ตอนที่ 43 สมัครนางกำนัล
1/
ตอนที่ 43 สมัครนางกำนัล
จอมนางจางลู่
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 43 สมัครนางกำนัล
ณ เรือนใหญ่ ใต้เท้าจิ้นเลี่ยว ปลาคาร์ปลวดลายสีส้มกับสีขาว บางตัวก็สีเหลืองล้วน ยังมีปลาคาร์ปที่มีสีแดงตัดกับสีขาวและจุดสีดำกระจายตามตัวของมันเหมือนแต่งแต้มด้วยงานศิลปะบนตัวมัจฉา พวกมันแหวกว่ายร่วมกันเป็นฝูง ผู้ดูแลปลากราฟในบ่อน้ำกลางเรือนได้โยนไส้เดือนดินที่เป็นอาหารอันโอชะของฝูงปลาคาร์ปนั้นจนมันจะแย่งอาหารกันกิน จางลิ่วกำลังปักผ้าสีม่วงเข้มลวดลายนกเป็ดน้ำ นางนั่งยิ้มชื่นบานขณะจับเข็มและด้ายอย่างประณีตในศาลาหน้าเรือนข้างๆ ประตูทางเข้า และมีขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดงกับน้ำชาร้อนๆ ตั้งอยู่บนโต๊ะหินอ่อนข้างๆ \"คุณหนูเจ้าค่ะ น้ำชาหมดแล้ว เดี๋ยวข้าไปต้มมาใหม่เจ้าค่ะ\" คนใช้นามว่าตานต้านเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ \"อืม\" และก็นั่งปักผ้าต่อ ไม่สนใจสิ่งใด \"จางลิ่ว เราไปเดินเล่นข้างนอก ดีหรือไม๋? \" โจเลี้ยวผู้เป็นสามีกล่าวอย่างร่าเริงเมื่อเห็นนางสนใจแต่ปักผ้าอยู่ในเรือน \"ข้ายังปักผ้าไม่เสร็จเจ้าค่ะ ท่านพี่\" จางลิ่วปักผ้าพลาง กล่าวพลาง \"พอดีว่า ข้าจะพาเจ้าไปสมัครนางกำนัลที่วังหลวง และทางวังหลวงได้เปิดรับสมัครแล้ว เจ้าสนใจหรือไม่? \" บุรุษหนุ่มโจเลี้ยวยืนอย่างสง่างามและอมยิ้ม \"จริงหรือเจ้าค่ะท่านพี่ วันนี้ ใช่หรือไม่? ข้ารู้สึกสนใจยิ่งนัก\" มือข้างหนึ่งที่จับเข็มโลหะก็ได้หยุดชะงักทันใด \"เป็นความจริงขอรับ จางลิ่ว ถ้ายังไม่เสร็จก็ค่อยมาทำต่อก็ได้\" โจเลี้ยวหยิบเข็มปักผ้าออกจากมือนางแล้ววางไว้บนโต๊ะหินอ่อนสี่เหลี่ยม \"คุณชาย คุณหนู น้ำชาร้อนๆ มาแล้วเจ้าค่ะ\" แม่นางตานต้านยกกาน้ำชากับถ้วยสองใบบนถาดโลหะใบหนึ่ง \"คุณชาย คุณหนู รอข้าก่อน ท่านทั้งสองจะไปที่ใดเจ้าคะ? \" แม่นางตานต้านวางถาดไว้บนโต๊ะและเดินตามเจ้านาย \"ข้าจะไปสมัครนางกำนัลในวังหลวง ฝากเก็บผ้าที่ปักยังไม่เสร็จให้ด้วย\" จางลิ่วบิดตัว และหันหลัง \"ข้าไปด้วยได้หรือไม่? ข้าอยากไปเจ้าค่ะ\" คนใช้นามตานต้านใช้น้ำเสียงอ้อนๆ \"งั้นเจ้าก็เก็บของบนโต๊ะของข้าก่อน ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี้\" จางลิ่วกับโจเลี้ยวก็พากันนั่งบนศาลา \"เจ้าค่ะ\" คนใช้รับคำ และยกขึ้นมาเก็บของไว้บนเรือน ทั้งสองหนุ่มสาวก็พบเห็นใครบางคนเข้ามาในเรือนจึงได้เพ่งมองและยืนขึ้นด้วยความดีอกดีใจ \"ท่านพี่หญิงจางลู่\" จางลิ่วเร่งฝีเท้าเข้ามากอดจางลู่ด้วยความดีใจ สภาพร่างกายตอนนี้จางลิ่วดูแข็งแรงขึ้น และสายตาเหลียวมองหาบุคคลที่ต้องการพบ \"เสี่ยวปาลี่อยู่ที่ใด? ท่านพี่หญิง เขาอยู่ที่ใด? แม่นางฟางฟ่าง เขาอยู่ที่ใด? \" จางลิ่วเดินกลับไปกลับมาเหมือนการเดินทางที่ไร้จุดหมาย สีหน้าจางลู่กับแม่นางฟางฟ่างดูเงียบงันอย่างผิดปกติ ในที่สุดแม่นางฟางฟ่างก็กล่าวออกมาทั้งน้ำตา \"ขออภัยเจ้าค่ะคุณหนู เขาตายแล้ว\" ความมืดปกคลุมจิตใจหญิงสาวจางลู่จนสมองเต็มไปด้วยว่างเปล่า \"ห๊ะ ตายแล้ว? \" จางลิ่วก็เริ่มยืนนิ่งเหมือนหุ่นขี้ผึ้งทันใด \"ใครทำ? ข้าจะไปฆ่ามัน\" จางลิ่วกล่าวอย่างแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง \"อย่าไปเลยเจ้าค่ะ พวกมันมีพละกำลังมาก ที่สำคัญ คือ คุณหนูไม่ได้รู้จักเขา เขามีนามว่า เหนียนปอปอเจ้าค่ะ ข้าเห็นกับตาจนข้ารู้สึกสงสารเสี่ยวปาลี่ยิ่งนัก ตอนที่เขาเข้ามาเจอข้า ข้าก็รู้สึกว่าสวรรค์มาโปรดแล้ว ขณะที่เขาจูงมือข้าออกจากหอนางโลมในแคว้นสุโขทัยก็พบกับเหนียนปอปอขวางทางเอาไว้เพราะเขาจำได้ว่าพวกเราเป็นศัตรูกันกับเขาเจ้าค่ะ\" แม่นางฟางฟ่างกอดแขนจางลิ่วแนบแน่นและน้ำตาก็เปื้อนแขนเสื้อสีฟ้าของจางลิ่ว \"จางลู่ มาแล้วหรือลูก? \" แม่นางหลิวอี้เดินมากับหลงหานอย่างร้อนรน \"ท่านพี่หลงหูอยู่ที่ใดเจ้าคะ? \" จางลู่ถามขึ้นเมื่อไม่มีใครสักคนอยู่ที่นี้ \"เขากลับไปหมู่บ้านหลุยซานของเราแล้ว ไปดูแลกิจการการค้าของเรา\" หลงหาน ชายวัยกลางคนตอบแทน \"ข้ามีคนที่ให้ท่านพ่อได้รู้จักเจ้าค่ะ เขาเป็นหมอที่ปรุงยาให้จางลิ่วเจ้าค่ะ เขามีนามว่า เฉาหลิง เจ้าค่ะ\" จางลู่จับแขนเสื้อสีดำของเฉาหลิงเบาๆ เชิญเขามาอยู่เบื้องหน้า \"เฉาหลิง? \" แม่นางหลิวอี้กับหลงหานเปล่งเสียงออกมาพร้อมกันด้วยความสงสัย พลางครุ่นคิด \"องค์ชาย ถวายคำนับพ่ะย่ะค่ะ ทรงพระเจริญหมื่นๆ พ่ะย่ะค่ะ\" หลงหานนั่งคุกเข่าบนพื้นต่อหน้าเฉาหลิง \"องค์ชาย ถวายคำนับเพค่ะ ทรงพระเจริญหมื่นๆ ปีเพค่ะ\" แม่นางหลิวอี้ทำความเคารพตามหลงหาน สองสามีภรรยาเคยจำองค์ชายเฉาหลิงในวัยเด็ก พอเฉาหลิงเติบโตขึ้นในวัยหนุ่มก็ไม่รู้ว่าลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร? เพียงจำแต่ชื่อเขาก็ว่าเป็นองค์ชายและมีกระดิ่งทองแดงที่พระมารดามอบให้ก็มีความแน่ใจมากขึ้น จางลู่ก็รู้ว่าชายที่อยู่เบื้องหน้าคือองค์ชายเพราะเฉาหลิงเคยบอกนางไว้ก่อนแล้ว แต่เรื่องเดียวที่จางลู่ยังไม่รู้ คือ เฉาหลิงคือพี่ชายแท้ๆ ของนาง \"ถวายคำนับเพค่ะ ทรงพระเจริญหมื่นๆ ปีเพค่ะ\" จางลู่ก็ถวายความเคารพเช่นเดียวกันจนบุคคลที่เหลือก็ได้ทำความเคารพตามอย่างเกรงใจ เฉาหลิงเห็นน้องสาวแท้ๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจเมื่อตนได้ปกปิดความจริงต่อนาง ในดวงตาของเฉาหลิงมีความขุ่นมัวเพราะความทุกข์ทันใด \"เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่ต้องพิธีรีตองมากก็ได้ ตอนนี้ข้าอยู่ในฐานะสามัญชน ทุกคนลุกขึ้น ขอให้ทุกคนสบายใจได้\" บุรุษหนุ่มเฉาหลิงได้เปล่งเสียงออกมาราวกับความว่ามันเป็นบรรยากาศองค์ชายวัยเยาว์ในวังหลวง \"ท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าค่ะ มีอีกคนที่จะแนะนำเจ้าค่ะ คือ องค์ชายนพเก้าจากแคว้นสุโขทัยเจ้าค่ะ\" จางลู่ผายมือเหมือนต้อนรับแขกเข้าโรงแรม ทหารองครักษ์จากแคว้นสุโขทัยได้ยืนและเดินกระจัดกระจายที่ชั้นล่างเหมือนกับว่าทำหน้าที่ผู้คุ้มกันภายในวังหลวง องค์ชายนพเก้าเสด็จมาพร้อมกับทหารองครักษ์ที่มากฝีมืออย่างพ่อบ้านจานกับแม่หญิงจำปา แต่พวกเขาได้เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นสามัญชนเพื่อไม่ให้ใครบางคนสงสัยราวกับว่าเป็นสายลับ \"หลงหาน เจ้าคือ ข้าราชการการทูตแห่งแคว้นลิ่วเฉียนหรือ? \" องค์ชายนพเก้าทรงจำหน้าได้ตั้งแต่ตอนวัยเยาว์แต่มีความแตกต่างกันที่กาลเวลาจึงเหลือเพียงเส้นผมสีขาวบางส่วน ผิวหนังเริ่มเหี่ยวย่นเพราะอายุจะมากแล้ว \"พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมหลงหานเองพ่ะย่ะค่ะ\" หลงหานไม่รู้จะใช้ภาษาอันใดเพราะรู้ทั้งสองภาษา เขาจึงใช้ภาษาไทยดีกว่า เมื่อองค์ชายได้ตรัสเป็นภาษาไทยก็ตอบเป็นภาษาไทย \"แม่หญิงจางลู่ ในฐานะของนางตอนนี้ นางคือ พระชายาของข้าแล้ว\" องค์ชายนพเก้าตรัสด้วยสีหน้าแย้มยิ้ม \"พ่ะย่ะค่ะ มะ มะ กระหม่อมรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ\" หลงหานเหงื่อแตกพลั่กๆ เมื่อรู้ว่าบุตรสาวบุญธรรมมีฐานะเปลี่ยนไป นางไม่ใช่สามัญชนแล้ว จางลู่ก็ไม่สามารถทำอันใดได้เช่นกัน \"พระองค์ต้องการอันใดพ่ะย่ะค่ะ? \" เหงื่อกาฬไหลตามใบหน้าจนทำอันใดไม่ถูก \"เจ้าไม่ต้องคิดมากแล้ว ข้ามาที่นี้ ข้ามาขอบุตรสาวของเจ้าเป็นพระชายาแห่งแคว้นสุโขทัย ได้หรือไม่? \" องค์ชายนพเก้าจับแขนหลงหานชายวัยกลางคนให้ลุกขึ้น \"กระหม่อมก็ไม่สามารถขัดคำสั่งพระองค์ได้ ถ้าเป็นสิ่งที่บุตรสาวของข้ามีความสุข ข้าก็พร้อมยินดีถวายพ่ะย่ะค่ะ\" หลงหานยืนอย่างแน่นิ่ง ทั่วลำตัวเย็นเฉียบเหมือนถูกก้อนน้ำแข็ง \"ท่านพ่อ อย่าคิดมากไปเจ้าค่ะ ข้าก็ไม่ได้มีความทุกข์ใจเลย\" จางลู่สบตาบิดาบุญธรรมอย่างอ่อนโยน \"หากกระหม่อมล่วงเกินพระองค์ทั้งในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี และอนาคตก็ดี โปรดประทานอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ\" หลงหานกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ \"ไม่ว่าเรื่องใดที่ท่านพ่อทำ ท่านพ่อมีความปรารถนาดีต่อข้ายิ่งนัก ท่านพ่อไม่ได้ทำผิดเจ้าค่ะ ท่านพ่อโปรดทำใจให้สบายเจ้าค่ะ\" จางลู่กล่าวปลอบใจบิดาบุญธรรม แม่นางหลิวอี้ที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็รู้ภาษาต่างแคว้นเพียงไม่กี่คำจึงมีหญิงสาวนามจางลู่คอยแปลภาษาให้อย่างเป็นระยะๆ ความรู้สึกของนางก็เปลี่ยนไป ไม่ต่างจากชายวัยกลางคนผู้เป็นสามี ในที่สุดแม่นางหลิวอี้ก็ได้กระซิบอยู่ข้างๆ หลงหานทำให้หลงหานรู้สึกประหลาดใจขึ้นไปอีก \"อะ องค์หญิง โปรดฟังกระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ใช่บิดาแท้ๆ ของพระองค์ โปรดประทานอภัยกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ\" หลงหานก็ได้คุกเข่าลงทันใด \"หม่อมฉันก็ไม่ใช่มารดาแท้ๆ ของพระองค์เพค่ะ โปรดประทานอภัยเพค่ะ\" แม่นางหลิวอี้ก็คุกเข่าตาม \"เป็นความจริงหรือไม่? ท่านพ่อท่านแม่ของข้าคือใคร? \" จางลู่ก็รู้สึกงุนงงไปชั่วขณะเหมือนความมืดมิดปิดบัง \"เป็นความจริงเพค่ะ องค์หญิง องค์ชายเฉาหลิงคือพระเชษฐาแท้ๆ ของพระองค์เพค่ะ\" แม่นางหลิวอี้ก็ได้จับมือจางลู่อย่างอ่อนโยน \"จริงหรือไม่? ท่านพี่\" จางลู่บิดลำตัวและหันหน้าไปหาเฉาหลิง บุรุษหนุ่มเฉาหลิงก็ได้เพียงพยักหน้าตอบรับ \"จริง\" ทั่วอินทรีย์ของดรุณีน้อยจางลู่เมื่อรู้ฐานะที่แท้จริงของตนเอง และรู้ว่าตัวเองมีเชื้อพระวงศ์เช่นเดียวกับเฉาหลิงที่เป็นพระเชษฐาแท้ๆ พวกเขาทั้งสองได้พลัดพรากจากกันมาหลายปี เหตุผลที่ปกปิดฐานะที่แท้จริงนั้นคือ เพื่อความปลอดภัย สาวน้อยจางลู่มีอาการหน้ามืดเหมือนคนทำงานหนักมาหลายวัน ร่างกายดูอ่อนเพลีย เปลือกตาทั้งสองหนักอึ้งจนยกไม่ขึ้นทำให้นางหมดสติทันใด บุคคลที่อยู่ใกล้นางที่สุดจึงได้พยุงกายนางอย่างองค์ชายนพเก้า ในที่สุดนางก็หลับลงไปเหมือนวิญญาณได้หลุดออกจากร่าง \"องค์หญิง! \" \"จางลู่! \" ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ได้อุทานอย่างน่าตกใจทั้งที่นางมีสุขภาพแข็งแรงและมีฝีมือในการต่อสู้ แต่ก็ต้องมาเป็นลมล้มพับไปอย่างไม่คาดคิด
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 43 สมัครนางกำนัล
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A