ตอนที่11 ฝากใจ#11
1/
ตอนที่11 ฝากใจ#11
วิศวะฝากใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่11 ฝากใจ#11
#11 หลังจากการออกค่ายผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย คณะวิศวะก็กลับมาเรียนหนักเหมือนเดิมอาจารย์หลายท่านพร้อมใจกันสั่งงาน ทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่ม ก็อย่างที่รู้ๆกันถึงกิตติศัพท์ความโหดของแต่ละวิชา คณะวิศวะถือได้ว่าโหดสุดๆแล้ว กำหนดส่งงานที่อาจารย์บอกไว้คือภายในสิ้นเดือนนี้เท่ากับว่ามีเวลาแค่สิบกว่าวันเท่านั้นในการปั่นงาน ทำให้ทุกคนแลดูวุ่นวายกับการเคลียร์งาน แม้แต่เวลาพักผ่อนยังแทบจะไม่มีเลยไม่ว่าตารางเรียนจะเป็นยังไง ช่วงนี้ก็จะเห็นว่า เด็กวิศวะทุกคนจะมารวมตัวกันเพื่อทำงานที่คณะแทบทั้งวันทั้งคืน ถึงได้เคยมีใครบอกเอาไว้ว่า** เป็นแฟนวิศวะ ต้องอดทน**เพราะอย่าไปคาดหวังถึงเรื่องการเจอหน้ากันเลย แม้แต่รับโทรศัพท์บางทีก็แทบจะสละเวลามารับไม่ได้เลยด้วยซ้ำแก็งค์วิศวะปี2ก็เหมือนกัน ตอนนี้หัวหมุน หัวยุ่ง หัวฟู ไปกันหมดทุกคน หนักสุดคือชานนท์ที่โดนแฟนงอนมา3วันละที่ผิดนัดยังไม่มีเวลาแม้แต่จะไปง้อแฟนเลย แม้เพื่อนๆจะให้ไปง้อก่อนค่อยมาช่วยทำก็ตาม แต่ชานนท์ก็ไม่ได้สนใจ พูดแค่ว่า ถ้าจะงี่เง่ามากนัก ก็ปล่อยมันไป ส่วนต้ากับเต้ก็เก็บเสื้อผ้าหนีตามกันมานอนห้องชานนท์เป็นที่เรียบร้อยเพราะห้องชานนท์ใกล้มหาลัยที่สุด สะดวกต่อการนัดกันทำงานกลุ่มแต่สถานการณ์แบบนี้ คนที่น่าอิจฉาที่สุดก็คงจะเป็นลูกปลา ที่ทะเลมานั่งเฝ้าเช้า เฝ้าเย็น คอยตามรับตามส่งและบริการพิเศษจัดเตรียมมื้อกลางวันไว้ให้ตลอด เพื่อนๆของลูกปลาก็พลอยได้รับอานิสงส์รอดพ้นจากการหิวตายไปด้วยในขณะที่ตังเม ช่วงนี้แทบจะไม่ได้เจอหน้ากับเผ่าเพชรเลย ส่วนมากพี่เขาจะไลน์ทิ้งไว้แล้วเธอว่างเมื่อไหร่ก็ค่อยมาตอบ ยังดีที่เผ่าเพชรไม่คิดเล็กคิดน้อยที่เธอไม่ค่อยมีเวลาให้ “ เย้…. เสร็จสักที รอดตายแล้ว” ลูกปลาตะโกนเสียงดัง ด้วยความดีใจ หลังจากที่อดหลับอดนอนพิมพ์งานมาหลายคืน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง“เดี๋ยวเราเอากลับไปปรินท์เองนะและเอาไปเข้าเล่มด้วย”“ ได้สิ เดี๋ยวเราไปช่วยนะเม” นุ่นพูดกับตังเม“ถ้างั้นกูกับไอ้ต้าเป็นคนพรีเซนต์งานละกัน” เมื่องานกลุ่มเสร็จทันกำหนดที่อาจารย์สั่งไว้ ทุกคนก็ดูเหมือนจะโล่งอกกัน และก็แบ่งหน้าที่กันเรียบร้อยเพื่อเตรียมส่งและเตรียมพรีเซนต์โดยตังเมกับนุ่นจะเป็นคนเข้าเล่ม ทั้ง2ชุด ชานนท์กับต้าก็อาสาขอพรีเซนต์งานกลุ่มเอง