ตอนที่2 ความน่ากลัว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่2 ความน่ากลัว
C h a p t e r 2 เสียงฝีเท้ากำลังวิ่งวุ่นไปทั่วอย่างเร่งรีบ ชายชุดดำเต็มไปด้วยรอยสักยืนกอดอกอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าแววตาเต็มไปด้วยสัญญาณอันตราย ผู้คนที่เดินผ่านไปมาจุดนี้ต่างมองด้วยความระมัดระวัง หวาดกลัว ภายในห้องมีกลิ่นบุหรี่กับเหล้าคละคลุ้งปะปนกัน ชายหนุ่มตัวสูงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของเขาลดน้อยลงแม้แต่น้อย \"มาแล้วครับนาย\" ชายชุดดำเดินก้มหน้าเข้ามาอย่างนอบน้อม \"พาเข้ามา\" เสียงมาจากผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังตอบแทน ชายชุดดำโค้งคำนับสักพักก็เดินออกจากห้องแล้วลากผู้ชายคนหนึ่งที่เนื้อตัวมอมแมม มีแต่บาดแผล ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ คิ้วแตก ปากเจ่อ เข้ามาก่อนจะถูกผลักให้ลงไปนอนกับพื้น \"ไอ้บ้าเอ๊ย!! ไอ้พอลสัน!! แกมันโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ถึงกล้าทำกับฉันแบบนี้ แค่กๆ \" เควินเดินมายืนข้างหน้าเจ้านาย สายตาเย็นชามองผู้ชายที่กำลังหายใจหอบแรงอยู่บนพื้น \"ประธานมนตรี ผมให้เวลาคุณมาหนึ่งเดือนแล้วในการนำเงินมาคืน\" มนตรีเงยหน้ามองเควินก็ยิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้นไปอีก \"แค่เดือนเดียวพวกแกคิดว่าฉันจะหามาได้หรือไง!! \" \"งั้นก็ต้องเป็นไปตามกฎครับ\" \"พวกแก คิดจะตัดมือฉันงั้นสิ ฮ่าๆ คนอย่างมนตรีไม่เคยกลัวเว้ย!!! เอาสิ เอาเลย!!! \" มนตรีหัวเราะร่าพร้อมกับยื่นมือไปตรงหน้าเป็นการท้าทายอย่างที่สุด พอลสันนั่งดูเหตุการณ์ด้วยแววตาเยือกเย็นมีความรู้สึกรำคาญมากขึ้นเรื่อยๆ จนอดทนไม่ไหวแล้ว คนอวดดีแบบนี้คงต้องเจอกันสักหน่อย \"ประธานมนตรี…\" เสียงเรียกทรงอำนาจของพอลสันทำให้มนตรีหยุดหัวเราะแล้วเหลือบสายตามองผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความหวาดกลัว มือมีอาการสั่นเทา ร่างกายนิ่งแข็งไปชั่วขณะ มนตรีรู้ดีว่าชื่อเสียงของพอลสันเป็นยังไง สังคมภายนอก เขาคือนักลงทุนที่มีเงินทองไม่ขาดมือ มีหุ้น มีบริษัทหลายร้อยกว่าแห่งที่อยู่ในเครือ Red Blood แต่ภายในธุรกิจใต้ดินที่เขาเป็นเจ้าของ คือปล่อยเงินกู้ เจ้าพ่อกาสิโน และเป็นมาเฟียข้ามชาติ ความโหดเหี้ยมของเขาคือคำพูดเล่าขานต่อกันมา มนตรียังไม่เคยพบเจอความน่ากลัวที่แท้จริง เขาจึงไม่เชื่อว่าผู้ชายคนหนึ่งจะกล้าทำอะไรเหนือกฎหมาย ก็ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรขึ้นมา เชื่อว่าคนในครอบครัวต้องทวงความยุติธรรมให้เขาแน่ เขาตัดสินใจเก็บอาการ และเชิดหน้าขึ้น \"ทำไม!! คุณจะทำอะไรผม จะฆ่าผมงั้นเหรอ เอาเลย เอาสิ\" พอลสันเริ่มหงุดหงิด แววตาของเขากำลังฉายไอสังหาร รอยยิ้มเยือกเย็นทำให้มนตรีต้องกลืนน้ำลายและเริ่มกระเถิบหลังหนี พอลสันหลับตาลงเพื่อปรับอารมณ์ให้อ่อนลงก่อนจะลืมตาขึ้นมา แววตาปรับเปลี่ยนเป็นเฉยชา ไร้ความรู้สึก \"เงินสามสิบล้านที่คุณยืมไป ผมไม่สนว่าคุณจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่ในเมื่อตกลงทำสัญญากันไว้ว่าจะคืน ก็ต้องคืน\" \"แล้วเดือนเดียว ใครมันจะหามาคืนทันวะ!! \" ตุบ! ตับ! ชายชุดดำเข้ามาถีบมนตรีที่พูดจาไม่ให้ความเคารพเจ้านายอย่างแรง จนพอลสันอดถอนหายใจยาวๆ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนไม่ได้ \"ผมให้เวลาคุณตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว จนตอนนี้ผ่านมาหนึ่งปีกับอีกหกเดือน คุณยังคิดว่าน้อยอีกเหรอ\" น้ำเสียงของเขาเนิบช้า ทำให้มนตรีก้มหน้าครุ่นคิด เขายืมเงินครั้งแรกเมื่อต้นปีที่แล้วสิบล้าน ตอนแรกว่าจะเอาไปฟื้นฟูบริษัท แต่จู่ๆ เขาก็มีความคิดอยากได้เงินมากกว่านี้และรวดเร็วกว่านี้ เลยเอาเงินส่วนหนึ่งมาลงบ่อน ด้วยความคึกคะนอง เล่นรอบแรกได้คืนมาสองล้าน แต่พอหลังจากนั้นกลายเป็นหมดตัวแถมยังเป็นหนี้เพิ่มขึ้นอีก รอบสองตอนต้นปีที่ผ่านมาก็ขอยืมอีกยี่สิบล้าน สุดท้ายก็เอาไปลงบ่อนการพนันเหมือนเดิม \"ตะ...แต่เดือนเดียว ผมหามะ...มาคืนไม่ทันหรอก\" น้ำเสียงของมนตรีเริ่มอ่อนลง \"แล้วเดือนที่แล้ว คุณสัญญากับลูกน้องผมทำไม\" มนตรีเงยหน้ามองเควินที่ยืนอยู่ข้างๆ พอลสัน จำได้ว่าเมื่อต้นเดือน เควินมาหาเขาที่บ้านเพื่อพูดคุยเรื่องระยะเวลาการคืนเงิน ตอนนั้นมนตรีเพิ่งได้เงินคืนมาจากคนที่เคยยืมไป แต่ก็เอาไปลงบ่อนอีกครั้งจนหมดตัวเช่นเดิม จากนั้นก็ดื่มเหล้าเมามายอยู่ในห้อง แทบไม่ได้ฟังเควินด้วยซ้ำ แค่รู้สึกรำคาญ เลยพูดตัดบทไปว่า ’ฝากไปบอกเจ้านายของพวกแก สิ้นเดือนนี้ฉันจะเอาไปคืนให้ทั้งต้นทั้งดอก!!’ ที่มนตรีพูดออกไป มันคืออารมณ์โกรธบวกกับฤทธิ์เหล้าทั้งนั้น มานึกจำได้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว \"คุณรู้หรือเปล่า ว่าผมเกลียดอะไรมากที่สุด\" พอลสันโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย หรี่ตามองมนตรีก่อนจะแสยะยิ้มอย่างซาตาน \"ผมเกลียดคนที่ไม่รักษาคำพูดแบบคุณที่สุด...\" มนตรีมีแต่ความหวาดกลัว กลัวชื่อเสียงที่ถูกร่ำลือมานักต่อนัก กลัวว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสกลับไม่หาลูกสาวที่บ้าน กลัวว่าต้องตายแม้ศพก็หาไม่เจอ พอลสันลุกขึ้นเอามือไขว้หลังและเดินมายืนตรงหน้าของมนตรี เขาไม่ได้พูดอะไร ใช้ความเงียบสยบทุกอย่าง มนตรีมีความรู้สึกตัวหดเล็กลง คล้ายมีหนามแหลมคมทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากมองรองเท้าหนังสีน้ำตาลที่อยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางเหม่อลอย พอลสันก้มมองผู้ชายที่นั่งอยู่กับพื้นด้วยความสมเพช พวกผีพนันจุดจบก็เป็นอย่างที่เห็น ทั้งที่ครอบครัวก็มีธุรกิจที่สามารถต่อยอดได้ เขาให้ยืมเงินดอกน้อยเพราะคิดว่ามนตรีจะเอาเงินไปลงทุนเพื่อให้ธุรกิจฟื้นคืนตัวอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็เอาเงินมาลงในบ่อนจนหมด คนประเภทนี้ ต่อให้โอกาสอีกกี่ครั้งก็สูญเปล่า เขาส่ายหน้าด้วยความเอือมระอาก่อนจะเดินออกจากห้อง \"คะ…คุณพอลสัน...ผะ...ผมขอโอกาสอีกครั้ง ผมขอโอกาส!!!! \" ประตูถูกปิดลง พร้อมกับเสียงที่เลือนหายไป ชายชุดดำยืนอยู่หน้าห้องโค้งคำนับให้เขาด้วยความเคารพ จนกระทั่งชายหนุ่มเดินออกมาจากร้าน ทุกคนถึงได้ยืดตัวตรงขึ้น ครืด ครืด ครืด ครืด พอลสันล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อกดดูข้อความ และนั่นทำให้คิ้วขมวดของเขาคลายลง กลายเป็นยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ปลากินเบ็ดแล้ว :) แต่ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ ยัยตัวแสบจะส่งผู้หญิงสวยแซ่บ หน้าอกคัพดี ขายาวเรียวขาวมาแทน แถมพ่วงมาด้วยเลขาหน้าเด็กที่ชื่อน้ำซึ่งตอนนี้กำลังพูดถึงแผนงานยาวเหยียด ที่ฟังยังไงก็แทบไม่เข้าหูเลยสักนิด เขาถอนหายใจละสายตาจากหญิงสาวคัพดี มองไปยังวิวถนนข้างนอก ทำไมต้องมาอดทนกับอะไรแบบนี้ด้วยนะ เควินลอบมองเจ้านายที่นั่งขมวดคิ้วเหมือนกำลังอดกลั้นอารมณ์ที่แทบจะปะทุออกมา เพื่อไม่ให้สาวๆ โดนลูกหลง จึงยกมือขึ้นเป็นเชิงให้หยุดพูด ซึ่งเลขาสาวที่อ้าปากอยู่ก็ปฏิบัติตามทันที แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังต้องการคำตอบอะไรบางอย่าง... \"คะ...คุณพอลสันคะ ไม่ทราบว่า...\" \"ผมเพิ่งรู้นะครับ\" \"คะ? \" เลขาน้ำเอียงคออย่างสงสัย \"ว่าเจ้านายของพวกคุณ จะให้เกียรติผมมากขนาดนี้\" ฟังดูก็รู้ว่าชายหนุ่มกำลังพูดประชด ก็เขาดันกัดฟันพูดเสียขนาดนั้น \"พอดี คุณเรียวติดธุระมาไม่ได้ค่ะ เลยให้ดิฉันมาแทน\" \"ธุระที่ว่า สำคัญกว่าเรื่องที่กำลังคุยกันอีกเหรอ\" แม้น้ำเสียงจะดูปกติแต่เขากำลังแผ่ไอคุกคามอยู่ หญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่ด้านข้างจึงได้แต่กลืนน้ำลายลงคอกับบรรยากาศที่เริ่มอึมครึม ทั้งที่เมื่อเช้าเจ้านายของเธอเตือนแล้วเตือนอีกว่าอย่าทำให้คุณพอลสันอารมณ์เสียเด็ดขาด แต่คนที่ทำให้เขาอารมณ์เสียไม่ใช่พวกเธอนะ แต่เป็นเจ้านายต่างหาก พรึบ! อยู่ๆ ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน หยิบแฟ้มเอกสารแผนงานที่ว่ามาเปิดดูลวกๆ แล้วโยนทิ้งจนกระดาษกระจุยกระจายเต็มพื้น ก่อนจะหลับตาลงแล้วกัดฟันพูดด้วยความอดทนอีกครั้ง \"กลับไปบอกเจ้านายของพวกคุณ ผมจะไม่ลงทุนกับโรงแรมอีเจ้นเด็ดขาด\" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นจบก็ลืมตาขึ้นแล้วหมุนตัวเดินจากไป ขณะที่เลขาน้ำเริ่มน้ำตาคลอเบ้า พลางครุ่นคิดถึงอนาคตที่ต้องตกงานเพราะโรงแรมจะถูกปิดตัวลง ค่าเช่าห้อง ค่าโทรศัพท์ ทุกอย่างต้องใช้เงินทั้งนั้น แล้วเธอจะไปสมัครงานที่ไหนได้ในตอนนี้ ยังคิดได้ไม่เท่าไหร่ก็เห็นชายหนุ่มหยุดเดินแต่ไม่ได้หันกลับมามอง เลขาน้ำ ตื่นตระหนก ตกใจ เพราะกลัวว่าเขาจะหันมาด่าพวกเธออีกครั้ง แต่สิ่งที่ได้ยินทิ้งท้าย กลับทำให้แผ่นหลังบางเริ่มคลายความกังวลลง \"แต่ถ้าเจ้านายของพวกคุณมาเอง ผมจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ\" คำพูดนี้ทำให้เลขาสาวเบิกตากว้าง แสดงความดีใจออกมาเล็กน้อย แสดงว่าถ้าคุณเรียวไปเอง จะมีโอกาสมากกว่านี้ สาวคัพดีนั่งเท้าคางมองดูชายหนุ่มที่กำลังเดินไปขึ้นรถเบนซ์สีดำ ก็รู้สึกได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นรัว ผู้ชายอะไร หล่อเหลาได้ขนาดนี้ แถมยังมีบอดี้การ์ด ชายชุดดำยืนอ้อมล้อมอยู่ประมาณสิบกว่าคนอีก ถ้าเธอเกิดเป็นนายหญิงของเขาจะเป็นยังไงกันนะ แล้ววันนี้คุณเรียวให้เธอแต่งตัว ดันหน้าอกจนเห็นร่อง เพื่อคอยหว่านเสน่ห์ให้เป้าหมายหลงใหล แต่ดูสิ เธอได้แต่ก้มหน้าเพราะถูกแววตาที่น่ากลัวของเขาจ้องมองจนทำตัวไม่ถูก แล้วแทบไม่ได้พูดอะไรสักคำเลยด้วยซ้ำ เธอมาทำอะไรที่นี่กันแน่ คิดจะมาล่าเหยื่อกลับมาถูกเหยื่อล่าเสียเอง หลงเสน่ห์ผู้ชายคนนั้นจนจะเป็นบ้าอยู่แล้วเนี่ย เลขาน้ำไม่ได้สนใจหญิงสาวข้างกาย รีบกดสายโทรไปหาเจ้านายทันที หลังจากที่วางสายจากเลขาน้ำ เรียวก็ทรุดตัวลงนั่งอยู่บนเก้าอี้ในสภาพของคนเกียจคร้าน ดวงตาไร้จุดโฟกัส สมองกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก เขา...กำลังแก้แค้นเธอ ให้ตายเถอะ!! ถ้ารู้ว่าเขาจะเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้ เธอคงเผ่นกลับบ้านไม่ขึ้นไปหา ไม่ไปยุ่งแล้ว หรือไม่วันนั้นก็น่าจะถ่ายรูปเก็บไว้สักใบสองใบ แล้วเอามาแบล๊คเมล์เขาทีหลัง น่าเสียดายจริงๆ แล้วจะเอายังไงละทีนี้ เขาบอกว่าถ้าให้เธอไปเอง จะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ แสดงว่ายังมีโอกาสใช่ไหม แต่...