ตอนที่ 34 รังเกียจ
1/
ตอนที่ 34 รังเกียจ
ลิขิตฟ้าทุกภพชาติรักแค่เธอ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 34 รังเกียจ
ไป๋เจิ้นหลงเลือกที่จะเงียบและนอนลงบนเตียงเสริมแต่ก็นอนไม่หลับขณะที่ไป่เซนั้นหลับสนิทแล้ว มีข้อความแจ้งเตือนเข้ามาเขาจึงเปิดอ่านเป็นข้อความที่คุณปู่เขาส่งมา \" เจิ้นหลง ปู่คุยเรื่องการหมั้นแล้ว ปู่ไม่อยากบังคับเขาพวกเธอทั้งคู่ล้วนเป็นหลานฉัน ถ้ารักเธอจริงก็พิสูจน์ให้เธอเห็นเอาชนะใจเธอด้วยความดีอย่างจริงใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถของหลานเองแล้วปู่ไม่อยากโกรธอะไรหลานแล้วดูแลตนเองดีๆให้เวลาน้องเขาหน่อย \" อ่านข้อความจบเขาลุกขึ้นมาแล้วเดินไปดูไป่เซสายตาหยุดลงบนใบหน้าที่อ่อนโยนกำลังหลับไหลอยู่เหมือนกับเด็กสาวไร้เดียงสาแลดูอบอุ่นสวยงามน่าทะนุถนอม ไป๋เจิ้นหลงดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มผ้าให้เธออย่างอ่อนโยนพร้อมกับส่งเสียงพึมพำเบาๆ \" ไป่ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะให้โอกาสผมได้แก้ตัวอีกครั้ง คุณรู้มั้ยผมรักคุณมากแค่ไหน ผมไม่อาจปล่อยให้คุณไปอยู่กับชายอื่นได้ ผมไม่อาจยอมให้คุณจากผมไปอีกแล้ว เฮ่อ! ถ้าเราจำเรื่องราวในชาติก่อนไม่ได้ก็คงดีสินะคุณอาจจะรักผมบ้างก็ได้ผมอยากให้คุณลืมมันไปจริงๆ \" พูดจงไป๋เจิ้นหลงถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เวลานี้เขารู้สึกเหนื่อยใจและท้อใจริงๆ \" ไป่ถ้าวันใดผมเหนื่อยที่จะตามคุณจะหันมาสนใจผมบ้างมั้ย \" พูดจบเขาก้มลงจูบที่หน้าผากเธอเบาๆแล้วก็เดินกลับไปที่เตียงเสริมของตัวเองแล้วค่อยๆล้มตัวนอนลง ตอนเช้าไป่เซตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ของเธอสั่น เธอเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะจากนั้นก็เดินออกไปด้านนอกระเบียงแล้วกดรับสาย \" ฮัลโหล พี่มู่โทรมาแต่เช้ามีอะไรหรือเปล่าคะ \" ไป่เซเอ่ยถามอย่างสงสัยปกติมู่มู่จะไม่โทรมาเช้าขนาดนี้มู่มู่ยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดเสียงเบาว่า \" พี่มาถึงจีนแล้วนะ วันนี้คุณมีซ้อมบัลเล่ต์กับคุณฉู่ตอนเก้าโมงใช่มั้ย \" \" ใช่ค่ะพี่รู้ได้ยังไง อย่าบอกนะว่าพี่ได้เจอกับคุณฉู่แล้ว \" \" แน่นอนว่าได้เจอแล้วงั้นพี่จะรอที่โรงเรียนคุณฉู่นะเก้าโมงเจอกัน \" \" ได้ค่ะ \" หลังจากวางสายไป่เซยิ้มอย่างดีใจเมื่อคิดถึงแต่ก่อนเธอวางตัวห่างเหินเย็นชากับรุ่นพี่คนนี้และรุ่นพี่คนนี้ก็ขอใก้เธอเรียกเขาว่าพี่มาตลอดจนนานเข้าๆเธอจึงเริ่มเรียกเขาว่าพี่จริงๆเพราะตอนนี้เธอมีใจให้เขาแล้ว เมื่อกลับเข้ามาในห้องเธอก็ต้องตกใจกับสายตาเย็นชาและทะมึงทึงของไป๋เจิ้นหลงที่ยืนอยู่ตรงบานประตู \" คุยกับใคร \" ไป๋เจิ้นหลงเอ่ยถามอย่างไม่พอใจแววตาเย็นชาจ้องบนตัวเธอ ไป่เซไม่ชอบให้ไป๋เจิ้นหลงเข้ามาก้าวก่ายอะไรในชีวิตเธอ เธอรู้สึกรำคาญเขามากช่วงนี้เธอจึงเดินเลี่ยงไปและไม่ตอบคำถามเขา \" คุณไม่ได้ยินที่ผมถามหรือไง \" ไป๋เจิ้นหลงขึ้นเสียงสองพร้อมคว้าแขนไป่เซไว้ ไป่เซจ้องเขาอย่างเย็นชาและพูดว่า \" ทำไมฉันต้องตอบคุณด้วยคุณรู้ตัวบ้างนะว่าฉันไม่อยากจะคุยกับคุณแม้แต่หน้าก็ไม่อยากจะเจอ \" เธอสะบัดแขนออกจากมือเขาในขณะที่ไป๋เจิ้นหลงยืนอึ้งไปไม่เป็น นี่เขาถูกผู้หญิงคนนี้ทำร้ายจิตใจกี่ครั้งแล้ว ไป๋เจิ้นหลงจมอยู่กับความคิดตนเอง ไป่เซเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้จึงหยุดเดินแล้วหันมาพูดอย่างไม่ไยดีต่อความรู้สึกไป๋เจิ้นหลง \" อ่อ แล้วคุณอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณน่ะขอให้คุณปู่บังคับให้ฉันหมั้นหมายกับคุณถ้าคุณคิดว่าการทำแบบนี้มันทำให้ฉันกลายเป็นของคุณได้ก็ทำไปเถอะฉันยินดีที่จะเป็นคู่หมั้นชั่วกำมะลอให้คุณ \" พูดจบเธอก็เดินเข้าไปในห้องอาบน้ำอย่างหยิ่งยโสไป๋เจิ้นหลงรู้สึกว่าขณะนี้ตนเองใจเย็นไม่ไหวแล้วเขาอดทนข่มอารมณ์ตนเองไว้แท้ๆแต่เหมือนไป่เซกระตุ้นอารมณ์เขาอย่างได้ใจ ไม่นานไป่เซก็อาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมออกไปข้างนอก ขณะที่เดินผ่านไป๋เจิ้นหลงแขนเธอก็ถํกเขาคว้าไว้ \" คุณจะไปไหน ผมไปส่ง \" เธอถูกดึงลงบนหน้าตักของเขาแต่เธอก็ทำเป็นไม่แคร์ไม่สนใจไม่ตกใจทั้งที่ความจริงใจเธอเต้นแรงมาก \" ไม่จำเป็น ปล่อย \" ไป่เซตอบกลับอย่างเย็นชา ไป๋เจิ้นหลงเลิกคิ้วขึ้น \" หื้ม! ผมอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตรับกระสุนแทนคุณ ขอบคุณสักคำก็ไม่มีให้ชื่นใจ จะให้ปล่อยไปง่ายๆไม่ใช่ผมแน่นอน \" \" หมายความว่าไง คุณต้องการให้ฉันขอบคุณคุณงั้นเหรอได้! ขอบคุณที่ช่วย พอใจยัง \" ไป๋เจิ้นหลงยิ้มส่งสายตาเจ้าเล่ห์จ้องไปบนใบหน้าของไป่เซสำรวจอย่างละเอียดใกล้ชิดตั้งแต่คิ้ว