已经是第一章了
ตอนที่ 31 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนที่สองของไป๋หลงกรุ๊ป
เฮลิคอปเตอร์ลงจอดหมอและพยาบาลต่างวิ่งออกมารับตัวไป๋เจิ้นหลงแล้วพาเข้าห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วนทุกคนวิ่งตามไปอย่างเป็นห่วง ก่อนหน้านี้ฉู่เฉียวได้แจ้งไปทางโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงที่ดีที่สุดแล้วว่ามีผู้บาดเจ็บาหัสจากการถูกยิง
\" ไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุดและใกล้สุด \"
คุณชายหนึ่งเอ่ยก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ฉู่เฉียวได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยว่า
\" ได้ฉันจะแจ้งทางโรงพยาบาลนั้นไว้ \"
จากนั้นเธอก็ยกหูโทรศัพท์โทรออกไปแจ้งโรงพยาบาลอย่างละเอียดทันทีทำให้การทำงานของทีมแพทย์นั้นรวดเร็วยิ่งขึ้น
หน้าห้องผ่าตัดไป่เซ คุณชายหนึ่งและเจียผิงเหอได้นั่งรออย่างเป็นกังวล คุณชายหนึ่งอยู่ไม่ห่างจากไป่เซเลยแม้แต่น้อย
\" ผมว่าคุณหนูไปทำแผลก่อนดีกว่านะครับ คุณชายไป๋ถึงมือหมอแล้วเขาต้องปลอดภัยแน่นอน \"
คุณชายหนึ่งเอ่ยออกมาอย่างราบเรียบแสดงถึงความเป็นห่วงไป่เซ
เจียผิงเหอที่เอาแต่เป็นห่วงไป๋เจิ้นหลงจนลืมไปว่าไป่เซก็บาดเจ็บพอได้คุณชายหนึ่งพูดก็นึกขึ้นได้จึงหันไปพูดกับไป่เซ
\" คุณหนูไป่คุณไปรักษาบาดแผลของคุณเถอะทางนี้ผมจะอยู่เฝ้าเองครับ \"
\" ไม่เป็นไรหรอกค่ะแผลแค่นี้เองไกลหัวใจพวกคุณไม่ต้องห่วงค่ะ \"
ไป่เซปฏิเสธที่จะไปทำแผลอย่างเย็นชาตั้งแต่ไป๋เจิ้นหลงช่วยรับกระสุนแทนสมองเธอคิดและทำงานอย่างหนัก
เธอไม่เข้าใจทั้งที่เธอไม่ได้รักไป๋เจิ้นหลงแต่ไป๋เจิ้นหลงยังโง่รับกระสุนแทนเธออีกเรื่องนี้ทำให้เธอถึงกับช็อต
เรื่องแบบนี้เธอเคยเห็นแต่ในละครน้ำเน่าเท่านั้นไม่คิดว่าจะเกิดกับเธอ
เธออยากจะด่าไป๋เจิ้นหลงว่าโง่ อยากจะตบหน้าเขาให้มีสติ อยากจะควักสมองไป๋เจิ้นหลงออกมาดูว่าคิดอะไรอยู่
อยากจะให้เขาปลอดภัย อยากให้หมอออกมาบอกว่าเขาพ้นขีดอันตรายแล้ว
ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าตนเองควรจะทำยังไงดีเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกทำอะไรไม่ถูกคิดอะไรไม่ออกราวกับสมองไม่ยอมทำงานเธอเครียดจริงๆสับสนไปหมด
ทั้งสามนั่งเฝ้ารออยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างเงียบๆเกือบครึ่งชั่วโมงคุณพ่อไป๋คุณแม่ไป๋ก็มาถึงหน้าห้องฉุกเฉินด้วยหน้าตาตื่นความวิตกกังวลสีหน้าเศร้าโศกและคร่ำเครียดคุณแม่ไป๋ร้องให้แล้วถามไป่เซว่า
\" เจิ้นหลงเป็นไงบ้าง เขาปลอดภัยดีใช่มั้ย เขาไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย \"
เมื่อรู้ข่าวลูกชายถูกยิงเขาก็เป็นลมสลบไปมารู้สึกตัวอีกทีอยู่ในรถแล้ว ไป่เซรู้ว่าเขาต้องเสียใจมาก เธอไม่ตอบได้แต่พยักหน้า เนื่องจากเก้าอี้มีจำกัดเธอจึงลุกขึ้นให้เขาเข้าไปนั่งและคุณชายหนึ่งก็ลุกตามเธอเช่นกัน
