉมเป็นร่างเดิมพร้อมชักมีดสั้นมาหนึ่งเล่ม แสงของโคมไฟส่องใบมีดเป็นประกายอย่างระยิบระยับ ฉับ ฉับ!! เสียงมีดสั้น ตัดกลางอากาศว่างเปล่า จางลู่เอียงตัวหลบได้อย่างฉิวเฉียด ปลายผมถูกตัดถึงสองเซนติเมตรขนานกับพื้นโลกอย่างกับใช้ใบมีดโกน นางหมุนตัวเตรียมสะบัดขา ก่อนจะหันมาเห็นร่างหนึ่งของแม่นางหวั่นหวั่น ตึง! เสียงร่างหนึ่งของคู่ต่อสู้กระแทกพื้นหอนางโลมชั้นสองจนพื้นสนั่นอย่างกับแผ่นดินไหว ก่อนที่มีดสั้นจะหลุดมือและลอยกลางอากาศไปอยู่ทิศทางอื่น แขนทั้งสองข้างยกขึ้นตามแรงลมและดิ่งลงตามแรงโน้มโถ่งของโลก \"โอ๊ย ข้าเจ็บก้น นางเด็กเมื่อวานซืน คิดจะฟาดข้าเยี่ยงนี้หรือ? ได้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่\" นางหวั่นหวั่นกล่าวด้วยความเคียดแค้นและขว้างมีดพลาง ฟิ้ววววว! มีดหลายเล่มพุ่งไปตรงหน้าราวกับลูกกระสุนจากปืนเพื่อสังหารศัตรู ใบมีดลอยฝ่าอากาศอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จางลู่เห็นใบมีดนั้น นางได้เร่งฝีเท้าเพื่อการหลบหนี สายตามองใบมีดพลาง หมุนตัวพลาง ส่วนแม่นางหวั่นแสยะยิ้มอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะสะใจอย่างสนุกสนาน \"คราวนี้เจ้าไม่รอดแน่ เด็กเมื่อวานซีน\" แม่นางหวั่นถือมีดในมือแยกออกจากมีดต้นฉบับอย่างละชิ้นคล้ายๆ หยิบไพ่แต่ละใบอย่างว่องไว สาวน้อยจางลู่ทำเพียงหลบใบมีดได้อย่างฉิวเฉียด หากนางไม่ได้ฝึกการต่อสู้มาจากท่านอา นางก็คงไม่มีชีวิตรอดจนทุกวันนี้ แม้จะมีแผลเล็กน้อยจากคมมีด ใบมีดเสียดสีกับกระโปรงสีแดงก่อนจะถึงท่อนขาเรียวยาวจนมีรอยแดงด้วยน้ำเลือดบนผิวอันขาวเนียน นางก็หลบใบมีดใบที่สองด้วยการหมุนตัวและใช้สายตามองใบมีดพลางจนแผลที่ได้รับอีกครั้งอยู่ที่ท่อนแขนข้างขวาเหมือนกับครั้งแรก และมีดปักตรงผนัง เสา และพื้นหอนางโลมจนดูเหมือนต้นไม้มีหนาม จนกระทั่งมาเข้าที่ห้องกำลังเปิดประตูอ้าอยู่ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าห้อง เพื่อฆ่าเวลาทำให้นางหวั่นหวั่นพยายามมองหาให้พบห้องแล้วห้องเล่า จางลู่ก็มาสะดุดกับโต๊ะเครื่องแป้งที่ตัวเองเคยนั่งทันใด \"ท่านพี่เฉาหลิงยัดใส่กระเป๋าข้าตั้งแต่เมื่อใด? \" จางลู่ครุ่นคิด \"หรือว่าจะเป็นอาวุธได้แน่? งั้นข้าลองดูสักครั้ง\" จางลู่กำวัตถุบางๆ นั้น พูดคุยกับตัวเองแผ่วเบา และจังหวะนั้นแม่นางหวั่นหวั่นก็พังประตูเข้ามา \"อยู่ที่นี่เองหรือ? เจ้าเด็กน้อย ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องตายแล้ว\" สองมือแม่นางหวั่นหวั่นกำด้ามมีดไว้แน่น ก่อนจะขว้างสู่เป้าหมาย และมีอีกเล่มหนึ่งตามมา จึงกลายเป็นสามเล่ม จุดสำคัญที่จะต้องสังหาร คือ กลางคอหอย หน้าอกซ้าย และหน้าท้อง ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว! ฉึบ! ด้วยความประมาทและความมั่นใจเต็มร้อยของแม่นางหวั่นหวั่นทำให้ใบมีดสามเล่มที่ขว้างอยู่นั้นได้ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างนางจึงชโลมไปด้วยน้ำเลือดสีแดงสด มันไหลช้าๆ จากข้างบนสู่ข้างล่างของร่างกายจนสู่พื้น น้ำเลือดสีแดงก็รองรับร่างไร้วิญญาณที่ยืนอยู่นิ่ง ไม่มีเสียงที่แสดงความเจ็บปวดใดๆ เพราะคมมีดได้ทะลุผ่านกลางคอจนตัดหลอดลมและหลอดอาหารจนปลายมีดโผล่ออกมาจากท้ายทอย คมมีดได้ปักลงหัวใจที่กำลังเต้นจนหยุดเต้นในที่สุด หน้าท้องของนางถูกใบมีดปักลงตำแหน่งกระเพราะอาหารจนต้องฉีกขาด \"เฮ้อ ค่อยยังชั่ว\" จางลู่ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ปนกับอาการเหน็ดเหนื่อยจากการหลบใบมีดวิ่งหนีศัตรู ก่อนที่แม่นางหวั่นหวั่นจะสิ้นชีพในหอนางโลม จางลู่รู้ว่าใบมีดสามเล่มพุ่งเข้ามาแล้ว นางได้โยนผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองให้ลอยไปสู่ใบมีดสังหารเหมือนกับไล่มีดออกไปให้ไกลจากตัวเอง ด้วยความไม่มั่นใจกับผ้าเช็ดหน้าผืนนี้จึงได้หลบใบมีดด้วยการกระโดดออกจากตำแหน่งที่มีดปัก นางจึงได้เห็นประโยชน์ของผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเต็มสองตาแล้ว และเห็นภาพอันน่าสยดสยองด้วย ผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองได้ขยายใหญ่ขึ้นราวสิ่งมีชีวิต กลายเป็นโล่ป้องกัน หากมีวัตถุใดกระทบผ้าผืนนั้นก็จะย้อนกลับด้วยความเร็วขึ้นสามเท่าจนไม่ทันตั้งตัวหรือหลบได้ทัน ’ดาวตกย้อนศร’
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 37 ฃะตากรรมของหญิงสาว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A