เพราะหลักๆพวกเขาเป็นคนหาข้อมูล ทำให้เข้าใจเนื้อหาได้มากกว่าคนอื่น“ เราก็พิมพ์ใบประเมินเสร็จแล้ว เดี๋ยวเรากับกี้ช่วยกันแจกเพื่อนๆตอนฟังพรีเซนต์ละกันเนาะ ” เต้บอก “ อ้าว แล้วเราล่ะ” ลูกปลาเอ่ยถาม ถ้าไม่มีหน้าที่ก็ไม่ดีแน่ เหมือนเอาเปรียบเพื่อน“ ก็ปลาเป็นคนพิมพ์งานแล้วไง พิมพ์คนเดียวจนเสร็จเลยเนี่ย ที่เหลือก็ไม่ต้องทำแล้ว ไปพักไป” เต้พูด “ไม่เอาสิ เราพิมพ์ คนอื่นก็ไม่ได้นั่งมองนี่ ก็ช่วยกันหาข้อมูลทำจุดอื่นกันทุกคน” “งั้นเอางี้…เจอกันคนละครึ่งทาง ” เต้พูด “ให้ลูกปลาช่วยพรีเซนต์ละกัน เนื้อหามันก็ค่อนข้างเยอะอยู่ แบ่งกันพูด3คน น่าจะกำลังดี อีกอย่างเสียงปลาก็น่าฟัง น่าจะดึงดูดความสนใจจากอาจารย์และเพื่อนๆได้ดีกว่าผู้ชายโหดๆ เพียง2 คน” “ โอเค ตามนั้นเลยเราไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ลูกปลาบอกยิ้มๆ พอใจกับหน้าที่ที่เพื่อนแบ่งให้“ ในที่สุดพวกเราก็ทำสำเร็จ เย้”ทุกคนตะโกนขึ้นพร้อมกันด้วยความดีใจ อิสรภาพกำลังตามหาพวกเขาอีกครั้ง ใครใคร่เที่ยว เที่ยว ใครใคร่นอน นอน กันสบายใจเลยหล่ะทีนี้“ ไงครับทุกคน เสียงดังกันเชียว ถูกหวยกันเหรอ”เสียงนุ่มๆเอ่ยทักขึ้น แก็งค์ปี2ทุกคนหันขวับไปทางต้นเสียงพร้อมเพรียงกัน โดยที่ไม่ได้นัดหมายและกล่าวคำทักทายรุ่นพี่ปี3 ที่เพิ่งจะกลับมาจากค่ายด้วยกัน“ อ้าว… พี่เอฟ” “ พี่เอฟ หวัดดีพี่” “ พี่เอฟมีอะไรให้พวกเราช่วยไหมคะ? ” นุ่นเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะปกติรุ่นพี่ปีสูงจะไม่ค่อยได้มาเดินแถวนี้เท่าไหร่ และยิ่งจะมาเดินถามไถ่ทั่วไปแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่แน่ๆ เพราะพี่เอฟไม่ได้สนิทกับกลุ่มเธอเลยพี่เอฟจะสนิทกับอีกกลุ่มมากกว่า เพราะ1ในกลุ่มเป็นน้องรหัสของพี่เขา“ 555 ไม่มีอะไรหรอก เดินผ่านมาพอดี เห็นตะโกนดีใจกันเสียงดังไปถึงป้อมยามโน่น ก็เลยแวะมาดูซะหน่อยอยากรู้ว่าดีใจอะไรกัน” พี่เอฟแกล้งแซวขำๆ “ ว่าไงล่ะ งานเสร็จแล้วล่ะสิ ใช่ไหม? ดีใจเกินเบอร์ขนาดนี้ น่าจะใช่นะ ” “เสร็จแล้วพี่ โทษทีครับที่เสียงดัง ดีใจกันมากไปหน่อย ” เต้พูดพลางค้อมตัวขอโทษรุ่นพี่พวกเขาลืมตัวไปจริงๆ มัวแต่ดีใจจนลืมไปว่ามันอาจจะรบกวนเพื่อนๆกลุ่มอื่น“ เฮ้ย ไม่เป็นไร ธรรมดาแหละ งานเสร็จ ใครๆก็ต้องดีใจทั้งนั้น” พี่เอฟกล่าวยิ้มๆ พลางเดินเข้ามาให้ใกล้น้องๆมากขึ้น“ งานเสร็จแล้ว พี่ก็ดีใจด้วยแล้วกันนะ ขอให้ได้คะแนนดีๆ และก็……….. ” พี่เอฟหยุดพูด ค่อยๆเอาแขนสองข้างขึ้นกอดไหล่ชานนท์และเต้ พลางโน้มตัวลง น้องๆเห็นแบบนั้นก็ค่อยๆล้อมวงมาใกล้พี่เอฟมากขึ้น