\" คุณพ่อคุณแม่นั่งก่อนเถอค่ะ เจิ้นหลงถึงมือหมอแล้วต้องปลอดภัยแน่นอนค่ะ \" คำพูดนี้เธอแค่ปลอบใจคนที่อ่อนแอกว่า
สักพักคุณปู่ไป๋ก็มาถึงเช่นกันคุณปู่ไป๋เดินเข้ามากอดไป๋เซอย่างเป็นห่วง จากนั้นก็จับมือเธอค้นหาร่องรอยการบาดเจ็บ
\" หนูบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย \"
คุณปู่ไป๋ถามด้วยความเป็นห่วงจากนั้นก็เห็นรอยเลือดที่ไหล่คุณปู่ไป๋ตาโตขึ้น
\" ไอหยาหนูบาดเจ็บ ทำไมไม่รีบไปทำแผล อย่าห่วงแต่คนอื่นจนลืมห่วงตัวเองสิไปไปทำแผลเดี๋ยวนี้เลย \"
พูดจบก็ไม่รอให้ไป่เซได้พํดอะไรแล้ว ก็หันไปพูดกับจินฟาจินซา
\" พาคุณหนูไปทำแผล \"
จินฟาจินซาคำนับตอบว่า \" ครับ \"
คุณชายหนึ่งจึงพูดขึ้นว่า \" เดี๋ยวผมพาคุณหนูไป่ไปเองครับ \"
คุณปู่ไป๋และทุกคนได้ยินจึงหันไปทางเสียงของชายหนุ่มก่อนหน้านี้เพราะทุกคนมัวแต่เป็นห่วงคนของตัวเองจนลืมไปว่านอกจากไปเซแล้วยังมีคนอื่นอยู่
ทันทีที่หันไป \" อ้าว! คุณชายหนึ่ง ตระกูลหลงก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ \"
คุณชายหนึ่งตอบเพียง \" ครับ \"
\" เอ่อ ดีๆไปส่งอวี้เอ๋อกันหลายๆคนเธอจะได้ปลอดภัย ฉันก็สบายใจ \" คุณปู่ไป๋พูดพลางยิ้ม
คุณแม่ไป๋รู้สึกไม่พอใจคุณปู่ไป๋ที่ลำเอียงมาถึงแทนที่จะเป็นเป็นห่วงหลานที่กำลังผ่าตัดอยู่กลับไม่เอ่ยถามถึงสักคำแสดงทีท่าห่วงใยแต่ไป่เซ จากนั้นทั้งสามคนก็พาไป่เซไปทำแผล
ข้างนอกตระกูลซูถูกโจมตีอย่างหนัก สำนักข่าวตีพิมพ์เรื่องตระกูลซูขึ้นหน้าหนึ่งทุกวัน
ตัวละครที่โด่งดังไปทั่วเป็นที่รู้จักและน่าจับตาดูคือ ไป่เซ
สำนักข่าวตีพิมพ์เรื่องราวว่า ไป่เซหลานสาวบุญธรรมของบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน ถูกซู่หลินลูกสาวคนเดียวของตระกูลซูนักการเมืองชื่อดังเบื้องหลังเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย เป็นกิ๊กคนสนิทที่คุณชายไป๋โปรดปราน ได้ลักพาตัวคุณหนูไป่เซหวังจะให้คนมากระทำชำเราและพยายามฆ่า
ชาวเนตขุดคุ้ยเบื้อลึกเบื้องหลังกันอย่างเมามันส์ บางสำนักพิมพ์ตีพิมพ์ว่า คุณชายไป๋และคุณหนูตระกูลซูร่วมมือกันทำเรื่องเลวร้าย เพราะวันเกิดเหตุมีชาวเน็ตเจอคุณชายไป๋กับคุณหนูตระกูลซูแอบนัดพบกันที่ร้านกาแฟ
และมีชาวเน็ตอีกคนเปิดเผยรูปภาพที่แอบถ่ายทั้งคู่พากันเข้าโรงแรมอย่างสวีทหวาน
ชาวเนตบางคนเก่งมากรู้แม้กระทั่งห้องที่เขาเข้าและอ้างว่าอยู่ชั้นเดียวกันบังเอิญเจอเข้าพอดี
จากนั้นไม่ต้องรอให้สำนักข่าวเผยแพร่กลับเป็นชาวเน็ตที่ให้ความสนใจตามสืบเรื่องราวอย่างละเอียดรู้มากกว่านักข่าวเสียอีก บางคนก็โพสว่าหลังคุณปู่ตระกูลไป๋ทราบเรื่องก็บุกไปถึงโรงแรมและลากตัวคุณหนูซูออกมาไปทิ้งข้างทาง
