ตอนที่ 28 ลี่เหม่ยเอินกับซู่หลินเป็นญาติกัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 28 ลี่เหม่ยเอินกับซู่หลินเป็นญาติกัน
ยามค่ำคืน บนดาดฟ้าของร้านอาหารถูกจัดตกแต่งสวยงามระยิบระยับด้วยแสงไฟอ่อนๆหลากสี รอบๆตกแต่งด้วยพันธ์ไม้หายากถูกจัดเรียงสวยงาม มีกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้สดจากพันธ์ไม้ลอยตามกระแลลมเอื่อยๆคอยพัดมาเป็นระลอกๆให้ความรู้สึกสดชื่น บรรยากาศเย็นสบาย บนโต๊ะพึ่งพาแสงสว่างสีเหลืองอ่อนจากเทียนไขที่ครอบด้วยโคมแก้วใสๆกันลม ไป่เซใส่ชุดเดรสสีขาวลายลูกไม้ดูเป็นหญิงสาวที่สวยงามไร้ที่ติเธอแต่งหน้าอ่อนๆพออยู่ในที่สลัวๆดูราวกับเด็กสาววัย20 ใส่ชุดเดรสสีขาวแล้วคล้ายกับนางฟ้า เวลาเธอเย็นชานิ่งเฉยจะดูเป็นผู้ใหญ่เซ็กซี่น่าหลงไหลและน่าค้นหา ไป่เซดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัวจนลืมความโมโหที่ผ่านมาอย่างสนิทใจ ไป๋เจิ้นหลง นั่งจ้องหญิงสาวตรงหน้าอย่างหลงไหลและพอใจเป็นอย่างมากเขามีความสุขจริงๆที่เห็นเธอดูราวกับเป็นอีกคนในเวลานี้ : คุณช่างเป็นคนหลายบุคลิกจริงๆ : ไป๋เจิ้นหลงใส่ชุดสูทเสื้อเชิตสีขาวดูหล่อเหล่าใบหน้าได้รูปมีเสน่ห์ราวกับหลุดออกมาจากพระเอกในโลกการ์ตูนที่รูปร่างสูงใหญ่เพอร์เฟค มีความเย่อหยิ่งเย็นชา สายตาเย็ชาลุ่มลึกกำลังเป็นประกายแวววาวมองหญิงสาวตรงหน้า สักพักเชฟก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟอาหารทั้งสองนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ ทานข้าวไปหังเสียงลมพัดเอื่อยๆพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ที่โชยมาตามลม ทำให้การอยากอาหารของไป่เซเพิ่มขึ้น สักพักก็ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว ไป๋เจิ้นหลงมองไปยังไป่เซแล้วยิ้มขึ้นอย่างมีเสน่ห์ เห็นไป่เซทานไปเยอะเขามีความสุขและสบายใจเอามากๆ บรรยากาศรอบๆก็เงียบสงัดอากาศเย็นสบาย \" ดูคุณจะชอบบรรยากาศแบบนี้นะ ทำให้คุณเริญอาหารขึ้นเยอะเลย \" ไป่เซที่กำลังเคลิ้มกับบรรยากาศและรสชาติอาหารก็ได้สติขึ้นมายิ้มแล้วตอบไปว่า \" น่อนนอนค่ะ ต้องขอบคุณคุณชายไป๋มากเลยที่พามาทานอาหารในสถานที่แบบนี้ ดูแล้วถ้าไม่รวยจริงก็มาที่แบบนี้ไม่ได้แน่นอน \" พอเธออิ่มเธอก็ยังคงเย็นชาเหมือนเดิม แต่ไป๋เจิ้นหลงจึงคิดอะไรออก \" ผมไม่ชอบให้คุณเรียกผมว่าคุณชายไป๋ \" \" แล้วจะให้ฉันเรียกคุณว่าอะไรล่ะ \" เธอพูดแบบนี้เป็นไปตามคาดของไป๋เจิ่นหลง แผนต่อไปก็เริ่มต่อ \" เรียกผมว่าพี่เจิ้นหลง ไหนลองเรียกให้หังหน่อย พี่เจิ้นหลง เร็ว \" ไป่เซได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วแสดงท่าทีไม่พอใจที่ถูกบังคับทันที \" ทำไมฉันต้องทำตามที่คุณบอกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น อีกอย่างฉันไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของคุณสักหน่อยทำไมฉันต้องเรียก อ้อ! แล้วก็ฉันไม่ใช่คุณหนูหลันเอ๋อของคุณที่จะตอแหลเรียก พี่เจิ้นหลงๆอย่างอ่อนหวาน แหวะ! คิดแล้วจะอ้วกแต่เสียดายข้าวทีทานไปเมื่อกี้ \" ไป่เซยิ่งพูดยิ่งคิดถึงหลันเอ๋อหรือคุณหนูเจียผิงเฟยเธอยิ่งไม่พอใจและรู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาทันใด ไป๋เจิ้นหลงยังยิ้มเป็นไปตามที่เขาคิดไว้ว่าเธอจะพูดแบบนี้แต่ที่เขาคาดไม่ถึงคือเธอจะหยิบเอาเรื่องของหลันเอ๋อในชาติก่อนกับผิงเหยในชาตินี้มาพูดขึ้น : ผู้หญิงคนนี้กำลังหึงใช่มั้ย ความหึงความไม่พอใจความแค้นผสมปนเปกันอยู่โดยที่เธอเองไม่รู้ตัว : คิดได้แบบนี้ไป๋เจิ้นหลงจึงพูดออกไปว่า : คุณหึงเหรอ? \" ไป่เซได้ยินแบบนี้ถึงกับสดุ้งเล็กน้อย \" คุณคิดมากไปแล้ว \" เธอพูดอย่างราบเรียบและชัดเจนไป๋เจิ้นหลงผงกหัวหนึ่งครั้งแล้วเอ่ยขึ้น \" โอเคผมยอม อาจเพราะผมคิดมากไปแต่เรื่องที่คุณพูดว่าคุณไม่ใช่น้องสาวของผมนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดไปเองใช่มั้ยฮื้ม? \" ไป่เซที่สีหน้าเฉยเมยก็ตอบเพียงสั้นๆว่า \" อื้ม! \" จากนั้นก็หยิบน้ำมาดื่ม เธอรู้สึกว่าเธอพูดมากจริงๆ ไป๋เจิ้นหลงยิ้มอย่างพอใจ คำพูดของไป่เซเป็นไปตามที่เขาคาดไปเป็นไปตามที่เขาวาง \" งั้นเราไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆเราก็สามารถแต่งงานกันได้โดยไม่ต้องคิดอะไร คุณพ่อคุณแม่ของคุณตกแล้วและเห็นด้วยกับคุณปู่คุณปู่อยากอุ้มหลานแล้ว \" ไป่เซตกใจอึ้งอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกพร้อมกับเบิกตาโตมือที่กำลังจะเอาผลไม้เข้าปากก็หล่นลงมา ไป๋เจิ้นหลงมองดูหญิงสาวตรงหน้าที่มีท่าทางเช่นนั้น นี่เธอไม่อยากแต่งงานกับเขาขนาดนี้เลยเหรอ จากนั้นก็ยิ้มมุมปากเอ่ยว่า \" ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นเลยดีใจจนอ้าปากค้างเลยเหรอ \" ไป่เซได้สติเอ่ยอย่างหงุดหงิดพร้อมกับขอเหตผล \" ดีใจกับผีสิ คุณช่วยบอกหน่อยว่าทำไมคุณถึงอยากแต่งงานกับฉัน เพราะอะไรถึงทำแบบนี้ บ้านฉันเรียกคลุมถุงชนชัดๆ นี่มันยุคไหนสมัยไหนแล้ว ขอร้องตื่นสักทีเถิด \" ไป๋เจิ้นหลงเห็นท่าทีของเธอรู้สึกเจ็บ แปล๊บ! ที่หัวใจราวกับโดนไฟซ็อต เขาขมวดคิ้งสีหน้าหม่นหมองแสดงถึงความไม่พอใจและเสียใจจากนั้นสายตาก็จ้องมาที่เธออย่างดุดัน \" เหตุผลคุณก็รู้แล้วว่าผมรักคุณ รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหรือถ้าให้นับชาติที่แล้วก็คือรักตั้งแต่ชาติที่แล้ว คุณพอใจรึยังนี่คือความจริง \" ไป๋เจิ้นหลงน้ำเสียงดุดันฟังชัดและหนักแน่นชัดเจน ไป่เซอ้ำอึ้งพูดติดๆขัดๆ \" แต่ แต่คนเราถ้ารักกันจะแต่งงานกัน มัน มันต้องมาจากความรักของทั้งสองคน ไม่ ไม่ใช่รักข้างเดียวสิ \" คำว่ารักข้างเดียว เธอพูดให้เสียงเบาลงหน่อย ใจหนึ่งเธอก็อยากพูดเสียงดังแต่ใจหนึ่งก็กลัวไป๋เจิ้นหลงจะขายหน้าเพราะไม่ไกลมีเชฟคอยเสิร์ฟอาหารยืนอยู่ แต่ไป๋เจิ้นหลงได้ยินชัดทุกคำและตอนนี้เขาโกรธมาก \" คุณกำลังปฏิเสธผม? \" ไป่เซที่ไม่ได้รักไป๋เจิ้นหลงก็ทำได้เพียงพยักหน้าหงึกๆ ไป๋เจิ้นหลงที่เดิมทีโกรธอยู่แล้วเห็นเธอพยักหน้าความโกรธก็เพิ่มเป็นทวีคูณ ไม่รู้ว่ากับผู้หญิงคนนี้เขาถูกปฏิเสธไปแล้วกี่ครั้ง จากนั้นไป๋เจิ้นหลงก็ลุกขึ้นเดินออกไปโดยไม่หันมามองไป่เซอีกเลย ไป่เซที่กำลังมึนงงสับสนกับเรื่องราวต่างๆนาๆได้สติกลับมาก็รีบตามออกไปในประเทศนี้เธอรู้จักคนไม่มากและที่ตรงนี้เธอเพิ่งมาเป็นครั้งแรกหากไป๋เจิ้นหลงทิ่งเธอเธอคงจะลำบากจึงตัดสินใจรีบนามเขาออกไป ระหว่างที่เขาไปในลิฟบรรยากาศในลิฟเงียบสงัดเยือกเย็นใบหน้าหล่อเหลานั้นถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นชาและเฉยชาดวงตาหนักอึ้งราวกับไม่อยากจะมองเห็นใคร ราวกับกับว่าตอนนี้โลกทั้งโลกมีเพียงเขาคนเดียว ไป่เซไม่คุ้นเคยกับท่าทีเย็นชาไม่พูดมากของไป๋เจิ้นหลงลึกๆเธอรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยแต่เธอก็คิดว่าเธอไม่ได้พูดอะไรผิดมันเป็นสิทธิ์ของเธอที่สามารถปฏิเสธเขาได้เพราะเธอไม่ได้รักเขาตัดไฟแต่ต้นลงจะดีกว่า คิดได้ดังนี้พอลิฟลงมาถึงชั้นหนึ่งลิฟเปิดออกเธอจึงเดินตามเขาออกไป หน้าร้านอาหารมีสาวสวยหน้าตาดีผิวขาวสูงเธอใส่ชุดเดรสสีดำเปิดอกแล้วคลุมด้วยเสื้อโค้ทสีดำทับ ดูแล้วเซกซี่มายืนรออยู่ที่รถของไป๋เจิ้นหลง ไป่เซมองดูเขาด้วยความมึนงง พอไป๋เจิ้นหลงเดินไปถึงรถหญิงสาวก็เดินเข้ามาคล้องแขนเขาอย่างสนิทสนมไป๋เจิ้นหลงเปลี่ยนจากเย็นชาเป็นยิ้มให้เธอ ไป่เซไม่เข้าไปแล้วยืนดูสองคนอยู่ห่างๆพร้อมกับพึมพำอย่างรังเกียจ \" หึ! ดูแล้วเสเพลเอามากๆ เสือออกลายแล้วสินะ ไม่สิต้องพูดว่าเผยลายเดิมแล้วสิถึงจะถูก \" หญิงสาวกอดแขนของไป๋เจิ้นหลงแนบชิดเข้าดับกน้าอกอย่าวยั่วยวนพร้อมเอ่ยว่า \" เจิ้นหลงฉันคิดถึงคุณมากเลยฉันไม่คิดว่าคุณจะให้โอกาสฉันอีกต่อไปนี้ฉันจะเชื่อฟังคุณฉันขาดคุณไม่ได้จริงๆ \" ไปเจิ้นหลงยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วมือก็ไปลูบที่ขาอ่อนของหญิงสาวเบาๆอย่างช้าๆจากนั้นก็เปิดประตูผลักหญิงสาวเข้าไปในรถแล้วเขาก็เดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ หญิงสาวเอ่ยถาม \" เจิ้นหลงวันนี้เราจะไปเที่ยวไหนดีคะ วันนี้คุณอยากทำอะไรฉันจะตามใจคุณทุกอย่างเลยค่ะ \" ไป๋เจิ้นหลงมองหญิงสาวแล้วโค้งตัวมาจูบเข้าที่แก้มของหญิงสาวแล้วพูดว่า \" คุณอยากไปไหนล่ะ ไนท์คลับ หรือโรงแรม \" หญิงสาวทำท่าเขินอายแก้มแดงระเรื่อและไม่ลืมอ่อยโปรยเสน่ห์ยั่วยวนชายหนุ่มตรงหน้า \" ฉันอยากอยู่กับคุณทั้งคืนค่ะ \" ไป๋เจิ้นหลงได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มอย่างมีเสน่ห์มือข้างหนึ่งวางบนขาอ่อนของหญิงสาวค่อยๆลูบขึ้นช้าๆ หญิงสาวถึงกับเคลิ้ม จากนั้นก็เก็บมือมาจับพวงมาลัยแล้วพูดว่า \" งั้นก็ไปโรงแรมผมจะดูว่าฝีมือของคุณยังดีเหมือนเดิมมั้ย \" หญิงสาวตอบ \" ฉันจะทำให้คุณมีความสุขแล้วเรียกชื่อฉันทั้งคืนค่ะ \" ไป๋เจิ้นหลงยิ้มแล้วก็สตาร์ทรถขับออกไปโดยไม่เหลวมองไป่เซที่ยืนอยู่อย่างหงุดหงิด กำมือแน่นจนเล็บกลายเป็นสีขาวซีด เวลานี้เธออยากจะเตะอยากจะต่อยกับคนเป็นสิบๆคน เธอสูดหายใจเข้าลึกๆและพยายามสลัดภาพเมื่อครู่นั้นออกจากหัวแล้วพ่นคำออกมา \" ทุเรศ สกปรก ไป๋เจิ้นหลงฉันเกลียดนายฉันอยากจะฆ่านาย \" จากนั้นเธอก็ก้มมองดูเวลา สี่ทุ่มเกือบจะห้าทุ่มแล้วเดินได้สักพักแล้วแท็กซี่สักคันก็ไม่มี เดินไปคิดไปเลื่อนดูรายชื่อไป เผลอคิดถึงมู่มู่ขึ้นมาก็กดโทรหามู่มู่ \" ฮัลโหล ไป่ \" มู่มู่เรียกชื่อเธออย่างอ่อนโยน เมื่อได้ยินเสียงมู่มู่น้ำตาเธอค่อยๆซึมไหลออกมา \" มู่มู่ฉันคิดถึงคุณ \" น้ำเสียงของเธอสั่นเครือเธอพูดไปร้องให้ไปสละคราบหยิ่งเย็นชาออกจนหมดสิ้น มู่มู่ขมวดคิ้วด้วยความโมโหถามออกไปอย่างเป็นห่วง \" ไป่! คุณร้องให้! คุณเป็นอะไรคุณร้องให้ทำไม ใครทำอะไรคุณ \" ไป่เซไม่ตอบมีแต่เสียงของการร้องให้ มู่มู่กังวลใจจนอยู่ไม่สุข \" ไป่คุณอยู่ไหน เกิดอะไรขึ้น คุณบอกผมมาสิไป่ \" \" ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน ถูกไป๋ เจิ้นหลงคนชั่วนั่นทิ้งไว้หน้าร้านอาหารดังที่ดูหรูหรา