ดวงตา จมูก ปาก แล้วตอบไป่เซอย่างเย็นชาและเจ้าเล่ห์ \" ไม่พอใจ! การขอบคุณของคุณมันไม่จริงใจถ้าจะให้ดีผมต้องการเรือนร่างของคุณแทนการขอบคุณมากกว่า ถึงจะพูดได้ว่าพอใจ \" ไป๋เจิ้นหลงพูดพลางใช้นิ้วมือเรียวยาวลูบไล้บนใบหน้าและริมฝีปากของไป่เซอย่างเอาแต่ใจ มืออีกข้างหนึ่งกอดเธอไว้แน่น ไป่เซโกรธมากกับคำพูดที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ \" หึ! คุณนี่มันโรคจิตบ้ากามตัวพ่อจริงๆ ปล่อย! \" ไป่เซดิ้นแล้วกดไหล่ไป๋เจิ้นหลงลงแนบกับโซฟาแล้วก็รีบลุกขึ้นยืนแต่เธอคาดไม่ถึงว่าไป๋เจิ้นหลงจะปล่อยมือแล้วกอดรัดแน่นที่เอวของเธอทำให้หน้าอกของเธอแนบชิดกับแผ่นอกของเขา ไป๋เจิ้นหลงใช้โอกาสนี้จูบเข้าไปที่ริมฝีปากของไป่เซอย่างดูดดื่มจากนั้นก็ปล่อยเธอไปอย่างง่ายดายพร้อมพูดขึ้นอย่างโอหัง \" ผมรู้ข่าวทุกอย่างหมดแล้ว จากนี้ไปผมจะไม่บังคับคุณอีกไม่ขอให้คุณมารักอีกและจะไม่ขอความรักจากคุณ คุณจะเป็นเพียงคู่หมั้นในนามต่อหน้าคนภายนอกเท่านั้น และหวังว่าคุณจะตั้งใจฝึกงานไม่ทำให้คุณปู่ผิดหวังและไม่ทำให้บริษัทเสียชื่อ \" ไป่เซตะลึงเล็กน้อยคนอะไรเปลี่ยนได้เร็วขนาดนี้ แต่ช่างเถอเธอไม่สนใจ ไป๋เจิ้นหลงเห็นว่าเธอยืนตะลึงอยู่ก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา \" ออกไปได้แล้ว ยืนบื้ออยู่ทำไม \" เมื่อถูกไล่แบบนี้เธอก็ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ \" นาย \" ไป่เซอยากจะด่าแต่ไม่รู้จะด่ายังไงไป๋เจิ้นหลงมาไม้นี้มันทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองแปลกไปความสุขุมเย็นชาของเธอมันค่อยๆหายไป เธอหายใจเข้าลึกๆแล้วสงบนิ่งจากนั้นก็เดินออกไป เมื่อลงไปถึงชั้นล่างแม่บ้านก็เข้ามาทักทายเธอ \" สวัสดีค่ะคุณหนู คุณหนูจะทานข้าวเลยมั้ยคะ \" \" ไม่จ้ะ คุณปู่ตื่นหรือยังคะ \" ไป๋เซถามเพราะเธอไม่เห็นใคร \" คุณท่านยังไม่ตื่นค่ะ คุณหนูมีอะไรกรือเปล่าคะ \" \" ไม่มีค่ะ ถ้าคุณปู่ตื่นแล้วรบกวนพี่ช่วยบอกคุณปู่ให้ทีนะคะว่าฉันออกไปทำธุระข้างนอก \" \" ค่ะ เดี๋ยวเรียกคนขับรถให้ไปส่งนะคะ \" \" ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณนะคะไปล่ะ \" เธอพูดขอบคุณเสร็จก็เดินออกไปแล้วเดินไปยังหน้าหมู่บ้านเรียกแท็กซี่ มุ่งไปที่โรงเรียนสอนบัลเล่ต์ ไป๋เจิ้นหลงที่นั่งอยู่ในห้องนั่งทบทวนแล้วทบทวนอีก : เราควรจะลองปล่อยเธอไปน่ะถูกแล้ว ที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะเรายึดติดกับอดีตชาติมากไป เริ่มต้นใหม่สักที มองเธอเป็นแค่น้องสาวบุญธรรมคนหนึ่งพอ เฮ้อ : ไป๋เจิ้นหลงนั่งคิดแล้วถอนหายใจอย่างแรงฝืนยิ้มออกมาอย่างจำใจแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำ ไป่เซไปถึงก็เห็นฉู่เฉียวกับมู่มู่นั่งอยู่ด้วยกันส่งยิ้มมาให้เธอ \" พวกคุณรอนานมั้ยคะ \" ฉู่เฉียวยิ้มพร้อมกับส่ายหัว มู่มู่จึงพูดขึ้นว่า \" ผมมาก่อนเวลาต่างหาก คุณทานอะไรมาหรือยัง \" ไป่เซส่ายหัว \" แล้วพวกคุณล่ะทานอะไรมาหรือยัง \" \" ฉันทานเรียบร้อยแล้วค่ะ คุณไป่กับคุณชายมู่ยังไม่ได้ทานข้าวไปทานข้าวกันก่อนก็ได้นะคะ วันนี้ฉันไมมีสอนระหว่างรอพวกคุณไปทานข้าวฉันจะได้เตรียมสื่อสำหรับสอนเด็กๆในวันพรุ่งนี้ด้วย \" ไป่เซได้ยินแบบนี้ก็ตอบตกลงทันทีแล้วหันไปพูดกับมู่มู่ \" ค่ะ ไปกันเถอะค่ะพี่มู่ \" มู่มู่ยิ้มอย่างอบอุ่นยื่นมือไปจับมือไป่เซแล้วหันไปพูดกับฉู่เฉียว \" งั้นพวกเราไปก่อนนะครับคุณฉู่ หวังว่าตอนเย็นพวกเราจะได้ไปทานข้าวร่วมกัน \" \" ค่ะ \" ฉู่เฉียวตอบพร้อมกับยิ้มกลบเกลื่อนความเจ็บปวดที่แอบรักข้างเดียวยิ่งเห็นมู่มู่จับมือไป่เซเธอรู้สึกอิจฉาแต่เธอก็ได้แค่แอบอิจฉา ไป่เซตกใจที่อยู่ๆมู่มู่ก็มาจับมือเธอไว้แน่นเธอจะดึงมือกลับแต่ก็ไม่กล้ากลัวจะเป็นการหักหน้ามู่มู่ต่อหน้าคนอื่น จากนั้นมู่มู่ก็จูงมือเธอเดินออกมาจากห้องบัลเลต์แล้วพาไปขึ้นรถ \" คุณอยากทานอะไรครับไป่ \" มู่มู่หันมาถามเธอใบหน้าหล่อเหลาจ้องไป่เซอย่างอบอุ่น ไป่เซยิ้มแล้วตอบแบบง่ายๆ \" อะไรก็ได้ค่ะทานได้หมดพี่มู่อยากทานอะไรพี่เลือกเลยค่ะ \" มู่มู่ยิ้มเขารู้สึกว่าดารกลับมาครั้งนี้ของเขาความสัมพันธ์ของพวกเบาจะสนิทกันมากขึ้นเขาชอบที่ไป่เซเรียกเขาว่าพี่ และเขารู้สึกว่าไป่เซของเขาดูไม่เย็นชาเข้าถึงยากเหมือนแต่ก่อน : เพราะอะไรทำไมเธอถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ แต่ช่างเหอะแบบนี้ดีแล้วน่ารักสดใสดี : \" อื้ม! ได้งั้นวันนี้พี่เป็นคนเลือกแล้วกัน \" ไป่เซพยักหน้าเผยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ทำให้มู่มู่ที่มองเธอนั้นอยากจะดึงเธอเข้ามากอด มู่มู่เคลิ้มไปห้าวิ พอดึงสติกลับมาได้ก็สตาร์ทรถแล้วกับออกไป พวกเขามุ่งหน้าไปยังห้างขนาดใหญ่แล้วเข้าไปในร้านอาหารที่เขาต้องการมาทานมื้อเช้าแต่ตอนนี้ก็ไม่เช้าแล้วสิบโมงกว่าแล้วพอถึงก้างทั้งสองลงจากรถแล้วมุ่งไปยังร้านซูชิ \" อ๋อที่แท้พี่มู่จะพามากินซูชิ \" มู่มู่ยิ้มแล้วจับมือไป่เซจูงมือเธอเข้าไปในร้านซูชิทั้งสองนั่งอยู่ข้างในแล้วเลือกซูชิกันอย่างมีความสุข \" ถ้าพี่จำไม่ผิดไป่ชอบทานซูชิ ชอบชาบู หมูกระทะเมื่อก่อนมีผู้หญิงที่แสนเย็นชาคนนั้นบอกพี่ว่า มันคุ้มดีอิ่มนานด้วย \" ไป่เซยิ้มพร้อมกับคุยเล่นกับมู่มู่ \" ไม่คิดว่าคุณชายมู่จะเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดคนอื่นดีขนาดนี้ \" มู่มู่ยิ้มพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า \" ก็ไม่เสมอไปหรอกนอกจากพ่อแม่แล้วก็ใส่ใจเฉพาะคนสำคัญของใจ \" ไป่เซชะงักงันไปชั่วขณะจากนั้นก็ยิ้มเจื่อนๆไปไม่เป็น แล้วคีบซูชิไปให้มู่มู่ : ทำไมถึงรู้สึกไม่ดีแบบแปลกๆนะเราควรจะดีใจสิเราต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆช่างเหอะคงเพราะห่างกันไปนานอยู่ๆไปก็คงเหมือนเดิม : ทั้งสองนั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ๆมู่มู่ก็เอ่ยขึ้นสีหน้าดูจริงจัง \" ไป่พวกเราหมั้นกันก่อนดีมั้ย \" ไป่เซหยุดชะงักไปมู่มู่มองเธอและรอคำตอบจากเธอเธอนิ่งไปสักพักจึงเอ่ยว่า \" พี่มู่ฉันว่ามันเร็วเกินไปมั้ยคะ พี่มู่เพิ่งจะถอนหมั้นกับคุณหนูลี่เหม่ยเอินแล้วมาหมั้นกับฉันต่อแบบนี้ภาพลักษณ์พวกเราจะดูไม่ดีเอานะคะและฉันอาจจะถูกมองเป็นมือที่สามซึ่งฉันไม่โอเคค่ะ \" ไป่เซพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและตรงไปตรงมา มู่มู่รู้สึกไม่สบายใจเพราะเขาเองก็กลัวไป๋เจิ้นหลงจะเอาชนะใจไป่เซได้แม้ใจไป่เซตอนนี้มีเขาคนเดียวแต่ความใกล้ชิดระหว่างไป่เซกับไป๋เจิ้นหลงมันทำให้เขากลัวจริงๆ \"ผมรู้ว่าคุณต้องพูดแบบนี้ผมรู้เรื่องที่คุณถูกลักพาตัวแล้วผมไม่สบายใจเลย ผมอยากปกป้องคุณให้ได้มากกว่านี้ คุณอยู่ใกล้ไป๋เจิ้นหลงแล้วทำให้ผู้หญิงของเขาไม่พอใจแล้งลงมือกับคุณครั้งนี้คุณโชคดีแต่ถ้ามีครั้งต่อๆไปล่ะใครจะรับประกันได้บ้าง \" มู่มู่รู้สึกเป็นห่วงไป่เซจริงๆเขารู้ว่าคนอย่างไป๋เจิ้นหลงมีผู้หญิงเยอะเขาอยู่ในวงการธุรกิจก็พอจะเห็นข่าวบ้างแม้จะอยู่คนละประเทศก็ตาม แต่เขารู้สึกแปลกใจที่ช่วงนี้ไป๋เจิ้นหลงไม่มีข่าวผู้หญิงแล้วก็ยิ่งทำให้กลัวและยิ่งทำให้เป็นห่วงไป่เซมากขึ้น ไป่เซเงียบไปที่มู่มู่พูดเธอรู้สึกว่ามันก็ถูกแต่เธอจะหมั้นกับเขาในเวลานี้ไม่ได้เพราะคุณปู่เธอได้ประกาศกับสื่อไปว่าเธอเป็นคู่หมั้นของไป๋เจิ้นหลงเธอจะทำให้คุณปู่บุญธรรมที่ส่งเสียสนับสนุนดูและเธอฝึกฝนเธอในทุกด้านผิดหวังได้อย่างไร ถ้าไม่มีคุณปู่เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้มั้ย \" พี่มู่ฉันเข้าใจที่พี่เป็นห่วงฉันแต่พวกเราจะหมั้นไม่ได้ช่วงนี้บริษัทคุณปู่มีปัญหาหลายอย่างฉันไม่รู้ว่าพี่รู้ข่าวหรือยังที่คุณปู่ประกาศว่าฉันเป็นคู่หมั้นของไป๋เจิ้นหลง ถ้าอยู่ๆเราสองคนหมั้นกันก็เท่ากับว่าคุณปู่โกหกหลอกลวงมีผลกระทบไปถึงบริษัทฉันทำไม่ได้ค่ะ \" เมื่อพูดถึงตรงนี้เธอก็มีสีหน้าเศร้าขึ้นมาทันทีเพราะเธอไม่อยากแม้แต่จะมีข่าวลือกับไป๋เจิ้นหลงแต่เธอก็พยายามเข้าใจว่าทำเพื่อธุรกิจและชีวิตของพนักงาน มู่มู่ถอนหายใจแล้วไปกุมมือไป่เซไว้อย่างเข้าใจ \" อืม พี่เข้าใจงั้นเรื่องหมั้นเรารอให้ผ่านเรื่องพวกนี้ไปก่อนแล้วค่อยคุยกันอีกที แต่คุณรับปากผมได้มั้ยว่าจะอยู่ห่างๆไป๋เจิ้นหลงไม่เข้าใกล้เขาเกินความจำเป็น \" \" ได้ค่ะ ฉันรับปาก อ้อจริงสิเดี๋ยวฉันจะพาพี่ไปแนะนำให้คุณปู่รู้จัก \" \" อืมได้ งั้นวันนี้พี่อยู่รอเราเลยแล้วกัน \" \" โอเคค่ะ \" ไป่เซยิ้มทั้งสองกินไปคุยไปไป่เซมองดูนาฬิกาในมือด้วยท่าทางตกใจ \" พี่มู่ได้เวลาซ้อมแล้วพวกเราไปกันเถอะ \" มู่มู่พยักหน้าแล้วก็จ่ายตังค์จากนั้นทั้งสองก็เดินออกไปจากร้านซูชิแล้วลงไปบันไดเลื่อน พวกเขาสวนทางกับไป๋เจิ้นหลงที่กำลังขึ้นมาข้างกายไป๋เจิ้นหลงมีดาราสาวควงแขนเขาอยู่ไป่เซเห็นเขาเข้าตกใจไป๋เจิ้นหลงเห็นเธอก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที ไป่เซรู้สึกเจ็บแปล๊บที่อกอย่างบอกไม่ถูก อีกความรู้สึกหนึ่งคือรังเกียจขยะแขยง มู่มู่เห็นท่าทางของไป๋เจิ้นหลงก็คว้ามือของไป่เซมากุมไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเมื่อมือมู่มู่มาสัมผัสมือเธอไป่เซถึงได้สติละสายตาจากไป๋เจิ้นหลงแล้วหันไปมองมู่มู่แล้วยิ้มให้เขาทันทีราวกับไม่เห็นอะไร
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 34 รังเกียจ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A