ตอนที่7 เฮงซวย
C h a p t e r 7
พอลสันกับเรียวมองหน้ากันอย่างคุมเชิง
เรียวหรี่ตามองเขาอย่างไม่พอใจ ทั้งที่เธอพยายามตั้งใจทำงานแต่เขากลับเอาแต่คิดเล็กคิดน้อย คอยแต่กลั่นแกล้งเธอแบบเด็กๆ
เหอะ!!
ส่วนพอลสัน สมองของเขากำลัง Error ไม่สามารถคิดอะไรได้ชั่วคราว
\"ฉันถามคุณตรงๆ นะ คุณยังคิดแค้นฉันเรื่องวันนั้นอีกเหรอคะ\" เรียวนึกไม่ออกว่าตัวเองทำอะไรให้เขาไม่พอใจนอกจากเรื่องวันนั้น แต่เขาก็แก้แค้นเธอไปแล้วไง โดยการให้เธอนั่งรอในห้องแอร์ตั้งห้าชั่วโมง ทบทั้งต้นทั้งดอกด้วย
ถ้าจะบอกว่าพอลสันคิดแค้นก็คงไม่จริง เพราะตอนนี้เขาแค่ทำตามความรู้สึกเฉยๆ แค่อยากให้เธอคลายความระมัดระวังลงบ้าง เขาจะได้...
ทำไมเวลาเธอหายใจหน้าอกถึงกระเพื่อมแรงจนน่า...
โธ่โว้ย!! ที่เขาสนใจตอนนี้คือ เขาจะได้กินเธอเมื่อไหร่ต่างหาก
เรียวเห็นสายตาที่ซ่อนความปรารถนาไม่อยู่ของเขา กำลังเพ่งมองมาที่หน้าอกของเธอ...
\"เปล่า\" น้ำเสียงแหบพร่าของเขาทำให้เรียวต้องยกแขนขึ้นมากอดไหล่แน่น เพื่อป้องกันการจาบจ้วงทางสายตา
จึงพอจะทำให้พอลสันได้สติเล็กน้อย เขากระแอมเล็กน้อยด้วยความเก้อเขินก่อนจะหลุบสายตาลง
\"วันนั้น ผมแค่อยากกินกาแฟดำ\" เขาไม่เข้าใจว่าต้องมาแก้ตัวทำไม เธอเป็นเลขาของเขานะ ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาถาม
แต่….ปากมันไม่ยอมทำตามใจ
\"อ๋อ\" เรียวพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ แต่ความจริงเธอต้องการจบบทสนทนาเพื่อออกจากห้องต่างหาก \"งั้นฉันขอตัวค่ะ\"
พอลสันมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนลับตา ด้วยความอาวรณ์
อะไรกัน แค่นี้เองเหรอ เธอไม่โกรธไม่อะไรด้วย นี่เธอไม่สนใจเขาจริงๆ หรือกำลังเรียกร้องความสนใจจากเขากันแน่
เรียวเดินออกมาจากห้องทำงาน เดินไปชงกาแฟให้เจ้านายที่ห้องพักผ่อนของพนักงานตามคำสั่ง ในเมื่อเขาบอกว่าไม่กินกาแฟดำ แสดงว่ากินกาแฟทรีอินวันสินะ
เหอะ!! งั้นเธอจะทำทรีอินวันให้เขากินจนลืมไม่ลงไปเลย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เรียวเคาะประตูก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องทำงานด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน ทั้งที่เขายังคงก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่บนโต๊ะ แทบไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ แต่ดูคงเป็นงานสำคัญ ถึงทำให้ใบหน้าของเขาตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
เธอวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ ทางข้างขวามือของชายหนุ่มเพื่อให้หยิบง่าย จากนั้นก็ตั้งใจจะเดินออกไป
\"เดี๋ยว\" แต่กลับได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำเรียกเสียก่อน เธอหันกลับไปมองเขาที่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา \"ช่วยรดน้ำต้นไม้บนชั้นหนังสือให้ผมด้วย\"
“…” อะ...อะไรนะ รดน้ำต้นไม้ ให้เธอรดน้ำต้นไม้จริงๆ เหรอ
