ตอนที่11 เธอหนีไปแล้ว
1/
ตอนที่11 เธอหนีไปแล้ว
ลิขิตฟ้าทุกภพชาติรักแค่เธอ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่11 เธอหนีไปแล้ว
ทางฝั่งหมอหลวงเข้าไปรักษาพระชายาซิ่วอิงอย่างใกล้ชิดทุกวันจนพระชายาดีขึ้นหมอหลวงจึงเอ่ยว่า “ พระชายาท่านวางแผนจะหนีหรือ ” ไป่เซและจางจิ้งตกใจตะลึงเบิกตากว้างจางจิ้งเรียกสติคืนมาจึงถามขึ้นว่า “ ท่านหมอท่านได้ข่าวนี้มาได้ยังไงหรือ ” “ เอ่อ วันนั้นเจ้าพูดเองมิใช่หรือว่าให้รักษาพระชายาให้ดีขึ้นภายในเดือนนี้ ข้าก็พอจะเดาได้ ข้ารักษาพระชายามานานข้ารับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดของพระชายาได้ ” หมอหลวงกล่าว “ ฮ่าๆๆๆ ท่านนี่สมเป็นหมอหลวงแห่งวังหลวงจริงๆ แล้วท่านว่าอย่างไรล่ะ ” “ ข้าคิดว่า ข้าจะขอติดตามท่านไปด้วยสักคน จะได้หรือไม่เรื่องนี้ไม่มีใครรู้แน่นอน พระชายาเองก็ท้องอยู่ มีข้าก็อยู่ก็คงจะไม่เปล่าประโชยน์ ” หมอหลวงกล่าว แต่ในใจของหมอหลวงก่อนจะจากไปก็อยากจะเปิดเผยความจริงบางอย่างแก่ฮ่องเต้ จางจิ้งสีหน้าลำบากใจมองหน้าไป่เซ ไป่เซก็พยักหน้าให้จางจิ้งเห็นว่าท่านหมอหลวงก็ดูแลเขาอย่างจริงใจ “ ในเมื่อท่านหมอหลวงจะตามไปด้วยก็ได้อย่างน้อยมีท่านหมออยู่ข้าก็สบายใจเรื่องคุณหนูหน่อย ” จางจิ้งกล่าว “ พวกเราออกเดินทางคืนพรุ่งนี้ ท่านหมอก็มาตรวจรักษาคุณหนูเหมือนเดิม ข้าจะหาชุดเก่าๆมาให้พรุ่งนี้ค่ำเวลาฮ่องเต้เข้าหอเราค่อยออกไปกัน ” จางจิ้งกล่าว “ รถม้าที่จะไปส่งเราที่ชายแดนล่ะเจ้าเตรียมไว้แล้วหรือยัง ” ไป่เซถาม “ เตรียมแล้วเจ้าค่ะคุณหนู เป็นพ่อค้าทางเขตชายแดนใต้จะมารับเราคืนพรุ่งนี้ ” จางจิ้งกล่าว “ อืม งั้นก็ดีท่านหมอหลวงท่านไปเตรียมตัวเถิด ”ไป่เซกล่าว หมอหลวงจัดยาให้ไป่เซเสร็จก็หมุนตัวออกไประหว่างทางพบเข้ากับฮ่องเต้ที่กลับจากไปส่งหญิงสาว ฮ่องเต้ก็ให้ไปเชิญท่านหลวงเข้าเฝ้าหมอหลวงมาถึงฮ่องเต้ก็ถามขึ้นว่า “ พระชายาเป็นอย่างไรบ้าง ” “ พระชายาทรงแข็งแรงดีแล้วพะยะค่ะ ” ตอบเสร็จหมอหลวงก็ก้มหน้าสีหน้ากำลังครุ่นคิดว่าบอกดีหรือไม่ดี ฮ่องเต้เห็นสีหน้าของหมอหลวงดูเป็นกังวลจึงเอ่ยถาม “ มีอะไร ก็พูดมา ” หมอหลวงทำท่าไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมามองไปยังทการรอบๆเห็นว่าปลอดภัยดีจึงพูดขึ้นว่า “ เอ่อ…ฝ่าบาทแท้จริงแล้วหญิงสาวไม่ได้ท้อง ” ฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นก็โมโหขึ้นมาถามซ้ำไปอีกครั้ง “ เจ้าว่ายังไงนะ เจ้าพูดอีกรอบสิ ” หมอหลวงก้มหน้าพูดอย่างเร็วว่า “ นางไม่ได้ท้อง ” “ เจ้าหมายความว่ายังไงตอนนั้นเป็นเจ้าไม่ใช่หรือที่บอกข้าว่านางท้องเจ้าสมควรตาย ” “ ทหาร ! ลากมันออกไปขังคุกรอการประหาร ” ฮ่องเต้ตะโกนเรียกเสียงดังลั่น ทหารีบเข้ามา หมอหลวงกลัวจนมือไม้สั่นร้องขอชีวิต “ ฝ่าบาททรงไว้ชีวิตด้วยเถิด ๆ ข้าผิดไปแล้วฝ่าบาท ” ทันใดนั้นจางจิ้งก็รีบวิ่งเข้ามาพูดว่า “ ช้าก่อนฝ่าบาท พระชายาไม่ได้สติอีกแล้วเจ้าค่ะขอฝ่าบาทโปรดให้ท่านหมออยู่ดูแลรับใช้พระชายาก่อนเถิดเจ้าค่ะ ” “ หมอหลวงในวังไม่มีแล้วหรืออย่างไร ” “ ฝ่าบาทท่านหมอหลวงท่านเป็นหมอประจำตัวพระชายามาตลอดท่านรู้อาการพระชายาที่สุดเจ้าค่ะ ” “ ได้ ข้าจะปล่อยตัวเจ้าก่อนไปดูแลพระชายาดีๆชดใช้ความผิดที่เจ้าก่อไว้หากพระชายาเป็นอะไรแม้แต่นิดข้าจะประหารล้างตระกูลเจ้าเสีย ” “ ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท ” \" ขอบพระทัยฝ่าบาทข้าจะดูแลรักษาพระชายาอย่างสุดชีวิตพะยะค่ะ \" หมอล่วงกล่าวแล้วรีบไปยังตำหนักพระชายาพร้อมกับจางจิ้งหมอกลวงรู้สึกขอบคุณพระชายาและจางจิ้งการเดิมพันเมื่อกี้นี้เกือบเอาชีวิตไม่รอดเข้าไปในห้องหมอหลวงก็ถามขึ้นทันที “ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าพบฝ่าบาท ” “ ตอนที่ท่านออกไปพระชายาให้ข้าตามไปกลัวเกิดเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับท่านยิ่งใกล้ออกเดินทางยิ่งต้องคอยดูแลกันระแวดระวังให้มาก ” จางจิ้งอธิบาย “ เมื่อปลอดภัยแล้วท่านก็ไม่ต้องไปไหนแล้วอยู่ด้วยกันในนี้แหละ ตอนออกในวังเราจะใส่ชุดสาวใช้จางจิ้งเจ้าเตรียมมาให้พร้อมออกนอกวังค่อยเปลี่ยนเป็นชุดชาวบ้านเก่าๆ ” “ เจ้าค่ะคุณหนูข้าจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้ ” พูดจบจางจิ้งก็เดินออกไปพบเข้ากับฮ่องเต้ที่กำลังจะเข้าไปหาคุณหนูเขา “ พระชายาเป็นยังไงบ้าง ” ฮ่องเต้ถาม “ พระชายาดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ เวลานี้พระชายาพักผ่อนอยู่เจ้าค่ะ ” “ อืม งั้นก็ดีแล้ว ” พูดจบฮ่องเต้ก็หมุนตัวเดินออกไป จางจิ้งแสร้งพูดขึ้นว่า “ ฝ่าบาทไม่เข้าไปพบพระชายาหน่อยเหรอเจ้าคะ ” ฮ่องเต้หันมามองเขาแล้วกล่าวว่า “ ไม่ล่ะ ให้พระชายาพักผ่อนดีแล้ว ” พูดจบฮ่องเต้ก็เดินออกไปทันที จริงๆแล้วจางจิ้งก็ไม่อยากให้ฮ่องเต้พบคุณหนูหรอกเธอแค้นฮ่องเต้เจ็บแทนคุณหนูของเธอยิ่งกว่าใคร ตอนเช้างานแต่งฮ่องเต้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่แขกต่างบ้านต่างเมืองพากันมาแสดงความยินดี ฮ่องเต้รู้สึกผิดต่อไป่เซซ้ำรู้ว่าโดนหลอกการแต่งงานครั้งนี้ของฮ่องเต้แม้จะยิ่งใหญ่แต่ตัวฮ่องเต้นั้นไม่ค่อยสุขเท่าที่ควรนัก แต่ฮ่องเต้กลับรู้สึกมีลางสังหรแปลกๆ สิ่งที่เขานึกขึ้นได้คือพระชายาของเขา เขาจึงสั่งเพิ่มทหารไปเฝ้าคุ้มกันรอบตำหนักพระชาชา ตอนค่ำ ทั้งสามคนปลอมตัวเป็นสาวใช้ออกมาและตามหมอหลวงออกมา ต้องเปลี่ยนแผนเพราะฮ่องเต้ส่งคนมาเฝ้าเพิ่ม พอออกมานอกประตูไม่มีใครสังเกตหรือสงสัย เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่รู้ว่าฮ่องเต้ส่งทหารคุ้มกันเพิ่งไป่เซเลยเรียกสาวใช้สองคนเข้ามาแล้วให้ดื่มยาสลบมัดทั้งสองเข้าด้วยกัน เอาผ้าปิดปากทั้งสองไว้แล้วพวกเขาก็เดินออกมา พอถึงนอกประตูวังพวกเขารีบเปลี่ยนชุดอย่างเร็ว มีรถมาใหญ่คันหนึ่งมารับทั้งสามคนขึ้นรถแล้วออกเดินทางไปทางใไปยังเขตชายแดนทันที ไป่เซนั่งบนรถลูบท้องเบาๆน้ำตาไหลออกมาใบหน้าเย็นชานั้นดูเศร้ากมองยิ่งนักทำให้คนที่นั่งอยู่ด้วยนั้นรู้สึกปวดใจไป่เซเธอเจ็บปวดทรมานพูดคุยกับลูกในใจว่า จากนี้ไปลูกจะมีแค่แม่เท่านั้นแม่จะเลี้ยงดูเจ้าอย่างดีลูกเป็นเลือดเนื้อของแม่เพียงคนเดียวเท่านั้น เราจะอยู่กันอย่างอิสระและมีความสุขจะไม่ปรารถนารักจากคนผู้นั้นอีกแล้ว