แถวนี้รถก็ไม่มีรอบๆเป็นภูเขา ฉันไม่เคยมา \" \" โอเคไป่ คุณห้ามไปไหนนะ ผมจะโทรหาเพื่อนผมให้ไปรับคุณ \" ไป่เซปัดน้ำตาหายใจเข้าลึกๆแล้วกลับมาเป็นเธอคนเดิมที่แสนเย็นชาเผยใบหน้านิ่งเฉยออกมาแล้วหยุดร้องให้ทันที \" อื้ม รบกวนคุณแล้ว \" มู่มู่อึ้งกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของไป่เซที่เมื่อกี้เขายังรู้สึกเหมือนเธอเป็นเด็กน้อยอยู่เลยจู่ๆทำไมอารมณ์เปลี่ยนกะทันกันงี้ล่ะ จากนั้นมู่มู่ก็กดโทรไปยังเบอร์ที่เมมว่า ฉู่เฉียว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงปลายสายเอ่ย \" ฮัลโหลคุณมู่ โทรมาดึกป่านนี้มีอะไรรึเปล่า \" แล้วมู่มู่ก็พูดขึ้นตรงไปตรงมาว่า \" คุณฉู่คุณช่วยผมสักอย่างได้มั้ย \" ฉู่เฉียวได้ยินก็ตอบรับอย่างรวดรวดว่า \" ได้สิเรื่องอะไรล่ะขอแค่ช่วยได้ก็ยินดีช่วยหมดค่ะ \" \" คือตอนนี้ไป่อยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองจีนน่ะ เธอไม่รู้ที่ตรงนั้นคือที่ไหนเธอไม่เคยไปและตอนนี้รถก็ไม่มีคุณช่วยไปรับเธอหน่อยได้มั้ย \" \" อื้ม ได้สิงั้นให้คุณไป่ส่งโลเคชั่นมาให้ฉันแล้วฉันจะรีบออกไปรับเธอทันที \" \" ได้ ขอบคุณมากนะครับ ผมติดหนี้คุณแล้ว \" มู่มู่รู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ \" ขอบคุณอะไรกันคนกันเองอีกอย่างแค่เรื่องเล็กน้อย รีบส่งโลเคชั่นมานะคะ \" \" ครับ \" จากนั้นทั้งสองก็วางสายไป โทรศัพท์ของฉู่เฉียวก็มีข้อความเข้าเปิดดูโลเคชั่น เธอก็ขับรถออกจากบ้านไปทันที เนื่องจากร้านอาการที่ไป่เซอยู่นั้นอยู่นอกเมืองต้องใช้เวลาในการขับรถครึ่งชั่วโมง ไป่เซจึงเดินเข้าไปนั่งรอในห้องโถงของร้านอาหาร สักพักใหญ่ๆรถของฉู่เฉียวก็มาถึงแล้วกดโทรหาไป่เซเมื่อเธอรับสายฉู่เฉียวก็พูดออกไปว่า \" คุณไป่คุณอยุ่ไหนคะฉันมาถึงหน้าร้านอาหารแล้วค่ะ \" ไป่เซได้ยินดังนั้นทั้งดีใจทั้งซาบซึ้งใจทั้งรู้สึกขอบคุณเธอและมู่มู่ \" ค่ะฉันกำลังออกไปค่ะ \" ไป่เซเดินออกไปก็มองเห็นเขาเธอแล้วก็เปิดประตูเข้าไปทันที ฉู่เฉียวก็ขับรถออกไปอย่างเร็ว หลังจากฉู่เฉียวขับรถออกไปไกลรถของเจียผิงเหอก็มาถึงตรงที่จอดรถของฉู่เฉียวสายตาทอดมองออกไปไกลตามรถที่ขับออกไปแล้วหยิบโทรศัพท์โทรออกไปยังเบอร์ที่คุ้นเคย พอเบอร์นั้นกดรับสายเขาก็รีบพูดทันที \" เจิ้นหลงนายให้ใครมารับคุณหนูไป่ \" ไป๋เจิ้นหลงที่นั่งดื่มไวท์กับสาวสวยเซ็กซี่อย่างคุณหนูซู่หลิน เธอกำลังคลอเคลียยั่วยวนไป๋เจิ้นหลงอยู่ในอ้อมอกอย่างสำราญสบายใจ เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนก็ขมวดคิ้วพูดว่า \" นอกจากนายแล้วฉันไม่ได้ใช้ให้ใครไปรับเธอ \" จู่จู่หญิงสาวก็ส่งเสียงออกมา \" เจิ้นหลงฉันรักคุณ \" แล้วจูบเข้าที่หน้าอกของไป๋เจิ้นหลง เจียผิงเหอได้ยินก็ขมวดคิ้วด้วยความโมโห แล้วพูดตำหนิออกไป \" เจิ้นหลงนายยังไม่เลิกนิสัยแบบนี้อีกเหรอ ถ้าคุณหนูไป่เป็นอะไรไปนายจะรับผิดชอบยังไง นายไปทำเรื่องต่ำช้าแบบนั้นแล้วยังมีหน้าไปตื้อคุณหนูไป่อีกเหรอ เหอะ! อย่าหวังว่าคนอย่างคุณหนูไป่จะให้อภัยนาย แค่นี้นายก็แพ้คุณชายมู่ไปอย่างราบคาบแล้ว! \" ไป๋เจิ้นหลงตะลึงอึ้งเขาไม่เคยเห็นเพื่อนเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน : หรือว่าก้อนน้ำแข็งจะเกิดเรื่องจริงๆ แต่ทำไมผิงเหอต้องโกรธหรือว่าเหอจะแอบชอบเธอ : ไป๋เจิ้นหลงผลักหญิงสาวออกจากอ้อมกอดอย่างไม่ใยดี เจียผิงเหอเดินเข้าไปในร้านสอบถามกับพนักงานในร้าน ขอดูกล้องวงจรปิด เห็นเธอเดินออกมาแล่วจริงๆ แต่ที่เขากังวลรือใครเป็นคนพาเธอออกไปล่ะ จากนั้นเจียผิงเหอก็โทรไปหาไป๋เจิ้นหลงพอเขารับเจียผิงเหอก็ถามอย่างประชดประชันว่า \" นายว่างติดต่อคุณหนูไป่มั้ย เธอออกไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าออกไปกับใคร \" ไป๋เจิ้นหลงหงุดหงิดที่ถูกประชด \" ยังไม่ว่างโทร นายตามหาเธอก่อนละกันฉันจะส่งเบอร์เธอให้นาย \" พูดจบก็วางสายไป พอได้รับเบอร์ของไป่เซเจียผิงเหอก็ไทรออกไปทันทีแต่ไม่มีคนรับสายและโทรไปเป็นสิบครั้งก็ไม่มีคนรับ ไป๋เจิ้นหลงเองก็โทรหาไป่เซเป็น5,6 ครั้งไม่มีคนรับพอโทรอีกครั้งก็มีเสียงพนักงานพูดว่า \" ขอโทษค่ะ......\" สายก็ถูกตัดทิ้งไป ไป๋เจิ่นหลงเริ่มใจไม่ดีเลยตัดสินใจโทรไปหาเลขาของคุณปู่ เมื่อเลขาของคุณปู่ไป๋รับสายไป๋เจิ้นหลงก็ถามไปว่า \" เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้คุณปู่ได้ส่งใครไปรับคุณหนูไป่รึเปล่า \" ปลายสายตอบอย่างราบเรียบว่า \" ไม่เลยครับ ช่วงนี้คุณท่านฝึกสมาธิไม่ได้คุยหรือติดต่อกับใครครับ \" ได้ยินแบบนั้นไป๋เจิ้นหลงก็วางสายทันทีแล้วโทรเข้าไปที่บ้านป้าจางรับสายยังไม่ทันพูดไป๋เจิ้นหลงพูดขึ้นก่อน \" ป้าจางคุณหนูไป่กลับถึงบ้านหรือยังครับ \" ป้าจางตอบะร้อมกับความสงสัย \" คุณหนูยังไม่กลับมาค่ะ คุณหนูออกไปกับคุณชายไม่ใช่เหรอคะเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ \" ไป๋เจิ้นหลงรู้ว่าป้าจางรู้สึกเป็นห่วงไป่เซเอามากๆจึงไม่อยากพูดอะไรเยอะแล้วก็วางสายไป