\"ยืนนิ่งอยู่ทำไมครับ เดี๋ยวต้นไม้ผมตาย\" ตกลงที่นี่ไม่มีแม่บ้านหรือไง ถึงต้องมาให้เลขาอย่างเธอมาทำทุกอย่างแบบนี้
เรียวจำใจเดินไปหยิบที่ฉีดต้นไม้ที่แขวนอยู่ แล้วเดินไปฉีดต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่ชั้นหนังสือ ถ้าไม่ติดว่าต้องทำงานอยู่ที่นี่เพื่อแลกกับการเซ็นสัญญา เธอคงได้สติแตกไปนานแล้ว
พอลสันละสายตาจากเอกสารบนโต๊ะ เหลือบสายตาขึ้นไปมองเธอ แสงอาทิตย์ที่เข้ามากระทบกับผิวขาวๆ ทำให้ดูผ่องใสจนน่าหลงใหล ดวงตาเป็นประกาย ริมฝีปากเม้มแน่น เขาเคยเจอผู้หญิงสวยกว่านี้มามากมาย แต่ทำไมเขาถึงมองเธอสวยมากกว่าคนอื่นนะ แถมเธอยังเป็นผู้หญิงที่สามารถทำให้เขามีอารมณ์ได้ตลอดเวลา แค่เห็นเธอตอนนี้ ก็แทบอย่างจะฉีกเสื้อผ้านั้นออกแล้วลูบไล้เรือนร่างที่อยู่ใต้ร่มผ้านั่นเสีย
\"คุณพอลสัน จะทำอะไรคะ\" เสียงหวานใกล้ตัวทำให้พอลสันตื่นจากภวังค์และชะงักด้วยความตกใจ
เขาเดินมายืนข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แถมยังจับมือเธอที่กำลังถือที่ฉีดน้ำต้นไม้อยู่อีกต่างหาก สมองคิดแต่เรื่องจะจับเธอกินอย่างเดียวจนสติสตังหายไปไหนหมดแล้ว
ให้ตายสิ!!
\"ผม...จะบอกว่า คุณต้องรดน้ำแล้วเอามือกันอีกด้านไว้ด้วย กันน้ำกระเด็น\" เขาพูดพลางเอื้อมมืออีกข้างมาบังต้นไม้ด้านหลังไว้ ทำให้หญิงสาวที่เหมือนถูกโอบกอดอยู่เริ่มตัวเกร็งและใจเต้นแรง กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ กับบุหรี่อบอวลอยู่ใกล้ๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนกำลังถูกคุกคาม
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยมีสัมผัสอะไรแบบนี้กับผู้ชายมาก่อน แต่เธอไม่อยากได้สัมผัสแบบนี้จากเขาเท่านั้นเอง แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่ากลิ่นกายของเขามันทำให้เธอรู้สึกดี
เรียวดึงมือออกจากที่ฉีดน้ำและหันตัวมาเผชิญหน้ากับเขาเพื่อหลบหลีกออกจากการโอบกอดนี้ แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่ทำให้เธอสมปรารถนา
พอลสันมองหญิงสาวข้างหน้า แก้มของเธอแดงระเรื่อเล็กน้อยทำให้เขารู้สึกพอใจมาก เธอกำลังเขิน เธอกำลังหวั่นไหว งั้นก็แสดงว่าเธอก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างเหมือนกันใช่ไหม
เขาดันตัวเข้าหาหญิงสาวมากขึ้น มือสองข้างจับขอบชั้นหนังสือทำให้กันทางออกไว้ ทำให้เธอต้องร่นถอยหลังจนแผ่นหลังบางแนบชิดติดชั้นหนังสือ
\"คุณกำลังเขินผม…\" เสียงทุ้มต่ำปนเซ็กซี่บวกกับมีบางอย่างข้างล่างกำลังดุนดันอยู่ที่ท้องน้อยของเธอ ทำให้เธอไม่กล้าขยับตัวจนเกินไป
\"ปะ...เปล่า ฉันร้อน\" เธอตอบเขาอย่างฉะฉานดูไม่มีอะไรทำให้เธอหวั่นไหว แต่ความจริงหัวใจของเธอกำลังเต้นเร็วและแรงมาก
พอลสันเหมือนจะอ่านใจเธอออก รู้ว่าที่เธอพูดอยู่กำลังโกหก จึงขยับตัวมาข้างหน้าจนหน้าอกของเธอแนบชิดกับแผงอกของเขามากกว่าเดิม
ได้อยู่ใกล้เธอแบบนี้ทำให้นึกถึงวันนั้นที่เกือบจะทำอะไรต่อมิอะไร...