มากขึ้น และรอฟังว่ารุ่นพี่จะพูดอะไรต่อ พี่เอฟหันซ้าย ขวาสักพัก พอเห็นว่าไม่มีใครที่จะมาแอบฟังได้จึงค่อยๆ พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเดิมมากจนคล้ายกระซิบ เหมือนกลัวใครมาได้ยิน เหมือนเป็นความลับสุดยอดยังไงยังงั้น“และก็คืนนี้ไปผ่อนคลายร้านพี่เอกกันสักหน่อยไหมล่ะ ฉลองงานเสร็จไง ” พอพี่เอฟพูดเสร็จทุกคนก็ถอยหลังออกจากวงพร้อมกัน พร้อมเสียงบ่นพึมพำ“ โห่ อุตส่าห์ตั้งใจฟัง นึกว่ามีเรื่องอะไร ” ชานนท์เริ่มสงสัยว่ารุ่นพี่ต้องการอะไรกันแน่เขามั่นใจว่าพี่เอฟต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่าง มันเป็นไปไม่ได้หรอก อยู่ดีๆจะมาชวนคนที่ไม่สนิทไปเที่ยว จึงตัดสินใจหันมาถามตรงๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดังมาก เหมือนอยากรู้กันแค่2คน“ พี่มาชวนพวกผมทำไมครับ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น พี่ต้องการอะไรกันแน่” “ อืม… ตรงดี ” พี่เอฟกล่าวพึมพำ ได้ยินมานานละว่าชานนท์เป็นคนตรงๆแต่ก็ไม่คิดว่าจะตรงขนาดนี้ โอเค ในเมื่อน้องถามตรงๆ เขาก็จะตอบตรงๆละกัน ตรงมา ตรงกลับ ไม่โกง“ที่พี่ชวนพวกน้องไปเที่ยวทั้งๆที่พี่ไม่สนิท เพราะพี่อยากสนิทกับพวกน้องไง” ต้าที่มาแอบฟังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ กลั้นขำในลำคอ พลางเดินมากอดคอชานนท์ และถามออกไปบ้าง“ อยากสนิทกับพวกผม เพราะอยากจีบเพื่อนคนไหนของผมเหรอครับ” พี่เอฟเอามือลูบหน้าเบาๆแก้เก้อ ตะกี้ว่าชานนท์มันถามตรงแล้วนะ แม่ะ ไอ้ต้าตรงกว่าเยอะ แต่มาถึงขนาดนี้แล้วยังไงก็ต้องตอบถ้าไม่ตอบตอนนี้ ก็คงอดจีบตลอดไป พี่เอฟเอามือล้วงกระเป๋า แล้วค่อยๆเดินไปหาต้าที่กอดคอชานนท์อยู่ ก่อนที่จะพูดด้วยใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขินอาย แดงไปจนถึงใบหูว่า“พี่อยากสนิทกับทุกคนเพราะพี่อยากรู้จักตังเมให้มากกว่านี้ ” “ เพราะพี่สนใจตังเม ชัดเจนนะ ” ชานนท์พยักหน้าเบาๆ สีหน้าพึงพอใจที่รุ่นพี่กล้าพูด ต้าแอบกระซิบที่ข้างหูเพื่อนรักเบาๆ“ โคตรเจ๋งว่ะมึง เปิดเผย ชัดเจน ดีกว่าไอ้พี่เพชรเยอะเลย ” กูถือป้ายไฟเชียร์พี่เอฟเลยละกัน “ถ้าพี่อยากจีบไอ้เมมัน ผมกับไอ้ต้าก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ จะช่วยพี่ด้วยซ้ำ” พูดพลางหันไปยิ้มสบตากับต้า ต่างคนต่างรู้ซึ่งกันและกัน ว่าอีกคนคิดอะไร“ แต่ผมจะบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าไอ้เมมันไม่โอเค พี่ต้องหยุดทันที” ต้าพูดเสริม ทำข้อตกลงกันก่อนจะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง เพราะต่อให้พี่เอฟดีแสนดียังไง ถ้าตังเมไม่สนใจ พวกเขาก็จะไม่บังคับเพื่อนเด็ดขาดและด้วยวาทะศิลป์อันเป็นเลิศของต้า ก็สามารถกล่อมสาวๆให้ไปดื่มด้วยกันได้สำเร็จ ยกเว้นแค่ลูกปลาที่ไปด้วยไม่ได้ เพราะมีนัดดูหนังกับทะเล และนุ่นที่รู้สึกไม่ค่อยสบายอาจจะเป็นเพราะอดนอนทำรายงานติดกันหลายคืน เลยขอตัวกลับไปพักผ่อนสาวๆขอตัวกลับห้องก่อนเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และช่วง2ทุ่ม เดี๋ยวเต้จะไปรับที่ห้อง มาเจอกันอีกทีที่ร้านพี่เอก ในขณะที่ผู้ชายไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนชุดแต่อย่างใด แค่ถอดช็อปออก เหลือเพียงเสื้อยืดด้านในและกางเกงยีนส์แค่นี้ก็เข้าไปนั่งในร้านได้แบบสบายๆเมื่อถึงเวลานัดหมาย เต้ ชายหนุ่มที่สุภาพที่สุดในกลุ่มก็พาสองสาวเข้ามาในร้าน เขาเห็นพี่เอฟกวักมือเรียกแต่ไกล จึงพาเพื่อนๆ เดินไปโต๊ะด้านในซึ่งชานนท์ได้สั่งอาหารรอไว้แล้ว ส่วนพี่เอฟขอตัวไปนั่งกับเพื่อนๆอีกโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆกัน เพราะกลัวว่าถ้านั่งร่วมโต๊ะแล้วสาวๆจะสนุกกันไม่เต็มที่ เพราะมัวแต่เกร็งต้าตักข้าวผัดปูใส่จานเล็กๆส่งให้เพื่อนๆกินรองท้องกันก่อน เพราะคาดว่าน่าจะหิวกันแล้ว ส่วนเต้วันนี้ ตั้งใจจะไม่ดื่ม เนื่องจากต้องตระเวนส่งเพื่อนๆทุกคน จึงอาสาเป็นเด็กเสิร์ฟคอยบริการชงเหล้าให้เพื่อนๆแทน ส่วนตัวเองดื่มน้ำอัดลมแทนตังเมเช็คไลน์ ใกล้จะ4ทุ่มละ แต่เพชรยังไม่ทักมา สงสัยจะยังยุ่งอยู่กับรายงานแน่ๆจึงทักไปบอกเผ่าเพชร ให้รู้ว่าเธอทำอะไรอยู่“ พี่เพชร เมมาเที่ยวกับพวกนนท์นะ ฉลองงานเสร็จ” “ อาจจะกลับดึกหน่อยนะคะ ” แต่ผ่านไปราวๆ5นาที ก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับ พอเปิดดูก็พบว่าเผ่าเพชรยังไม่อ่านไลน์เธอด้วยซ้ำ“ ยุ่งอยู่รึเปล่าคะ ” “ พักผ่อนบ้างนะ เป็นห่วง” “ คืนนี้หลับฝันดีนะคะ ” พอยิ่งดึก คนก็ยิ่งเยอะ นักดนตรีวงแรกหมดหน้าที่แล้วเตรียมตัวกลับ และเป็นวงที่สองที่มาทำหน้าที่แทนเสียงนักร้องกล่าวแนะนำตัว และทักทายลูกค้าพร้อมกับเปิดวงด้วยเพลงแรกที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ต้ากับชานนท์ ที่ดื่มไปพอสมควร ชวนกันออกไปดิ้นหน้าเวที สักพัก ชานนท์ก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ลากกี้ออกไปเต้นด้วย พี่เอฟเห็นมีที่ว่างจึงขอตัวจากเพื่อนๆ มานั่งด้วย เพราะกลัวว่าน้องๆจะเหงา“ ไม่ออกไปเต้นกันเหรอ ” พี่เอฟถามพลางมองหน้าทุกคน“ไม่อ่ะพี่ ถ้าไม่เมามันเต้นไม่ออก ” เต้พูดเขินๆ เขาเป็นคนขี้อาย ถ้าร่างกายไม่มีแอลกฮอลล์เขาคงไม่กล้าที่จะสนุกสุดเหวี่ยงเหมือนเพื่อนๆแน่นอน“ตังเมมันก็ไม่ชอบเต้น ” เต้พูดเสริม“ เต้ พาเราไปห้องน้ำหน่อยดิ เดินไม่ค่อยไหวว่ะ สงสัยจะเมาแล้ว ” ตังเมกวักมือเรียกเพื่อนให้มาช่วย เธอกะจะไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นสักหน่อย เต้เดินมาพยุงเพื่อนสาว และฝากโต๊ะกับพี่เอฟ เพราะกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือของทุกคน วางบนโต๊ะหมดเลย“ ไม่เป็นไร ไปเหอะ เดี๋ยวพี่นั่งเฝ้าให้เอง ไม่ต้องห่วง ” เมื่อพี่เอฟอาสา เต้ก็ค่อยวางใจ เขาค่อยๆพยุงพาตังเมที่เดินโซซัดโซเซมาล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นตรงก็อกน้ำด้านนอก และยืนรอเพื่อนสาวสักพัก พอเห็นว่าอาการดีขึ้นบ้างแล้ว ก็ค่อยโล่งใจ“ทำไมวันนี้คนเยอะจังวะ ” ตังเมบ่นพึมพำ เพราะด้วยความที่ร้านมีลูกค้าเยอะกว่าวันอื่นๆ ทำให้ใครต่อใครก็เดินชนเธอ ทั้งๆที่เธอพยายามจะหลบแล้วก็ตาม แต่ก็ยังโดนชนอยู่“มันเป็นวันศุกร์ไง พรุ่งนี้วันหยุด เขาเลยมาเที่ยวกันเยอะ ” เต้ตอบ พลางเดินโอบเอวเพื่อนนิดๆ พยุงให้เดินไปที่โต๊ะ ระหว่างเดินกลับโต๊ะ ตังเมก็ได้ยินเสียงใครสักคนที่คุ้นหูเธอมาก เธอพยายามตั้งใจฟังว่าเสียงใคร จนมั่นใจว่าไม่ผิดคนแน่ๆ จึงให้เต้พาเข้าไปดูใกล้ๆ“ มึง กูว่ากูเห็นพวกพี่เพชรว่ะ อยู่โต๊ะนู้น พากูไปดูหน่อย ” พูดพลางชี้นิ้วไปยังโต๊ะที่อยู่ตรงหัวมุมพอเต้หันไปมองก็ตกใจ ชิบหาย พี่เพชรจริงๆด้วย มากับพี่แผนและพี่กายแน่ๆ เพราะเหมือนเห็นพี่สองคนนั้นแว๊บๆที่ห้องน้ำ แต่มันชิบหายสุดๆตรงที่ว่ามีใครบางคนกำลังนั่งตักพี่เพชรอยู่“ มึงมั่วแล้วเม พี่เพชรที่ไหนกัน กูไม่เห็นมีเลย เมาแล้วตาลายนะมึง” เต้รีบพูดเปลี่ยนประเด็นและดึงดูดความสนใจของตังเมไปที่อื่น“ รีบกลับโต๊ะดีกว่า ฝากพี่เอฟเฝ้าของให้นานๆมันไม่ดี เกรงใจแก ” พูดพลางลากตังเมให้เดินตาม กำลังจะพ้นมุมอับอยู่แล้วเชียว โลกก็เหวี่ยงความบังเอิญมาให้เจอกันอีกจนได้ เมื่อเสียงเพลงดังๆนั้นมันดันมาจบเพลงทำให้ตังเมได้ยินเสียงใครบางคนพูดขึ้นมา อย่างชัดเจน“ พี่เพชรมาเที่ยวที่นี่บ่อยไหมคะ” ตังเมหยุดชะงัก ค่อยๆหันกลับไปมองอีกครั้ง คราวนี้เธอมั่นใจว่าเธอตาไม่ฝาด สะบัดมือเต้ที่จับแขนเธออยู่ออก และเดินย้อนกลับไปที่โต๊ะนั้นอีกครั้ง เต้รีบวิ่งตามตังเมไปทันที จับตัวเพื่อนไว้กลัวเพื่อนวีนแตก แต่เหมือนคนที่ตกเป็นเป้าสายตาเธอยังคงไม่รู้สึกตัว แม้ว่าตังเมจะมาหยุดอยู่ข้างหลังเขาแล้วก็ตาม“ พี่เพชรมีแฟนรึยังคะ ” สาวสวยยังคงออดอ้อนต่อบนตักเขา หยิบแก้วเหล้าป้อนเขาในขณะที่มือเขานั้นโอบเอวเธอหลวมๆ คราวนี้ถึงเสียงเพลงจะดังแล้ว แต่ด้วยความที่อยูใกล้มาก ทำให้ตังเมได้ยินชัดทุกคำถาม และทุกประโยคที่เผ่าเพชรตอบ เห็นชัดทุกการกระทำของเขา“มีแต่คนคุยอ่ะ แต่แฟนยังไม่มี” น้ำเสียงทุ้มๆที่ตังเมคุ้นชิน ออดอ้อนกลับไป เต้พยายามจะดึงเพื่อนให้กลับโต๊ะ แต่ตังเมไม่ยอมกลับ เธอจะฟังต่อ เธออยากฟังจนจบ อยากจะรู้ว่าเขาจะพูดถึงเธอว่าอย่างไร“ แต่เหมือนปาล์มได้ยินมาว่า พี่คบกับสาววิศวะนี่คะ” “ คนนั้นก็คนคุยเหมือนกัน ยังไม่ได้คบและพี่ก็ไม่ได้จีบเขาด้วย เขามาจีบพี่เอง” “ แล้วพี่ชอบเขาไหมคะ ” น้องปาล์มยังคงถามต่อ ฝั่งเผ่าเพชรก็ตอบไปเรื่อยๆ ซึ่งตังเมจับใจความได้ว่าชอบ แต่ก็ชอบเท่ากับคนคุยคนอื่นๆ ไม่ได้พิเศษกว่าใคร และเผ่าเพชรยังพูดออกมาอีกว่าตอนนี้เขานั้นก็คุยกับหลายๆคน ไม่ได้คุยกับตังเมคนเดียว“ พี่คุยกับเขาก็ถูกคอ ก็เลยคุยต่อมาเรื่อยๆ แต่พี่ก็บอกกับเขาตั้งแต่แรกแล้วนะว่าเขาไม่ใช่สเปคพี่ เขาก็คงรับได้แหละ ถึงยังคุยกับพี่ต่อ ” ตังเมได้ยินหมดทุกคำที่เผ่าเพชรพูด ทุกคำมันตอกย้ำว่าตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา เธอหลอกตัวเองมาตลอด เธอยืนตัวสั่น กำหมัดแน่น น้ำตาค่อยๆไหลออกมา แต่แปลกที่เธอไม่ยอมส่งเสียงอะไรเลย ราวกับว่าเธอไม่ต้องการให้ผู้ชายใจร้ายที่อยู่ตรงหน้าเธอนี้ ได้รับรู้ถึงความเสียใจของเธอ เสียงของชานนท์ค่อยๆดังขึ้นข้างหูเธอ พี่มันไม่ชัดเจนนะเม มันดูไม่น่าไว้ใจ กูกลัวมันหลอกมึงหน่ะสิ เต้ค่อยๆประคองเพื่อนหันหลังกลับจะพาไปนั่งที่โต๊ะ แอบบนบานศาลกล่าวในใจ ถ้ายังพอมีบุญอยู่บ้าง ขออย่าเพิ่งเจอคนรู้จักตอนนี้เลย อยากพาเพื่อนรักกลับไปเร็ว เพราะตังเมตอนนี้แม้แต่ยืนเองยังไม่ไหวแล้วแต่โชคก็ไม่ยอมเข้าข้างเขา สองขาที่กำลังจะก้าวเดินออกไปต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงของขุนแผนที่เรียกไว้“ อ้าวน้องเม มาได้ไง ไอ้เพชรไปรับเหรอ” เผ่าเพชรหันหลังขวับ กลับมามองอย่างเร็ว เมื่อได้ยินเสียงขุนแผน แววตาตื่นๆ และเมื่อเห็นว่าตังเมยืนร้องไห้อยู่ข้างหลังก็ตกใจมาก เขาผลักปาล์มให้ลุกจากตักเขาและรีบเดินมาหาตังเม ยื่นมาจะคว้าตัวน้องมากอด พร้อมกับอธิบาย แต่เต้ยืนบังไว้มิด และไม่ยอมให้เข้าใกล้เพื่อนเลย สายตาเต้บอกเผ่าเพชรว่าขืนยังก้าวมาอีกแค่ก้าวเดียว มีเรื่องแน่เผ่าเพชรลอบกลืนน้ำลายลงคอ แอบหวั่นๆ เวลาเต้มันโมโห