ตอนที่18 หวั่นไหว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่18 หวั่นไหว
C h a p t e r 18 เรียวกลับมานั่งที่ ด้วยท่าทีเหม่อลอย สมองวนเวียนแต่คำพูดของเขาทั้งที่แต่ก่อนแทบไม่เคยเก็บเอามาคิดด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเพราะหวั่นไหวหรือเพราะอะไรกันแน่ แต่…เธอจะหวั่นไหวกับเขาไม่ได้ มันเป็นหลุมพรางที่มีแต่อันตราย ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เธอก็อดใช้สายตาเหลือบมองไปยังเก้าอี้ตรงนั้นไม่ได้ ทำไมเขายังไม่กลับมาอีกล่ะ พอลสันยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ริมระเบียงจุดเดิม สายตาจ้องมองไปยังผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในโรงแรมด้วยชุดสูทสีขาวราคาแพง รอยยิ้มที่เหมือนจะจริงใจแต่ใครจะรู้ ว่าเขาแค่กำลังใส่หน้ากากใบหน้าอ่อนโยนเท่านั้น การมาของชายคนนี้ทำให้พอลสันขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม \"เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่\" พอลสันเอ่ยปากถามเชนที่ยืนอยู่ข้างหลัง เชนก้าวมาข้างหน้าเพื่อมองตามสายตาของเจ้านาย \"อาทิตย์ที่แล้วครับ\" \"กับใคร\" \"คนเดียวครับ\" \"มาทำอะไร\" \"พักผ่อนครับ แต่ผมว่าเป้าหมายน่าจะเป็นใครสักคนในงานวันนี้\" เขาไม่คิดว่าการปรากฏตัวของผู้ชายคนนั้นจะมาเพื่อพักผ่อน มันต้องมีอะไรสักอย่างและไม่ว่าพวกมันจะมาทำอะไรที่นี่ เขาจะต้องรู้ให้ได้… \"จับตาดูไว้ให้ดี ว่าพวกมันต้องการจะทำอะไร\" \"ครับ\" พอลสันเอ่ยปาก สายตายังคงจ้องมองชายชุดขาวไม่วางตา เขาบี้บุหรี่ลงที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในงานด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ยังไม่ทันจะเดินพ้นผ่านประตูกระจก ก็ได้ยินเสียงเรียกของใครคนหนึ่งพอดี \"คุณพอลสันครับ\" ชายวัยกลางคนอายุ 75 ปี เดินเข้ามาทักด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหญิงสาวข้างกาย \"ไม่คิดว่าคุณจะมาด้วย ผมเลยไม่ได้เตรียมต้อนรับคุณให้ดีกว่านี้ ขอโทษด้วยครับ\" \"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่แล้ว\" คุณชายหนึ่งรู้ดีกับนิสัยของเขาที่เป็นคนพูดตรงอยู่แล้ว จึงไม่คิดจะถือสาหาความอะไร การที่เจอเขาในงานวันนี้ถือได้ว่าเป็นเกียรติมากแล้ว ถึงแม้เขาจะเป็นนักธุรกิจที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากครอบครัว แต่ก็ยังต้องพึ่งพาเงินทองจากนักลงทุนทั้งหลาย รวมถึงผู้ชายคนนี้ด้วย นี่คือชายหนุ่มที่หาทางจับได้ยาก การจะเจอเขาก็เสมือนงมเข็มในมหาสมุทร เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นโอกาสดีสำหรับหลานสาวคนโปรดของเขา คุณชายหนึ่งผลักหญิงสาวข้างกายให้เดินนำไปข้างหน้า ก่อนจะเอ่ย \"นี่คือหลานสาวผม เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ชื่ออ้ายหนี่ เธอชื่นชอบคุณมากเลยครับ\" พอลสันหันไปมองหญิงสาวร่างเล็กในชุดราตรีสีขาวสายเดี่ยว มีมงกุฎดอกไม้อยู่บนหัว มันเข้ากับเธอเพราะดูน่ารักดี แต่สำหรับเขา มันกลับไม่ได้ดูน่าสนใจเลยสักนิด รู้สึกแค่เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น \"อ้ายหนี่ได้ยินชื่อเสียงของคุณพอลสันมานาน วันนี้ได้เจอตัวจริงถือเป็นวาสนามากเลยค่ะ\" เธอพูดด้วยท่าทีเขินอายมือบิดไปมา หลุบสายตาลง ไม่กล้าสู้สายตาของชายหนุ่มที่กำลังมองอยู่ พอลสันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามลองเชิง \"โด่งดังในเรื่องไหนกันครับ\" หญิงสาวมีความรู้สึกคล้ายกับว่าชายหนุ่มกำลังพูดเล่นหยอกเย้า ยิ่งทำให้เธอทำตัวไม่ถูก \"กะ...ก็...เรื่องธุรกิจที่คุณทำ แล้ว…แล้ว ก็อะไรหลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับคุณ อ้ายหนี่นับถือคุณมากเลยค่ะ\" เธอเคยได้ยินใครหลายคนพูดถึงเขามานาน ทั้งตอนที่อยู่ต่างประเทศหรือตอนที่กลับมาที่นี่แล้ว ตอนแรกเธอคิดว่าคุณพอลสันคือตาแก่หัวล้าน ที่เดินแทบไม่ไหว แต่ที่ไหนได้… ตอนที่ได้อ่านนิตยสารฉบับหนึ่ง เขียนถึงเรื่องราวการทำงานของผู้ชายคนนี้ ทำให้รู้ว่า แท้จริงแล้ว เขาคือเทพบุตรต่างหาก พอลสันยกยิ้มให้เป็นมารยาทก่อนจะเอ่ย \"ขอบคุณมากครับ\" \"หลานสาวผม บ่นให้ฟังว่าอยากเจอคุณมานานแล้ว วันนี้ได้มาเจอ ดูท่าคงนอนไม่หลับเลยครับ\" คุณชายหนึ่งส่งสายตาแซวหลานสาวที่มีสีหน้าแดงระเรื่ออย่างทีเล่นทีจริง \"ไม่ใช่สักหน่อย\" หญิงสาวก้มหน้าลงด้วยความเขินอายพลางเหลือบสายตามองปฏิกิริยาของชายหนุ่มตรงหน้าไปด้วย \"อ้ายหนี่เป็นคนขี้อาย คุณพอลสันอย่าใส่ใจเลยนะครับ\" คุณชายหนึ่งพูดเอ่ย \"ก็ดูน่ารักดีครับ\" ความหมายของเขาคือ เธอดูเป็นหญิงสาวที่น่ารักดี ไม่ได้มีเจตนาจะพูดในทำนองเชิงชู้สาวอะไร แต่คำพูดกำกวมของเขา กลับทำเอาหญิงสาวยืนนิ่งหัวใจเต้นแรงไม่สามารถขยับไปไหนได้ คุณชายหนึ่งเห็นหลานสาวมีอาการประหม่าและเขินอาย ก็ยิ้มเยาะอยู่ในใจ ใครหลายคนได้เห็นหลานสาวของเขา ก็มักจะเอ็นดูและตกหลุมรักเธอง่ายๆ นั่นคงไม่ได้เป็นข้อยกเว้นสำหรับผู้ชายคนนี้หรอกมั้ง \"หนูช่วยต้อนรับคุณพอลสันให้ปู่ที ปู่ลืมว่าต้องไปเอาของที่รถ อย่าลืมเวลาขึ้นเวทีด้วยล่ะ\" “ค่ะ” เธอพยักหน้าหงึกหงักเป็นการตอบรับ คุณชายหนึ่งตบไหล่เธอเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจก่อนจะเดินจากไป เหลือแค่ชายหนุ่มกับเธอที่ยืนต่างคนต่างมองกันอยู่ \"คุณพอลสัน ทานอะไรหรือยังคะ\" \"ครับ\" ครับ? ครับหมายความว่ายังไง ทานแล้วหรือยังไม่ได้ทาน เธอมองดูริมฝีปากของเขาเพื่อหวังให้ได้ยินเขาตอบกลับมาอีกครั้ง แต่...