\"คุณพอลสันคะ ฉันอึดอัด\"
พอลสันยืนนิ่งไม่สนใจมือบางที่กำลังดันหน้าอกเขาอยู่ เขากำลังคิดว่าการที่ต้องอดทนไม่ให้กินเธอตอนนี้มันยากเหลือเกิน เป้ากางเกงของเขามันเริ่มแน่นจนเจ็บ เสียงลมหายใจเริ่มหนักหน่วง
เรียวเองก็สัมผัสได้ว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังมีอารมณ์และเขาต้องการกินเธอ เพราะสายตาที่เหมือนเสือจ้องจะงับเหยื่อแบบนี้เธอเคยเจอมาแล้ว และอยู่ๆ ใบหน้าของเขาก็โน้มลงมาเรื่อยๆ จนริมฝีปากเริ่มใกล้เข้ามา เกือบจะประกบกับปาก...
\"คุณพอลสัน...\" เสียงของเจนสุดาหยุดลงเพราะเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นตรงหน้า
\"เฮ้!! ทำไมไม่เจอนายเลยช่วง...โอ้ว ซอรี่\" ชายหนุ่มร่างสูงอยู่ๆ ก็ทะเล่อทะล่าเข้ามาพอเห็นภาพตรงหน้าก็รีบยกมือขึ้นปิดตา และแอบอมยิ้มกลับหันหลัง
พอลสันเมื่อได้ยินเสียงบุคคลที่สามก็หันหน้าไปมองตามเสียงทันทีทำให้หญิงสาวในอ้อมกอดที่กำลังตกใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผละร่างเขาออกได้สำเร็จ เขาเม้มปากแน่น ถอนหายใจ พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อนจะยกมือขึ้นลูบปลายจมูกแก้เขิน
\"ฉันขอตัวก่อนนะคะ\" เรียวลุกลี้ลุกลนรีบเดินออกจากห้องไป
\"คะ...คือ ฉันจะมาบอกว่าคุณเจคมาขอพบคะ…ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ\" แล้วเจนสุดาก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วเหมือนกัน
เหลือเพียงแค่พอลสันกับเพื่อนหนุ่มในห้องทำงาน ชายหนุ่มร่างสูงทำทีเป็นมองรอบห้อง เดินดูโน่นนี่ ใช้หางตามองพอลสันที่กำลังนวดขมับตัวเองพลางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน
“เมื่อกี้…ทำอะไรกัน” เจคเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะในลำคอ
“มีธุระอะไร”
\"ก็แค่เห็นว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอนาย ก็เลยตั้งใจมาหาที่นี่ แต่ว่า…” เสียงของชายหนุ่มลากยาวจนพอลสันเงยหน้าขึ้นมามองเจคด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
เจคไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขารีบเดินไปนั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
\"ตกลงเมื่อกี้ นายกำลังทำอะไรอยู่ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร\"