ตอนนี้เขากระวนกระวายใจคิ้วขมวดเข้าหากัน \" ก้อนน้ำแข็งเธอนี่ชอบทำให้โมโหไม่พอยังชอบทำให้คนอื่นวุ่นวายเป็นเดือดเป็นร้อนอีก \" พูดจบเขาหยิบเสื้อมาสวมใส่แล้วเดินออกไป คุณหนูซู่หลินก็วิ่งตามเขาออกมา \" เจิ้นหลงคุณอย่าไปนะไหนคุณบอกว่าจะอยู่กับฉันทั้งคืนไงคะ \" เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ไป๋เจิ่นหลงได้ยินซู่หลินพูดแบบนี้ก็หยุดเดิน เขารูสึกหงุดหงิดขึ้นมาผลักเธอล้มลงอย่างแรง จ้องเขม็งไปที่เธอพร้อมกับพูดตะคอกใส่เธอว่า \" คุณไสหัวไปไกลๆเลยนะ แล้วอย่าให้ฉันได้ยินคุณพูดแบบนี้อีก น่ารำคาญ! \" พูดจบก็ก้าวเท้ายาวออกไปอย่างรวดเร็ว ซู่หลินที่ถูกตะคอกยืนแข็งทื่อกำมือแน่นจนสั่นเทิ่มไปทั้งตัว ได้สติกลับมาก็โทรออกไปยังเบอร์ที่บันทึกว่า \" ลี่เหม่ยเอิน \" สักพักเธอก็รับสาย \" ฮัลโหล พี่ซู่หลิน โทรมาดึกขนาดนี้มีอะำรรึเปล่า \" \" เรื่องที่เธออยากจะแก้แค้นคุณหนูไป่เซนั่นน่ะยังอยากจะทำอยู่มั้ยถ้าอยากตอนนี้เวลานี้เธอมีโอกาสลงมือแล้ว ฉันจะช่วยเธออีกแรง \" ซู่หลินพูดน้ำเสียงเคียดแค้นน่ากลัวราวกับคนบ้า อีกฝ่ายหัวเราะชอบใจ \" ฮ่าๆๆ เธอไปทำอะไรพี่เหรอถึงได้โกรธจนอยากลงมือไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ปฏิเสธจะไม่ช่วยฉันไม่ใช่เหรอ \" \" เธออย่าพูดเยอะตอบมาคำเดียวว่าจะร่วมมือมั้ย \" ซู่หลินถามอย่างโมโหและดูรีบร้อน เมื่อคุณหนูลี่ได้ยินแบบนั้นก็นึกถึงมู่มู่ที่ทั้งรักและทะนุถนอมเธอคนนั้นห่วงใยเธอยิ่งกว่าอะไรแล้วก็ถอนหมั้นหล่อนเพื่อไปแต่งกับไป่เซคนนั้นหล่อนกำมือแน่น แววตาอาฆาตแค้นอยากจะฆ่าคนจากนั้นไม่พูดอะไรแล้วก็กดวางสายไป ลี่เหม่ยเอินและซู่หลินเป็นญาติกันเป็นลูกพี่ลูกน้องซู่หลินเป็นแฟนเก่าของไป๋เจิ้นหลงเธอรักและหลงไป๋เจิ่นหลงมากๆเธอคบกันสมัยเรียนมหาลัยเธอรับได้ที่ไป๋เจิ้นหลงเช้าชู้ควงไม่ซ้ำหน้าสุดท้ายก็ถูกไป๋เจิ้นหลงทิ้งอย่างไม่ใยดี ฉู่เฉียวขับรถมุ่งหน้าไปยังในเมืองขณะที่กำลังจะออกจากเขตนอกจู่ๆก็มีรถเก่งขับมาตัดหน้าเธอเบรคกะทันหันเสียงเบรคดัง \" ฟี๊ด! \" จากนั้นก็มีรถตู้สีดำขับตามมาข้างหลังจอดปิดท้ายรถเธอ เธอและไป่เซตั้งใจลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า แต่ชายชุดดำที่ลงจากรถตู้เอาผ้ามาปิดหน้าเธอกับฉู่เฉียวจากนั้นทั้งสองก็สลบไป ผู้หญิงที่คลุมหน้าสั่งการอยู่ในรถเก๋งบอกว่า \" เอาไปแค่คนเดียวอีกคนทิ้งไว้นี่แหละ \" ร่างของไป่เซก็ถูกชายปิดหน้าใส่ชุดสูทสิดำอุ้มขึ้นรถตู้ไป
已经是最新一章了
加载中