ตอนที่ 43 คล้ายละคร โอเปร่าของยุโรป   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 43 คล้ายละคร โอเปร่าของยุโรป
ผู้แสดงจากฟ้อนรำไปด้วยร้องเพลงไปด้วยในทุกการเคลื่อนไหวท่ารำคงความอ่อนช้อยประณีตงดงาม ท่วงท่าที่พร้อมเพรียงกันเสียงร้องของผู้แสดงทุกคนได้ประสานรวมกันเป็นหนึ่ง รายละเอียดของดนตรีบรรเลง ท่วงทำนองที่ไพเราะ ผสมผสานกันอย่างลงตัวให้อรรถรสในการฟัง ในเนื้อเพลงที่กล่าวถึงความอลัง ตระการตาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งในท่อนช้าจะกล่าวถึงความงามของเทวดานางฟ้าว่า “ ดาวดึงส์เทวโลก เออ เอ่อ เออ เอ้อ เอ๋ย มโหฬาร เออ เอ้อ เออ เอย เป็นที่อยู่สำราญ เอ่อ เออ เอ้อ เออ เอ่อ เอย ฤทัยหรรษ์ เอ่อ เอ้อ เออ เอย สารพัดงามจริง เออ เอ่อ เออ เอ้อ เอ๋ย ทุกสิ่งอัน เออ เอ้อ เออ เอย สารพันอุดม เอ่อ เอ้อ เอ๋อ เออ เอ่อ เอย สมใจปอง เออ เอ้อ เอ่อ เอย เทพบุตรผุดพรรณ เอ้อ เอ่อ เออ เอ๋ย โฉมยง เออ เอ้อ เอ่อ เอย นางอัปสรงอนสงวน เอ่อ เอ้อ เอ๋ย นวลละออง เอ่อ เอ้อ เออ เอย งามทรงเครื่องทอง เอ่อ เอ้อ เอ๋อ เออ เอ่อ เอย และเพชรนิล เอ่อ เอ้อ เออ เอย ( ท่อนเร็ว กล่าวถึงสมบัติพระอินทร์ ) สมเด็จพระอัมรินทร์ เอ่อ เอ้อ เอย ปิ่นมงกุฎ น้อย นิ นอย น่อย ทรงวชิราวุธ เอ่อ เอ้อ เอย ธนูศิลป์ รักษาเทวสีมา เอ่อ เอย เป็นอาจิณ อสุรินทร์อรี เอ่อ เอ้อ เอย ไม่บีฑา (ซ้ำ) \" เนื่องจากการแสดงของไทยชุดนี้มีลักษณะคล้ายละครโอเปร่าของยุโรปดังนั่นไป่เซและนักแสดงไทยที่ออกมารำเป็นคู่พระนางจึงต้องร้องเพลงเอง เป็นการแสดงที่ทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจกับความอลังของฉากรวมถึงตัวผู้แสดงที่หุ่นเท่ากันทุกคนความวิจิตงดงามของชุดเครื่องแต่งกายทำให้แขกที่มาร่วมงานรู้สึกราวกับกำลังอยู่บนสวรรค์ชมการแสดงของเหล่าเทวดานางฟ้าที่ออกมาร่ายรำให้ความรู้สึกรื่นเริงบันเทิงใจ คุณแม่ไป๋กับคุณพ่อไป๋เองก็รู้สึกตะลึงในความงามของลูกสาวบุญธรรมไม่ใช่สิว่าที่ลูกสะใภ้ต่างหากแม้ก่อนหน้านี้คุณแม่ไป๋อาจจะรู้สึกไม่พอใจนิดหน่อยที่คุณปู่ไป๋ยกหุ้นครึ่งหนึ่งของตระกูลให้ไป่เซ “ คุณๆ นึกไม่ถึงเลยว่าลูกไป่เราจะเก่งขนาดนี้ มีความสามารถทั้งร้องทั้งรำ ฉันภูมิใจในตัวเธอจริงๆ ” คุณแม่ไป๋พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นคุณพ่อไป๋ที่นั่งข้างๆก็ยิ้มสายตามองไปยังว่าที่ลูกสะใภ้ไม่หยุดราวกับไม่อยากพลาดแม้แต่วินาทีเดียว เจียผิงเฟยหน้ามุ่ยไฟริษยาในตัวก็พุ่งเพิ่มขึ้นทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่วนพี่ชายเขาเจียผิงเหอสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในแววตาน้องสาวเขารู้สึกเป็นห่วงเธออย่างมากจึงยื่นมือไปกุมมือน้องสาวเบาๆพร้อมกับเอ่ยชื่อเธอ “ ผิงเฟย ” เขาเม้มริมฝีปากยิ้มแววตาสื่อออกมาว่า “ ปล่อยวางเถอะ ” เจียผิงเฟยเหลือบมองพี่ชายเผยสายตาดื้อรั้นสื่อให้รู้ว่าไม่พอใจเจียผิงเหอจ้องมองน้องสาวอย่างจนปัญญา ทางด้านมู่มู่นั่งชมการแสดงอย่างตั้งใจแววตาส่องประกายความสุข : ไป่คุณสวยจริงๆ : เขานั่งยิ้มพึมพำในใจ ฉู่เฉียวที่อยู่ข้างๆเองก็ไม่ละสายตาจากไป่เซที่ยืนสง่าอยู่บนเวทีที่เคลื่อนไหวอย่างอ่อนช้อยสวยงามใบหน้าที่เพอร์เฟคถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง รูปคิ้วโค้งดุจคันศร ดวงตาแวววาวดุจดวงดาวสวยราวกับดวงตากวางน้อยแก้มอมชมพูระเรื่อปากกระจับที่ดูอวบอิ่มได้รูปถูกทาอันลิปสติกสีแดงผิวพรรณขาวใสดุจหิมะตัดกับชุดเครื่องที่เธอสวมใส่อยู่ เครื่องประดับและเครื่องแต่งกายเกาะอกสีเหลืองสไบสีแดงแถบเขียวถูกปักอย่างประณีตซิ่นสีเขียวถูกจับจีบหน้านางปล่อยชายพกดูเรียบร้อย บนหัวสวมมงกุฏนางวิบวับด้วยเพชรพลอย ชุดที่ไป่เซสวมใส่เรียกว่าชุดยืนเครื่องตัวนาง มองรวมๆตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วช่างวิจิตรพิสดารจริงๆ หลังจากชื่นชมเธออยู่นาง เธอหันไปทางมู่มู่แล้วพูดว่า “ คุณมู่คุณโชคดีจริงๆเลยนะคะที่มีแฟนทั้งสวยและเก่งแบบนี้พวกผู้ชายคงจะอิจฉาคุณเอามากๆโดยเฉพาะท่านประธานไป๋ ” มู่มู่ยิ้มได้ยินแต่ไม่ตอบเพราะสายตาเขาไม่อยากพลาดการชมการแสดงของไป่เซแม้แต่วินาทีเดียวรอยยิ้มของเขานั้นช่างดูอบอุ่นจนฉู่เฉียวมองรอยยิ้มมู่มู่จนแทบจะละสายตาออกมาไม่ได้ ไป๋เจิ้นหลงที่ตอนนี้มีแต่ความหึงหวงดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าที่ควร เพียงแค่เห็นไป่เซเผยรอยยิ้มอ่อนหวานในหน้าเขาก็หวงแล้ว ราวกับว่ารอยยิ้มนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ควรเห็นควรได้รับ : ให้ตายสิผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะยิ้มยั่วผู้ชายใช่มั้ย จะยิ้มไปถึงเมื่อไหร่กัน : เมื่อมองไปทางท่านประธานบริษัทML ที่สายตาจดจ่ออยู่บนตัวของไป่เซ คิ้วของเขาเริ่มขมวดอย่างไม่รู้ตัวใบหน้าเคร่งขรึมแววตาเย็นชาให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกท่าทางสุขุมจนน่ากลัวราวกับราชสีห์ที่กำลังแสดงอำนาจข่มคู่ต่อสู้ แต่ท่านประธานบริษัทML กลับไม่สนใจความรู้สึกและความคิดความอ่านของไป๋เจิ้นหลง เขาในชุดสูทสีเทาเรียบหรูราคาแพงก็นั่งนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวราวกับไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ามองหญิงสาวที่สง่างามบนเวที