ตอนที่ 39 ถอนหมั้น
1/
ตอนที่ 39 ถอนหมั้น
ลิขิตฟ้าทุกภพชาติรักแค่เธอ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 39 ถอนหมั้น
ในเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาก็ออกเดินทางไปขึ้นเครื่องแต่เช้าระหว่างนั่งเครื่องไป่เซได้แต่จ้องเบอร์ของมู่มู่สีหน้าหม่นหมองท่าทางเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อถึงหมู่บ้านบนดอยไป่เซก็ไปที่บ้านเรือนไม้ของเธอที่อยู่บนยอดเขาพร้อมกับไป๋เจิ้นหลง ส่วนพ่อแม่ของไป่เซก็จัดเตรียมพิธีผูกข้อไม้ข้อมือให้กับเธอ วัตถุดิบและอุปกรณ์ที่จำเป็นชุดเครื่องแต่งกายแบบชนเผ่าถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ในเช้าวันต่อมาเธอถูกจัดให้แต่งตัวด้วยชุดชนเผ่าสีแดงลวดลายสวยงามปราณีตและอลังส่วนไป๋เจิ้นหลงก็สวมเสื้อผู้ชายสีแดงของชนเผ่าเช่นกัน งานหมั้นเล็กๆเรียบง่ายของทั้งสองมีเพียงญาติพี่น้องเท่านั้นที่ถูกเชิญมาแต่ไป๋เจิ้นหลงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายยังไงก็ต้องจัดงานหมั้นครั้งที่สองอยู่ดี จินฟาจินซาคนหนึ่งถือเครื่องเงินคนหนึ่งถือเครื่องทอง ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวในอนาคตอย่างเจียผงเหอสะพายถุงย่ามข้างในเต็มไปด้วยเงินสดและมีชาวบ้านที่เป็นตัวแทนของทางฝั่งไป๋เจิ้นหลงสองคนเป็นคู่สามีภรรยา เดินตามหลงไป๋เจิ้นหลง พวกเขาเดินเข้าไปในบ้านเรือนไม้ข้างในถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม่สดที่ไป่เซปลูกเองดูแล้วสวยงาม ในห้องจัดงานมีโต๊ะไม้สักเงาวับมีการวางพานบายสีที่ทำขึ้นสวยงามปราณีต ข้างในมีด้ายสีขาวหรือสายสิญจน์สำหรับผูกข้อมือ และมีเก้าอี้หนึ่งคู่สำหรับไป่เซและไป๋เจิ้นหลงนั่งแหวนเพชรเม็ดงามถูกจัดวางตรงหน้า ส่วนเครื่องประดับที่เป็นชุดเครื่องเงินเครื่องทองก็ถูกจัดวางอยู่ด้านข้างแหวนหมั้นส่วนเงินสด9,999บาทถูกจัดเรียงไว้ในพานแล้ววางแหวนเพชรไว้ข้างบนอยู่ระหว่างชุดเครื่องเงินและทอง ไป๋เจิ้นหลงนั่งลงจากนั้นพ่อแม่ของไป๋เซก็พาเธอออกมาจากห้องนอนเข้ามายังห้องจัดงานไปเซในชุดชนเผ่าสีแดงเธอดูสูงเรียวยาวสง่างามชุดยาวของเธอพลิ้วไปตามการเคลื่อนไหวของเธอ ที่ยาวสลวยถูกถักเปียเก็บจัดแต่งแบบเรียบง่ายแต่ดูหรูผมข้างหลังถูกปล่อยบนหัวที่มีการถักเปียก็ประดับด้วยเครื่องประดับมุกเล็กๆและดอกพิกุลเงินพิกุลทองเล็กๆเท่าหัวนิ้วชี้ เป็นงานที่ละเอียดปราณีตซึ่งเป็นเครื่องประดับที่ไป่เซสั่งทำไว้เป็นพิเศษนานแล้วเพราะเธอชอบดอกพิกุล