“…” พอลสันไม่ได้ตอบกลับ แต่ใช้สายตากดดันเพื่อนสนิทที่กำลังละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวจนเกินไป
ถึงแม้เจค จะเป็นเพื่อนสนิทและยังเป็นหนึ่งในดาราต้นสังกัดในเครือ Red Blood ที่กำลังโกอินเตอร์ไปอเมริกา งานที่ต้องทำก็มีมากมายจนแทบไม่น่าว่าง แล้วมาที่นี่ทำไม
\"มอง…มองแบบนั้นทำไม ฉันทำอะไรผิดเหรอ ฉันแค่อยากรู้ว่าเพื่อนของฉันกำลังทำอะไร ปกตินายไม่ชอบมีอะไรกับพนักงานในบริษัทไม่ใช่หรือไง แล้วคนเมื่อกี้เป็นใครกัน\" เจคทำท่าทางสนอกสนใจจนลืมเจตนาที่ตัวเองมาที่นี่ไปโดยปริยาย ก็เรื่องส่วนตัวของเพื่อนคืองานประจำของเขานี่นา แถมเพื่อนคนนี้ก็มีกฎว่าจะไม่กินพนักงานในบริษัทของตัวเองไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม และพนักงานต้องไม่ปีนเกลียวเจ้านายด้วยเหมือนกัน แต่เมื่อกี้คือใคร นั่นก็เป็นพนักงานเหมือนกันไม่ใช่เหรอ
\"นายชอบเธอเหรอ\" คำถามของเจค ทำให้พอลสันมองตาค้างไปหลายวินาทีเลยทีเดียว
บ้าน่า เขาจะชอบเธอได้ยังไง ก็แค่หวังจะกินเท่านั้นแหละ พอได้กินสมใจก็จะโดนเทไปตามระเบียบ ตอนนี้ยังไม่ได้กินเลยต้องใจเย็นๆ รอดูสถานการณ์ก่อน อยู่ๆ มาบอกว่าเขาชอบผู้หญิงคนนั้น
อยากจะหัวเราะให้ท้องแตก
พอลสันหัวเราะในลำคอก่อนจะแสยะยิ้ม
\"เธอเป็นเลขาของฉัน\"
\"เลขา? เลขาหน้าห้องนายคือคุณเจนสุดา ไม่ใช่เหรอ เธอก็ยังอยู่นี่นา แล้วจะเอาเลขาอีกคนมาทำอะไร\"
\"แทนเควินชั่วคราว\"
\"อ้าว เควินจะไปไหน\"
\"แคนาดา\"
\"มีเรื่องอะไร ไปไกลถึงโน่น หรือพอร์ชมีปัญหา\"
\"อืม\"
\"แล้วทำไมต้องให้ผู้หญิงมาเป็นเลขาแทนด้วย\"
\"แกมีปัญหาอะไรนักหนา\" พอลสันเริ่มหงุดหงิด เมื่อเพื่อนสนิทไม่มีวี่แววว่าจะหุบปาก
\"โห มายเฟรนด์ ทำไมไม่อ่อนโยนบ้าง แบบนี้ผู้หญิงจะหายหมดนะ\" พอลสันยังคงมองเจคด้วยใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เจคต้องกลืนน้ำลายก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง \"ฉันมาหานายกะว่าจะคุยเรื่องงานกาล่าดินเนอร์ของคุณชายหนึ่ง\"
\"ไม่ไป\" ไม่ทันได้พูดลักษณะของงานเขาก็ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
\"ไม่สิ นายฟังก่อน งานนี้มีดารานักแสดงนักธุรกิจชื่อดังมาเพียบ แถมคุณชายหนึ่ง เขาก็ฝากฉันมาเชิญนายด้วย ไปเถอะนะ หลานสาวของคุณชายหนึ่งก็เพิ่งกลับมา มีคนบอกว่าสวยมาก\"