เขากลับยืนนิ่งไม่ได้พูดอะไรต่อ บางทีอาจเป็นเพราะเขาพูดไม่ค่อยเก่ง ทำให้ไม่รู้จะคุยอะไรกับเธอก็ได้ \"วันนี้คุณพอลสันว่างถึงได้มาเหรอคะ\" คำถามชวนคุยของหญิงสาวตรงหน้าดูโง่มากในสายตาเขา ถ้าไม่ว่างเขาจะมาที่นี่ทำไม ถึงแม้ว่าใจจริงจะไม่อยากมาก็ตาม \"ใช่ครับ\" \"วันนี้อ้ายหนี่มีเดินแบบชุดฟินาเล่ชุดสุดท้าย หวังว่าคุณพอลสันจะอยู่จนงานจบนะคะ\" \"ถ้าไม่มีอะไร ก็คงจะอยู่จนจบ\" “ดีใจจัง อ้ายหนี่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีหวังจะได้เจอกับคุณเสียแล้ว” “ก็คงจะเป็นอย่างนั้น” “คือ…เรา...เข้าไปในงานกันดีไหมคะ\" \"ดีครับ\" พอลสันพูดจบก็เดินไปเปิดประตูกระจกเพื่อกลับเข้างาน ปึก! แต่ด้วยความเคยชิน เขาจึงไม่ได้แสดงการกระทำแบบสุภาพบุรุษพึงกระทำ ทำให้ประตูโดนหน้าผากหญิงสาวที่กำลังเดินตามหลังออกมาอย่างแรง เหล่าเซลิบริตี้และบุคคลที่มีชื่อเสียงยังคงเดินแบบเพื่อให้ทุกคนได้ประมูลกระเป๋ากับเครื่องเพชรอย่างต่อเนื่อง สักพักก็มาถึงช่วงของจัสมิน กำลังเดินออกมาด้วยท่วงท่าของนางแบบที่เต็มไปด้วยความมั่นใจอยู่บนเวที แต่...มันจะไม่มีอะไรเลยถ้าของในมือที่เธอถืออยู่ ไม่ใช่กระเป๋า... นั่นๆๆ มันกระเป๋า Chanel’ s Diamond Forever ของฉันนี่นา!!! ฟรึ่บ! เรียวลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปที่กระเป๋าลูกรักของเธอบนเวที จัสมินเห็นเรียวที่กำลังทำหน้าเขียวคล้ำด้วยความโกรธก็รีบส่งสัญญาณให้ภัทรผู้จัดการส่วนตัวช่วยกันหญิงสาวไว้ก่อน \"นะ...น้องเรียวคะ\" \"นี่มันอะไรกัน\" \"เรียว...หนูจะทำอะไรลูก\" ริวเห็นความผิดปกติของลูกสาวก็เอ่ยถามขึ้น \"นั่นมันกระเป๋า Chanel’ s Diamond Forever ที่มีแค่ 13 ใบบนโลกนิ\" คุณหญิงคุณนายที่นั่งอยู่รอบข้างเริ่มส่งเรียงฮือฮาเมื่อเห็นกระเป๋าใบนั้นของเธอ \"ใช่ๆ คุณหญิงน่าประมูลมากค่ะ\" พิธีกรเดินขึ้นเวทีด้วยใบหน้าเปล่งประกาย พลางมองผู้คนในห้องโถงใหญ่ที่กำลังมีท่าทีตื่นเต้น \"มาที่กระเป๋า Diamond Forever ของชาแนลใบนี้กันดีกว่าค่ะ เป็นรุ่น Limited Edition ที่ผลิตออกมาเพียง 13 ใบเท่านั้นค่ะ ทำมาจากหนังจระเข้ชั้นดี และประกอบด้วยเพชรทั้งหมดรวมกว่า 334 เม็ด รวมได้เป็น 3.65 กะรัต และสายสะพายก็ทำมาจากทองคำขาวทั้งเส้น กระเป๋าใบนี้เป็นของคุณจัสมินที่นำมาประมูล จะขอเปิดประมูล ด้วยราคา 1 ล้านบาทนะคะ จะนับราคาทีละ 1 ล้านบาทค่ะ เริ่มประมูลได้เลยค่ะ...คุณหญิงแม้นให้ 2 ล้านบาทค่ะ!!! มีใครอีกไหมคะ...คุณหญิงเปิ้ล 3 ล้านค่ะ อ๋อให้ 4 ล้านเลย คุณหญิงเปิ้ลให้ 4 ล้านค่ะ!!! มีใครประมูลอีกไหมคะ\" เรียวกำลังจะเดินไปริมเวทีเพื่อหวังจะพังการประตูในครั้งนี้ แต่ก็โดนภัทรผู้จัดการส่วนตัวของจัสมิน ลากออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกดึงออกมาข้างนอก เธอก็สะบัดมือออกและจ้องหน้าภัทรอย่างเอาเป็นเอาตาย \"นี่มันอะไรกัน!! กระเป๋าของเรียวทำไมไปอยู่บนเวที!! \" \"คือ...น้องเรียวใจเย็นๆ ก่อนนะคะ\" \"ให้ใจเย็นอะไรอีก!! นักแสดงของพี่กำลังจะทำอะไรกันแน่\" \"คือ...น้องจัสมินอยากเดินแบบแต่ไม่มีของมาประมูลค่ะ ก็เลยใช้กระเป๋า...\" \"แต่นั่นมันของเรียว!!! ไม่มีสิทธิ์มาใช้ของคนอื่นแบบนี้!!! พี่ก็รู้ว่ามันสำคัญกับเรียวมาก\" \"พี่รู้ค่ะ แต่น้องจัสมินแค่ยืมไปก่อน...\" \"ยืมก็คือยืม!! ต้องเอามาคืนเจ้าของ!! แล้วตัวเองอยากจะเรียกร้องความสนใจจากคนในงานด้วยการใช้ของคนอื่นแบบนี้นะเหรอ!! \" \"น้องจัสมินบอกว่าจะใช้ชื่อแม่ของเพื่อนเป็นคนประมูลค่ะ จากนั้นก็จะใช้เงินตัวเองเป็นคนจ่ายแล้วก็จะนำกระเป๋ามาคืน...น้องเรียวคะ พี่พูดอะไรไม่ได้น้องก็รู้ พี่เคยห้ามแล้ว แต่…แต่น้องจัสมินอยากเดินแบบมาก…\" \"แล้วถ้ามีคนอื่นมาประมูลตัดหน้าไปจะทำยังไง!! เรียวไม่ต้องเสียกระเป๋าเลยเหรอ!! ทำอะไรทำไมไม่คิดให้ดีกว่านี้ก่อน!! \" สีหน้าและน้ำเสียงของเรียว ทำให้ภัทรเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก \"มะ...ไม่หรอกค่ะ\" ภัทรเองก็เริ่มไม่มีความมั่นใจเหมือนกัน… “เหอะ!!” เรียวหมดคำจะพูด แค่นเสียงในลำคอแล้วเดินกลับมานั่งที่ การกระทำของหญิงสาวอยู่ในสายตาของพอลสันตลอดเวลา ไม่ว่าบนเวทีจะพูดอะไร เขาก็ยังคงใช้สายตาแน่วแน่นั่งมองเรียวด้วยสายตาคู่เดียว \"กระเป๋าสวยจัง\" อ้ายหนี่นั่งอยู่ พลางบ่นพึมพำเมื่อเห็นกระเป๋าใบสวยที่ตัวเองเคยคิดจะซื้อ แต่สุดท้ายก็ไม่ทันคนอื่น ทำให้พลาดไป ไม่นึกว่าจะมีคนเอามาประมูลที่นี่ ขณะเดียวกันเชนก็เดินเข้ามากระซิบข้างหูพอลสันเบาๆ เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่งก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ หันไปหยิบแผ่นป้ายประมูลของเจคขึ้นมายก \"คุณเจค 8 ล้านค่ะ มีใครให้ราคามากกว่านี้ไหมคะ\" เจคตาโต หันไปมองชายหนุ่มข้างกายด้วยสีหน้าตกใจ \"เอ่อ...ฉันไม่คิดจะประมูลกระเป๋านะมายเฟรนด์\" “…” พอลสันไม่ได้ตอบอะไร ยังคงมีสีหน้าเย็นชา ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างอะไรสักเท่าไหร่ อ้ายหนี่นั่งอยู่ข้างๆ เขามีท่าทางงุนงงที่ชายหนุ่มเลือกประมูลกระเป๋าราคาแพง ทั้งที่เขาไม่น่าจะชื่นชอบหรือนำไปใช้ได้ นอกจาก… เขาจะซื้อกระเป๋าเป็นของขวัญให้ใคร แต่ ไม่เคยได้ยินว่าเขามีแฟนนี่นา ไม่อย่างนั้นก็อาจจะเป็นเพราะได้ยินเธอบ่นว่ากระเป๋าใบนี้สวยถึงได้ประมูลให้เธอหรอกใช่ไหม หญิงสาวใช้สายตาหันไปมองเขาอย่างสงสัย ผู้ชายอะไรเห็นแค่ด้านข้างก็ทำให้ใจเต้นแรงแล้ว \"คุณหญิงแม้น 9 ล้านค่ะ ตอนนี้ราคาเกินกว่าราคากระเป๋าแล้วนะคะ มีใครจะประมูลเพิ่มอีกไหมคะ\" \"คุณหญิงแม้นคือแม่ของเพื่อนน้องจัสมินค่ะ\" ภัทรกระซิบข้างหูเรียว