ความเจ็บปวดทรมานใจนี้ที่เขามอบใก้ข้าจะไม่มีวันลืมทั้งชาตินี้และชาติหน้าข้าจะไม่มีวันพบเจอกับเขาไม่รักเขาอีกเลย รถม้าเคลื่อนไปยามค่ำคืนไป่เซมองไปบนฟ้าหัวใจเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงฮ่องเต้เข้าหอน้ำตายิ่งพร่ำพรูออกมา จางจิ้งเข้าไปโอบกอดคุณหนูของเธอทั้งสองกอดกันร้องให้ปลอบใจกันหมอหลวงซึ่งเป็นผู้ชายก็ได้แต่ดูอยู่อย่างนั้นแล้วถอนหายใจเบาๆ ในวังฮ่องเต้รับแขกดื่มอย่างเมามายและเข้าหอไปบีบเข้าที่อคอของหญิงสาวแต่ไม่พูดอะไรแล้วก็ปล่อยมือหญิงสาวตกใจเล็กน้อย “ ข้าขอโทษๆข้าเมา ” ฮ่องเต้กล่าวแล้วเอาเหล้ามาให้หญิงสาว “ คืนนี้เจ้าดื่มเป็นเพื่อนข้าสักคืนนะ อันหลี่ เจ้าช่างงดงามกว่าผู้ใดในใต้หล้านี้จริงๆ ข้ารักเจ้าที่สุด \" หญิงสาวดื่มจนเมาไม่ได้สติ จากนั้นฮ่องเต้ก็ออกจากห้องไป มีชายชุดดำคนหนึ่งก็เข้าไปในห้องของหญิงสาวทั้งสองมีอะไรกันทั้งคืนชายชุดดำคนนี้ก็คือคนรักเก่าของ อันหลี่ หญิงสาวกลับบ้านไปครั้งนี้ทั้งสองก็รื้อฟื้นความทรงจำเก่าสายลับของฮ่องเต้รู้เข้าทั้งสองก็ตกมาอยู่ในแผนการณ์ของฮ่องเต้เลือดเย็นแล้ว ตอนที่ฮ่องเต้รู้ความจริงว่านางไม่ได้ท้องจึงให้คนไปสืบจนรู้ความจริงว่าหญิงสาวขู่ฆ่าหมอหลวงให้มาหลอกฮ่องเต้ว่าท้องหวังจะได้แต่งงานกับฮ่องเต้และเลื่อนขั้นเป็นชายารอง วางแผนจะกำจัดพระชายา ฮ่องเต้ยิ่งได้ฟังที่สายสืบเล่าก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อไป่เซ เพราะไป่เซพูดตั้งแต่ต้นแล้ว ยิ่งมีผู้หญิงมากปัญกายิ่งเยอะจริงๆ ตอนเช้า ฮ่องเต้ออกคำสั่งเรียกสนมทั้งสองเข้าเฝ้าและคืนอิสระในการใช้ชีวิตแก่นางสามารถแต่งกับใครก็ได้ แต่หากนางยินดีจะอยู่ในวังต่อนางจะไม่ได้อยู่ในฐานะสนมอีกต่อไป หญิงสาวเลือกที่จะออกจากวังไปเพราะพวกเขาทบทวนแล้วอยู่ในวังไปก็เหมือนไม่มีสามี ฮ่องเต้ก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาสู้อยู่กับคนที่เขาชอบจะมีกว่าสุขกว่า ข่าวไปถึงหูของอันหลี่นางดีใจและสะใจมากคิดว่าฮ่องเต้รักและหลงเขาจนไล่สนมออกจากวังไป “ ฮึ ทีนี้ก็เหลือแค่พระชายาคนเดียวแล้ว กำชัดพระชายาแล้วข้าก็จะได้เป็นฮองเฮาอยู่เคียงคู่ฮ่องเต้ ” นางพึมพำอยู่คนเดียวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และร้ายกาจ ฮ่องเต้จึงตัดสินใจปลดสนมทำทุกอย่างเรียบร้อยก็ไปเยี่ยมพระชายา พอไปถึงเขาเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบใครอยู่เลย ออกตามหาจนทั่ววังก็ไม่พบ เรียกทการที่เฝ้ามาสอบสวนที่ละคนๆ มีคนหนึ่งเล่าว่า “ เมื่อวานตอนเย็นพระชายาได้เรียกสาวใช้เข้าไปสองคนเข้าไปได้ก็ออกมาพร้อมกับท่านหมอหลวง ท่าหมอบอกว่าฮ่องเต้ให้รีบพาหญิงสาวสองคนไปช่วยซื้อยาครับ ” ฮ่องเต้ได้ฟังเช่นนั้นก็นำเรื่องราวมาปะติดปะต่อกัน ต้นเดือนหมอหลวงบอกว่าแก่แล้วจะลาออกจากวัง เมื่อวานจางจิ้งเข้ามาช่วยขอร้องแทนหมอหลวงบอกว่าพระชายาไม่ได้สติ ครั้งจะไปเยี่ยมพระชายาจางจิ้งก็พูดเหมือนกันเขาพบพระชายา จู่ๆฮ่องเต้ก็นึกถึงตอนไป่เซร้องให้ในห้องพูดว่า เกลียดสายเลือดในร่างกายหนีไปยังไปพร้อมกับหมอหลวงหรือว่า หรือว่านางจะท้อง คิดได้เช่นนี้ฮ่องเต้ก็กระวนกระวายใจ และโมโหเสียใจที่ไป่เซหนีเขาไป ทหารที่ค้นหานั้นพบเข้ากับหญิงรับใช้สองคนที่ถูกมัดอยู่ ก็รีบนำไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้พอไปถึง “ ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตด้วยเถิด ๆ ” ทั้งสองนั่งเอาหัวขบพื้น “ พวกเจ้าว่ามา มันเกิดอะไรขึ้น ” ฮ่องเต้เสียแข็งกร้าวดุดัน “ เมื่อวานจางจิ้งบอกว่าพระชายาให้เข้าเฝ้านำชุดสาวใช้มาให้สองชุดเจ้าค่ะพอไปถึงพระชายาก็ให้ดื่มน้ำผลไม้จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวจำอะไรไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ ” “ อืมออกไป! ” ฮ่องเต้กล่าว สาวใช้สองคนกุลีกุจรรีบออกไปทันทัน “ ทหารเตรียมม้าเร็วออกตามหาพระชายา ขังอันหลี่บุตรสาวขุนนางคนนั้นไว้ อย่าให้ใครเข้ามาได้ กลับมาข้าจะสะสางเรื่องนี้ให้จบ ” พูดจบฮ่องเต้และผู้ติดตามก็ขึ้นม้าควบม้าออกไปอย่างเร็ว ทางด้านอันหลี่มีทหารคอยเฝ้าอยู่หน้าประตู สาวใช้ได้บอกทุกอย่างแกเธอ พอนางรู้ว่าถูกคุมขังนางเกิดความโมโหโวยวาย “ พวกเจ้าว่าอะไรนะฮ่องเต้สั่งให้คนขังข้าอย่างงั้นรึ ” ข้าไม่เชื่อ ตอนนี้ฮ่องเต้อยู่ไหน \" นางถามสาวใช้น้ำเสียงเกรี้ยวกราด สายตาเกลียดแค้นปรากฎบนใบหน้าที่แดงก่ำ “ ไม่ทราบเจ้าค่ะ ” สาวใช้ก้มหน้าพูดแล้วถอยออกไป ทหารเข้ามาปิดประตูล็อคกุญแจไว้ งดให้ความสะดวกสบายแก่นาง อาหารก็เป็นอาหารธรรมดาที่คนเห็นก็ไม่อยากอยากอาหารรสชาติจืดชืด ไม่มีคนรับใช้ดังที่นางหวังอย่างที่เคยมี อันหลี่หญิงสาวเจ้าเล่ห์ผู้ทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงรู้สึกโกรธเกลียดพระชายาเป็นอย่างมาก : พระชายา พระชายาเจ้าจะต้องไม่ตายดีแน่เจ้าทำให้ฮ่องเต้ขังข้า เจ้าทำให้ข้าตกอยู่ในสภาพนี้ ข้าน่าจะกำจัดเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว : นางพึมพำอยู่ในลำคอด้วยความเคียดแค้นกำมือแน่นปากสั่นระริกคล้ายคนเสียสติ ทางด้านพ่อของนางก็ถูกตรวจสอบและถูกจับขังคุก การกระทำครั้งนี้คนในวังต่างรู้ดีว่าฮ่องเต้รู้สึกผิดต่อพระชายาและบุตรสาวขุนนางนั้นมักใหญ่ใฝ่สูง ที่ผ่านมานั้นคนในวังนั้นรู้ดีว่าพระชายาน่าสงสารและรู้ดีว่าฮ่องเต้ทุ่มเททำทุกวิถีทางเพื่อได้พระชายามาแต่พอถึงคืนเข้าหอก็ทิ้งพระชายาให้โดดเดี่ยวเป็นที่ซุบซิบนินทาครหาของคน เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนเดียวพระชายาหนีออกจากวัง ฮ่องเต้ปลดสนมเป็นอิสระ ฮ่องเต้แต่งสนมใหม่เป็นที่กล่าวขานเล่าลือฮือฮากันในหมู่ผู้คนเล่าต่อๆกันไป ชาวบ้านบางคนที่รู้จักพระชายาก็ชื่นชมในความเด็ดเดี่ยวของนางบางคนก็ว่าสงสาร บางคนก็ว่าเสียดาย ข่าวแพร่ไปอย่างรวดเร็วถึงหลายแคว้นใกล้เคียง ฮ่องเต้สั่งการให้ทหารปิดประตูเขตแดนชาวบ้านห้ามเข้าออกผู้ที่เข้าออกได้จะต้องมีป้ายหรือหนังสือเดินทางเท่านั้นเพราะฮ่องเต้คิดว่าทั้งสามคนไม่สามารถออกนอกเมืองได้แน่นอนแต่ฮ่องเต้กลับไม่คิดว่าคนที่มารับพระชายาหนีนั้นเป็นพ่อค้านักธุรกิจรายใหญ่จากต่างแคว้นที่รู้จักกับพ่อของไป่เซ การเดินทางของทั้สาวราบรื่นดีไป่เซเองก็ไม่มีอาการผิดปกติใดๆพอใกล้จะถึงชายแดนทั้งสี่ลงมานั่งพักดื่มน้ำกินข้าวพวกระหว่างทาง