\"ไม่ไป\" เจคมีสีหน้าเศร้าสลดเล็กน้อย แต่ก็พยายามจะตื้อเขาต่อไป
\"ลองคิดดูสิ เผื่อนายอาจจะได้ดีลกลับบ้านสักคนสองคน...\" เจคเห็นสายตาของเพื่อนที่เพ่งมองมาอย่างดุดันก็รีบหุบปากทันควัน เขารู้ว่าเพื่อนของเขาไม่เคยไปร่วมงานที่ไหนอยู่แล้วเพราะไม่ชอบเป็นที่จับตามองและไม่ชอบเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ คนส่วนใหญ่จึงไม่เคยเจอเขาที่งานไหนสักงาน ยกเว้นแต่นัดเจอหรือคุยเรื่องธุรกิจเท่านั้น \"หัดออกงานบ้างเถอะ บางคนเขาถึงขนาดคิดว่านายเป็นพวกตาแก่หัวล้านไปแล้ว\"
\"แล้วฉันดูหัวล้านหรือไง\"
\"ก็เพราะว่ามันไม่ใช่ ฉันถึงอยากให้นายไปงานนี้ พวกนักธุรกิจหลายคนอยากเข้าหานายใจจะขาด\"
\"ไม่จำเป็น\"
\"จำเป็นดิ\"
\"เควินจัดการได้\"
\"มายเฟรนด์ ฉันขอร้องล่ะ ไปเถอะนะ\" พอลสันยังคงก้มหน้ามองเอกสารบนโต๊ะโดยไม่สนใจเจคที่พยายามตีสีหน้าใสซื่อให้ดูน่ารักที่สุด ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเจอลูกอ้อนแบบนี้ก็แทบจะละลายใจทุกคน ยกเว้นกับเพื่อนเขาคนนี้เท่านั้น
\"เจค\" น้ำเสียงทุ้มต่ำ ดุดัน ของพอลสันทำให้เจครู้ว่าถ้ายังดื้อดึงอยู่แบบนี้ เขาจะต้องพบเจอกับเรื่องยุ่งยากเข้าแน่ๆ
\"โอเคครับเจ้านาย ไม่พูดแล้วครับ\" เจคถอนหายใจด้วยความเสียดาย เขาตั้งใจจะชวนเพื่อนไปงานกาล่าดินเนอร์เพราะอยากจะจับคู่ให้พอลสัน ที่อายุ 32 แล้วแต่ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที อย่าว่าแต่เพื่อนเลย เขาเองก็ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเหมือนกัน \"เฮ้อ\"
\"เสร็จธุระก็ออกไป\"
\"ช่วยพูดเพราะๆ กับเพื่อนหน่อยไม่ได้เหรอครับ ผมอุตส่าห์เจียดเวลาอันน้อยนิดมาหาคุณเชียวนะ\"
\"วันนี้พูดมากนะ\"
\"ก็...\" ก็แค่เป็นห่วงเพื่อนไม่อยากให้เพื่อนมีแต่คู่นอนแต่อยากให้เพื่อนมีคนคู่ใจบ้าง \"ไม่มีไร ไม่มีไร\" พูดไปก็เท่านั้น เพราะเพื่อนเขาคนนี้ถ้าไม่อยากฟัง ต่อให้พูดให้ตายยังไง ก็เหมือนสีซอให้ควายฟังอยู่ดี พูดมากไปหน่อยเริ่มคอแห้ง \"เลขานายไม่รู้หน้าที่เลย น้ำชากาแฟก็ไม่มีให้แขก งั้นอันนี้ขอ…\" เจคเอื้อมมือมาหยิบแก้วกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะของพอลสัน
ขณะเดียวกัน พอลสันก็กำลังเอื้อมมือไปดึงแก้วกลับ แต่ไม่ทันความเร็วของเจค ทำให้มือค้างอยู่กลางอากาศ
ไอ้บ้า!! นั่นกาแฟของเขานะ!!
