ตอนที่ 29 ไม่มีใครช่วยเราได้แล้ว
1/
ตอนที่ 29 ไม่มีใครช่วยเราได้แล้ว
ลิขิตฟ้าทุกภพชาติรักแค่เธอ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 29 ไม่มีใครช่วยเราได้แล้ว
ณ โกดังเก็บของขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางป่ารอบๆมีคนคอยเฝ้ายามเป็นจำนวนมาก เมื่อรถตู้มาจอดผ้าสีดำที่ปิดตาไป่เซไว้ก็ถูกแกะออก ก่อนหน้านี้หลังจากเธอฟื้นขึ้นมากลางทางเธอก็ถูกปิดตาด้วยผ้าสีดำกลุ่มชายชุดดำทำงานอย่างรอบคอบมาก แม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ยังคงปิดตาเธอไว้ เธอลงจากรถแล้วใช้สายตากวาดมองไปรอบๆ เป็นโรงงานนี้ยังใหม่และยังคงใช้งานอยู่เหมือนจะใช้สำหรับเก็บของมีร่องรอยของการขนส่งสินค้ามีการเฝ้าระวังผลัดเปลี่ยนเวรกันผู้เฝ้าเวรแต่ละคนดูไม่ธรรมดาสังเกตที่ท่าทาง มือและแขนขาลักษณะการยืนการถือปืนรวมถึงสายตาที่พวกนั้นดูจะไวกว่าคนปกติเป็นคนที่ถูกฝึกมาอย่างดี : ดูแล้วคนที่จับตัวเรามาจะไม่ใช่คนธรรมดา ใครกันที่ต้องการจับตัวเรา เพราะอะไรถึงจับตัวเรามา มีจุดประสงค์อะไรกัน เฮ้อดูแล้วคงต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวันเวลานี้ถ้ามีพี่จินฟากับพี่จินซาคงจะดีไม่น้อย : ไป่เซพึมพำอยู่ในใจแต่เธอไม่มีความรู้สึกกลัวหรือตื่นตระหนกเลยสักนิดจนคนชุดดำทั้งสองตะลึงกับท่าทีของเธอเล็กน้อย : ผู้หญิงคนนี้ดูไม่มีความกลัวเลยสักนิดถ้าได้มาร่วมงานด้วยคงจะดีแต่เสียดายดันเป็นคนที่นายต้องการจัดการ : คนชุดดำพึมพำ จากนั้นคนชุดดำเห็นว่าไป่เซยังยืนอยู่ไม่ขยับก็จับไปที่ไหล่เธอแล้วพูดว่า \" ไปได้แล้ว! \" จากนั้นชายชุดดำสองคนจับแขนของไป่เซลากเข้าไปยังโกดัง มือของไป่เซถูกมัดไว้ข้างหลังอย่างแน่น เธอไม่แม้แต่จะขัดขืนเพราะเธอรู้ดูตอนนี้เธอเสียเปรียบ เมื่อเข้าไปในโกดังขนาดใหญ่นี้ไป่เซถึงกับตะลึง ข้างในมีเป็นชั้นๆเป็นห้องๆ ดูราวกับเป็นสถานที่ฝึก มีทั้งสถานที่ชกมวย เทควันโด้ ที่ยิงปืน มีบ่อการพนัน มีห้องไนท์คลับภายในห้องนั้นมีสาวสวยสิบกว่าคน มีพนักงานบริการพร้อม โกดังนี้มีสามชั้น ชั้นบน ชั้นที่เธออยู่และมีชั้นใต้ดินอีก ไป่เซกวาดมองไปทีละห้องๆ : โกดังนี่ดูแล้วจะใหญ่มากใหญ่จริงๆ : ไป่เซจึงรู้สึกตื่นเต้นแล้วหันไปพูดว่า(พูดภาษาจีน) \" ใครเป็นคนให้พวกนายจับฉันมา \" ชายชุดดำหันมองเธออย่างดูถูกพร้อมกับแสยะยิ้มแล้วพูดว่า \" สาวน้อยจะรู้ไปทำไม นายของพวกเราไม่ใช่ใครที่ไหนอยากรู้ก็จะรู้ได้ อย่าถามมาก! \" จากนั้นก็หันไปพูดกับชายชุดดำอีกสองคนว่า \" เอาตัวเธอไปมัดไว้ในห้องใต้ดิน ไม่ต้องให้ข้าวให้น้ำยกเว้นนายจะสั่ง \" ไป่เซคิ้วขมวดขึ้นทันทีเธอกำลังคิดว่าถ้าไม่ได้ข้าวได้น้ำแล้วร่างกายเธอจะอยู่ได้กี่วัน ในเวลานี้เธอคิดแค่หาวิธีต่อรอง จากนั้นตัวเธอก็ถูกพาไปยังห้องห้องหนึ่งของชั้นใต้ดิน