ไป๋เยิ้นหลงเองก็ถูกชาวเน็ตโจมตีอย่างหนักจนทำให้หุ้นตกจนน่าตกใจคุณปู่ไป๋โกรธมากเรื่องที่เขากังวลมาตลอดได้เกิดขึ้นแล้วแต่ลึกๆเขายังแอบหวังในตัวไป่เซเพราะข่าวด้านบวกล้วนมีแต่ไป่เซเท่านั้น มีคนรู้จักเธอมากขึ้น บ้างก็ชื่นชมว่าเธอสวยน่ารักบ้างก็สงสารเธอเห็นใจเธอ เธอกลายเป็นที่รักและที่สนใจของคนทั้งประเทศเป็นที่รู้จักในนามหลานสาวตระกูลไป๋เป็นที่รู้จักของคนในโลกธุรกิจ
คุณปู่ไป๋เข้ามาแก้ปัญหาบริษัทนี้แทนไป๋เจิ้นหลง คุณพ่อไป๋เองหลังจากที่กลับจากดูลูกชายก็มาช่วยแก้ปัญหาบริษัทร่วมกับคุณปู่ไป๋พ่อของเขาทำให้เขาเครียดมากทุกคนต้องทำแทนไป๋เจิ้นหลงที่นอนสลบไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ในห้องไอซียู
เลขาเจียก็เหนื่อยมากๆที่ต้องเข้าๆออกๆรงพยาบาลไปมาระหว่างบริษัทกับโรงพยาบาลราวกับเป็นบ้านหลังที่สองของเขา
ทุกคนในบริษัทประชุมหารือกันทุกวันเพื่อกอบกูหุ้นที่ดิ่งลงอย่างรวดเร็วกลับมา คุณปู่ไป๋คาดไม่ถึงว่าครอบครัวตระกูลซูล้มละลายแล้วเรื่องของซู่หลินกับไป๋เจิ้นหลงจะบานปลายจนส่งผลกระทบต่อบริษัทความโกรธในตัวหลานชายที่ทำตัวเป็นเพลย์บอยกินไม่เลือกยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
คุณปู่ไป๋เสนอต่อหุ้นส่วนให้ไป่เซเข้ามาฝึกงานเป็นรองผู้บริหารของบริษัทและประกาศว่า
\" เรียนทุกท่านผมมอบหุ้นครึ่งหนึ่งของบริษัทไป๋หลงกรุ๊ปให้แก่หลานสาวของผมและโอนหุ้นให้เป็นที่เรียบร้อย ผมเชื่อมั่นใจศักยภาพและความสามารถของเธอ จากนี้ไปไป่เซและไป๋เจิ้นหลงจะคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัทมีหุ้นเท่ากัน \"
เมื่อคุณปู่ไป๋กล่าวเช่นนี้และมั่นใจแบบนี้ทุกคนก็วางใจและเชื่อมั่นเคารพในการการตัดสินใจของเขาเขาที่ทำงานละเอียดรอบคอบและตัดใจไม่เคยผิดพลาดมองคนไม่เคยผิดและทำงานอย่างระมัดระวัง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นส่งผลให้บริษัทสูญเสียรายได้มหาศาลจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
จากนั้นหุ้นส่วนคนหนึ่งก็พูดขึ้นสีหน้าเคร่งเครียด
\" งานเปิดโลกธุรกิจระดับโลกที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้าจะทำอย่างไรดีครับ เมื่อตอนนี้บริษัทถูกโจมตีไม่น้อยเกรงว่าจะถูกลูกค้าแบนเอาได้ และตอนนี้ก็ถูกแบนไปหลายส่วนแล้วห้างของบริษัทตอนนี้แทบไม่มีคนเข้าเลย สินค้าเครื่องประดับ สินค้าอื่นๆก็เริ่มถูกแบนแล้วเช่นกันครับ ชาวเน็ตต่อต้านแรงมากถ้าไม่รีบจัดการเรื่องนี้ให้จบผมเกรงว่าเราจะไม่สามารถจัดงานนี้ขึ้นได้ และอาจไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกับนักลงทุนรายใหญ่และในอนาคตอาจไม่มีโอากาสอีกแล้วครับ \"
คุณปู่ไป๋และคุณพ่อไป๋ฟังไปสีหน้าเคร่งเครียดคุมขมับพวกเขาไม่เคยประสบปัญหาหนักแบบนี้มาก่อนเรียกได้ว่าเกือบจะล้มละลายได้ถ้าหากไม่วางหมากดีๆเผลอก้าวพลาดก้าวสองก้าวก็ล้มละลายได้ในหนึ่งอาทิตย์ เมื่อคิดสักพักคิดไม่ออกคุณปู่ไป๋ก็พูดขึ้นว่า