คุณปู่ไป๋เหล่มองไปทางไป๋เจิ้นหลงแว่บหนึ่งด้วยความอยากรู้ว่าหลานชายจะแสดงสีหน้าอย่างไรแต่สิ่งที่เขาเห็นกลับมีแต่ความมืดมนต์ที่ยากจะคาดเดาว่าพายุฝนจะกระหน่ำลงมาเมื่อไหร่ คุณปู่ไป๋หันกลับมามองดูการแสดงของหลานสาวต่อการแสดงบนเวทีก็ดำเนินไปเรื่อยๆจนจบเพลงไฟค่อยๆหรี่ลงแล้วผ้าม่านสีดำที่กันอยู่บนเวทีก็ค่อยๆเลื่อนเข้าหากันอีกครั้งเมื่อจบการแสดง เสียงตบมือดังสนั่นขึ้นอีกครั้งด้วยความบันเทิงใจ หลังม่านฉากถูกเปลี่ยนอีกครั้งหน้าม่านพิธีกรสองคนก็ออกมาพูดอีกเช่นเดิมและกล่าวถึงการแสดงในรายการต่อไป “ การแสดงต่อไปเป็นการแสดงที่มาจากประเทศฝรั่งเศสที่แต่เดิมเป็นการแสดงของประเทศอิตาลิค่ะ ” “ ครับเมื่อผู้แสดงพร้อมผู้ชมพร้อมขอเชิญรับชมการแสดงบัลเล่ห์ เรื่อง Swan leke เจ้าหญิงหงส์ขาวได้เลยครับ ” เสียงตบมือดังขึ้นต้อนรับการแสดงชุดต่อไปการแสดงชุดนี้โด่งดังไปทั่วโลกผู้คนต่างรู้จักทำให้ผู้ชมลุ้นว่าบริษัทไป๋หลงกรุ๊ปจะทำออกมาได้ดีมั้ย ม่านบนเวทีเปิดออกอีกครั้งฉากในพระราชวังผู้คนออกมาเต้นรำในห้องโถงกันอย่างสนุกสนานบนฟลอร์เต้นรำในงานเลี้ยงการแสดงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็เป็นฉากที่ผู้แสดงเป็นเจ้าชายเดินท่องเที่ยวในป่าทุกท่วงท่าในการก้าวเดินจะเดินและเคลื่อนไหวแบบบัลเล่ต์ดูสง่าอ่อนพลิ้วงดงาม จากนั้นผู้ที่แสดงเป็นหงส์สวมชุดบัลเล่ต์สีขาวสะอาดตาค่อยๆออกมา เป็นฉากฝูงหงส์เคลื่อนไหวอย่างมีเสน่ห์เลียนแบบท่าทางของหงส์ เดินบนปลายเท้าเป็นหลักพวกเขาเหล่าบรรดาธิดาหงส์ที่ถูกสาป เคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรีในบทเพลงของวงซิมโฟนิออร์ ออเคสตราขนาดใหญ่ แนวทำนองของดนตรีที่เต็มไปด้วยความไพเราะตัวละครหลักที่เป็นชายถ่ายทอดอารมณ์ผ่านทางสีหน้าและสื่อให้ผู้คนเข้าใจผ่านการเคลื่อนไหวที่งามสง่า ในทำนองหลักของเพลง(Swan Theme) ที่บรรเลงโดยปี่โอโบ (Oboe) อย่างโหยหวน มีการบรรเลงซ้ำตามมาด้วยกลุ่มเครื่องสายอันหวานฉ่ำและกลุ่มแตรอันยิ่งใหญ่ ฝูงหงส์หยุดนิ่ง ตัวเองบินลงมาโดยไป่เซผู้รับบทเป็นเจ้าหญิงสวอนเลคหรือเจ้าหญิงหงส์ขาวโหนสลิงลงมาสวมชุดบัลเล่ต์สีขาวสง่างามมองเห็นทุกส่วนเว้าโค้งร่างเพรียวยาวโหนสลิงบินลงสู่พื้นเวที จากนั้นเหล่าฝูงหสงส์ก็เคลื่อนไหวอีกครั้งพร้อมกันทั้งกระโดดการจัดรูปแบบแถวท่วงท่าพร้อมเพรียงกันอย่างสวยงาม นักดนตรีวงใหญ่เล่นสดงานนี้ไป๋เจิ้นหลงได้ให้คนจ้างวงใหญ่มาบรรเลงเล่นสด ไป่เซและผู้รับบทเจ้าชายเต้นบัลเล่ต์กันอย่างมีความสุข ไป่เซยกเท้าแล้วหมุนยกแล้วหมุนจนคนดูรู้สึกราวกับว่ากำลังมองดูลูกข่างที่มีชีวิตมีรูปร่างหน้าตาสวยงามหมุนรอบตัวเองอยู่ การหมุนที่สง่างามการกระโดดลอยตัวฉีกขาโค้งราวกับเธอมีเวทมนต์ลอยตัวในอากาศได้ ไป่เซและคู่ของเธอเต้นบัลเล่ต์แนบชิดเข้าขากันได้ดีอย่างลงตัวราวกับเจ้าชายและเจ้าหญิงจริงๆสะกดทุกสายตาดนตรีบรรเลงกระตุ้นใจผู้ชมความเพอร์เฟคที่ลงตัวทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและเข้าใจในสิ่งที่นักแสดงกำลังสื่อออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ไป๋เจิ้นหลงในตอนนี้แทบจะพุ่งขึ้นไปบนเวทีแล้วติดแค่ว่างานนี้มีแต่แขกคนสำคัญทำให้เขาต้องกัดฟันข่มอารมณ์ตนเองไว้สำหรับเขาแล้ว เรือนร่างของผู้หญิงที่สง่างามบนเวทีมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถดูได้ แต่วันนี้ไป่เซกลับสวมชุดบัลเล่ต์ที่คล้ายกับชุดว่ายน้ำทูพีชแม้จะสวมใสถุงน่องอยู่ก็ตามทำให้เขาโมโหจนแทบจะกระอักเลือดออกมา : ผู้หญิงสมควรตาย ไม่รักนวลสงวนตัว ไปต่างประเทศเพื่อนสิ่งนี้เหรอ กลับไปฉันฉันจะลงโทษเธอให้ตายเลย : ไป๋เจิ้นหลงในตอนนี้ทำได้แค่พึมพำในใจ มู่มู่เองก็มีสีหน้าเคร่งขรึมลงแม้จะเข้าใจว่าเป็นการแสดงบัลเล่ต์เป็นชุดเฉพาะของบัลเล่ต์แต่เมื่อเขากวาดสายตามองไปรอบๆแล้วเขารู้สึกหึงหวงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก การแสดงนี้ทำให้เขาทุกข์ทรมานใจอย่างมากที่ต้องทนดูคนอื่นเห็นสัดส่วนของแฟนตัวเองและมีการแนบชิดผู้ชายบนเวทีแบบนั้นไม่ให้เขาหึงได้ยังไงกัน การแสดงดำเนินไปเรื่อยๆจนจบไป่เซและคู่เต้นของเขาโค้งคำนับแสดงความเคารพขอบคุณผู้ชมโดยก้าวเท้าขวาไปหน้าเท้าซ้ายส่งไขว้ไปหลังแล้วย่อลงก้มหัวพองามสยายมือออกอย่างสง่างามผู้ชายมือวางหน้าท้องข้างหนึ่งเท้าชิดโค้งคำนับ เสียงตบมือดังขึ้นม่านก็ค่อยๆปิดลง การแสดงของประเทศอื่นๆก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆตามลำดับ สุดท้ายเป็นการเต้นที่ผสมผานระหว่างโมเดิร์นดานซ์และเคป๊อป เรียกได้ว่างานนี้เป็นการเผยความสามารถอีกด้านหนึ่งของไป่เซเลยทีเดียว เริ่มแรกของการแสดงจะเปิดเป็นแนวโมเดิร์นแดนซ์แล้วตามด้วยการเต้นเคป๊อปให้ความสนุกสนานตุ้มๆต่อมแก่ผู้ชม ท่านประธานบริษัทMLหันมาทางไป๋เจิ้นหลงแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยพูดว่า \" นึกไม่ถึงเลยนะครับว่าคุณไป่จะยอดเยี่ยมขนาดนี้รองประธานบริษัทไป๋หลงกรุ๊ปนอกจากหน้าตาสวยแล้วยังมีความสามารถที่หลากหลายอีกคุณชาย...เอ่อท่านปรธานไป๋ว่ามั้ยครับ \" ไป๋เจิ้นหลงที่เดิมทีอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่แล้วยิ่งมาได้ยินคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูหัวใจกับเขาอย่างเปิดเผยแถมเรียกคู่หมั้นเขาอย่างสนิทสนมทำให้เขาแทบจะพ่นไฟออกมา ไป๋เจิ้นหลงยิ้มตอบถ้าคนอื่นเห็นคงจะคิดว่าสองคนนี้คุยกันอย่างสนิทสนมแต่แท้จริงแล้วมวยถูกคู่ดีๆนี่เอง \" แน่นอนอยู่แล้วครับ ว่าที่ภรรยาของของคุณชายตระกูลไป๋จะธรรมดาได้ยังไงล่ะจริงมั้ยครับ \" คำพูดนี้เห็นได้ชัดว่าแสดงความเป็นเจ้าของจนอีกฝ่ายอึ้งเล็กน้อยแต่ไม่ได้แปลว่าไปต่อไม่เป็น ท่านประธานบริษัทMLที่อายุสามสิบปีน่ะเหรอจะยอมให้ไป๋เจิ้นหลงเขายิ้มแล้วพูดว่า \" ก็จริงนะครับแต่เท่าที่ผมรู้มาคุณไป่มีคนในใจแล้วเหมือนว่าจะมางานวันนี้ด้วยอีกอย่างคำว่า ว่าที มันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนผมรอได้ \" สีหน้าไป๋เจิ้นหลงเรียบเฉยไม่สามารถเดาได้ว่าในใจอยากฆ่าคนแค่ไหนเขายังคงความเย็นชาไว้ไม่เปลี่ยน ทั้งที่ความจริงเขาไม่พอใจโกรธแทบตาย กับคำว่าไป่ คำว่ารอได้ จนเขาไม่อยากจะไว้หน้าให้เกียรติแล้ว \" ท่านประธานช่วงนี้คงจะขันสนเรื่องผู้หญิงนะครับถึงขนาดรอทานของเหลือจากคนอื่นเลยเหรอครับ \" คำว่าของเหลือจากคนอื่นท่านประธานบริษัทMLถึงขนาดยิ้มไม่ออก ความโกรธเริ่มปะทุขึ้นเขาจะยอมให้คนที่อายุน้อยกว่าว่าให้แบบนี้ได้อย่างไร เขาเป็นใคร รอยยิ้มกลับมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นรอยยิ้มร้ายๆริงฝีปากงามพูดขึ้นว่า \" ผมเป็นคนเลือกกินครับไม่แปลกถ้าจะขาดสน แต่เธอคนนี้ผมต้องการให้เป็นคุณผู้หญิงผมนานแค่ไหนก็รอได้ คุณแย่งเธอจากแฟนของเขาได้ทำไมผมจะต้องการเธอไม่ได้ อีกอย่างคุณเก็บกวาดของเล่นให้เรียบร้อยด้วยล่ะไม่งั้นผมจะใช้มันเพื่อแย่งเธอมา \" ประธานบริษัทML เป็นประธานหนุ่มวัยสามสิบรับช่วงสืบทอดต่อจากพ่อของเขาตอนอายุยี่สิบห้า ธุรกิจของเขาเกี่ยวกับการผลิตขุดเจาะบ่อน้ำมันเชื้อเพลิงเขาทำการค้ากับหลายประเทศทั่วโลกส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับหลายประเทศ ทำให้ธุรกิจเขาทำรายได้มหาศาลต่อปีชีวิตของเขาไม่เคยขาดผู้หญิงแต่ไป่เซคือผู้หญิงที่ควรค่าแก่การแย่งชิง เขามีนามว่า คุณชายชาร์ล เป็นลูกครึ่งจีนอเมริกันแม่เป็นชาวจีน เมื่อเปิดศึกกันอย่างตรงไปตรงมาไป๋เจิ้นหลงแม้จะรู้ว่าไป๋เซยังไม่ได้รักเขาแต่เขาก็มั่นใจว่าไป่เซจะไม่สนใจคุณชายชาร์ลเช่นกัน \" ถ้าคุณมั่นใจว่าทำได้ก็ลองดู แต่ระวังๆหน่อยล่ะถ้าเกิดมีข่าวว่าคุณจ้องจะแย่งว่าที่ภรรยาผมมันอาจจะทำให้หุ้นและธุรกิจของคุณสั่นคลอได้ \" ไป๋เจิ้นหลงพูดอย่างเย่อหยิ่งทระนงตนไม่มีแม้แต่ความกังวลใจใดๆ แต่คำพูดที่ว่าเก็บกวาดของเล่นให้เรียบร้อยนั้นทำให้เขานึกถึงลู่เหยียนขึ้นมาทันที คุณชายชาร์ลยิ้มแล้วตอบว่า \" ขอบคุณครับ คุณไม่ต้องห่วงหรอกธุรกิจของผมจำเป็นต่อการใช้ชีวิตดังนั้นคุณสบายใจได้ \" ทั้งสองเอาแต่สนใจพูดคุยเรื่องแย่งไป่เซจนการแสดงจบลงทั้งสองก็ยังไม่รู้ว่าจบลงเมื่อไหร่ และการเดินแบบก็จบลงแล้วเช่นกัน
已经是最新一章了
加载中