ในนั้นมืดสนิท ชายชุดดำร่างใหญ่สองคนผลักเธอเข้าไปล้มลงบนพื้นที่เย็นเฉียบเธอที่ใส่ชุดเดรสพอผิวถูกความเย็นก็รู้สึกหนาวขึ้นมา ชายชุดดำนำเทียนมาชุดไว้หนึ่งเล่ม แล้วโยนถุงเทียนไปให้เธอ ไป่เซตะโกนไปว่า \" พวกแกมัดมือฉันไว้ข้างหลังแบบนี้จะให้ฉันจุดเทียนยังไง \" ชายชุดดำไม่ตอบอะไรเพียงแค่แสยะยิ้มแล้วออกจากห้องไป ไป่เซที่เดิมทีมัดผมอยู่ตอนนี้ดูกระเซอะกระเซอรุงรัง เธอเป็นคนฉลาดไม่ปล่อยให้ร่างกายอดหลับ เข้าไปพิงมุมห้องแล้วหลับตาพักผ่อนทันที ทางด้านคุณปู่ไป๋ ตื่นขึ้นมากลางดึงหลังจากไป๋เจิ้นหลงวางสายไป พอเลขาเข้ามาในห้องเขาจึงเอ่ยถามขึ้น \" หลงเอ๋อ โทรมาเหรอ \" เลขาจึงตอบว่า \" ครับ \" \" ปกติหลงเอ๋อไม่ใช่คนที่จะโทรมาในเวลานี้นี่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า \" คุณปู่ไป๋ขมวดคิ้วมองไปทางเลขาแล้วถามด้วยความสงสัย \" คุณชายถามว่าท่านได้ส่งคนไปรับคุณหนูไป่หรือเปล่าครับ \" พอได้ยินแบบนี้คุณปู่ไป๋ถึงกับตกใจแสดงอารมณ์เสียขึ้นมา \" คุณว่าอะไรนะ! ทำไมเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับอวี้เอ๋อเหรอ ? \" เลขาไม่อยากให้คุณปู้ไป๋คิดมากกลัวจะส่งผลต่อสุขภาพจึงพูดว่า \" ท่านไม่ต้องห่วงครับ คุณชายไป๋จัดการได้อยู่แล้วอีกอย่างคุณหนูอวี้เฟิ่งไม่ใช่เหมือนหญิงสาวธรรมดาทั่วไปครับท่านพักผ่อนเถอะ \" พอได้ยินแบบนี้คุณปู่ไป๋จึงรู้สึกโล่งหน่อยจากนั้นก็ถามเลขาว่า \" พรุ่งนี้ถ้ายังไม่เจอตัวอวี้เอ๋อ คุณอย่าลืมส่งข่าวให้หน่วยลับล่ะ \" พูดจบคุณปู่ไป๋ก็นอนลงไปดังเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาเชื่อมั่นในตัวหลานสาวเขามาก \" ครับ \" พูดจบเลขาโค้งคำนับแล้วหมุนตัวออกไป ทางด้านไป๋เจิ้นหลงเวลานี้เขากระวนกระวายใจอยู่ไม่สุขนั่งไม่ติดแล้วและโมโหเดือดดาลร่างกายร้อนขึ้นเรื่อยๆเขาและเลขาเจียต่างพากันออกตามหาไป่เซ แล้วเจอรถของฉู่เฉียวที่จอดข้างทาง เลขาเจียชี้ไปที่รถคันนั้นทันที \" นั่นรถคันนั้นคันนั้นแหละที่พาคุณหนูไป่ออกมา \" พวกเขารีบไปจอดข้างๆรถแล้วเปิดประตู เดินไปยังรถของฉู่เฉียวอย่างรวดเร็ว พวกเขามองสำรวจเข้าไปในรถที่ลดกระจกลงนิดหนึ่งแต่ไม่เห็นร่างหรือวิญญาณของไป่เซเลยมีเพียงฉู่เฉียวที่สลบอยู่ในรถไป๋เจิ้นหลงเลยหันไปมองเจียผิงเหอแล้วพูดว่า \" นายมีวิธีทำให้เธอตื่นมั้ย \" เลขาเจียไม่ตอบเดินไปหยิบขวดน้ำในรถแล้วยื่นให้ไป๋เจิ้นหลง ไป๋เจิ้นหลงรับขวดน้ำมาก็เปิดทันทีแล้วเทน้ำลงบนหัวและสาดเข้าที่หน้าของฉู่เฉียวอย่างไม่ปราณี ฉู่เฉียวสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะน้ำเย็นสาดเข้าที่ใบหน้าพร้อมกับอุทานออกมาอย่างดุดัน \" เฮ้ย! ทำบ้าอะไรเนี่ย \" จากนั้นก็มองเห็นไป๋เจิ้นหลงและเจียผิงเหอยืนอยู่สีหน้าเธอแสดงอาการตกใจทันที \" พวกคุณเป็นใคร