\" พวกคุณให้เวลาพวกเราหนึ่งวัน ขอเพียงพวกคุณมั่นคงและเชื่อมั่นในตัวผมผมจะต้องพาทุกคนผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ ผมขอเวลาคิดหนึ่งวันพรุ่งนี้จะมาให้คำตอบทุกคน ใครมีอะไรจะเสนออีกมั้ยครับ \"
ทุกคนส่ายหัวอย่างอ่อนแรงแต่ก็ยังร่วมสู้ร่วมกอบกู้บริษัทให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติแข็งแกร่งเหมือนก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วคุณปู่ไป๋จึงสั่งเลิกประชุมอย่างสุภาพและน้ำเสียงให้ความรู้สึกแข็งแกร่งน่าเกรงขาม
\" ถ้าไม่มีอะไรแล้วการประชุมวันนี้ก็พอแค่นี้ก่อนครับเลิกประชุมได้ \"
ทุกคนทยอยออกจากห้องประชุมไปในห้องประชุมเหลือแต่คุณปู่ไป๋กับคุณพ่อไป๋ เลขาเจียและเลขาจินเฉิงเลขาประจำตัวของคุณปู่ไป๋
บรรยากาศในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบสงัดคุณปู่ไป๋ไล่ดูข่าวที่เกิดขึ้นรูปของไป่เซถูกค้นหาและถูกแชร์เป็นอันดับหนึ่งคุณปู่ไป๋ไปสะดุดตากับคอมเม้นต์หนึ่งพร้อมรูปภาพของไป่เซระบุว่า
\" คุณหนูไป่เธอช่างสวยจริงๆสวยราวกับนางฟ้าฉันอยากให้เธอเป็นนางแบบของแบรนด์ที่ฉันชอบมากเลย ได้โปรดขอพรของฉันจงเป็นจริงเพี่ยน! \"
ต่อจากข้อความนี้ก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นเห็นด้วยกับเธอเป็นแสนๆคน
และมีอีกคอมเมนต์หนึ่งเขียนพร้อมกับตัดแต่งรูปคู่ระหว่างไป๋เจิ้นหลงกับไป่เซระบุข้อความว่า
\" เมื่อฉันลองแต่งรูปของพวกเขาสองคนเข้าด้วยกันแล้วฉันรู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกันมาก ฮ่าๆๆ ฉันอยากจะให้พวกเขาคู่กันจังเลยแต่เสียดายที่พวกเขาถูกลิขิตให้เป็นพี่น้องกัน \"
จากนั้นก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นต่อจากเธอมากมาย บ้างก็เห็นด้วยบ้างก็ไม่เห็นด้วย คนที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่จะพูดไปในแนวเดียวกันว่า
\" ไป๋เจิ้นหลงเจ้าชู้ไป ไม่เหมาะกับคุณหนูไม่ที่ดูอ่อนโยนและไร้เดียง \"
\" ไม่เห็นด้วยขืนจับคู่พวกเขาคุณหนูไป่ของพวกเราต้องถูกคนมากประสบการณ์รังแกเป็นแน่ \"
\" ไม่ได้คุณหนูไป่ของฉันทั่งน่ารักทั้งน่าทะนุถนอมอ่อนโยนขนาดนั้น ฉันว่าคุณชายไป๋เป็นพี่น่ะดีแล้ว \"
\" ที่ซู่หลินหญิงชั่วนั่นลักพาตัวคุณหนูไป่ไปเพราะกลัวคุณชายไป๋จะหลงรักน้องบุญธรรมหรือเปล่าเลยอิจฉาความสวยของเธอจึงสั่งลูกน้องมาเฟียไปลักพาตัวคุณหนูของพวกเราไป \"
มีคนมาเมนต์ต่อจากเธอเป็นจำนวนมากว่า \" เห็นด้วย ฉันก็คิดเช่นนี้ \"
ทั้งผู้หญิงผู้ชายต่างหลงรักไป่เซไปหมดแล้วพวกเขาล้วนต้องการปกป้องเธอ
คุณปู่ไป๋ยิ้มเหมือนคิดอะไรออกจึงหันไปบอกกับเลขาเจียว่า
\" คุณไปปล่อยข่าวเรื่อง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนที่สองของไป๋หลงกรุ๊ป \"