เพื่อพยายามโน้มน้าวให้เธอใจเย็น “…” เรียวหัวใจเต้นเร็ว ฝ่ามือบางกำหมัดแน่นด้วยความหวาดระแวง กลัวเหลือเกินว่ากระเป๋าจะถูกคนอื่นประมูลไปก่อนที่ตัวเองจะได้คืน แล้วยิ่งคุณพอลสันใช้เงินประมูลในครั้งนี้ด้วย ก็ยิ่งแล้วไปใหญ่ \"คุณเจค 10 ล้านค่ะ!! คุณหญิงแม้น 11 ล้านค่ะ!! มีใครจะเพิ่มเงินอีกไหมคะ!! \" จัสมินเริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะราคาเริ่มเพิ่มมากขึ้นกว่าเงินที่เธอสำรองไว้ ถ้ามันมากกว่านี้ดูท่าจะไม่ไหวแน่ \"คุณเจค 12 ล้านแล้วค่ะ!! ราคาสูงมากเลยนะคะ!! มีใครจะให้อีกไหมคะ!! \" เรียวยกมือขึ้นปิดหน้าเพื่อปกปิดสีหน้าความเจ็บปวด ความเสียใจ ที่กำลังแสดงออกมา ราคามากมายขนาดนี้ใครจะไปสู้ไหว ลูกรักของเธอกำลังจะตกเป็นของคนอื่นแล้ว… \"นับ 1 นับ 2...คุณไลม์ 13 ล้านค่ะ\" ชื่อบุคคลมาใหม่ทำให้เรียวเงยหน้าขึ้นมาดูว่าใครมาประมูลทับคุณพอลสัน เจคเห็นบุคคลมาใหม่ที่คุ้นเคยก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ \"ทำไม เขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้\" เจคพึมพำ \"มาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว เป้าหมายน่าจะเป็นใครสักคนในงานครับ\" เชนกระซิบข้างหูเจคเพื่อตอบคำถามแทนเจ้านายที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการประมูล \"มาคนเดียว? \" \"ครับ\" \"งั้นน้องชายมันก็อยู่แคนาดานะสิ\" \"ครับ\" \"คุณเจค 14 ล้านค่ะ!! ...คุณไลม์ 15 ล้านค่ะ...คุณเจค 16 ล้านค่ะ...คุณไลม์ 17 ล้านค่ะ...\" เจคที่กำลังฟังเชนรายงานอยู่ ก็รีบยกมือขึ้นจับแขนพอลสันไว้อย่างรวดเร็ว ไม่นะ เขาไม่อยากได้กระเป๋าใบนี้กลับบ้าน อย่าเชียวนะ \"Stop!! นายจะบ้าเหรอ!! ประมูลกระเป๋าจะเอาไปทำอะไรตั้ง 17 ล้าน!! \" พอลสันสลัดมือเจคออกอย่างไม่ไยดี \"เฮ้!! \" \"คุณเจค 18 ล้านค่ะ...คุณไลม์ 19 ล้าน...คุณเจค 20 ล้าน...\" \"ให้ตายเถอะ!! นายเป็นอะไรไปเนี่ย!! ให้มันไปเถอะ!! ราคากระเป๋าซื้อรถได้คันหนึ่งเลยนะ!! \" พอลสันจ้องมองชายหนุ่มใส่ชุดขาวที่นั่งอยู่โต๊ะห่างออกไปหกโต๊ะด้วยสายตาเยือกเย็น เขาไม่สนว่าหมอนั่นต้องการจะทำอะไร แต่กระเป๋าใบนี้ต้องเป็นของเขาเท่านั้น \"คุณเจค นับ 1 คุณเจค นับ 2 คุณเจค นับ 3 คุณเจคได้กระเป๋า Diamond Forever ไปค่ะ!! ยินดีด้วยนะคะ!! ราคาสูงมากเลยค่ะ\" \"เอาจริงดิ นายจะเอาไปทำอะไร\" เจคมีแต่สีหน้าไม่เข้าใจ มีแต่ความอึดอัดเต็มอก \"หุบปากสักที\" พอลสันพูดจบก็ลุกขึ้นยืน เจคถึงได้หุบปากลงแล้วนั่งหน้าเบ้ด้วยความน้อยใจ \"คุณ...คุณพอลสันจะไปไหนเหรอคะ\" อ้ายหนี่เอ่ยถามพลางลุกขึ้นยืน \"ห้องน้ำ\" “…” ________________ เธียเตอร์นั่งอยู่เคาน์เตอร์บาร์ในผับของโรงแรม Red Blood ด้วยสภาพกำลังกรึ่มๆ มีเพียงแก้วเหล้าหนึ่งใบกับขวดวิสกี้ที่วางอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น “อยู่นี่นี่เอง” ชายหนุ่มหน้าหวาน ใบหน้าคมคาย ผมสั้นอันเดอร์คัท ดูเท่ เดินมานั่งเก้าอี้ข้างๆ ก่อนจะสั่งเหล้าจากพนักงาน \"รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่\" เธียเตอร์เอ่ยถาม สายตายังคงจ้องมองแก้วเหล้าในมือ \"ก็แกอยู่ที่นี่ ก็คงไม่ไปไหนไกลหรอกมั้ง” \"เดาเก่ง\" \"แล้วทำไมต้องกินขนาดนี้ เรียวไปไหนอ่ะ ทิ้งเพื่อนนั่งคนเดียว\" \"ไม่ว่าง\" \"งั้นเดี๋ยวฉันกินเป็นเพื่อน\" \"มานี่มีอะไรหรือเปล่า\" \"ก็แกไม่รับโทรศัพท์ ฉันก็เลยต้องมาหา ตั้งแต่กลับมาก็ไม่คิดจะโทรหาเลยหรือไง มันน่าน้อยใจจริงๆ \" \"แกมีเวลาด้วยเหรอ คิดว่าติดเมียจนไม่มีเวลาให้เพื่อน\" “เฮ้ย!! เธียเตอร์ พูดเหมือนน้อยใจ ใครจะไปสำคัญกับฉันมากกว่าแกอีกเพื่อนรัก” ชายหนุ่มโอบรอบลำคอเขาอย่างหยอกล้อ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “จะว่าไป ฉันก็มีเรื่องนิดหน่อย” เธียเตอร์หันไปมองเพื่อนสนิทที่ใบหน้าใกล้ชิดจนแก้มเกือบจะแนบชิดกัน เขารีบหันหน้ากลับมามองแก้วเหล้า ทำทีไม่มีอะไรเกิดขึ้น \"เป็นอะไร\" \"ฉันถูกแฟนนอกใจว่ะ\" “คนเดิม?” “อืม” \"แล้วทำยังไง\" \"ทำไงได้เล่า ก็ต้องทำใจดิ\" พูดจบก็ยกแขนออกจากรอบคอเขา จากนั้นก็หยิบแก้วเหล้าที่บาร์เทนเดอร์เพิ่งชงให้ยกขึ้นดื่มหมดแก้ว “ฉันถามจนไม่รู้จะถามอะไรแล้ว แกก็รู้ ว่าสุดท้ายฉันก็ต้องยอมเธออยู่ดี” เธียเตอร์ไม่พูดอะไร ได้แต่ใช้สายตาหันไปมองมุมด้านข้างของเพื่อนสนิทด้วยความว่างเปล่า เรื่องนี้ เคยเกิดขึ้นมาก่อน สุดท้ายก็วนลูปแบบเดิม เขาง้อก็กลับไปคืนดี ไม่มีต่างจากเดิม ไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงไม่ยอมเดินออกมา แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับคนใหม่… \"ฉันคิดว่า ครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะกลับไปหาเขาแล้วล่ะ” “ครั้งที่แล้วก็พูดแบบนี้” “เฮ้ย!! ฉันพูดจริงนะ!! ฉันสาบาน!!” “สาบานมากี่รอบแล้ว เคยนับดูหรือเปล่า” “แกนี่มัน…เอาทุกเม็ดจริงๆ” “เหอะ…รู้ว่าแฟนแกเป็นคนยังไง ก็ยังอดทนอยู่ได้” \"ก็เพราะรักนั่นแหละ ฉันคิดว่าการที่ฉันให้อภัยเธอมันคงจะทำให้เธอรักฉันมากขึ้น แต่ดูเหมือนเธอก็ยังทำเหมือนเดิม\" \"ถ้ามันเหนื่อยนักก็แค่เดินออกมาจะทนอยู่ไปทำไม\" ชายหนุ่มข้างกายไม่ตอบอะไร ได้แต่นั่งนิ่งแล้วยิ้มน้อยๆ เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง \"ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยคิดนะ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น พอถึงเวลาจะทำจริงๆ ปากที่อยากจะพูดก็ได้แต่นิ่ง ขาที่จะเดินออกมาก็แข็งเหมือนหิน สุดท้ายก็ได้แต่บอกว่า อดทนอีกครั้งก็แล้วกัน ไหนๆ ก็เจ็บแล้ว ทนอีกสักครั้งมันจะเป็นอะไรไป…” “…” “ยิ่งเจ็บนานๆ มันก็กลายเป็นความเคยชิน จนดูเหมือนฉันเป็นคนไร้ค่าไปเลย แกเคยมีความรักไหม ถ้าแกเคยมี แกจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันเป็น แกจะรู้ ว่าการเลิกรักมันไม่ง่าย…” “แต่มันก็ไม่ได้ยาก…” “ถูก…มันไม่ยากหรอก...