น่ากลัวไม่แพ้ชานนท์เลยกายที่เพิ่งเดินมาถึงตกใจมากที่เห็นน้องร้องไห้ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน หันไปมองขุนแผนด้วยสายตาอยากรู้ ขุนแผนชี้นิ้วไปที่ปาล์ม ที่กำลังยืนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า แทนคำตอบกายเข้าใจทันที ไอ้เชี่ยเพชรเอ้ย มึงทำอะไรลงไปเนี่ยย บอกแล้วจะทำอะไรให้คิดหน้าคิดหลังก่อนในขณะที่ปาล์มค่อยๆ เดินออกจากวง และกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง เต้ พี่ขอคุยกับเมหน่อย เผ่าเพชรเอ่ยกับรุ่นน้อง พยายามขอร้องและอ้อนวอนด้วยสายตา เขาไม่รู้ว่าตังเมมาตั้งแต่ตอนไหน ได้ยินอะไรบ้าง แต่เขาก็ยอมรับว่าเขาผิดเองที่พูดออกไปแบบนั้น เขาจะไม่โทษใครทั้งนั้น เขาโทษตัวเองแค่คนเดียวเต้จ้องหน้ารุ่นพี่นิ่ง สายตาน่ากลัวจนแม้กระทั่งกายและขุนแผนยังขยาดแทน คิดเหรอว่าเขาจะยอมให้โอกาสนั้นกับผู้ชายเลวๆอย่างพี่มัน ดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ใจร้อนเหมือนต้า ไม่มือไวตีนไวเหมือนชานนท์ ดีแค่ไหนแล้วที่เขาระงับอารมณ์ไม่ต่อยมันออกไป ยังมีหน้าจะมาขอคุยกับเพื่อนเขาอีก ใจร้ายมาก หัวใจทำด้วยอะไรตังเมกระซิบบอกเต้เสียงสั่นๆว่าอยากกลับ เธอยืนต่อไม่ไหวแล้ว เรี่ยวแรงมันหมดไปตั้งแต่ได้ยินเผ่าเพชรพูดประโยคนั้น เต้พยักหน้า และกอดประคองเพื่อนเดินจากไป โอบกอดร่างบางที่กำลังสั่นเทิ้มด้วยความเสียใจนั้นไว้ และปลอบประโลม แม้จะเดินออกมาไกลเรื่อยๆ แต่เต้ก็ยังได้ยินเสียงของเผ่าเพชรที่ตะโกนตามหลังมา เม พี่ขอโทษ คุยกันก่อนได้ไหม เพื่อนสาวยังสะอื้นไม่หยุด ยิ่งได้ยินยิ่งร้องไห้หนักมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆเต้ทำได้ดีที่สุดแค่รีบพาเพื่อนเดินออกมาให้ไกลที่สุด จะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงนั้นอีกเขาหวังว่าต้ากับชานนท์จะยังเต้นกันอยู่ ขออย่าให้อยู่ที่โต๊ะเลย เขาไม่อยากให้ทั้งสองคนเห็นสภาพตังเมตอนนี้ มันไม่มีอะไรที่น่าดูเลยสักนิด ถ้าพวกนั้นเห็น เรื่องมันจะไม่จบง่ายๆแค่นี้แน่ เขาตั้งใจจะพาตังเมกลับบ้านไปก่อน แล้วค่อยกลับมาที่ร้านใหม่อีกรอบแต่อะไรๆก็ไม่เข้าข้างเขา เหมือนเขาเป็นคนบาปขอร้องอะไรไปสวรรค์จึงไม่เมตตาเขาเลยแม้สักนิด แม้เขาจะกราบกรานเพียงใด ก็ไม่มีประโยชน์ เขารู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อเห็นต้ากับชานนท์ยืนจ้องเขาที่โต๊ะ และถามออกมาพร้อมกัน เมเป็นอะไร
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่11 ฝากใจ#11
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A