\"แค่กๆๆๆๆๆๆ กาแฟอะไรวะเนี่ย เค็มฉิบหาย\" พอลสันขมวดคิ้วเข้มมองแก้วกาแฟในมือเจค
อ๋อ ยัยตัวแสบคิดจะแก้แค้นเขางั้นสิ แสบจริงๆ
\"พอลสัน นายกำลังจะโดนลอบสังหาร รู้ตัวหรือเปล่า กาแฟแก้วนี้อาจทำให้ไตวายตายได้เลยนะ!! \" สีหน้าของเจคบ่งบอกถึงความเป็นจริงว่ากาแฟแก้วนี้ เค็มมากแค่ไหน \"เลขาคนไหนกัน หรือจะเป็นคนเมื่อกี้ ไส้ศึกหรือเปล่า\" เจคมีอารมณ์เป็นห่วงเพื่อนมาก เพราะหากเพื่อนเป็นอะไรไป เขาก็จะขาดคนหนุนหลัง งานของเขาก็ต้องแห้งเหือดหายไปแน่นอน
แต่ส่วนหนึ่งเขาก็เป็นห่วงในฐานะเพื่อนจริงๆ นั่นแหละ
\"เลิกโวยวายสักที\"
\"เฮ้ยู ไม่ตกใจหรือไง\" แปลกแฮะ ปกติพอลสันต้องทำสีหน้าหงุดหงิดและสั่งให้ลูกน้องไปตามหาต้นตอพร้อมกับจัดการไปแล้ว แต่นี่เขากลับนั่งนิ่งเฉยแถมยังมองแก้วกาแฟเหมือนอยากจะกลืนกินอย่างนั้นแหละ
\"ฉันตกใจนายมากกว่า จะเล่นใหญ่ไปไหน\"
\"ฉันเป็นห่วงไง\"
\"หมดธุระก็ออกไปได้แล้ว\"
\"ฉันเสียใจมากนะ นายไม่เคยอ่อนโยนเลยสักนิดไม่เคยเลย คนอุตส่าห์เป็นห่วง แต่ช่างเถอะ ฉันชินล่ะ เอาเป็นว่าคิดเยอะๆ ฉันยังรอคำตอบของนายที่จะไปงานคุณชายหนึ่งอยู่นะ\" พอลสันไม่ได้สนใจอะไรและไม่ได้ยินเสียงใครด้วย เพราะสายตาของเขาจ้องมองไปที่แก้วกาแฟที่เจควางลงบนโต๊ะเมื่อกี้
เขาไม่เข้าใจตัวเองว่ากำลังรู้สึกอะไร มันไม่ได้รู้สึกโกรธแต่กำลังรู้สึกมีความสุข? มีความสุขงั้นเหรอ
\"อีกอย่าง…อย่าให้หล่อนทำกาแฟอีก…ไม่งั้น…นายจะตายก่อนจะได้มีเมียแน่…งั้นฉันกลับก่อน บาย\" เจคโบกมือให้เพื่อนที่กำลังนั่งจ้องแก้วกาแฟอย่างหลงใหลก่อนจะออกจากห้องไป
เจคหยิบแว่นตาจากมือผู้จัดการมาใส่
“มีงานอะไรต่อ”
“มีงานที่บริษัทครับ”
“ไหนบอกว่างานที่บริษัทเลื่อนแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ…ใช่ครับผมลืมไปเลย”
“…” เจคส่ายหน้าไปมา มองด้วยความเวทนา ไม่รู้ว่านาเดียร์ส่งใครมาเป็นผู้จัดการให้เขากันแน่ ไม่เคยใช้สมองเลย
ขณะที่กำลังจะเดินไปที่ลิฟต์ สายตาก็ไปเห็นหญิงสาวคนเมื่อครู่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ผู้หญิงคนนี้ไม่เห็นส่งสายตาชื่นชม ยินดี หรือหลงรักเขาเลย หรือว่าไม่รู้จักเขาจริงๆ
เจคตัดสินใจเดินไปหาเธอ เคาะโต๊ะเบาๆ เพื่อเรียกให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามอง
“ไฮ…”
“สวัสดีค่ะ”
“อยากได้ลายเซ็นไหม ฉันจะเซ็นให้”
“เอ่อ…คือ…เอาไปทำอะไรคะ”
“What!! เธอไม่รู้จักฉันเหรอ”
“รู้จักค่ะ…แต่ฉัน…ไม่ได้คลั่งไคล้คุณขนาดนั้น”
“…” เจคตากระตุกเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้พูดตรงดี พอลสันถึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ บางทีเธออาจจะกลายเป็นนายหญิงในอนาคตของประธานบริษัท Red Blood ก็ได้ \"สาวน้อย คุณชื่ออะไร\"
สายตากรุ้มกริ่มของเจคทำให้เรียวเริ่มระมัดระวังตัวเองมากขึ้นโดยการเอนตัวไปด้านหลังเพื่อเว้นระยะห่างจากเขาให้ได้มากที่สุด