แค่ฉัน…ยังไม่พร้อมจะเสียเธอไปเท่านั้นเอง” “…” เธียเตอร์แกว่งแก้วไปมาในมือ พลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่ชายหนุ่มได้พูด เขาเองก็เคยมีความรัก…ไม่สิ…ต้องบอกว่า ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ ถึงแม้เขาจะไม่รับไม่รู้เลยก็ตาม… _______________________ หน้าห้องน้ำ \"คุณพอลสัน!! \" “…” พอลสันยกยิ้ม ยังคงเดินหน้าต่อไป แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน “คุณพอลสัน!! หยุดเดินเดี๋ยวนี้นะ!!” เรียววิ่งสุดฝีเท้าและจับแขนเขาไว้และยืนหอบด้วยความเหนื่อย “…” เขาหัวเราะเบาๆ รั้งฝีเท้าหยุดยืนอยู่กับที่ หันไปโบกมือไล่เชน ก่อนจะปรับสีหน้าให้นิ่งเฉยที่สุดก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเธอ \"แฮกๆๆ จะรีบ แฮกๆ รีบเดินไปไหนเนี่ย\" \"คุณเรียกผมเหรอ\" สีหน้าแสดงความยียวนกวนบาทา ทำเอาเธอหงุดหงิดขึ้นมากกว่าเดิม \"ใช่สิ!! ฉันตะโกนเรียกคุณอยู่ ไม่ได้ยินหรือไง\" “…” เสียงดังขนาดนี้ เขาจะไม่ได้ยินได้ยังไง \"มีอะไรครับ\" เรียวยืดตัวเองยืนขึ้นพยายามปรับลมหายใจให้สม่ำเสมอ เพื่อเรียบเรียงคำพูดในหัว \"คือ...กระเป๋าที่คุณประมูล...\" \"อ๋อ ใช่ กระเป๋า ผมประมูลกระเป๋าไป\" เขาพยักหน้าและทำเหมือนคนไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น ทั้งที่รอยยิ้มแทบจะกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ \"ค่ะ ฉันจะมาคุย...\" \"แปบนะ ผมอยากเข้าห้องน้ำ ไว้ออกมาค่อยคุยกันนะครับ\" เขาแค่ต้องการยื้อเธอเท่านั้น เห็นท่าทางขี้งอน สีหน้าไม่พอใจยิ่งน่าแกล้ง เรียวมองเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่สามารถทักท้วงอะไรได้ จึงจำใจต้องยืนรออยู่ตรงที่เดิม เดินไปเดินมาด้วยความกลัดกลุ้ม ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องกระเป๋ายังไงดี เธอไม่มีเงินซื้อคืนมาอยู่แล้ว แต่คือ...มันคือกระเป๋าของเธอไง มันคือลูกรักที่เธอเก็บรักษาไว้อย่างดี แล้วเธอก็ต้องการได้มันคืน...จะกลัวก็แต่ การพูดกับเขามันไม่ง่ายนะสิ ยิ่งเป็นคนเจ้าเล่ห์แบบนี้แล้ว ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง \"น้องจัสมินอย่าวิ่งสิคะ เดี๋ยวล้ม!! \" เรียวได้ยินเสียงรองเท้าของใครบางคนกำลังวิ่งออกจากห้องโถง \"อยู่ต่อให้โง่เหรอ ไปตอนที่ยัยบ้านั่นไม่อยู่คือดีที่สุด\" “…” เรียวได้ยินดังนั้นก็กำหมัดแน่น รีบเร่งฝีเท้าเดินตามจัสมินออกไป โดยลืมว่าตัวเองกำลังรอพอลสันอยู่ ภัทรที่เดินตามจัสมินอยู่ข้างหลังเห็นหญิงสาวแวบหนึ่งจากหางตาจึงหันกลับไปดูเพื่อความแน่ใจ \"น้อง...