ตอนที่18 ผมต้องการคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่18 ผมต้องการคุณ
ไป๋เจิ้นหลงวางเธอลงบนเตียงของเขาเตรียมจะไปเอาน้ำมาเช็ดตัวทำความสะอาดไป่เซก็พูดขึ้น “ ฮ่องเต้ ไร้หัวใจ เจ้าทำให้ข้าเจ็บ ข้าเกลียดเจ้า เจ้านอกใจข้า คนเลว ฮ่องเต้คนเลวทรยศข้าฮือๆๆ ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับข้า ไอ่คนมากรัก(น้ำตาซึมไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง)ฮ่องเต้ ฮ่องเต้ก็คือนาย ไป๋ เจิ้น หลง ฉันจะไม่ชอบนาย ฉันไม่เชื่อนาย อีกแล้ว ” ไป๋เจิ้นหลงนั่งข้างๆจ้องใบหน้าสวยไร้ที่ติเอามือลูบหน้าไป่เซเบาๆเขารู้สึกผิดเอามากๆที่เคยทำให้ไป่เซเจ็บเมื่อชาติก่อน จึงพูดกระซิบว่า “ ผมขอโทษไป่ผมขอโทษจากนี้ไปผมจะไม่ทำร้ายคุณอีกแล้ว ผมจะรักษาหัวใจของคุณขอเพียงคุณรักผมอีกครั้งผมสัญญาผมจะรักและมีเพียงคุณคนเดียวจริงๆ ” จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นไปนอนบนโซฟา ในตอนเช้าแสงแดดอ่อนส่องลงมาแยงตาเธอจึงรู้สึกตัวขึ้นค่อยๆลืมตาบิดตัวยืดเส้นสายแล้วพอรู้สึกตัวดีขึ้นก็พบว่านี่ไม่ใช่ห้องของตัวเองแล้วมองไปรอบๆก็เห็นไป๋เจิ้นหลงนอนหลับอยู่บนโซฟาจากนั้นเธอก็สำรวจตัวเองทันที : นี่เขาไม่ได้ทำอะไรเรา เขานอนบนโซฟาทั้งคืนเลยเหรอ : ไป่เซรู่สึกห่วงไป๋เจิ้นหลงขึ้นมานิดหน่อยทันใดนั้นไป๋เจิ้นหลงก็รู้สึกตัวค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปยังไป่เซที่อยู่บนเตียง “ ตื่นแล้วเหรอ เมื่อคืนคุณเมามาก ” “ อืม ขอบคุณ ”  ไป่เซกล่าว ไป๋เจิ้นหลงลุกจากโซฟาเดินมายังเตียงยืนอยู่ตรงหน้าไป่เซแล้วพูดว่า “ ขอบคุณเรื่องไหนล่ะ เรื่องที่พาคุณไปดื่มจนเมาเละหรือเรื่องที่ผมดูแลคุณ ”  ไป๋เจิ้นหลงแกล้งหยอกเขาแล้วยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ไป่เซแปลกใจที่อยู่ๆไป๋เจิ้นหลงทำดีต่อเธอ “ คุณเป็นอะไร กินยาเกินขนาดหรือว่ากินยาผิด ”    เธอเอ่ยอย่างเย็นชา ไป๋เจิ้นหลงยิ้มแล้วพูดว่า “ ไม่ได้เป็นอะไรแล้วก็ไม่ได้กินยาผิดด้วย คุณไปอาบน้ำได้แล้ว เสร็จแล้วลงไปทานข้าวกัน ”   ไป๋เจิ้นหลงเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดเปลี่ยนเป็นเสื้อตัวใหญ่ของเขาแล้วยื่นให้เธอ “ ใส่ไปก่อนผมจะให้คนออกไปซื้อเสื้อผ้ามาให้คุณ ” ไป๋เจิ้นหลงพูด “ ไม่ค่ะ ขอบคุณ ฉันจะกลับแล้ว ”  แม้ในหัวของเธอจะคิดอะไรเยอะแยะแต่เธอก็ไม่เลือกที่จะพูดหรือถามออกไปเธอลงจากเตียงเดินไปที่ประตูแม้จะรู้สึกเขินๆเกรงๆแต่เธอก็ทำตัวปกติ ทันใดนั้นเสียงของไป๋เจิ้นหลงก็ดังขึ้นมาจากข่างหลัง “ ผมยังไม่อนุญาตให้คุณกลับ คุณจะไปอาบน้ำเองดีๆหรือจะให้ผมอาบให้เลือกเอา ” ไป่เซไม่สนใจเดินจนถึงประตูมือกำลังจะแตะลูกบิดประตูเสียงด้านหลังก็ดังขึ้น “ คุณเลือกให้ผมอาบน้ำให้ ”  เมื่อพูดจบไป๋เจิ้นหลงก็ก้าวเท้ามาทางเธออย่างเร็วขณะที่มือเธอจับลูกบิดตัวเธอก็ลอยขึ้นมาอยู่ในอ้อมอกของไป๋เจิ้นหลงแล้ว เธอตกใจเบิกตากว้าง ไป๋เจิ้นหลงเดินเข้าไปยังห้องน้ำ “ ปล่อยนะ ไป๋เจิ้นหลง ฉันอุตส่าห์หลงคิดว่าคุณกลับใจดีกับฉัน ฉันเข้าใจผิดเองสินะ ”  ไป๋เจิ้นหลงหยุดเดินทางที วางเธอลงแล้วเอ่ยว่า “ ถ้าคุณเชื่อฟัง ผมจะไม่บังคับคุณ อาบน้ำซะ ” ไป๋เจิ้นหลงเดินออกมาจากห้องน้ำปล่อยให้ไป่เซอาบน้ำเองสักพักไป่เซก็ออกมาจากห้องน้ำไป๋เจิ้นหลงเห็นว่าผมเธอเปียกจึงหยิบเอาไดร์เป่าผมยื่นให้เธอแล้วพูดว่า “ เป่าผมให้แห้งเดี๋ยวจะไม่สบาย คุณรอผมนะผมจะไปอาบน้ำก่อนค่อยลงไปพร้อมกัน ” พูดจบก็เข้าไปอาบน้ำไป่เซนั่งไดร์ผมจนแห้งไป๋เจิ้นหลงก็ออกจากห้องน้ำมีเพียงผ้าเช็ดตัวปิดท่อนล่างไว้เธอหันไปมองแล้วเผลอร้องขึ้นอย่างตกใจ “ ว้าย! ”  เธอรีบหันหลังไปทันทีแล้วพูดว่า “ คุณแกล้งฉันใช่มั้ย ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาจากห้องน้ำ ” ไป๋เจิ้นหลงยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วเดินเข้ามาใกล้ไป่เซหยุดอยู่ข้างหลังเขาแล้วโน้มตัวกระซิบข้างหูเธอว่า “ คุณชอบหุ่นผมมั้ย ”  ไป๋เจิ้นหลงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์สายตามองเธอราวกับเสือที่กำลังจะขย้ำเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า ไป่เซยืนนิ่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับแต่ก็ฝืนให้ตัวเองหันมาเผชิญหน้าสบตากับไป๋เจิ้นหลงแล้วพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ หึ หุ่นแบบคุณน่ะเหรอ ต่อให้มายืนอยู่ต่อหน้าฉันสิบคนก็ไม่สามารถทำให้ฉันหวั่นไหวได้หรอก ถอยไป!  ” เธอผลักไปเจิ้นหลงออกห่างจากตัวเธอแต่เธอคิดไม่ถึงว่าไปเจิ้นหลงจะแสร้งล้มลงแล้วดึงเธอลงมาด้วยเธอล้มทับอยู่บนเนินอกอันแข็งแกร่งกล้ามเป็นมัดๆของเขาไป๋เจิ้นหลงจับที่ท้ายทอยเธอแล้วกดหัวเธอลงมาจูบเขาเธอตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก พยายามจะผลักเขาออกแต่แรงเธอสู้เขาไม่ไหวจริงๆ ไป๋เจิ้นหลงจูบอย่างอ่อนโยน ดูดกลืนกินริมฝีปากของเธอใจของไป่เซเต้นแรงจนอีกฝ่ายสัมผัสได้ ไป๋เจิ้นหลงจูบริมฝีปากแดงนุ่มนิ่มจนรู้สึกพอใจจึงปล่อยเธอยกยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า  “ แบบนี้พอจะทำให้หัวใจคุณหวั่นไหวมั้ย อ่อ คุณปฏิเสธไม่ได้แล้วเพราะหัวใจคุณเต้นแรงมากหลักฐานชัดเจนหูผมได้ยินผิวผมก็สัมผัสได้ถึงหัวใจคุณที่เต้นแรงจนสั่นไหวเพราะจูบกับผม ” ไป่เซแก้มแดงระเรื่อ ไป๋เจิ้นหลงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกน่ารักอยากจะจูบต่อจึงจับท้ายทอยเธออย่างไวแล้วกดหัวเธอลงมาจูบอีกครั้งยิ่งจูบร่างกายของไป๋เจิ้นหลงยิ่งร้อนรุ่มไปทั้งตัว เขาพลิกตัวไป่เซลงไปอยู่ใต้ร่างของเขาไม่ยอมผละปากออกให้ไป่เซได้ส่งเสียง ดวงตาเธอเบิกกว้างอย่างตกใจไป๋เจิ้นหลงผละปากออกจากเธอแล้วเอ่ยว่า “ ขอโทษนะ ผมต้องการคุณ ” จากนั้นไป๋เจิ้นหลงก็อุ้มร่างเล็กบอบบางขึ้นไปว่าบนเตียงแม้ไป่เซจะดิ้นยังไงก็ไม่หลุด \" ทำยังไงดีๆ! ทุกอย่างเป็นแผนของเขา ไป๋เจิ้นหลงคนชั่ว ยุให้เราพูดเช่นนั้น คนเลว  : เธอด่าไป๋เจิ้นหลงในใจคราวนี้เธอยอมรับว่าเธอกลัวผู้ชายคนนี้จริงๆ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวอ่อนโยน ทำเธองงไปหมดวินาทีนั้นเธอคิดอะไรได้ : ใช่ ! เราต้องเรียกให้เขามีสติ : เธอจึงพูดขึ้นว่า “ นี่! คุณปล่อยฉันนะ มีสติหน่อยสิ มีสติตื่นขึ้นมา คุณ…”  เธอยังพูดไม่ทันจบไป๋เจิ้นหลงก็ประกบจูบอย่างดูดดื่มครอบครองริมฝีปากเธออย่างเมามัน ร่างกายเขาเร่าร้อนมือใหญ่ซุกซนลูบไล้บนเรืองร่างของเธอร่างสูงใหญ่กดทับลงบนตัวเธอเวลาล่วงเลยเดินไปตามเข็มนาฬิกา ข้างล่างพ่อครัวแม่ครัวที่จ้างมาชั่วคราวทำอาหารเช้าจัดโต๊ะอาหารเสร็จแล้วเรียบร้อย  “ คุณไปพักไปทำอย่างอื่นก่อนเลยคุณชายกับคุณหนูลงมาเขาก็ทานเองพวกเขาทานเสร็จคุณค่อยมาเก็บแล้วกันครับ ” เจียผิงเหอพูด “ ครับ/ค่ะ ” เหล่าพ่อครัวแม่ครัวที่ถูกจ้างชั่วคราวก็เดินออกจากห้องอาหารไป เจียผิงเหอและจินฟาจินซาก็นั่งลงทานข้าวของเขาที่ถูกเตรียมไว้ เวลาผ่านไปในห้องนอนร่างเปลือยสองร่างมีผ้าห่มสีขาวคลุมตัวไว้ นอนหลับอย่างสลบไสลเหนื่อยล้าอ่อนแรง ไป่เซค่อยๆลืมตาความบริสุทธิ์ของเธอครั้งแรกของเธอถูกไป๋เจิ้นหลงทำลายลงและครอบครองเธออย่างสมบูรณ์ ลึกๆเธอก็ยังรู้สึกผิดต่อมู่มู่แต่เธอพยายามแข็งใจเพราะมู่มู่มีคู่หมั้นแล้วแต่เธอก็ยังเสียใจอยู่ดีเพราะเธอรักมู่มู่และมู่มู่ก็รักเธอแต่เธอคิดว่าเธอกับมู่มู่เป็นไปไม่ได้แล้วเพราะไป๋เจิ้นหลงพรากความบริสุทธิ์ของเธอไปแล้ว น้ำตาของเธอค่อยๆซึมเอ่อล้นออกมา ไป๋เจิ้นหลงค่อยๆลืมตาขึ้นหันมาโอบกอดเธอแล้วพูดว่า “ คุณนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ ”  ไป่เซไม่ตอบอะไร ไป๋เจิ้นหลงเห็นเธอร้องให้ คิดว่าเธอยังคงตกใจเรื่องที่เกิดขึ้นจึงถามว่า “ คุณเป็นอะไร คุณไม่ต้องคิดมาก ผมจะรับผิดชอบคุณโอเคมั้ย ” ไป๋เจิ่นหลงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนแล้วก้มลงจูบหน้าผากไป่เซเบาๆ ไป่เซยังคงไม่ตอบอะไรเขาใบหน้านิ่งเฉยราวกับไร้ความรู้สึก “ ผมจะบอกคุณปู่กับคุณพ่อคุณแม่ว่าเราจะหมั้นกัน ”  ไป๋เจิ้นหลงพูด ไป่เซได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงหึออกมาแล้วพูดอย่างเย็นชา “ หึ สมใจคุณแล้วหนิ แต่คุณจำไว้นะแม้คุณจะได้ครอบครองร่างกายฉันแต่หัวใจของฉันให้มู่มู่ไปหมดแล้วตั้งแต่ชาติที่แล้วจนถึงชาตินี้ ” เธอตกใจรีบเอามือปิดปากที่เผลอพูดถึงชาติที่แล้ว : เราพูดอะไรออกไปน่ะ : ไป๋เจิ้นหลงมองเขาอย่างเสียใจผิดหวังแล้วเอ่ยว่า “ ชาติที่แล้วผมขอโทษเพราะผมโง่ผมมันเลวผมขอโทษ ไป่เราปล่อยวางเรื่องในอดีตชาติให้เป็นเรื่องของอดีตไปได้มั้ยแล้วเรามาแก้ไขชาติปัจจุบันให้ดีขึ้น ผมรักคุณยังไงผมก็ไม่ยอม้สียคุณไปอีกแล้ว ” ไป่เซอึ้งสบตาเขาอย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยถามอยากประแปลกใจว่า “ คุณรู้ คุณรู้อดีตชาติของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ ” “ รู้ตั้งแต่วันที่คุณทำร้ายผมจนสลบไปในโรงพยาบาล ตอนผมสลบไปผมก็เห็นภาพเหตุการณ์เรื่องราวในอดีตชาติปรากฏขึ้น ผมจึงรู้ว่าชาตินี้ผมเกิดมาเพื่อรักคุณชดเชยในสิ่งที่ทำผิดไปจากนี้ไปผมจะปกป้องคุณดูแลคุณและอยู่เคียงข้างคุณ ” “ แล้วคุณคิดว่าฉันจะกล้าเชื่อคุณอีกงั้นเหรอ ” \" ผมไม่บังคับให้คุณเชื่อแต่ผมจะพิสูจน์ให้คุณว่ารักคุณคนเดียวจริงๆมีเพียงคุณเท่านั้น \" ไป่เซรู้สึกว่าเชื่อคำพูดของไป๋เจิ้นหลงไม่ได้แล้วพูดเรื่องนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์เธอไม่พูดอะไรแล้วเดินไปยังห้องน้ำ สักพักก็มีเสียงเคาะประตู ไป๋เจิ้นหลงเดินไปเปิด เจียผิงเหอเอาชุดผู้หญิงที่ผ่านการซักรีดเรียบร้อยยื่นให้เขา “ ชุดของคุณหนูไป่ที่นายสั่งไว้ ”  เจียผิงเหอพูด “ ขอบใจ ”  “ ข้าวเตรียมไว้บนโต๊ะแล้วนายจะลงไปทานเลยมั้ยฉันจะให้แม่ครัวไปอุ่นให้ ” “ อืม อุ่นไว้เลยฉันอาบน้ำเสร็จจะลงไป ” เมื่อทั้งสองคุยกันเสร็จเจียผิงเหอก็จากไปไป๋เจิ้นหลงเอาชุดไป่เซแขวนไว้พอไป่เซอาบน้ำเสร็จออกมาใส่ชุดเดิม “ ชุดคุณมาละเอาไปเปลี่ยนเลย ” ไป่เซหยิบชุดเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุดทันทีแล้วออกมาจากห้องน้ำ ไป๋เจิ้นหลงเข้าไปอาบน้ำต่อสักพักก็ออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยทั้งสองก็ลงไปชั้นล่าง นั่งทานข้าว ไป่เซไม่ค่อยเย็นชากับไป๋เจิ้นหลงแล้วแต่ก็ไม่ค่อยพูดคุยกับเขาเธอก้มหน้าก้มตาทานข้าว มู่มู่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานจู่ๆก็มีโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับเสียงปลายสายก็พูดว่า “ คุณชายมู่ที่บริษัทคุณเกิดวิกฤตคราวที่แล้วทางเราสืบทราบมาว่ามีคนจงใจทำจริงๆครับลูกค้าเก่ารายหนึ่งเขายอมรับว่ามีคนจ้างให้เขายกเลิกร่วมโครงการกับบริษัทคุณเป็นเงินห้าล้านบาท แต่ผมคาดว่าลูกค้าและหุ้นส่วนน่าจะถูกซื้อไปเช่นกัน ข้อมูลที่ได้มาพวกเขาถูกจ้างให้ยกเลิกการร่วมงานกับบริษัทคุณชั่วคราวเท่านั่นครับ ” “ อืม ขอบคุณครับ คุณไปสืบมาว่าใครบงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ถ้าผมรู้ผมจะไม่อภัยใก้เขาแน่ ”  มู่มู่เอย “ ครับ ” มู่มู่เป็นคนสุภาพอ่อนโยนมีมารยาทให้เกียรติทุกคน แต่มีคนเดียวที่เขารู้สึกไม่อยากให้เกียรติคือ คุณหนูตระกูลลี่เพราะเขารู้สึกว่าเรื่องบริษัทเกี่ยวข้องกับเธอคนนี้เพียงแต่เขายังไม่มีหลักฐาน หลังจากที่เขาวางสายเขารู้สึกคิดถึงไป่เซมากอยากจะโทรหาอยากเจอเธอกำลังคิดจะโทรก็มีเสียงดังเอะอะข้างนอกคนที่มาปรากฏต่อหน้าเขาก็คือลี่เหม่ยเอิน “ พี่มู่มู่คะ เลขาของคุณกีดกันฉันไม่ให้เข้ามาหาพี่ค่ะ ”  เธอทำเป็นฟ้องแสร้งทำตัวน่าสงสารเลขาก้มหน้าไม่พูดอะไรมู่มู่จึงให้เลขาออกไปก่อน “ คุณออกไปก่อน ” มู่มู่เอ่ย “ ค่ะ ” เลขารีบออกไป “ คุณมาที่นี่มีธุระอะไร ” “ ฉันมาหาพี่จะต้องมีธุระด้วยเหรอคะ ” “ สรุปคุณไม่มีอะไรใช่มั้ย อย่าให้ผมต้องถึงกับเรียก รปพ  เชิญ ”    มู่มู่ไล่เขาไปอย่างไม่ใยดีและไม่ให้เกียรติเอามากๆเธอรู้สึกไม่พอใจ “ ฉันเป็นคู่หมั้นพี่นะ พี่ทำกับฉันแบบนี้มันจะดูไม่เหมาะสมไปหน่อยเหรอคะ \" มู่มู่จ้องมองเขาอย่างเย็นชาอยากจะพูดว่าอะไรบางอย่างออกไปแต่ก็ไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่นเพราะผู้หญิงคนนี้ทำได้ทุกอย่างที่ต้องการหากรู้ตัวอาจจะกลับไปเก็บหลักฐานจนเขาไม่อาจสืบต่อไปได้ : ไป่รอพี่หน่อยนะ : “ คู่หมั้นงั้นเหรอ คุณคิดว่าผมโง่รึไง ”   มู่มู่เริ่มโมโหจึงพูดตะคอกออกไปเขาไม่อยากได้ยินเสียงผู้หญิงคนนี้ผู้หญิงที่ทำบริษัทเขาล้มละลาย ลี่เหม่ยเอินไม่เคยถูกตะคอกแบบนี้เธอตกใจกลัวเสียใจและโกรธมาก “ พี่ ! ”  เธอวิ่งออกไปจากห้องมู่มู่ทันที เธอนั่งอยู่ในรถในขณะเดียวเธอก็รู้สึกโกรธแค้นไป่เซเอามาก \" เพราะนังผู้หญิงชั้นต่ำนั่นคนเดียวพี่ถึงกับตะคอกใส่ฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะมันกลับมาปรากฏตัวต่อหน้าพี่พี่คงจะไม่ทำแบบนี้กับฉัน เพราะมันคนเดียว \" เธอหยิบโทรศัพท์กดโทรออก  “ ช่วยไปสืบประวัติและที่อยู่ของผู้หญิงคนหนึ่งให้หน่อยฉันจะส่งข้อมูลและรูปถ่ายไปให้ ” “ ครับ ” ปลายสายตอบรับ  เมื่อวางสายแล้ว จากนั้นเธอก็ขับรถออกไป ไป๋เจิ้นหลงขับรถไปส่งไป่เซที่บ้านพักหลังใหญ่ที่คุณปู่ซื้อให้เธอตอนมาเรียนที่นี่ ไป๋เจิ้นหลงสงสัยว่าใช่คุณปู่ซื้อให้หรือเปล่าจึงแกล้งถามไปว่า “ โห บ้านคุณหลังใหญ่ดีนี่ทำเลก็ดี คุณเช่าเดือนเท่าไหร่เหรอครับ ”  ไป่เซถลึงตาใส่เขาเธอไม่โง่ว่าไป๋เยิ้นหลงต้องการรู้อะไรจากนั้นเดินเข้าไปในบ้านพร้อมดับพูดว่า “ คุณปู่คุณซื้อให้ฉันอยู่พอใจหรือยัง ”  ไป๋เจิ้นหลงเลิกคิ้ว : ปู่ให้ความสำคัญกับเธอมากแสดงว่าคุณปู่ต้องรักเธอมากและหวงเธอมากแน่ไเราจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับปู่ยังไงดี : ไป๋เจิ้นหลงพึมพำงึมงำ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่มั่นใจเพราะเขารู้นิสัยปู่เขาดีลองเป็นสิ่งที่เขารักเขาหวงใครก็ห้ามแตะ ผู้หญิงคนนี้เธอคืนหนึ่งในนั้นที่คุณปู่ดูจะเป็นห่วงเอามากถึงขนาดซื้อบ้านให้อย่างปลอดภัยและมีแม่บ้านอีกสองคน ไป๋เจิ้นหลงเดินไปนั่งบนโซฟาห้องรับแขกแล้วเอ่ยถาม “ คุณรู้จักกับคุณปู่นานแค่ไหนแล้ว ”  ไป่เซตอบกลับเพียงสั้นๆว่า   “ ตั้งแต่เด็ก ”  ไป๋เจิ้นกลงเบิกตาโต จากนั้นไป่เซก็เดินขึ้นไปชั้นบน ไป๋เจิ้นหลงเดินตามเธอขึ้นไปไป่เซหันไปมองเขาแล้วพูดว่า “ คุณตามฉันมาทำไมนี่มันพื้นที่ส่วนตัวของฉัน ”  “ คุณนี่ก็แปลกคุณคือว่าที่คู่หมั้นและว่าที่ภรรยาของผมไม่ตามคุณจะให้ตามใครล่ะ ”   ความจริงไป๋เจิ้นหลงแค่อยากดูห้องนอนของเธอ “ คุณอย่าพูดอะไรมั่วๆนะ เลิกตามฉันได้แล้ว คุณลงไปรอฉันข้างล่างเถอะ” ไป่เซรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ แต่ไป๋เจิ้นหลงก็ไม่ฟังอยู่ดีพร้อมกับเอ่ยว่า “ เข้าไปคุยในห้องนอนคุณ  ” “ ไม่ได้ ! ” ไป่เซเผลอตะคอก ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุจนไป๋เจิ้นหลงได้เข้าไปดูห้องนอนของไป่เซ “ คุณกลายเป็นพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเหมือนผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ น่ารำคาญ ” ไป่เซพูดอย่างเย็นชารู้สึกรำคาญใจแต่ไป๋เจิ้นกลงกลับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมเอยใกล้ๆเธอว่า “ ตั้งแต่วันที่เจอคุณครับ ”  ไป๋เจิ้นหลงยิ้มจากนั้นเขาเหลือบไปเห็นบนโต๊ะข้างเตียงมีรูปไป่เซกับมู่มู่ถ่ายที่คู่กันโชว์แหวนคู่ที่ใส่อยู่ที่นิ้วกลางใบหน้ายิ้มร่าคนหนึ่งสวยคนหนึ่งหล่อถ้าบอกว่าไม่เหมาะสมก็คงจะโกหก ไป๋เจิ้นหลงเบนสายตามองไปที่มือของไป่เซเกิดอาการหึงหวง : ผู้หญิงคนนี้นี่ถึงขนาดเอารูปคู่ตั้งโชว์ไว้บนหัวเตียงเลยเหรอ : “ พรุ่งนี้ผมจะคุยเรื่องระหว่างเรากับคุณปู่ คุณเตรียมตัวให้ดี ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาบ่งบอกว่าเขาอารมณ์ไม่ดี    
已经是最新一章了
加载中