ตอนที่ 42 กิ๊กลับๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 42 กิ๊กลับๆ
หญิงสาวที่ส่งเสียงร้องใสๆไพเราะน่าฟังเธอดูสง่างามในฉบับสาวจีนยุคโบราณเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่นั้นพลิ้วไปตามการเคลื่อนไหวที่อ่อนโยนของเธอ น้ำเสียงอันไพเราะของหญิงสาวที่ร้องไปเคลื่อนไหวตามท่วงทำนองไปอย่างสง่างามท่ามกลางดอกบัวแสงสีส่งให้รัศมีเธอดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นรวมกับฉากแสงสีเสียงที่อลังการรวมเข้ากันอย่างลงตัวสะกดทุกสายตาให้หยุดนิ่งจดจ้องไปที่เธอ หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเธอคือดาราสาวสวยชื่อดังสุดเซ็กซี่ในตอนนี้ของประเทศจีนมีนามว่า ลู่เหยียน ผู้หญิงที่เป็น \" กิ๊กลับๆ \" ของไป๋เจิ้นหลง และในครั้งนี้ไป๋เจิ้นหลงเป็นคนเลือกเธอเอง ไป๋เจิ้นหลงรู้สึกว่าหญิงสาวที่ร้องเพลงร่ายรำอยู่บนเวทีนั้นดูสง่างามตามที่เขาต้องการจริงๆ เขารู้สึกชื่นชมหญิงสาวที่ถ่ายทอดความเป็นจีนได้อย่างสวยงามสง่าและเขารู้สึกพอใจกับฉากบนเวทีมาก เขาชื่นชมและพอใจผู้ออกแบบผู้จัดฉากแสงสีเสียงเป็นอย่างมากที่ทำให้การแสดงชุดแรกของประเทศจีนออกมาได้สมบูรณ์แบบอลังการ ทำให้คนดูเข้าถึงการแสดงได้อย่างแท้จริงรู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่ในยุคโบราณสัมผัสกลิ่นไอของความเป็นจีนที่มีเสน่ห์และสวยงาม ใบหน้าหญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนโยนมองไปยังชายหนุ่มที่โหนสลิงบินลงมาหาเธอสวมใส่อาภรณ์สีขาวสง่างามราวกับเทพเซียนชายผ้าพลิ้วไปตามแรงลมส่งมือยื่นไปสวมกอดหญิงสาวทั้งสองร่ายรำแสดงบทรักที่เป็นรักนิรันดิ์กลางดอกบัวอย่างอ่อนโยน การแสดงจบลงเสีงดนตรีค่อยๆหรี่ลงพร้อมกับแสงสีของไฟผู้แสดงทุกคนหยุดเคลื่อนไหวแสงไฟรอบๆค่อยๆกลายเป็นความมืดแล้วหรี่ไปเรื่อยๆจนถึงตรงกลางแล้วก็มืดลงเสียงตบมือดังสนั่นขึ้นอย่างพร้อมเพรียง และในระหว่างบนเวทีที่มืดนั้นฉากได้ถูกเปลี่ยนเป็นการแสดงชุดใหม่ โดยมีม่านสีดำของเวทีกั้นไว้อยู่ในขณะเดียวกันพิธีกระสองคนก็เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแต่เดิมใส่ชุดจีนตอนนี้เปลี่ยนเป็นสวมใส่ชุดไทยในชุดราตรีสโมสร(หนึ่งในชุดของการแสดงรำวงมาตรฐาน ) ไฟขาวสว่างทรงกลมส่องไปบนตัวของพิธีกรทั้งสองที่ยืนอยู่ตรงกลางเวทีด้านหลังของพวกเขาคือผ้าม่านผืนใหญ่สีดำราคาแพงพิธีกรกล่าวบรรยายสรุปสั้นๆเกี่ยวกับการแสดงของไทยในชุด ระบำดาวดึงส์ ว่า \" การแสดงชุดแรกของประเทศจีนก็จบลงไปแล้วนะคะในการแสดงชุดต่อไปกับการแต่งกายของเราสองคนก็พอจะทำให้ทุกท่านเดาได้แล้วว่าคือการแสดงจากประเทศไทยเพื่อนบ้านของเรานั่นเองค่ะ \" “ ครับ และในการแสดงชุดนี้พวกเราสองคนคิดว่าจะเป็นการเซอร์ไพรส์แก่ทุกท่านในที่แห่งนี้เพื่อทุกท่านที่รอชมอย่างตื่นเต้นเพื่อให้ตื่นตาตื่นใจไปชมพร้อมๆกันเลยครับกับการแสดงชุด ระบำดาวดึงห์จากประเทศไทย ” สิ้นเสียงพิธีกรจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ค่อยๆเลื่อนลงมาเสียงดนตรีไทยบรรเลงเบาๆช้าๆจากนั้นบนจอโปรเจคเตอร์ก็เริ่มฉาย ตัวอักษรใหญ่ๆอ่านว่า ไทยแลนด์ แล้วเลือนหายไปเป็นภาพทัศนียภาพเอกลักษณ์ศิลปะวัฒนะธรรมการแสดงในแต่ละภาคของไทยบ่งบอกถึงความหลายหลายที่รวมเป็นหนึ่งเดียว ผู้คนรอคอยอย่างตื่นเต้นและรู้สึกว่าการแสดงของไทยลึกลับเกินไปแล้วจนลืมคำว่าเซอร์ไพรส์ที่พิธิกรพูดเมื่อกี้ พอจบการฉายจอโปรเจคเตอร์ไฟก็มืดลงอีกครั้งแต่ว่าครั้งนี้ขณะที่ไฟมืดลงม่านสีดำบนเวทีตรงกลางค่อยๆแยกออกจากกันอย่างช้าๆพร้อมกับเสียงบรรเลงดนตรีสดที่ดังขึ้น เผยให้เห็นความสว่างรางๆข้างในเป็นฉากที่อลังการมากๆราวบนสวรรค์จริงๆ ดนตรีเริ่มบรรเลงตามบทบรรยายพรรณนา เหล่าเทวดานางฟ้าโหนสลิงปรากฏตัวกลางปุยเมฆหมอกลอยคลุ้งกระจายเหล่าเทวดานางฟ้าในชุดเครื่องเต็มยศก็เหาะไปมาแล้วเหยียบลงบนปุยเมฆที่นุ่มนวล เหล่าเทวดานางฟ้าก็บินเหาะมาเรื่อยๆในตำแหน่งของตนเองไล่เรียงระดับลงไป บทบรรยายภาษาอังกฤษก็บรรยายต่อเนื่อพร้อมกับเหล่านักแสดงออกมาเล่นฉากเปิดโดยมีผู้รับบทเป็นพระอินทร์นั่งอยู่บนแท่งสูงสุดที่ประดับตกแต่งด้วยเพชรนิลจินดาวิบๆวับๆ โดยพระอินทร์สวมใส่ชุดเครื่องดูสง่างามแผ่รังสีแห่งความเป็นผู้ปกครองศรวงสวรรค์ ข้างล่างมีรถม้าล้อเพชรประดับตกแต่งด้วยเพชรพลอยขับเคลื่อนออกมา เหล่าเทวดานางฟ้าที่รูปงามหล่อเหล่าสวยสดงดงามตระการตาเคลื่อนไปมาตามจังหวะท่วงทำนองของดนตรีอย่างอ่อนช้อยเผยยิ้มในหน้าอ่อนๆพองามเผยให้รู้ว่ามีความสุข โดยบทบรรยายกล่าวสรุปสั้นๆถึงเรื่องราว ที่มาของระบำดาวดึงส์เป็นภาษาอังกฤษว่า “ ระบำดาวดึงส์ เป็นการแสดงมาตรฐานของไทยอีกชุดหนึ่ง ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ได้ทรงนิพนธ์บทร้องขึ้น ” “ ประกอบการแสดงในบทละครดึกดำบรรพ์ เรื่องสังข์ทอง ตอนตีคลี ” \" โดยเนื้อเพลงกล่าวถึง ความงดงามความโอฬารของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และความมโหฬารตระการตาในทรัพย์สมบัติของพระอินทร์ ตลอดจนความงดงามของเหล่าเทวดานางฟ้าในสรวงสวรรค์ ที่ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข \" ผู้คนเงียบกริบตั้งใจดูการแสดงที่โชว์อยู่บนเวทีสายตาจดจ่ออย่างตื่นเต้นและลุ้นต่อไปพวกเรารู้สึกว่าแค่ฉากเปิดอลังดารขนาดนี้แล้วการแสดงถัดไปสนุกน่าสนใจขนาดไหน ไป๋เจิ้นหลงคุณปู่ไป๋และคุณทวดไปรวมถึงคนอื่นๆรู้สึกถึงความตระการตาของฉากเปิดของการแสดงชุดนี้ อยู่ไป๋เจิ้นหลงนึกได้ว่าลืมใครคนหนึ่งจึงกวาดสายตามองหาไปทั่วแบบนิ่งๆเนียนๆไม่เสียภาพลักษณ์คุณชายไป๋แม้แต่นิดเดียว : ให้ตายเถอะผู้หญิงคนนี้หายหัวไปไหน การแสดงของประเทศตัวเองจะเริ่มแล้วแท้ๆ : ยิ่งมองหาเขาก็ยิ่งหงุดหงิดยิ่งร้อนใจแต่บนใบหน้ากลับเรียบเฉยสง่างาม : หรือว่าเธอจะเกิดเรื่องอีก : ทันใดนั้นไป๋เจิ้นหลงเริ่มรู้สึกเป็นห่วงความโกรธความหงุดหงิดถูกแทนที่ด้วยความร้อนรนไม่เป็นสุขผู้นำทางด้านธุรกิจระดับโลกที่นั่งข้างๆรู้สึกได้ถึงรังสีแผ่ไอร้อนออกมาจากตัวของไป๋เจิ้นหลงจึงเอ่ยถามว่า “ ประธานไป๋มีอะไรหรือเปล่าครับ ” ไป๋เจิ้นหลงยิ้มแล้วตอบว่า “ เปล่าครับ ” แต่ลึกๆเขาก็ทึ่งในความช่างสังเกตและการมีประสาทสัมผัสที่ดีของประธานใหญ่แห่งวงการธุรกิจระดับโลกคนนี้แม้หน้าตาจะดูอ่อนกว่าอายุแต่สมองการรับรู้การสัมผัสช่างสังเกตมีไหวพริบสมกับตำแหน่งนี้จริงๆ นั่งอยู่ตั้งนานต่างคนต่างไม่สนใจกันวางตัวหยิ่งทระนงองอาจเหมือนกันสายตาจดจ่อไปบนเวที เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยถามเขาสังเกตสำรวจไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาคมเข้มคนละแบบกับเขาคนนี้นั้นเมื่อเทียบกันแล้วก็หล่อเท่าๆกันทางด้านธุรกิจก็พอกัน พอคิดถึงตรงนี้ความรู้สึกหึงหวงก็ก่อตัวขึ้นในใจเขาอย่างเงียบๆ ก่อนหน้านี้ที่ที่กังวลเรื่องไป่เซกลับคิดว่าเธอไม่ปรากฏตัวก็ดีเหมือนกัน แล้วก็เผยรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างพอใจ บนเวทีเมื่อบทบรรยายภาษาอังกฤษจบลง เสียงดนตรีในบทเพลงของระบำดาวดึงส์ก็ดังขึ้นผู้แสดงค่อยๆร่ายรำออกมาทีละคู่ๆเสียงตบมือดังขึ้นรัวๆ ในขนาดที่ไป๋เจิ้นหลงกำลังจะหันสายตากลับไปนั้นเสียงผู้ชมก็ตบมือดังขึ้นกว่าเดิมอีกครั้งทำให้เขาต้องรีบหันสายตากลับไปบนเวทีด้วยความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จอขนาดใหญ่ข้างเวทีสว่างขึ้นฉายภาพไป่เซในชุดเครื่องโหนสลิงเหาะออกมาในท่ารำที่ดูสวยง่างามอย่างยิ่งราวกับนางฟ้าเหาะลงมายังโลกมนุษย์เหาะสวนกับคู่ของตัวเอง ไป๋เจิ้นหลงดวงตาโตลุกวาวเป็นประกายแต่แค่แวบเดียวก็กลายเป็นหมองลงความหึงหวงกลับมาอีกครั้ง ประธานบริษัท ML คนเมื่อกี้ดวงตาเขาเป็นประกายแวววาวเมื่อเห็นการปรากฏตัวของไป่เซเขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้สวยมากดูสง่างามน่าสนใจและเขารู้สึกว่าเธอหน้าคุ้นๆ คล้ายกับคุณหนูไป่รองประธานบริษัทไป๋หลงกรุ๊ป จากนั้นเขาก็กวาดสายตามองไปทางด้านซ้าย ขวา ข้างๆคุณท่านไป๋กลับไม่เห็นมีใครเลยแต่ดวงตาเขาสังเกตลงบนใบหน้าของชายชราทั้งสองที่สายตาจดจ่ออยู่บนตัวหญิงงามคนนั้นพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุขดูปลื้มปริ่มอิ่มเอมใจ คนฉลาดอย่างเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าผู้หญิงที่โหนสลิงเหาะมาคนนั้นคือไป่เซหญิงที่เขาหมายปองมานานคนนี้นี่เอง เขาเคยเห็นไป่เซครั้งแรกในข่าวดังช่วงที่เธอถูกลักพาตัวตั้งแต่นั้นมาเขาก็รู้สึกสนใจในใบหน้าที่เพอร์เฟคของเธอมากขึ้นเรื่อยๆยิ่งมาเจอเธอตัวจริงในลักษณะนี้ก็ยิ่งทำให้ความลุ่มหลงก่อตัวมากขึ้น แม้ในข่าวจะบอกว่าเธอเป็นคู่หมั้นของไป๋เจิ้นหลงสำหรับเขาแล้ว คู่หมั้นแล้วไงล่ะ ใครแคร์คนอย่างเขาไม่เคยมีคำว่า ผิดหวัง ถ้าต้องการ ไป๋เจิ้นหลงเองก็รู้สึกได้ถึงความคิดและท่าทางทีเปลี่ยนไปเล็กน้อยของท่านประธานบริษัท ML คนธรรมดาอาจจะดูไม่ออกแต่ไป๋เจิ้นหลงคือใครล่ะ ท่านประธานบริษัทML ยิ้มมุมปากมองไปที่ไป๋เจิ้นหลงและเป็นจังหวะพอดีกับไป๋เจิ้นหลงเองก็หันหน้ามามองเขาคนหนึ่งเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกคนเผยแววตารู้ทันราวกับเป็นการเตือนผ่านสายตา แววตาทั้งสองประสานกันราวกับมีกระแสไฟฟ้าสถิตทอดยาวเป็นเส้นสู้กันอยู่จากนั้นภาพไป่เซก็ลอยเข้ามาในหัวของพวกเขาทำให้การประสานตากันแยกออกจากกันหันไปให้ความสนใจกับไป่เซที่กำลังรำอยู่ด้านหน้าสุดของเวทีพร้อมกับคู่ของตนเอง
已经是最新一章了
加载中