คงต้องแลกกับอะไรสักอย่างแน่ๆ เธอรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี แล้วถ้าไป เธอควรจะพูดอะไร ขอโทษเรื่องวันนั้นหรือหว่านเสน่ห์ไปเลย แบบในหนังที่เคยดู อ่อยผู้ชายให้หลงรักหัวปักหัวปำ จากนั้นก็รอให้เขายกทุกอย่างให้ สุดท้ายก็ค่อยทิ้งไป ไม่นานเขาก็จะกลายเป็นโรคซึมเศร้าจนฆ่าตัวตาย...ไม่ไม่ เธอไม่ได้จะทำให้ใครตายสักหน่อย แค่ให้เขายอมลงทุนด้วยเฉยๆ \"เฮ้อ\" เรียวถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย ก่อนที่สายตาจะหันไปโฟกัสกับรูปติดผนังอันใหญ่ นั่นคือรูปครอบครัว ที่มีพ่อมีเธอแล้วก็แม่ \"แม่คะ คิดถึงแม่จัง\" เป็นประโยคพึมพำที่เต็มไปด้วยความอาวรณ์ ในเมื่อตั้งใจจะฟื้นฟูกิจการสาขานี้ของแม่ ก็ต้องทำให้สุดความสามารถ เอาวะ ’เธอจะไปเจอเขา’ เป็นไงก็เป็นกัน!!! เรียวใช้เวลาตัดสินใจและเพื่อทำใจเป็นเวลา 2 วัน วันนี้ก็ให้เลขาน้ำโทรนัดคุณพอลสันผ่านทางเลขาส่วนตัวของเขา จากนั้นก็รอ… แต่...วันเวลากับสถานที่ที่เขานัดมา มันค่อนข้างจะเกินไปสักหน่อย ก็ใครที่ไหนใช้ให้เขานัดเจอกันในโรงแรมตอนสี่ทุ่มบ้าง แม่ง!! เรียวอยากจะสบถดังๆ แต่ก็ต้องข่มใจไว้เพราะลิฟต์ใกล้จะถึงชั้นเป้าหมายแล้ว ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก มือเริ่มมีเหงื่อออก หัวใจเต้นแรงและเร็วมาก ขาก็สั่นไหว ได้แต่ยืนกลืนน้ำลายจ้องมองตัวเลขที่กำลังแสดงชั้นของลิฟต์ด้วยความกังวลใจ \"คุณเรียวคะ จะให้มินนี่ทำอะไรบ้างคะ\" เรียวหันไปมองผู้หญิงข้างๆ เธอคือคนที่พ่อหามาให้ พ่อบอกว่าถ้าผู้หญิงที่พาไปสามารถทำให้คุณพอลสันพึงพอใจได้ จะยิ่งทำให้การตกลงร่วมลงทุน ประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีก เธอปรับอารมณ์ให้เย็นลงเพราะอย่างน้อยตอนนี้เธอก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรมด้วย \"แค่ทำให้เขาพอใจก็พอ ห้ามทำให้เขาโกรธเด็ดขาด\" \"แล้วถ้าเขาจะให้มินนี่ขึ้นเตียง...\" นั่นก็เป็นอีกอย่างที่เรียวกังวล ตั้งใจพาผู้หญิงคนนี้มาเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นเท่านั้น แต่ถ้า... \"ถ้าคุณมินนี่ไม่ต้องการ เรียวจะคุยให้เองค่ะ ไม่ต้องห่วง\" เรียวเอื้อมมือไปจับมือของมินนี่เพื่อเป็นการปลอบโยน \"ขอบคุณมากนะคะ คุณเรียว\" มินนี่ยิ้มตอบเล็กน้อย ตึ้ง! ถึงชั้นเป้าหมายแล้ว เรียวยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ ลมหายใจเริ่มถี่กระชั้นจนต้องใช้มือลูบหน้าอกเพื่อให้คลายความตื่นกลัวออกไป ถึงแม้ว่าจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้ก็ตาม แกต้องขอโทษจากใจจริงเท่านั้น ถึงแม้ว่า...แกไม่อยากจะทำก็ตามนะเรียว ทุกย่างก้าวที่เดิน สำหรับเรียวเหมือนกำลังเข้าสู่ประตูนรกขุมที่ร้อนที่สุด ถ้าผ่านประตูนี้ไปได้ ชีวิตนี้คงไม่มีอะไรน่ากลัวอีกแล้ว...
已经是最新一章了
加载中