ไป๋เจิ้นหลงและทุกคนต่างตะลึงในความงามของไป่เซมองตาค้างกันเป็นแถวผิวสีขาวกับชุดสีแดงทำให้เธอดูง่ามากขึ้น ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อนแรงแต่อ่อนโยนใบหน้าเล็กขาวใสเข้ารูปเป็นใบที่เพอร์เฟคหุ่นดีด้วยความยาวของชุดทำให้นุ่มนวลอ่อนโยน เมื่อไป่เซนั่งลงไป๋เจิ้นหลงก็หยิบแหวนหมั้นทั้งสองสวมให้กันและกันพ่อแม่ของฝ่ายหญิงและตัวแทนของฝ่ายชายก็เริ่มมาผูกข้อไม้ข้อมืดให้พร้อมกับคำอวยพรและญาติคนอื่นๆก็ตามมาผูกข้อมือพร้อมอวยพรต่อจนเสร็จพิธีหมั้น พิธีหมั้นผ่านไปสองสามวันไป่เซก็ลาพ่อแม่จากนั้นพวกเขาก็เดินทางกลับ ขึ้นเครื่องที่กรุงเทพแล้วไปยังจีนต่อในทันทีไม่มีการพัก เมื่อถึงจีนไป่เซกลับไปพักที่คฤหาสน์ตระกูลไป๋เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองดูเบอร์ของมู่มู่และเกือบจะโทรออกหลายครั้งแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่โทรออก ขณะนั้นประตูห้องเธอก็ถูกเปิดออกเธอสะดุ้งมองไปทางประตู \" เข้ามาทำไมไม่รู้จักเคาะประตู \" เธอพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ไป๋เจิ้นหลงตอนนี้ไม่ใส่ใจอะไรกับน้ำเสียงของไป่เซยิ้มแล้วตอบไปว่า \" หืม เข้าห้องคู่หมั้นตัวเองต้องเคาะประตูก่อนด้วยเหรอ \" ไป่เซจ้องเขม็งไปที่เขาแล้วรีบเก็บโทรศัพท์แล้วเอ่ยถามออกไปว่า \" คุณมาหาฉันมีธุระอะไร \" \" โธ่ ที่รักผมเป็นคู่หมันคุณนะผมมาหาคุณต้องมีธุระด้วยเหรอ \" ไป๋เจิ้นหลงพูด พูดจบไป๋เจิ้นหลงก็เข้าไปโอบกอดไป่เซจากด้านหลังไป่เซแกะมือเขาออกแต่ไม่สำเร็จเธอหงุดหงิดมาก \" ที่รักผมขอกอดคุณแบบนี้สักพักนะ แม้ว่าในหัวใจคุณสร้างกำแพงปิดกั้นผมไว้ไม่ให้เข้าไปได้แต่ผมจะพยายามจำลายกำแพงในหัวใจคุณให้ได้และเข้าไปครองหัวใจของคุณและทำให้ทั้งหัวใจของคุณมีแค่ผมคนเดียว \" ไป๋เจิ้นหลงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพูดจบก็เอาคางยื่นวางลงบนไหล่ของไป่เซเบาๆมือทั้งสองข้างของเขากอดเธอแน่นขึ้น ไป่เซอึ้งกับน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนปนเศร้า แต่เธอก็สัดความคิดที่ว่าเศร้านั้นออก มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาได้ทุกสิ่งที่เขาต้องการแล้วเขาทำสำเร็จทุกอย่างแล้วเขาจะเศร้าทำไมเป็นไปไม่ได้ เมื่อคิดได้แบบนี้เธอพูดขึ้นว่า \" แล้วแต่คุณแล้วกันถ้าคุณความสามารถทำลายกำแพงที่ฉันสร้างขึ้นได้ฉันรับปากว่าจะรักแค่คุณเดียว \" ไป๋เจิ้นหลงยิ้มแล้วพูดว่า \" แน่นอนอยู่แล้วถ้าทำลายกำแพงที่คุณสร้างขึ้นได้ก็หมายความว่าผมเข้าไปอยู่ในหัวใจคุณแล้วคุณก็ต้องรักผมคนเดียวถ้าคุณไม่รักผมผมจะทำลายกำแพงในใจคุณได้ยังไง \" ไป่เซแสยะยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น \" หึ ฟังที่คุณพูดเหมือนคุณจะมั่นใจจังเลยนะ \" ไป๋เจิ้นหลงยิ้มแล้วพูดว่า \" แล้วที่คุณยอมให้ผมกอดแบบนี้แปลว่าคุณก็เริ่มใจอ่อนให้ผมแล้วสิ \" ไป่เซสะดุ้งตาโต เธอนึกไม่ถึงว่าตนเองจะหลงกลไป๋เจิ้นหลงเข้าแล้ว จากนั้นเธอก็ผละตัวออกห่างกับไป๋เจิ้นหลงทันทีแล้วหันหน้าเผชิญกับเขามองอย่างอารมณ์เสียมือเธอดันไว้ที่หน้าอก ไป๋เจิ้นหลงกอดรัดแน่นที่เอวเธอไม่ยอมไปล่อย \" คุณ คุณมันเจ้าเล่ห์ \" เธอพูดอะไรไม่ออกเพราะเมื่อกี้ไม่รู้เพราะอะไรเธอถึงยอมให้เขากอดอย่างนั้นหน้าเธอร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย ไป๋เจิ้นหลงมองผู้หญิงของเขาที่แก้มแดงขึ้นเรื่อยๆยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า \" ถ้าคุณพูดอีกผมจะจูบคุณนะ เขาชอบเวลาที่เธอเขินแล้วเสียฟอร์มจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้มันน่ารักกินใจเขาจริงๆ \" คุณพ่อคุณแม่ผมกลับมาจากต่างประเทศแล้วอีกเดี๋ยวก็ถึงสนามบินพวกเราออกไปรับเขากัน \" พูดจบไม่รอให้ไป่เซตอบไป๋เจิ้นหลงก็หอมไปที่แก้มของไป่เซแล้วอุ้มเธอลงไปชั้นล่าง ไป่เซไม่ทันตั้งตัวรู้ตัวอีกทีก็ถูกอุ้มแล้วเธอมึนงงสับสนไปหมดว่าตัวเองเป็นอะไร \" นี่คุณปล่อยฉันลงนะ คุณไม่อายแต่ฉันอายนะ ฉันโตแล้วไม่ใช่เด็กปล่อย \" ไป๋เจิ้นหลงไม่ยอมปล่อยแถมจูบไปที่ปากของเธออีกแล้วเดินไปที่รถที่จอดรอวางเธอลงนั่งตรงข้างคนขับแล้วไป๋เจิ้นหลงก็ขับรถออกไป ไป่เซคิดทบทวนตลอดทางว่าวันนี้ตนเองเป็นอะไรไปดูมึนงงเหมือนไม่มีสติเลยถูกไป๋เจิ้นหลงแกล้งคงเพราะเธอเหนื่อยจากการเดินทางแน่เลย เมื่อคิดได้แบบนี้เธอมองไป๋เจิ้นหลงแวบหนึ่งไป๋เจิ้นหลงที่ตั้งใจขับรถมองตรงไปข้างหน้าช่างดูหล่อเหลาไร้ที่ติผิวขาวตาสวยจมูกโด่งปากได้รูป ดูเงียบขรึมสุขุมลุ่มลึกเย็นชา ช่างมีเสน่ห์หล่อเหลาไร้ที่ติจริงๆ ไป่เซจ้องมองใบหน้าไร้ที่ติอย่างไม่ละสายตาราวกับตกต้องมนต์ เธอไม่เคยมองไป๋เจิ้นหลงแบบนี้มาก่อนและไม่เคยอยู่กับเขาอย่างแบบสงบศึกมาก่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอนั่งข้างเขาแล้วรู้สึกสบายใจไร้สิ่งอื่นใดมากวนใจให้หงุดหงิด หรือว่าเพราะไป๋เจิ้นหลงพูดจาดีทำตัวดีไม่ยุ่งวุ่นวายไม่หาเรื่องเธอ ไป่เซจ้องใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับถามตัวเองในใจ ไป๋เจิ้นหลงรู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาได้สักพักแล้วจึงยิ้มมุมปากอย่างพอใจและเปล่งน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนกว่าปกติ \" มองพอหรือยังหื้มทีนี้คุณรู้แล้วใช่มั้ยว่าผมหล่อแค่ไหน \" ไป่เซได้สติก็กลอกตาไปมา \" ใครมองคุณ ใครบอกว่าคุณหล่อ หลงตัวเอง \" \" ก็เห็นอยู่ว่ามองผมยังมาเถียงอีกคุณควรจะภูมิใจนะที่สามีของคุณหล่อและดีขนาดนี้ \" ไป๋เจิ้นหลงพูด พอได้ยินคำว่าสามีเธอก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที \" คุณพูดให้ดีๆนะอย่าพูดมั่วซั่วคุณยังไม่ใช่สามีฉัน \" \" ก็ผมเป็นของคุณแล้วไม่เรียกว่าสามีแล้วเรียกอะไร \" ไป๋เจิ้นหลงยังพูดหยอกเธอเล่นพร้อมกับยิ้ม \" คุณแน่ใจเหรอว่าอยากให้ฉันพูดต่อว่าการที่คุณไปมี....\" ไป่เซพูดไม่ทันจบไป๋เจิ้นหลงก็พูดขัดขึ้น \" พอๆๆๆไม่ต้องพูดแล้วคุณภรรยาเรื่องในอดีตก็ให้มันผ่านไป เมื่อก่อนผมยังไม่ได้เจอคุณหนิใช่มั้ยไม่พูดแล้วนะครับ \" ไป่เซรู้สึกว่าบรรยากาสตอนนี้มันแปลกขึ้นเรื่อยๆราวกับเป็นคู่สามีภรรยาใหม่ เธอจึงเลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไรต่อแล้วเพราะเธอรับไม่ได้จริงๆยิ่งพูดกับไป๋เจิ้นหลงยิ่งเหมือนถลำลึกเข้าไปใกล้เขา : เงียบนิ่งดีที่สุด : ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์สั่นก็ดังขึ้นในกระเป๋าของเธอ เธอหยิบขึ้นมาดูเป็นเบอร์มู่มู่ใจที่เต้นปกติก็เต้นแรงขึ้นในทันที ตุบๆๆๆจนเธอหายใจแทบไม่ทัน ไป๋เจิ้นหลงเหลือบมองเธอแวบหนึ่งก็เห็นความปิดปกติของเธอจึงถามขึ้นว่า \" ใคร! \" น้ำเสียงค่อนข้างชัดเจนความอบอุ่นก่อนหน้าหายไปจนหมดสิ้น \" เพื่อนน่ะ \" ไป่เซตอบแบบเรียบเฉยราวกับไม่มีอะไรสำคัญไป๋เจิ้นหลงไม่ได้โง่มีหรือเขาจะเชื่อ \" เพื่อนทำไมไม่รับสายคุณกลัวอะไร \" เมื่อได้ยินไป๋เจิ้นหลงพูดคำว่า คุณกลัวอะไร เหมือนเธอจะรู้สึกตัวขึ้นมาทันใด : ใช่สิกลัวอะไร ไป๋เจิ้นหลงเป็นใคร แค่หมั้นกันหมั้นได้ก็ถอนได้ : คิดได้แบบนี้เธอจึงกดรับสายแล้วพูดขึ้น \" ฮัลโหลพี่มู่ \" ไป๋เจิ้นหลงได้ยินเธอเรียก พี่มู่ ก็โมโหขึ้นมาทันทีขับรถด้วยความเร็วสูงอย่างไม่คิดชีวิต \" ไม่ได้คุยกันหลายวันกลับมาผมยุ่งมากไม่มีเวลาโทรหาคุณเลยผมคิดถึงคุณตลอดนะ คุณสบายดีมั้ย\" เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนโยนและคุ้นเคยไป่เซลืมเสียสนิทเลยว่าไป๋เจิ้นหลงขับรถเร็วขึ้นความรู้สึกผิดก็ถาถมเข้ามาในอกน้ำตาเธอเอ่อล้นออกมาอย่างเศร้าใจและเงียบไป ไป๋เจิ้นหลงยิ่งเห็นเธอเป็นแบบนี้ก็ยิ่งโกรธและโกรธมากขึ้นเมื่อเห็นเธอลืมความกลัวและไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าเขาขับเร็วไป๋เจิ้นหลงจึงตัดสินใจเบร็คกะทันหันจอดข้างทางอย่างรวดเร็ว ไป่เซที่ไม่ได้คาดเบลท์หัวก็ชนเข้ากับกระจกเสียงดัง \" ตุบ! \" เธอจึงรู้สึกตัว มู่มู่รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกไปเพราะไป่เซเงียบไปนานและมาได้ยินเสียงดัง ตุบ อีกเขายิ่งรู้สึกร้อนใจ \" ไป่! ไป่ เเสียงอะไรน่ะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า ไป่! \" เมื่อได้ยินเสียงมู่มู่ไป่เซจึงตอบไปว่า \" ไม่มีอะไรค่ะ พี่มู่งั้นแค่นี้ก่อนนะคะฉันมีธุระต้องทำอยู่ค่ะ \" ขณะที่พูดมือหนึ่งก็จับไปที่หัวสายตามองไปที่ไป๋เจิ้นหลงอย่างดุร้ายไม่พอใจอย่างมากแต่เธอก็กดน้ำเสียงให้ปกติที่สุด พอเธอพูดจบมู่มู่ยังไม่ทันได้ตอบและเธอกำลังจะวางสายไป่เจิ้นหลงก็พูดขึ้นว่า \" ทำไมถึงจะรีบวางสายล่ะ ไม่อยากคุยกับเพื่อนแล้วหรือ \" ไป๋เจิ้นหลงถามอย่างยั่วยุแต่ไป่เซไม่ตอบกลับเป็นมู่มู่ที่พูดขึ้น \" ไป่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมคุณอยู่กับไป๋เจิ้นหลงเหรอ \" น้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยนของมู่มู่หายไปในทันทีที่ได้ยินเสียงไป๋เจิ้นหลง \" พี่มู่ใจเย็นๆนะเดี๋ยวฉันค่อยโทรหาพี่ทีหลังนะคะตอนนี้ไปรับคุณพ่อคุณแม่บุญธรรมไม่สะดวกคุย ฉันขอวางก่อนนะคะ \" ไป่เซไม่รอให้มู่มู่ตอบก็รีบวางสายเพื่อตัดปัญหาถ้ายังคุยเธอเชื่อว่าคนที่จะได้รับผลกระทบไม่ใช่เพียงแค่เธอแต่มีมู่มู่ด้วย เมื่อสายถูกตัดมู่มู่ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเอาโทรศัพท์ขว้างไปที่ผนังอย่างแรงนิ้วมือสั่นกำแน่นจนเล็บกลายเป็นสีขาว เลขาได้ยินเสียงดังก็ตกใจรีบวิ่งเข้ามาในห้องเห็นเจ้านายโกรธจนสั่นโทรศัพท์ที่ตกแตกเป็นชิ้นๆก็ยืนอึ้งอยู่กับที่ เขาไม่เคยเห็นเจ้านายเขาโกรธรุนแรงแบบนี้มาก่อนตั้งแต่ทำงานข้างกายเขามาสิบปี เลขาพอจะเดาออกว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้านายเขาโกรธขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เรื่องคุณหนูไป่ก็ไม่มีเรื่องอื่นแล้วที่จะทำให้เจ้านายเขาโกรธได้ \" จองตั๋วไปจีน! \" มู่มู่เอ่ยออกมาอย่างหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำแฝงไปด้วยความโกรธ เลขาได้ยินแบบนี้ก็รวบรวมความกล้าพูดโน้มน้าวอย่างกล้าๆกลัวๆประมาณว่าลองเสี่ยตายดูสักครั้ง \" เอ่อ คุณชายครับคือช่วงนี้บริษัทงานยุ่งมาก คุณชายใจเย็นๆสงบสติอารมณ์ก่อนแล้วค่อยคิดดีๆอีกทีดีมั้ยครับ \" ปกติมู่มู่เป็นคนใจเย็นอยู่แล้วพอได้ยินเลขาพูดเกี่ยวกับบริษัทเขาก็ใจเย็นลงมานิหน่อยแล้วค่อยๆถอนหายใจเบาๆไปนั่งบนโซฟาหลับตาลงช้าๆ : ไป่คุณรอผมนะ ผมกลัวเหลือเกินกลัวคุณจะใจอ่อนให้กับมัน \" ทางด้านไป๋เจิ้นหลงอยู่ๆก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปยังเบอร์เบอร์หนึ่งไป่เซตกใจจนหน้าซีด \" ออกไปรับคุณพ่อคุณแม่ผมที่สนามบินทีถ้าท่านถามบอกว่ามีธุระด่วนไปรับไม่ได้แล้ว \" พูดจบก็วางสายไปไป่เซโล่งอกไปเปราะหนึ่งทีแรกเธอนึกว่าเขาจะสั่งคนไปทำร้ายมู่มู่ซะอีก เธอถอนหายใจเบาๆ ไป๋เจิ้นหลงเห็นท่าทางเธอก็ดูออกและพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า \" ทำไมกลัวผมจะไปฆ่าชู้รักของคุณเหรอ \" คำว่าชู้ไป่เซรับไม่ได้เลยจริงๆกับคำนี้เธอหายใจเข้าลึกๆสงบสติอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ปะทุขึ้น นิ่งเงียบไปสักพักเธอจึงเอ่ยอย่างราบเรียบว่า \" สามวันดีสี่วันร้ายเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายไป๋เจิ้นหลงฉันขอร้องล่ะคุณหัดมีเหตุผลเลิกใช้แต่อารมณ์สักทีเถอะ \" แรกๆน้ำเสียงก็ฟังดูเรียบๆใจเย็นอยู่แต่ตอนท้ายกลับเปลี่ยนเป็นเสียงสองซะงั้น \" ขึ้นอยู่กับคุณ ถ้าคุณเลิกติดต่อกับมู่มู่ผมถึงจะดีกับคุณไปตลอด \" ไป่เซโกรธและหมดอารมณ์ที่จะสนทนากับคนแบบนี้แต่เธอก็ต้องพูดให้ชัดเจน \" อย่าไร้สาระได้มั้ย คุณวางยาฉันจัดฉากบีบบังคับให้ฉันหมั้นกับคุณมันยังไม่พอใจคุณอีกเหรอ ฉันรู้สึกผิดกับมู่มู่จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว อยู่ๆคุณจะให้ฉันเลิกติดต่อกับเขามันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ \" ไป่เจิ้นหลงได้ยินก็ยิ่งโกรธเขารู้สึกว่าไป่เซที่เป็นผู้หญิงของเขาจะแคร์ผู้ชายคนนั้นมากๆเขาจะยอมได้ยังไงจากนั้นเขาค่อยๆสงบสติอารมณ์ลงแล้วพูดว่า \" หึ! เห็นแก่ตัวงั้นเหรอ ถ้าผมทำแบบคุณบ้างคุณจะรู้สึกยังไง \" เขาอยากจะรู้นักว่าถ้าเขามีผู้หญิงคนอื่นเธอจะหึงเขาบ้างมั้ยทั้งที่ความจริงมีผู้หญิงมากมายมาถวายตัวให้เขา ก่อนหน้านี้เขายอมรับว่าเขาชอบเล่นกับพวกดารานางแบบพวกคุณหนูไฮโซ แต่หลังจากเจอไป่เซเขากลับเปลี่ยนเป็นคนละคนความเจ้าชู้หายไปหมดและที่สำคัญกว่านั้นคือไม่ว่าผู้หญิงจะสวยเซ็กซี่แค่ไหนจะยั่วยวนเขาด้วยวิธีอะไรเขาก็ไม่มีอารมณ์เลยสักนิด เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาโกรธตัวเองมากและรอคำตอบจากปากของไป่เซ ไป่เซเงียบไปสักพักก็พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า \" ฉันจะรู้สึกอะไร เกี่ยวอะไรกับฉัน คุณจะทำตัวยังไงมันก็เรื่องของคุณ ดีชั่วเลวคุณควรรู้สำนึกเองได้ ไม่ใช่เด็ก \" พูดจบเธอก็เปิดประตูลงจากรถไปไป๋เจิ้นหลงมองเธอที่ลงจากรถก็โมโหจัดทุบไปที่แตรเสียงดังจนไป่เซสะดุ้ง ผู้หญิงคนนี้จะยั่วโมโหให้อกเขาระเบิดแตกตายเลยรึไง ไป่เซเดินตรงไปข้างหน้าไม่แม้จะหันกลับมามองข้างหนังและบ่นอย่างโมโหว่า \" ถ้าอยู่กับคนบ้าอย่างไป๋เจิ้นหลงอีกห้านาทีมีหวังอกแตกตายพอดีเผลอๆได้บ้าตามแบบไม่รู้ตัวชัวร์ \" ครั้งนี้เธอถือว่าจัดการการอารมณ์ตนเองได้ดีทีเดียว เดินอยู่ดีๆตัวเธอก็ลอยขึ้นรู้ตัวอีกทีถูกอุ้มกลับมาที่รถแล้วถูกโยนลงบนเบาะแล้วเรียบร้อย ไป๋เจิ้นหลงเข้ามานั่งในรถแล้วพูดอย่างเย็นชาและเลือดเย็นว่า \" ต่อไปเรื่องของคุณกับมันผมจะไม่ยุ่งไม่ว่าอะไรคุณแล้วคุณอยากจะนัดเจออยากจะทำอะไรก็ทำแต่คุณต้องไม่ลืมปรนนิบัติว่าที่สามีในอนาคตเว้นแต่ผมจะพอใจจากข้างนอกแล้วจะไม่แตะต้องคุณ \" ได้ยินแบบนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะยินดีเห็นด้วยหรอกความของที่เดิมที่มีน้อยมากตอนนี้เดือดดาลอย่างรุนแรง \" ไป๋เจิ้นหลงคุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง คุณจะดูถูกฉันมากไปแล้วนะคุณรู้มั้ยฉันรู้สึกรังเกียจทั้งคุณและพวกผู้หญิงของคุณขนาดไหน อย่าคิดว่าฉันหมั้นกับคุณแล้วฉันถอนหมั้นไม่ได้งั้นเหรอ \" ไป๋เจิ้นหลงเมื่อได้ยินคำว่าถอนหมั้นออกจากปากของไป่เซเขาโกรธมากแต่ไม่แสดงความโกรธออกมาแต่พูดด้วยน้ำเสียงที่ถูกกดให้ต่ำจนฟังดูน่ากลัวว่า \" ถอนหมั้น ถอนหมั้นงั้นเหรอฝันไปเถอะ \" จากนั้นก็ขับรถกลับไปยังคฤหาสน์อย่างเร็วพอถึงบ้านก็ดึงมือไป่เซลงมาแล้วลากขึ้นไปบนห้องแล้งขังเธอไว้ \" คุณอยู่ในนี้แหละคืนนี้ไม่ต้องกินข้าวไม่ต้องกินน้ำ ห้องมืดๆนี้แหละเหมาะกับผู้หญิงใจดำไร้หัวใจอย่างคุณที่สุด ที่ผ่านมาผมใจดีกับคุณมามากพอแล้ว จากนี้ไปมันจะไม่มีอีก \"
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 39 ถอนหมั้น
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A