น้องเรียว\" \"พี่รีบไปเอารถเลยนะ จัสจะรอตรงนี้\" \"คือ...คือว่า\" \"เร็วสิพี่!! เดี๋ยวมัน...\" \"คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ\" น้ำเสียงทุ้มต่ำของเรียวปะปนไปด้วยโทสะ จนทำให้จัสมินยืนตัวแข็ง ไม่กล้าหันกลับไปมอง \"เธอนี่มันดีแต่หาเรื่องให้ตัวเองนะ อยากเรียกร้องความสนใจจากผู้ใหญ่ในงาน จนถึงขนาดต้องใช้กระเป๋าของฉันเป็นเครื่องมือ แสดงว่าไม่กลัวตายเลยใช่ไหม\" จัสมินไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงให้พ้นเงื้อมมือของพี่สาว จึงได้แต่ ค่อยๆ หันหน้าไปมองอย่างระมัดระวัง \"เรา...เรามาคุยกันดีๆ ดีไหม\" \"เหอะ!! \" เรียวแค่นเสียง แสดงสีหน้าเบื่อหน่ายกับการพูดจาของหญิงสาวตรงหน้า \"นั่นพี่คณิน!! โอ๊ย!! \" จัสมินหวังจะเรียกร้องความสนใจจากเธอโดยการพูดถึงชื่อบุคคลที่สามขึ้นมา แต่มันไม่ได้เป็นไปตามที่คิดนะสิ แค่ขยับตัวนิดเดียวก็ถูกมือบางดึงผมหนาไว้แน่น \"นี่!! อย่ามาดึงผมฉันนะ!! \" \"น้องเรียวคะ ปล่อย ปล่อยก่อนเถอะ...ค่ะ เดี๋ยวนักข่าวจะเห็น\" ภัทรพยายามเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย แต่เมื่อเห็นสายตาที่น่ากลัวของหญิงสาวก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยืนให้กำลังใจจัสมินจากตรงนี้เท่านั้น \"เห็นก็เห็นสิ!! ใครกลัวกัน!! แค่นี้ยังน้อยไปนะจัสมิน!! \" \"โอ๊ย!! ฉัน..ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่นา\" \"เธอตั้งใจ!! \" จัสมินจับข้อมือของเรียวที่ดึงผมเธอไว้ พยายามดันออก แต่เพราะแรงของเธอเยอะมากเกินไป ยัยบ้าเอ๊ย!! เธอทำผมมาตั้งนานกว่าจะออกมาเป็นทรงแบบนี้ได้ แล้วดูสิ ทำผมเธอเสียทรงหมด!! ในเมื่อพูดดีด้วยไม่ได้ งั้น...งั้น... \"อย่า...อย่ามาทำอะไรที่นี่นะ นักข่าวก็เยอะถ้ามีคนเห็นแล้วเอาเรื่องไปเขียนข่าวว่าลูกสาวของตระกูลภัทรนิธิโภคิน ตบตีกันทะเลาะกัน พ่อก็จะเสียชื่อเสียง คนก็ต้องเอาไปพูดในทางไม่ดีว่าลูกสาว...\" \"หุบปาก!! \" ขณะเดียวกันพอลสันเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้ากึ่งยิ้มกึ่งหัวเราะ คิดในใจถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่เธอจะเข้ามาประจบประแจงเอาอกเอาใจเขา แต่...เธอหายไปไหนแล้วล่ะ เขาให้เธอรอตรงนี้ไม่ใช่เหรอ อีกอย่าง นั่นคือกระเป๋าที่เธอรักไม่ใช่หรือไง จะทิ้งมันไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ \"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ พอลสัน…\" “…”
已经是最新一章了
加载中