จากนั้นก็หันไปบอกเลขาของตัวเองว่า \" คุณไปเผยแพร่ข่าวว่าคุณหนูไป่เป็นคู่หมั้นของคุณชายไป๋ที่คุณปู่ไป๋ได้ทำสัญญาหมั้นหมายไว้กับพ่อแม่ของเธอตั้งแต่เด็กและเพื่อช่วยคู่หมั้นจึงรับกระสุนแทนเธอ \"
\" แล้วก็กระจายข่าวว่า คุณหนูไป่เป็นนางแบบเครื่องเพชรที่มีมูลค่าสูงที่สุด ของนักออกแบบจิวเวอร์รี่ระดับโลก ที่ร่วมออกแบบให้กับบริษัทไป๋หลงกรุ๊ป ที่จะจัดขึ้นในงาน เปิดโลกธุรกิจระดับโลก เดือนหน้านี้ \"
เจียผิงเหอและจินเฉิงตอบคำนับพร้อมตอบว่า \" ครับ \" จากนั้นก็เดินออกไปทำสิ่งที่ได้รับมอบหมาย
ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเรื่องราวของไป๋เจิ้นหลงเป็นที่กล่าวถึงฮือฮาอีกครั้งบนโลกออนไลน์
ครั้งนี้ข่าวไป๋เจิ้นหลงดีขึ้น ข่าวอื้อฉาวเสียๆหายๆที่เป็นมลทินก่อนหน้านี้ถูกลบล้างไปแล้วมีแต่ข่าวดีๆเกี่ยวกับตัวเขา โดยเฉพาะข่าวรับกระสุนแทนคู่หมั้นชาวเน็ตแห่ชื่นชมเขาเป็นจำนวนมาก
กลายเป็นคู่รักที่ฮอตที่สุดเป็นที่รักเป็นที่รู้จักและเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลกบางคนก็ไปเขียนแต่งเป็นนิยายเขียนเป็นบทละคร
หุ้นของบริษัทขึ้นอีกครั้งและขึ้นสูงกว่าเดิม สินค้าในในเครือของบริษัทไป๋หลงกรุ๊ปไม่ว่าระดับสูง กลาง ล่าง ก็ขายดิบขายดี ยอดขายถล่มทลายบริษัทกลับมาโด่งดังอีกครั้งและเป็นที่รู้จักมากขึ้นดังกว่าเดิม
ทุกคนในบริษัทงานยุ่งวุ่นวายถึงแม้จะเหนื่อยแต่สีหน้ากลับยิ้มแย้มอารมณ์ดี
คุณพ่อไป๋ประกาศเพิ่มโบนัสให้กับพนักงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ที่โรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลไป๋
ไป่เซร่างกายเริ่มฟื้นตัวไป๋เจิ้นหลงก็เริ่มรู้สึกตัวโดยมีคุณแม่เขาคอยดูและไม่ห่างส่วนไป่เซก็มีสาวใช้คอยดูแลปรนนิบัติอยู่ข้างๆตลอด
ฉู่เฉียวและลี่เหม่ยเอินแวะมาเยี่ยมเยือนตลอด ลี่เหม่ยเอินให้การกับตำรวจว่า ทุกอย่างล้วนเป็นแผนการของซู่หลินตนต้องการจะไปช่วยคุณหนูไป่แต่ช่วยไม่ได้เพราะถูกคนจับตาดูอยู่ตลอดและไป่เซก็เป็นพยานยืนยันให้เธอเช่นกัน เธอรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของไป่เซมาก
คุณชายหนึ่งกับน้องๆทั้งสี่ของเขามักจะมาเยี่ยมไป่เซบ่อยๆทุกครั้งที่มาห้องของไป่เซจะดูคึกคักเป็นพิเศษ
ไป่เซและไป๋เจิ้นหลงร่างกายเพิ่งฟื้นตัวจึงไม่มีใครเล่าข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวที่เป็นข่าว
คุณปู่ไป๋สั่งให้เอาทีวีออกและเก็บมือถือของไป่เซไว้ให้ใช้เฉพาะโทรศัพท์ของโรงพยาบาล
คุณปู่ไป๋อ้างว่าช่วงนี้ข่าวลือเยอะกลัวจะกระทบกับจิตใจของเธอ และไป่เซเธอก็เชื่อฟังคุณปู่อย่างว่านอนสอนง่าย แต่ไม่มีใครคิดไว้ว่าถ้าไป่เซรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเองและไป๋เจิ้นหลงเป็นคู่หมั้นกันมันจะอะไรขึ้นบ้างหรือไม่
****ใครที่ติดตามเรื่องนี้แสดงความคิดเห็นให้กำลังใจนักเขียนหน่อยนะคะ **** Paizay
已经是最新一章了
加载中