คนขับรถไม่รู้ว่าไป่เซคือใครแต่นายท่านสั่งให้มารับคนเขาก็แค่มารับตามคำสั่งเท่านั้นแต่เขาสงสัยว่าทำไมในเมื่อเป็นคนของนายท่านทำไมถึงแต่งชุดเก่าๆและไม่พักโรงเตี้ยมเลยการเดินทางสามวันทั้งเหนื่อยและไกลผู้หญิงสองคนนี้นอนแต่บนรถม้าจึงเกิดความสงสัย อยู่ๆคนขับรถม้าก็ถามขึ้นว่า \" แม่นางเหตุใดท่านถึงไม่เข้าพักทานอาหารในโรงเตี้ยมเลยล่ะจะสะดวกกว่า \" ทั้งสามคนมองหน้ากันไป่เซจึงตอบว่า “ เงินพวกเราน้อยน่ะทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ยังต้องใช้เงินลงหลักปักฐานอีกเยอะ ” “ อ่อ ก็พอเข้าใจนะ เอ้อ เมื่อวานตอนผ่านเมืองเล็กๆที่ข้าลงไปซื้อของได้ยินคนแถวนั้นพูดกันว่าประตูเขตชายแดนปิดแล้วผู้คนไม่สามารถเข้าออกได้ มีทหารตรวจสอบคนเข้าออกเมือง คุมเข้มมาก ” ทั้งสามคนทำตกใจสีหน้าอึ้งจนคนขับรถม้ามองเห็นความตกใจพวกเข้า จางจิ้งเลยถามอย่างรวดเร็ว “ พี่ชายแล้วเราจะทำยังไงล่ะ เราต้องการไปที่แคว้นหนานเมื่อประตูปิดแบบนี้เราจะทำยังไง ” เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของจางจิ้งคนขับรถจึงเอ่ยว่า “ ท่านไม่ต้องตกใจกันหรอก นายท่านข้าให้หนังสือเดินทางข้าไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดปัญหาเข้าออกเมืองขึ้นจริงๆ นายท่านข้านี้ช่างรอบคอบเสียจริง ” คนขับรถม้าพูดพลางยิ้มชื่นชมนายตนเอง ทั้งสามคนได้ยินเช่นนั้นก็หายใจอย่างโล่งอก หมอหลวงที่ต้มยาเสร็จก็เอาไปให้ไปเซดื่มทันที คนขับรถม้าจึงถามว่า “ แม่นางท่านนี้ท่านไม่สบายเหรอ ” “ อืมข้าไม่สบายนิดหน่อยน่ะ ” ไป่เซตอบ “ อ้อ ดีเลยข้ากำลังคิดอยู่ว่าจะให้ท่านแกล้งเป็นคนป่วยหรือคนท้องตอนผ่านเขตชายแดน และให้ท่านลุงผู้นี้แสร้งเป็นหมอหลวง ส่วนแม่นางอีกคนนั้นเป็นภรรยาข้า พวกท่านคิดว่าอย่างไร ” คนขับรถม้าเอ่ยถามความเห็น ทั้งสามคนตกใจหน้าซีดนึกว่าคนขับรถม้าคนนี้จะรู้เรื่องอะไรซะอีก “ เหตุใดเจ้าจึงคิดใช้วิธีนี้ล่ะ ” ไป่เซถาม “ เพราะว่าหนังสือเดินทางมันต้องมีทุกคนแต่พวกท่านคงไม่มีฉะนั้นตอนผ่านด่านทหารท่านก็ต้องแสร้งเจ็บท้องข้าจะต่อรองกับพวกทหารว่าสามีท่านมารอรับท่านที่กำลังจะคลอดลูกอยู่นอกเขตชายแดน ” คนขับรถม้ากล่าว “ อืมมันก็มีเหตุผลดี อีกนานไหมกว่าจะถึงชายแดน ” ไป่เซถาม “ ประมานสองชั่วยามก็ถึงแล้ว อ้อข้าว่าจะถามพวกท่านเคยเห็นพระชายามั้ย ” ไป่เซตกใจแต่ไม่แสดงอาการสีหน้าเรียบเฉยยิ้มขึ้นมาอ่อนๆตอบไปว่า “ ข้าอยู่นอกเมืองเป็นหญิงชาวบ้านจนๆจะไปเคยเห็นพระชายาได้อย่างไรกัน ท่านเคยเห็นเหรอ ” หมอหลวงและจางจิ้งใจแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เจอเข้ากับคนขี้สงสัยกลายเป็นคนที่พวกเขาระแวงอย่างคนขับรถม้า แต่ทั้งสองก็พยายามทำตัวปกติอยู่ “ ข่าก็ไม่เคยเห็น ได้เขาว่าพระชายาหนีออกจากวัง ในคืนอภิเษกของฮ่องเต้คืนเดียวกับที่ข้าไปรับท่านนอกประตูวังเลย ” หมอหลวงลุกเดินไปเก็บสัมภาระ จางจิ้งยกน้ำขึ้นมาดื่มกลบเกลื่อน แต่คนสนุกกลับเป็นไป่เซ “ เกิดเรื่องแบบนี้ด้วยข้าเพิ่งรู้จากท่านแต่ข้าว่าฮ่องเต้คงไม่ใช่คนดีอะไรหรอกไม่งั้นพระชายาคงไม่หนีออกจากวัง ” “ อืมข้าก็คิดเช่นนั้นพระชายาคงจะเสียใจที่ฮ่องเต้แต่งงานข้าล่ะสงสารพระชายาเสียจริงมีฐานะสูงส่งแต่ต้องใจกว้างยอมให้สามีแต่งกับหญิงอื่นแม้ข้าเป็นชายข้าก็เข้าใจความรู้สึกพระชายาดี ” คนขับรถม้าทำท่าเหนื่อยใจ ไป่เซสีหน้าเศร้าหมอง สงสารตัวเองนึกถึงคำพูดคำสัญญาของฮ่องเต้นางตาก็ค่อยๆซึมออกมา คนขับรถม้าเห็นเช่นนั้นก็อดถามไม่ได้ “ ท่านเป็นอะไรหรือ เหตุใดจึงร้องให้ ” หมอหลวงและจางจิ้งต่างมองไป่เซจางจิ้งอยากเข้าไปโอบแต่ก็ทำไม่ได้กลัวถูกสงสัย ไป่เซใช้มือปัดน้ำตาแล้วเอ่ยว่า “ ข้าไม่เป็นไรหรอก ข้าแค่สงสารพระชายาเหมือนที่เจ้าสงสารนั่นแหละ ” “ อื้ม ” คนขับรถม้าละสายตาจากไป่เซแล้วผงกหัวเบาๆ “ ไม่เข้าใจฮ่องเต้เลย ในเมื่อมีสนมตั้งหลายคนและเพิ่งจะแต่งสนมเพิ่มอีกคนน่าจะปล่อยๆพระชายาไปนะเจ้าว่ามั้ย ” คนขับรถม้าพูด ไป่เซได้ยินเช่นนั้นก็ตอบสนองถามขึ้นอย่างไว “ เจ้าพูดเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร ” ไป่เซถามอย่างกังล “ ก็ที่ประตูเมืองชายแดนปิดเพราะเป็นคำสั่งฮ่องเต้ หลังเสร็จสิ้นพิธีอภิเษกในตอนเช้าข่าวลือแพร่ไปทั่วว่าพระชายาหนีไปและฮ่องเต้สั่งม้าเร็วสั่งทหารปิดประตูชายแดนทุกทิศนานเจ็ดวัน และฮ่องเต้ควบม้าเร็วออกตามหาพระชายาอีกด้วย ข้าแม้ไม่เคยเห็นพระชายาแต่ก็อดก่วงไม่ได้ถ้าถูกจับกลับไปจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ ” “ อ่อ ” ไป่เซตกตะลึงอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก จางจิ้งจึงพูดขึ้นว่า \" พี่ชายนี่พวกเราก็นั่งพักกันนานแล้วข้าว่าเราออกเดินทางกันเถิด \" “ ใช่ๆยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นการตรวจตรายิ่งเข้มงวดพวกเรารีบไปกัน ” หมอหลวงกล่าวเสริม “ อื้ม” คนขับรถพยักหน้า ทั้งสี่คนรีบไปขึ้นรถแล้วออกเดินทางต่อ ภายในรถไป่เซก็พูดขึ้น “ พวกเจ้าว่าเขาจะตามมาทันมั้ย ข้ารู้สึกไม่สบายใจเลย ” “ พระชายาไม่ต้องทรงกังวลเลยแม้จะเป็นม้าเร็วแต่ก็น่าจะห่างจากเราครึ่งค่อนวันได้ ” หมอหลวงเอ่ย เพราะเป็นห่วงสุขภาพไป่เซ “ อื้ม ท่านหมอท่านอย่าเรียกข้าว่าพระชายาอีกเลยท่านเรียกข้าว่าลูกสาวเถิดไม่งั้นหลุดไปจะถูกจับได้เอาคนขับรถม้ายิ่งฉลาดขี้สงสัยอยู่ ” “ ได้ๆ ลูกสาว ” “ จางจิ้งเจ้าเรียกข้าว่าน้องสาวนะ อ่อช่วยบอกคนขับรถม้าทีควบรถมาให้เร็วๆหน่อย ” “ คุณหนู…น้องสาวแต่ท่าน…เจ้ากำลังท้องอยู่นะ ” “ ใช่ๆบนรถม้าโคลงเคลงถ้าวิ่งเร็วเกรงจะกระทบกับท่าน…กับเจ้าและเด็กในท้อง ” หมอหลวงกล่าวเสริม “ อื้มงั้นก็ไม่ต้องเร็วมากแต่เร็วขึ้นกว่านี้หน่อยเถิด ” จ้างจิ้งเปิดม่านพูดว่า “ พี่ชายควบม้าให้เร็วขึ้นอีกหน่อย ” “ ได้ งั้นข้าจะพาพวกท่านใช้ทางลัดดีมั่ย ทางจะไม่ดีหน่อยแต่จะถึงชายแดนเร็วกว่าหนึ่งชั่วยาม” คนขับรถม้าก็ควบม้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิมทีนที “ ไม่ต้องหรอกน้องสาวข้าไม่สบายอยู่ ” “ ได้ ” ทางด้านฮ่องเต้ ควบม้าเร็วไม่พักเลย เพื่อไปเฝ้าที่ชายแดนตลอดทางสายสืบรายงานเขาตลอดล่าสุดสายสืบบอกเขาว่ามีรถม้าจากต่างแคว้นเข้ามารับคนนอกประตูวังเขาก็คิดว่าน่าจะเป็นพระชายาทันทีจึงควบม้ามุ่งไปยังชายแดนใต้อาศัยเส้นทางลัดตลอดและสั่งให้ทการเตรียมรถม้าตามมาทีหลัง ฮ่องเต้และเหล่าองครักษ์ควบม้าเร็วออกไปถึงเขตชายแดนเฝ้าดูรถม้าและผู้คนที่เข้าออกผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดของทการแต่ก็ไม่เห็นพระชายาของเขาสักทีเขารู้สึกสิ้นหวังเล็กๆและปวดใจเอามากๆสามวันในการเดินทางเขากินไม่ได้นอนไม่หลับเสียใจกับสิ่งที่เขาทำพลาดไปนึกถึงช่วงเวลาที่เขาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวพระชายาของเขามานั้นไม่ง่ายเลย : ซิ่วอิงข้าขอโทษ ข้าขอสัญญาต่อหน้าฟ้าดินและศรวงสวรรค์ หากข้าตามหาเจ้าพบได้เจ้ากลับคืนมาข้าจะลงโทษตัวเองและภักดีต่อความรักที่เจ้ามีให้ข้า ข้าจะมีเจ้าเพียงคนเดียวจะให้เจ้าอยู่อย่างมีความสุขมีอิสระอย่างที่เจ้าต้องการข้าจะชดใช้ความเจ็บปวดนั้นให้เจ้า ข้ารักเจ้าเจ้าคือคนที่ดีที่สุดของข้าข้าต้องการเจ้าข้าไม่อาจขาดเจ้าได้ ข้ามันเลวข้ามันไม่ดีข้ามันเห็นแก่ตัวจนเจ้าต้องหนีข้าไป หากครั้งนี้ได้เจ้ากลับมาจะถนุถนอมเจ้าเป็นอย่างดีไม่ทำให้เจ้าเจ็บอีกข้าสาบาน : ฮ่องเต้พร่ำเพ้ออยู่ในลำคอ ใบหน้าโทรมๆเศร้าหมอง น้ำตาที่ไหลออกมานั้นทำให้องครักษ์ที่ติดตามก็รู้สึกปวดใจ ตั้งแต่ติดตามฮ่องเต้พวกเขาไม่เคยเห็นฮ่อเต้ดูสิ้นหวังร้องใก้พร้ำพรูนแบบนี้มาก่อนชายชาติทหารไม่เคยหลั่งน้ำตาไม่เผยจุดอ่อนแต่ครั้งนี้ฮ่องเป็นถึงขนาดนี้คงจะเจ็บปวดใจกับการจากไปของพระชายาจริงๆ พวกเขาไม่เคยมีความรักจึงไม่เข้าใจความเจ็บปวดแบบนี้สักเท่าไหร่แต่ฮ่องเต้เขาในเวลานี้ทำให้พวกเขาเข้าใจคำกล่าวขานที่ว่า ความรักก็เหมือนยาพิษ และเข้าใจคำพูดของฮ่องเต้ของเขาที่เปรียบพระชายาเป็นกุหลาบหนามที่ต้องจับอย่างระมัดระวังถ้าถูกหนางแทงก็อาจมีเลือดไหลทำให้คนเจ็บปวดได้ เป็นเช่นนี้นี่เอง จู่ๆองครักษ์คนหนึ่งเห็นรถม้าคันหนึ่งจากที่ไกลๆกำลังมาทางประตูชายแดนแปลกๆคนขับรถม้าเหมือนจะเร่งรีบ “ ฝ่าบาทรถม้าคันนั้นเหมือนเร่งรีบแปลกๆพะยะค่ะ ” ฮ่องเต้รีบจัดการกับอารมณ์มองไปยังรถม้าคันนั้นแล้วออกคำสั่งไป “ พวกเจ้าออกไปรอดูใกล้ๆ ไปตรวจดูข้างในว่าใช่พระชายาหรือเปล่า ” “ พะยะค่ะ ” องครักษ์หมุนตัวก็ออกไปทันที คนขับรถม้าเห็นคนกลุ่มหนึ่งที่กำแพงเมืองเขตชายแดน ผู้ชายที่อยู่บนหลังม้าดูสูงส่งสง่างามรอบๆมีเหล่าทหารและองครักษ์ดูก็รู้ว่าเป็นฮ่องเต้ “ โอ้โหวันนี้เป็นบุญตาได้เห็นฮ่องเต้มาปรากฎตัวที่เขตชายแดน ” คนขับรถม้าพูด “ เจ้าว่าอะไรนะเจ้าพูดใหม่อีกรอบสิ ” จางจิ้งถามขึ้น “ ฮ่องเต้เสด็จมาเขตชายแดน นั่นไงช่างดูสูงส่งยิ่งนักสมกับเป็นฮ่องเต้ ” จางจิ้งแง้ผ้าม่านดูเธอตกตะลึงเบิกตากว้างแล้วรีบปิดม่านทันที “ คุณหนูๆฮ่องเต้อยู่ข้างนอกๆทำยังไงดี ” ทุกคนต่างตกใจหมดไป่เซรีบดึงสติกลับมา “ เจ้าใจเย็นๆนะ บอกคนขับให้ขับช้าลงหน่อย ” ไป่เซกล่าว \" พี่ชายท่านขับช้าลงหน่อยน้องสาวข้าปวดท้อง เริ่มทำตามแผนที่ท่านบอกเถิด \" “ ได้ ” คนขับรถม้าชลอขับช้าลง “ ท่านหมอมีอะไรที่พอจะปิดบังใบหน้าได้บ้างมั้ย ” “ เอ่อ พระชา…ลูกสาวเจ้าผมยาวเจ้าปล่อยผมเลยดีไหมตอนที่เจ้าแสร้งปวดท้องก็เอาเส้นผมมาช่วยบังหน้าจางจิ้งเจ้าก็เอาผ้ามาปิดหน้าเสียหน่อยข้าจะใช้ผงถ่านทำให้เนื้อตัวมอมแมมหน่อย ” “ อืมเอาท่านว่า ” ไป่เซกล่าว เข้าจุดตรวจไป่เซก็ร้องโอดโอยจางจิ้งพรมบนใบหน้า หน้าอกและมือของไป่เซนิดหน่อย จางจิ้งจับมือไป่เซไว้ละครฉากนี้ก็เริ่มขึ้น “ หยุด ” ทหารองครักษ์มาหยุดรถของไป่เซ “ น้องชายข้าขอค้นรถม้าท่านสักหน่อยโปรดใก้ความร่วมมือด้วย ” ทหารพูด คนขับรถม้าทำหน้าใจเป็นกังวลและลำบากใจ “ ท่านเห็นใจข้าด้วยเถิดข้าต้องรีบไปภรรยาของนายข้ากำลังจะคลอดแล้วต้องรีบไปให้ทันนายท่านข้ารออยู่ด้านนอกกำแพงเมืองแล้วข้าร้อนใจยิ่งนัก หมอบอกว่าคลอดยากกลัวชักช้าจะเสียทั้งแม่และลูก ” \" เจ้ารอเดี๋ยว \" องครักษ์รีบไปรายงานฮ่องเต้ “ ฝ่าบาทในรถม้าคันนั้นด้านในไม่ใก้ค้นมีหญิงตั้งครรภ์อยู่พะยะค่ะ ” “ หญิงตั้งครรภ์ ! ดีข้าจะไปดู ” พูดจบฮ่องเต้ก็เดินไปยังรถม้าคันนั้นแล้ว ไป่เซคาดว่าฮ่องเต้ต้องมาดูจึงร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดทรมานดัดเสียงนิดหน่อย “ โอย โอ้ย ข้าปวด โอ้ยข้าไม่ไหวแล้ว ข้าไม่ไหวแล้วข้าปวดท้อง โอ้ย ” ฮ่องเต้ได้ยินเสียงนี้รู้สึกเหมือนจะคุ้นๆแต่ก็ไม่เหมือนมากเกิดความสับสน “ ข้าจะเข้าไปดูแม่หญิงคนนี้หน่อย ” ฮ่องเต้กล่าว “ ฝ่าบาทไม่ได้พะยะค่ะ นายหญิงของข้าอยู่ในช่วงทำคลอดอยู่ ชายไม่อาจเข้าไไปได้ ฝ่าบาทโปรดช่วยเปิดทางให้พวกข้าเถิดนายหญิงข้าจะไม่ไหวแล้วท่านหมอหญิงบอกว่านายหญิงข้าคลอดยากเกรงว่าถ้าช้าอาจจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ทั้งแม่และลูก ” คนขับรถม้าทำสีหน้าอ้อนวอนร้อนใจอยู่ไม่สุข ฮ่องเต้ก้าวเท้าได้ก้าวเดียวได้ยินเสียงเจ็บปวดทรมานของหญิงสาวก็ก็นึกถึงเสียงร้องให้เจ็บปวดของพระชายาจึงถอยออกมาแล้วสั่งให้ทหารรีปเปิดทางให้พวดเขา คนขับรถม้ารีบควบม้าออกไปก็มีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ หยุดก่อน ระหว่างทาง ท่านพบเห็นคนหน้าตาแบบนี้ไหม ” ทหารเอารูปพระชายาให้เขาดู ทันทีที่เขาเห็นก็ตกใจ สมองคิดทำงานสั่งให้พูดว่า “ อืม..ไม่พบเจอคนหน้าตาสะสวยเช่นนี้เลยคือใครหรือ ” คนขับทำหน้าครุ่นคิดทบทวน “ ถ้าพบเห็นน้องชายโปรดแจ้งด้วยทางการมีค่าตอบแทนอย่าสูงรับรองท่านได้สบายทั้งชาติแน่ ” ทหารองครักษ์พูด “ อื้มได้ ” “ ไปได้ ” คนขับรถม้าควบม้าออกไปทหารมองเข้าไปในรถม้ามองเห็นไม่ค่อยชัดแต่เหมือนคนบนรถม้าเป็นผู้ชายรถม้าไกลออกไปเขาก็ยังมองตาม : คนขับรถม้าบอกว่าทำคลอดอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมคนผู้นั้นแต่งตัวเหมือนผู้ชายล่ะมีคนอีกคนอยู่ พระชายาออกมาสามคน คนบนรถม้าสามคน : ทหารครุ่นคิดพึมพำอยู่ในใจ “ มีอะไร ” ฮ่องเต้ถามขึ้น “ เอ่อ ฝ่าบาท เมื่อกี้ข้าเห็นมีคนอยู่ในรถม้าคันนั้นสามคน อีกคนแต่งกายเหมือนผู้ชาย แต่ว่ามองเห็นไม่ชัดพะยะค่ะ ” ฮ่องเต้ครุ่นคิดสักพัก เสียงผู้หญิงก็คล้ายซิ่งอิงเหมือนกันหรือว่า “ ไม่ต้องมากความ ตาม! ” ฮ่องเต้ควบม้าไปอย่างเร็วเหล่าองครักษ์ก็ตามติดๆ ----+กดหัวใจ ให้หน่อยนะค้ะ??’???’? ยังไม่จบ ติดตาม Yafern
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่11 เธอหนีไปแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A