ต้องการอะไร \" เธอถามออกไปด้วยความหวาดกลัวแล้วมองไปรอบๆไม่เห็นเงาไป่เซจึงเอ่ยถาม \" เพื่อนฉันล่ะพวกคุณเอาเพื่อนฉันไปไว้ที่ไหน \" เธอเข้าใจว่าไป๋เจิ้นหลงและเจียผิงเหอเป็นคนบงการแม้ไป๋เจิ้นหลงจะโด่งดังเป็นที่รู้จักแต่เธอเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่ถึงปีก็ไม่รู้จักใครนอกจากคนในวงการเดียวกับเธอ ไป๋เจิ้นหลงจ้องเอาอย่างเย็นชาสายตาดุดันคู่นั้นราวกับลูกธนูหลายพันเล่มที่มุ่งมาทางเธอเธอหวาดกลัวจนตัวสั่นเมื่อเห็นแววตาและความเย็นชาที่แผ่ออกมาราวกับจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ลากเธอลงมาจากรถ ไป๋เจิ้นหลงทนไม่ไหวจึงบีบเข้าที่คอของเธอแล้วตะโกนออกไปอย่างบ้าคลั่งว่า \" เลิกเล่นได้แล้ว! คุณเอาเธอไปไว้ที่ไหน เธออยู่ไหน! บอกมา! ถ้าคุณไม่บอกคุณไม่ได้ตายดีแน่ \" สายตาแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอร์ราวกับปีศาจร้ายทำเอาฉู่เฉียวกลัวจนสั่นบวกกับแรงบีบที่คอเธอรู้สึกเจ็บจนแทบหายใจไม่ออกไป๋เจิ้นออกแรงเพิ่มเรื่อยๆจนเจียผิงเหอทนดูไม่ได้เลยดึงมือเขาออกแล้วพูดออกไปเสียงดังด้วยความโมโหว่า \" เจิ้นหลงปล่อยเธอ! นายบ้าไปแล้วเหรอ! มีสติหน่อยสิ! \" แล้วผลักไป๋เจิ้นหลงที่เมาหน่อยๆออกห่างจากตัวฉู่เฉียว ฉู่เฉียวไอออกมา แค่ก! แค่ก! แล้วค่อยๆสูดหายใจเข้าลึกๆมองไป๋เจิ้นหลงอย่างเกลียดชัง เจียผิงเหอไม่รอให้เสียเวลามากเห็นเธอดีขึ้นแล้วก็เอ่ยถาม \" คุณเอาคุณหนูไป่ไปไว้ที่ไหน ผมเห็นว่าเธอขึ้นรถมากับคุณหน้าร้านอาหาร ตอนนี้เธออยู่ไหน \" ฉู่เฉียวเห็นว่าเจียผิงเหอดูไม่อันตรายและพอจะเดาอะไรออกแล้วปรับความเข้าใจใหม่ : ดูแล้วไม่น่าจะใช่พวกเดียวกันกับคนพวกนั้น : จากนั้นก็พูดว่า \" ใช่ เธอเป็นคนให้ฉันไปรับเองแต่ฉันไม่รู้ว่าหมาบ้าที่ไหนพาเธอไปที่ไกลขนาดนั้นแล้วทิ้งเธอไว้คนเดียว \" ไป๋เจิ้นหลงได้ยินคำว่าหมาบ้าก็โกรธแทบกระอักเลือดมองไปยังฉู่เฉียวอย่างโมโห เจียปิงเหอเห็นว่าเพื่อนกำลังโกรธจึงตบไหล่เบาๆบ่งบอกว่าให้ใจเย็นๆ \" แล้วทำไมตอนนี้เธออยู่ไหนแล้ว \" เจียผิงเหอถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นเธอมองไปยังไป๋เจิ้นหลง จากนั้นเธอเลยละสายตาโกรธแค้นจากตัวไป๋เจิ้นหลงแล้วพูดต่อ \" จากนั้นขับรถมา ก็มีรถเก๋งสีดำขับมาตัดหน้ารถตู้สีดำปิดท้ายพอพวกเราลงมาดูยังไม่ทันเห็นใครก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณฉันคงจะยังไม่รู้สึกตัว \" เมื่อพูดถึงตรงนี้ฉู่เฉียวก็เหมือนจะคิดอะไรได้จึงหันไปถามเจียผิงเหอว่า \" คุณไป่เธอเคยไปเหยียบหางใครโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า เช่นพวกผู้มีอิทธิพลในเมืองนี้หรือในประเทศนี้ \" \" พวกผู้มีอิทธิพลเหรอ! \" ไป๋เจิ้นหลงและเจียผิงเหอเหมือนจะคิดอะไรออกทั้งสองมองหน้ากันแล้วขึ้นรถ ขับมุ่งหน้าไปยังโรงแรม ที่ตนเคยพักก่อนหน้านี้เพื่อตามตัวซู่หลิน ฉู่เฉียวที่ยืนอยู่ตรงนั้นตอนนี้ใจเย็นลงแล้วก็โทรขอรายละเอียดประวัติของไป่เซจากมู่มู่อ้างว่าต้องเก็บไว้เป็นประวัติผู้เข้าเรียน จากนั้นก็โทรแจ้งตำรวจทันที ทางด้านไป่เซโชคดีที่คนพวกนั้นทั้งคืนไม่มีใครมารบกวนเธอเลยแม้จะพื้นจะเย็นราวกับน้ำแข็งแต่เธอก็สามารถหลับได้ลึกถึงเช้า ตอนเช้าชายชุดดำรูปร่างสูงสีหน้าเย็นชาและนิ่งเฉยเอาหมางโถวมาให้เธอหนึ่งลูกวางไว้ตรงหน้าเธอขณะกำลังจะออกไปเธอก็เอ่ยขึ้น \" นี่พวกนายไม่แก้มัดให้ฉันแล้วจะให้ฉันกินข้าวยังไง \" คนชุดดำหันไปมองแวบหนึ่งแล้วก็ไม่พูดอะไรแบ่งหมางโถวออกเป็นชิ้นๆแล้วก็ออกไป กำลังจะปิดประตูชุดชุดดำเลยพูดว่า \" รีบกินให้อิ่มก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้กินแล้ว คนที่เข้ามาในนี้ไม่มีใครได้กลับออกไปพร้อมร่างหรอก \" พูดจบก็ปิดประตูดัง \" ปัง! \" ไป่เซสังเกตคนชุดดำเมื่อกี้แล้วกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย็นชา ไป่เซรีบนอนลงแล้วคว่ำหน้าลงงับไปที่หมางโถวเธอกินจนหมดจากนั้นก็นั่งอยู่เฉยๆเก็บแรงไว้โดยไม่ขยับเขยื้อนเธอคิดแค่ว่าคนฉลาดเท่านั้นที่จะรอโอกาสที่เหมาะสม ด้านไป๋เจิ้นหลงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อดูเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นคุณปู่ของเขาก็รีบกดรับทันที \" ครับคุณปู่ \" \" อวี้เอ๋อกลับมาหรือยัง ใครบังอาจมาจับตัวหลานสาวฉันไป แกรู้ตัวคนที่จับตัวไปมั้ย สืบถึงไหนแล้ว ถูกจับไปได้ยังไง แกดูแลยังไงของแก อย่าให้ฉันรู้นะว่าเป็นผู้หญิงของแกที่สั่งคนไปจับตัวอวี้เอ๋อ ไม่งั้นพวกมันจะไม่เหลือดรอดแม้แต่คนเดียว \" คุณปู่ไป๋จากคนแก่อ่อนโยนตอนนี้เปลี่ยนเป็นแววตาลุ่มลึกเย็นชาและเด็ดขาดน่ากลัวจนเลขารู้สึกเย็นวาบที่สันหลังก้มหน้าอย่างหวาดกลัว คุณปู่ถามมาเป็นชุดไม่เว้นให้ไป๋เจิ้นหลงตอบน้ำเสียงไม่พอใจเอามาก ไป๋เจิ้นหลงถึงกับตกใจกับคำว่า \" แก \" ตั้งแต่เกิดมาคุณปู่เขาไม่เคยโมโหขนาดนี้มาก่อนและไม่เคยเรียกเขาว่าแกมาก่อน เขาถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ และรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว \" คุณปู่ไม่ต้องห่วงครับแค่นี้ก่อนนะครับ \" ไป๋เจิ้นหลงพยายามไม่ตอบคำถามคุณปู่เพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไป่เซถูกลักตัวไป ถ้าวันนั้นเขาไม่ทิ้งเธอไว้เธอคงจะไม่ถูกลักพาตัว หลังจากวางสายไปเจียผิงเหอก็โทรเข้ามารายงานข่าว \" ว่า \" ไป๋เจิ้นหลงที่หงุดหงิดเอ่ยเพียงสั้นๆ \" ที่ไปไล่เซ็คกล้องวงจรปิดตามชุดต่างๆ รถเก๋งสีดำที่ตัดหน้ารถของเพื่อนคุณหนูไป่วันนั้น เป็นของคุณหนูตระกูลลี่และรถตู้คันนั้นหลังจากขับออกไปได้เปลี่ยนป้ายรถแล้วมุ่งไปทางเขตนอกเมืองครับ \" : ตระกูลลี่งั้นเหรอ หึ! : ไป๋เจิ่นหลงพึมพำในใจแล้วกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากเผยแววตาชั่วร้ายออกมาในพริบตาเดียวรางกับจะกวาดล้างพวกมัน ร่างสูงใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอีกทำงานแผ่รังศีอัมหิตเย็นยะเยือกไปทั่วห้อง แล้วจึงออกคำสั่งว่า \" ส่งคนออกไปแล้วเรียกจินฟากับจินซากลับมา \" เลขาเจียผิงเหอได้ยินแบบนี้ก็รีบขานรับทันทีเวลานี้เป็นเวลางานพวกเขาจะเคารพกันนายแบบเจ้านายและลูกน้อง \" รับทราบครับ \" พูดจบก็วางสายไปไป๋เจิ้นหลงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะช้าๆเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรไปยังเบอร์ที่เมมไว้าว่า ซู่หลิน เมื่อเธอรับสายไป๋เจิ้นหลงจึงเอ่ยว่า \" คุณมาหาผมที่บริษัทหน่อย \" \" ทำไมคุณคิดถึงฉันเหรอคะ ขอเป็นพรุ่งนี้ได้มั้ยวันนี้ฉันมีธุระค่ะ \" ได้ยินแบบนั้นไป๋เจิ้นหลงจึงพูดว่า \" ธุระของคุณสำคัญกว่าการมาเจอผมงั้นเหรอ \" ซู่หลินอึ้งไปสักพักก็ยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยว่า \" ได้ค่ะ ออกไปหาคุณก่อนก็ได้ \" ไป๋เจิ้นหลงยิ้มอย่างพอใจ \" อืมแล้วเจอกันที่ร้านกาแฟในบริษัทนะครับ \" ซู่หลินรู้สึกดีใจจึงรีบตอบไปว่า \" ค่ะ \" จากนั้นก็วางสายไป ลี่เหม่ยเอินก็โทรเข้ามาพอดีเธอจึงเอ่ยอย่างยโสว่า \" มีอะไร \" ลี่เหม่ยเอินได้ยินน้ำเสียงของเธอก็ไม่ชอบขึ้นมาทันทีพร้อมกับเอ่ยว่า \" จะมาบอกว่าต่างคนต่างออกไปนะไม่อยากนั่งร่วมรถด้วย \" นิสัยของลี่เหม่ยเอินนอกจากจะดื้อรั้นเอาแต่ใจแล้วเธอยังเป็นคนตรงๆชนิดที่ว่าใครอย่ามาทำให้เธอไม่พอใจเชียวไม่งั้นจะไม่มีโอกาสอยู่ร่วมโลกกับเธอได้ ได้ฟังเธอพูดแบบนี้ซู่หลินก็วางสายทันทีแล้วขับรถไปหากับไป๋เจิ้นหลง เมื่อถึงร้านกาแฟก็เห็นไป๋เจิ้นหลงนั่งรออยู่ก่อนแล้วทำให้เธอนึกถึงภาพเมื่อก่อนทุกครั้งที่นัดกันไป๋เจิ้นหลงจะมารอเธอก่อนเสมอ เธอยิ้มขึ้นอย่างมีความสุขพร้อมกับก้าวเข้าไปในร้านกาแฟ ไป๋เจิ้นหลงหันมาเห็นเธอก็ส่งยิ้มให้แล้วพูดขึ้น \"มาแล้วเหรอ \" ซู่หลินยิ้มแล้วถาม \" รอนานมั้ยคะ ฉันนี่ทำให้คุณรอตลอดเลย \" ไป๋เจิ้นหลงหยิบกาแฟขึ้นมาจิบแล้วตอบไปว่า \" ผมชอบรอสาวสวยเสมอ \" ซู่หลินได้ยินดังนั้นก็เขินจนแก้มแดงไปหมดไป๋เจิ้นหลงยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อยจ้องไปที่หน้าของเธอ จากนั้นโทรศัพท์ของไป๋เจิ้นหลงก็ก็มีข้อความเด้งขึ้น ไป๋เจิ้นหลงเปิดดูจึงรู้ว่าเป็นข้อความจากเจียผิงเหอส่งรูปรถมาให้เขาและรูปสถานที่ที่หนึ่ง ไป๋เจิ้นหลงขมวดคิ้วและก็รีบคลายออก ทั้งสองนั่งคุยกันในร้านกาแฟสักพักไป๋เจิ้นหลงก็เอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ว่า \" เราไปต่อกันที่โรงแรมดีมั้ย \" พร้อมทำท่าปวดคอบีบไปที่ไหล่ของตนเอง แล้วพูดต่อว่า \" วันนั้นผมยังไม่ทันให้คุณได้ปรนนิบัติเลย มันขาดตอนทำให้ผมหงุดหงุดที่ยังไม่ได้สัมผัสคุณเลยก็ดันเกิดเรื่องซะก่อน คุณชดเชยให้ผมวันนี้นะ \" ซู่หลินได้ยินคำพูดอันหวานหอมของไป๋เจิ้นหลงมีหรือเธอจะปฏิเสธ มีหรือเธอจะไม่เคลิ้มและคล้อยตามไป๋เจิ้นหลงราวกับปีศาจร้ายที่ทำให้คนหลงลืมตัวไปชั่วขณะเพราะความหล่ออันไร้ที่ติของเขา ซู่หลินจึงตอบตกลงอย่างง่ายดาย จากนั้นทั้งสองก็ขับรถออกไปเมื่อถึงโรงแรมหลังจากเข้าไปโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอมองดูเบอร์ที่โทรเข้าเป็นเบอร์ของลี่เหม่ยเอิน เธอยิ้มขึ้นมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์โดยไม่รู้ตัวว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องเขาอยู่ จากนั้นเธอจึงหันไปพูดกับไป๋เจิ้นหลงก่อนจะกดรับสาย \" เจิ้นหลงคุณรอฉันสักครู่นะคะขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อน \" ไป๋เจิ้นหลงตอบไปเพียง \" อืม \" จากนั้นเธอก็เดินออกไปคุยนอกระเบียง \" ว่าไง \" น้ำเสียงฟังดูก็รู้ว่าเธอนั้นวางตัวเย่อหยิ่งยโส แต่ลี่เหม่ยเอินก็ไม่ได้สนใจหล่อน \" ฉันมาถึงแล้วหล่อนอยู่ไหน \" ลี่เหม่ยเอินถามอย่างไม่พอใจในน้ำเสียของซู่หลิน \" เธอเข้าไปเดี๋ยวก็มีคนพาไปเอง \" ซู่หลินตอบเธออย่างเรียบเฉย \" เธออยู่ไหนจะมาเมื่อไหร่ \" ลี่เหม่ยเอินถามขึ้นอีกครั้ง \" ฉันจะอยู่ไหนเกี่ยวอะไรกับเธอ แค่นี้ล่ะ \" พูดจบเธอก็วางสายทันทีแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง ลี่เหม่ยเอินที่เดินเข้าไปก็มีชายชุดดำออกมาต้อนรับแล้วพาเธอไปยังห้องมืดที่ไป่เซอยู่เธอทั้งโกรธทั้งแค้นไป่เซที่ทำให้มู่มู่หลงจนหัวปักหัวปำ พอเข้าไปถึงด้านในก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับแสดงท่าทีอย่างเจ้านายสั่งคนออกไป \" ไปนำตัวมันออกมา \" ชายชุดดำขานรับแล้วไปเอาตัวไป่เซออกมา ทันทีที่ลี่เหม่ยเอินเห็นใบหน้าของไป่เซความโกรธเกลียดก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเธอกำมือแน่นจากนั้นก็ตบเข้าไปที่ใบหน้าของไป่เซสองทีอย่างแรง \" เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! \" ไป่เซรู้สึกแสบร้อนที่แก้มสายตาเธอจ้องไปยังลี่เหม่ยเอินอย่างไม่พอใจและเธอเริ่มโมโหแล้วตอนนี้ \" เป็นคุณสินะที่เป็นคนสั่งให้ลูกน้องลักพาตัวฉันมา คุณไม่รู้เหรอว่ามันผิดกฏหมาย ฉันกับคุณเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนทำไมถึงต้องจับตัวฉันมาขังด้วยคุณต้องการอะไร \" ใบหน้าที่ขาวซีดของไป่เซเผยให้เห็นรอยนิ้วมือบนใบหน้าอย่างชัดเจน เมื่อได้ยินคำพูดของไป่เซลี่เหม่ยเอินสีหน้าหมองลงแวบหนึ่งจากนั้นก็พูดว่า \" เหอะ ถามได้ดีคุณหนูไป่ ใบหน้านี้สินะที่ทำให้พี่มู่มู่หลงจนยกเลิกงานหมั้นกับฉัน! \" เธอตะคอกเสียงดังออกไปจากนั้นก็ไปบีบคางของไป่เซพร้อมกับพูดอย่างดุดันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของไป่เซ \" ใบหน้านี้สินะมี่ทำให้พี่มู่ หลงจนหัวปักหัวปำฉันอุตส่าทำทุกวิธีเพื่อให้ได้อยู่กับพี่มู่มู่จนฉันได้หมั้นกับเขาแกรู้มั้ยฉันพยายามแค่ไหนเพื่อได้อยู่กับคนที่ฉันรัก พอฉันทำสำเร็จแกก็ยังไม่ยอมเลิกไม่ยอมไปจากเขา คอยให้ความหวังเขาให้เขาถอนหมั้นกับฉัน ทั้งที่แกมีคุณชายไป๋อยู่แล้วทั้งคน ฉันเกลียดแกไป่เซได้ยินมั้ยฉันเกลียดแก! \" ลี่เหม่ยเอินร้องให้พร้อมกับพูดเสียงดังอย่างบ้าคลั่งราวกับคนเสียสติ ไป่เซเดิมทีโมโหพอเห็นสภาพของผู้หญิงตรงหน้าก็เกิดเห็นใจขึ้นมาแต่เธอก็ไม่ยอมคนเช่นกันจึงเอ่ยอย่างมีเหตุผลว่า \" คุณเข้าใจผิดแล้วฉันไม่ได้แย่งมู่มู่ไปจากคุณ พวกเราคบกันก่อนหน้านี้แล้วเป็นคุณที่เข้ามาแทรกและใช้วิธีสกปรกบีบบังคับเขาทำให้ครอบครัวเขาเกือบล้มละลาย ฉันเข้าใจว่าคุณยังเด็กคิดไม่รอบคอบถูกตามใจมากเกินไป แต่คุณไม่คิดบ้างล่ะว่าถ้าใครที่ชอบคุณแล้วใช้วิธีแบบนี้ทำกับครอบครัวคุณเพื่อครอบครองคุณ คุณจะยังรักเขาลงอยู่มั้ย ถ้าคุณรักมู่มู่จริงคุณไม่ควรทำลายคนรอบตัวหรือคนที่เขารักคุณควรจะทำดีกับเขาถึงจะถูกถึงเวลานั้นถ้ามู่มู่ชอบคุณฉันก็จะปล่อยเขาไป ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่จะรักคนที่ทำลายครอบครัวตนเองแต่คุณถือว่ายังเด็กยังมีโอกาสได้แก้ตัวก็แก้ตัวให้มันดีๆ ลี่เหม่ยเอินราวกับคล้อยตามคำพูดของไป่เซชายชุดดำที่คอยรับคำสั่งการจากเจ้านายก็ไปเรียกเธอให้มีสติ \" คุณหนูลี่ \" ลี่เหม่ยเอินที่กำลังโมโหก็ตะคอกใส่ชายชุดดำว่า \" หุบปาก! \" แล้วมองไปที่ไป่เซพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันแล้วเอ่ยว่า \" คุณหนูไป่ขอบคุณมากที่ชี้แนะ ก่อนจะไปฉันจะบอกอะไรให้นะคะว่า คนที่จับตัวคุณจริงๆไม่ใช่ฉันแต่เป็นคนอื่น อีกเดี๋ยวเขาจะส่งผู้ชายมาปรนนิบัติคุณ ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครช่วยคุณได้ \" พูดถึงตรงลี่เหม่ยเอินค่อยๆเดินเข้ามาใกล้เธอแล้วกระซิบที่ข้างหูของไป่เซว่า \" ฉันจะแก้มัดให้คุณที่เหลือแล้วแต่ความสามารถและบุญกรรมของคุณแล้ว \" พูดจบก็ถอยห่างออกไป จากนั้นเธอยกมือขึ้นให้ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ซิกแผดเป็นมัดๆออกมาเผยใบหน้าเหล่อเหลาคมเข้ม ไป่เซตกใจเบิกตากว้างหล่อให้ตายยังไงเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่กลัวเพราะเธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ทันใดนั้นก็ลี่เหม่ยเอินก็ออกคำสั่งว่า \" แก้มัดให้เธอ เธอจะได้เล่นสนุกกับผู้ชายทั้งหกคนของเธออย่างมีความสุข \" พูดจบชายชุดดำที่ยืนข้างๆก็ยิ้มแล้วไปแก้มัดให้เธอแล้วมองร่างกายที่ขาวผ่องชายชุดดำถึงกับกลืนน้ำลายแล้วเอ่ยว่า \" เอ่อ คุณหนูลี่ ถ้าคุณหนูลี่เมตตาให้พวกเราได้ลิ้มลองบ้างจะได้มั้ยครับ ของดีๆแบบนี้พวกเราหาไม่ได้อีกแล่วถ้าพลาดโอกาสนี้ไปครับ แฮ่ \" \" ได้! ถ้าพวกแกมีความสามารถมากพอ \" ลี่เหม่ยเอินพูด ชายชุดดำพวกนั้นก็ดีอกดีใจกันใหญ่จ้องไป่เซอย่างหิวกระหายราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไป ไป่เซมองดูผู้ชายที่เข้ามาอยู่ตรงหน้าและรอบๆตัวเธอที่แสดงท่าทางเช่นนั้น เธอรู้สึกขยะแขยง จากนั้นชายร่างกำยำทั้งหกคนก็มาจับแขนทั้งสองข้างไป่เซจนไป่เซขยับตัวไม่ได้ แล้วลี่เหม่ยเอินหมุนตัวออกไปอย่างสง่างามพร้อมกับพูดว่า \" ลงมือได้ \" ด้านนอกมีคนซุ่มดูอยู่ห่างๆกลุ่มหนึ่งเป็นตำรวจที่ฉู่เฉียวพามา อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มของเจียผิงเหอกับจินฟาจินซา พอพวกเขาเห็นลี่เหม่ยเอินเดินออกมารอให้ขับรถออกห่างจากตรงนี้ไปก็มีกลุ่มตำรวจดักรอลี่เหม่ยเอินไว้เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้วตำรวจก็มาคุมตัวเธอไป ด้านในไป่เซที่กำลังถูกชายรูปร่างกำยำทั้งหกคนลากเข้าไปในห้องดวงตาไป่เซนิ่งเฉยกำลังประเมินสถานการณ์ตรงหน้าและใช้ความคิดอย่างหนัก : แย่แล้ว ไม่มีใครช่วยเราได้แล้ว ถ้าต่อรองพวกมันจะโง่ฟังเรามั้ย ยังไงซะก็ต้องลองดูก่อน : เมื่อคิดได้แบบนี้เธอก็หยุดเดินแล้วเอ่ยขึ้นว่า \" พี่คะไหนๆก็ต้องเล่นสนุกด้วยกันแล้วขอเป็นทีละสองคนได้มั้ยคะ โดยเล่นเป่ายี้ฉุบกัน ให้พี่ที่แพ้อยู่ข้างนอกรอก่อน แล้วพี่ที่ชนะก็จะได้เข้าไปกินฉันก่อน แบบนี้ดีมั้ยคะ \" ชายทั้งหกคนมองกันไปมาอย่างลังเล ไป่เซจึงรีบเอ่ยต่อว่า \" พี่จะไปคิดอะไรมากทำไมคะ ถึงฉันอยากจะหนีก็หนีไม่พ้นหรอกพี่อย่าลืมสิว่าข้างนอกยังมีคนที่ต่อคิวรอกินฉันอยู่ไม่น้อยเลยนะ ถ้าฉันออกไปได้พวกเขาจะยอมปล่อยฉันเหรอคะ อีกอย่างฉันแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆธรรมดาคนหนึ่งจะไปทำอะไรได้ทำได้ดีที่สุดคือต้องเก็บแรงไว้มอบความสุขให้พี่ๆเนี่ยแหละถูกมั้ยคะ \" เธอใช้น้ำเสียงราวกับเด็กน้อยที่ยอมจำนนทำให้คนฟังรู้สึกอยากทะนุถนอมเธอไว้ จากนั้นชายทั้งหกคนก็ยิ้มขึ้นพยักหน้าตกลงอย่างมีความสุขแล้วเนิ่มเป่ายี้ฉุบกันได้คนชนะสองคนพวกเขาก็นำตัวไป่เซเข้าไปในห้องแล้วจุดเทียวท่ามกลางแสงไฟสลัวไป่เซยิ้มให้พวกเขา จากนั้นชายทั้งสองก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นอย่างยั่วยวนชนเหลือเพียงกางเกงในแล้วค่อยๆก้าวมาทางไป่เซท่ามกลางแสงเทียนที่มืดสลัวยิ่งกระตุ้นความเป็นชายในตัวของพวกเขา
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 29 ไม่มีใครช่วยเราได้แล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A