ตอนที่ 47 เราเป็นอะไรกัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 47 เราเป็นอะไรกัน
เมื่ออาบน้ำเสร็จมู่มู่ก็เดินออกมาจากห้องน้ำสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยก็ไปส่งลี่เหม่ยเอิงที่บ้าน ทางด้านไป่เซที่ป่วยอยู่นั้นเธอรู้สึกตัวเพราะขึ้นเพราะมีบางสิ่งบางอย่างเสียดสีกับผิวเธอเบาๆและรู้สึกสบายตัว ในความรู้สึกสบายนั้นกลับทำให้เธอค่อยๆเปิดเปลือกตาออกด้วยความอยากรู้ ทันที่ลืมตาเธอดวงตาเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นไป๋เจิ้นหลงนั่งอยู่ข้างๆเธออุทานออกมาอย่างแผ่วเบาใบหน้าซีดเซียว \" คุณ! \" เมื่อสำรวจตัวเองกับพบว่าตัวเองสวมเพียงชุดนอนสายเดี่ยวหลวมๆกางเกงขาสั้น มือเธอก็ถูกไป๋เจิ้นหลงเช็ดเบาๆแววตานิ่งเฉยไม่เอ่ยอะไรออกมายังคงเช็ดตัวเธอต่อไป ไป่เซมองดูตัวเองที่ค่อนข้างโป๊ะเสื้อในก็ไม่ได้ใส่แก้มเธอเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆอย่างเขินอาย : แต่ เอ๊ะ! : ทันใดนั้นสมองเธอเหมือนนึกอะไรออก \" ไป๋เจิ้นหลงคุณมาอยู่ที่ห้องฉันได้ยังไงแล้วทำไมฉันถึงใส่ชุด....\" เธอถามออกไปด้วยความมึนงงเธอจำได้เพียงเมื่อวานทะเลาะกับไป๋เจิ้นหลงในรถแล้วจำอะไรไม่ได้อีกเลย ไป๋เจิ้นหลงยังคงความเงียบไว้อย่างนั้นไม่แม้แต่จะขยับเปิดปากคุย ใบหน้าเรียบเฉยดูเย่อหยิ่งเย็นชาแต่ก็มีเสน่ห์เกินห้ามใจได้และยังคงเช็ดตัวเธอต่อ \" ไป๋เจิ้นหลงคุณทำอะไรฉันกันแน่ทำไมฉันถึงใส่ชุดนอนแบบนี้นี่มันไม่ใช่นิสัยปกติของฉัน\" ดูเหมือนว่าไปเซจะยังไม่รู้ตัวว่าตนเองไม่สบายใช่สิเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็ตกใจทันที แม้จะไม่มีแรงแต่ความตกใจที่เธอใส่ชุดที่ปกปิดเล็กน้อยต่อหน้าคนอื่นนั้นก็พอที่ทำให้เธอลืมตัวได้ ส่วนไป๋เจิ้นหลงเมื่อเช็ดตัวให้เธอเสร็จก็ลุกขึ้นแล้วยกน้ำที่ใช้เช็ดตัวนั้นออกไปเทลงในน้ำล้างมือจากนั้นก็ล้างมือตัวเองแล้วออกมาหาไป่เซ แล้วพูดขึ้นอย่างขี้เกียจน้ำเสียงเรียบเฉย \" คุณไม่สบาย กินยาแล้วนอนพักผ่อนต่อเถอะ \" พูดจบไป๋เจิ้นหลงก็หยิบตาลดไข้ยื่นไปให้ไป่เซไป่เซเองก็มองตาไป๋เจิ้นหลงอย่างไม่อยากจะเชื่อพร้อมรับยากับน้ำจากมือไป๋เจิ้นหลงแล้วกินทันที ตอนนี้ดูเหมือนเธอเริ่มรู้ตัวแล้วว่ารู้สึกไม่สบายลึกๆรู้สึกซาบซึ้งใจที่ไป๋เจิ้นหลงเอายาให้เธอ ดูเหมือนจะเริ่มพอใจไป๋เจิ้นหลงที่ยอมใก้เธอและเธอเดาว่าคนที่เปลี่ยนชุดให้เธอน่าจะเป็นไป๋เจิ้นหลงใบหน้าเธอก็แดงขึ้นมาอีกครั้ง ไป๋เจิ้นหลงเห็นใบหน้าที่ผิดปกติก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแว่บหนึ่ง \" ขอบคุณ \" ไป่เซก้มหน้าพูดขอบคุณเพื่อไม่ให้ไป๋เจิ้นหลงสังเกตความผิดปกติของเธอได้แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว \" เราเป็นอะไรกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องพูดคำว่าขอบคุณ \" \" แต่เรายังไม่ใช่สามีภรรยากัน \" ไป๋เจิ้นหลงเลิกคิ้วขึ้นมองไป่เซด้วยท่าทีหยอกล้อด้วยสายตาที่ดูอบอุ่นฉีกยิ้มมุมปาก จนไป่เซตะลึงไปชั่วขณะแล้วพูดว่า \" แต่ก็เหมือนเป็นแล้วมั้ยล่ะบนร่างกายคุณมีส่วนไหนที่ผมยังไม่ได้เห็นไม่ได้สัมผัสส่วนบนร่างกายผมมีส่วนไหนบ้างที่คุณยังไม่ได้เห็นหื้ม \" ไป่เซอายจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปไม่เป็นเลยทีเดียวเธอถลึงตาใส่เขา \" คุณออกไปเลย ฉันจะนอน \" พูดจบเธอก็นอนลงตะแคงหันหลังใก้ไป๋เจิ้นหลงใจเธอเต้นผิดปกติ : บ้าจริงเราจะรู้สึกแปลกๆกับคนอย่างไป๋เจิ้นหลงไม่ได้นะ : \" อืม ได้คุณพักผ่อนเยอะๆแล้วกัน \" พูดจบไป๋เจิ้นหลงก็หายเข้าไปในห้องน้ำอาบน้ำอยู่สักพักก็ออกมานุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวร่างสูงใหญ่เผยให้เห็นหน้าอกอันแข็งแกร่งซิกแพกและกล้ามแขนที่เป็นมัดๆดูเป็นชายที่สมบูรณ์เพอร์เฟค ช่างดูมีเสน่ห์ยั่วยวนคนให้หลงไหลที่ไม่อาจต่อต้านได้ มือสองข้างกำลังยุ่งอยู่กับการเช็ดผมด้วยผ้าเช็ดตัว สายตาจ้องมองไปยังแผ่นหลังของคนที่นอนตะแคงอยู่บนเตียง พอเช็ดผมเสร็จก็เดินไปหยิบไดร์เป่าผมมาเป่าผมจนแห้งจากนั้นก็แต่งตัวจนเสร็จแล้วไปนั่งลงข้างๆไป่เซที่หลับไปแล้วเพราะฤทธิ์ยา เอามือหลังมือไปแตะบนหน้าผากตรงคอแววตามองด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าไข้เธอลดลงแล้วเขาก็สบายใจ \" คุณที่ดื้อรั้นจริงๆ \" พูดจบก็จูบลงบนหน้าผากเธอเบาๆ \" ผมไปทำงานก่อนนะที่รัก ประชุมเสร็จจะรีบกลับมาดูแลคุณ \" คำพูดนี้น้ำเสียงนี้ช่างฟังดูอบอุ่นอ่อนโยนเสียจริงถ้าคนที่หลับอยู่ได้ยินเธอคงจะรู้สึกดีไม่น้อย ในขณะนั้นเองโทรศัพท์ไป่เซก็สั่นขึ้น \" หรื่ดๆๆ \" ไป๋เจิ้นหลงมองไปเห็นหน้าจอโชว์ชื่อและใบหน้าของมู่มู่เดิมทีที่อารมณ์ดีอยู่นั้นคิ้วก็ขมวดขึ้นเป็นปมทันที หยิบโทรศัพท์ของไป่เซแล้วกดรับออกไปคุยนอกระเบียงแต่กลับไม่เอ่ยอะไร มู่มู่เมื่อเห็นว่ามีความเงียบปิดปกติจึงถามขึ้นด้วยความร้อนใจว่า \" ไป่คุณโอเคมั้ยเมื่อวานไป๋เจิ้นหลงได้ทำรังแกอะไรคุณกรือเปล่า \" \" คุณชายมู่ดูจะเป็นห่วงเป็นใยว่าที่ภรรยาผมเหลือเกินนะเธอยังไม่ตื่นไว้ตื่นผมจะบอกให้แล้วกันว่าคุณโทรมาแค่นี้ล่ะผมจะนอนต่อ \" น้ำเสียงราบเรียบแต่ทรงพลังราวกับราชสีห์คำรามพูดขึ้นอย่างไม่พอใจน้ำเสียงแฝงด้วยความไม่ใส่ใจคนที่โทรมาราวกับว่าคนๆนั้นเป็นเพียงคนนอกที่ไม่สำคัญอะไรกับว่าที่ภรรยาเขา มู่มู่ตะลึงอึ้งหลายความรู้สึกเข้ามาในอกในใจผสมปนเปกันอย่างยุ่งเหยินไปหมดกว่าจะตั้งสติได้สายก็ถูกตัดไปแล้ว เมื่อนึกถึงตัวเองที่เพิ่งผ่านคืนที่ร้อนแรงกับลี่เหม่ยเอิงทำให้คิดและเห็นภาพของไป๋เจิ้นหลงกับไป๋เซที่ถูกย่ำยี มู่มู่ยืนอยู่ในห้องรู้สึกเจ็บปวดสุดหัวใจเขากำมือแน่นโทรศัพท์ที่ถือนั้นแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แม้จะไม่พอใจมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่โมโหอยู่เงียบๆ ทางด้านไป๋เจิ้นหลงวางสายเสร็จก็จัดการลบข้อมูลทุกอย่างแล้วปิดเสียงโทรศัพท์ไม่ให้มีเสียงสั่น เขาหยิบกระเป๋าโน๊ตบู๊คออกจากห้องแล้วเดินลงไปชั้นล่างเมื่อเห็นพ่อกับแม่นั่งทานข้าวก็เข้าไปทักทาย \" คุณพ่อคุณแม่ทำไมวันนี้ตื่นเช้ากันล่ะครับจะไปไหนหรือเปล่า \" คุณพ่อไป๋กับคุณแม่ไป๋มองไปทางลูกชายด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น ยังไม่ได้ตอบคำถามคุณพ่อไป๋ก็พูดขึ้นว่า \" เจิ้นหลงทานข้าวก่อนสิ แล้วลูกไป่ล่ะยังไม่ตื่นเหรอ \" คุณพ่อไป๋ถามขึ้นด้วยความสงสัยค \" เธอไม่สบายครับ เมื่อคืนเป็นไข้ทั้งคืน \" คนใช้เอาข้าวเช้าตักให้ไป๋เจิ้นหลงและไป๋เจิ้นหลงก็พูดกับคนใช้ว่า \" เดี๋ยวช่วยต้มซุปกับข้าวต้มให้คุณหนูไป่หน่อยถ้าเธอตื่นแล้วก็ยกขึ้นไปให้เธอเลย \" \" ค่ะคุณชาย \" สาวใช้รับคำสั่งเสร็จก็ถอยออกไปทันที คุณแม่ไป๋ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า \" เมื่อวานยังดีๆอยู่เลยทำไมถึงไม่สบายได้ลูกทำอะไรน้องรึเปล่า \" คุณพ่อไป๋ได้ยินคุณแม่ไป๋ที่กำลังเค้นหาคำตอบดูท่าว่าจะโทษลูกชายจึงพูดขึ้น \" คุณก็คิดมากเกินไปลูกเราเป็นผู้ชายจะไปทำอะไรผู้หญิงได้ยังไง \" คำพูดนี้มันทำให้ไป๋เจิ้นหลงรู้สึกละอายแต่ก็แค่หนึ่งวินาทีเท่านั้นจากนั้นก็กลับมารู้สึกเฉยๆแล้วตั้งใจทานข้าวต่อ \" คุณยังไม่รู้อีกหรือลูกชายของเราเป็นยังไง \" ข้อนี้คุณพ่อไป๋ไม่เถียงเพราะมันคือความจริงที่เขาพูดแบบนั้นเพื่อหวังจะให้ลูกชายนั้นอ่อนโยนยอมอ่อนข้อให้ภรรยาในอนาคตนิดหน่อยจะได้ไม่มีปัญหา เหมือนเขาที่เขายอมถอยหนึ่งก้าวให้คุณแม่ไป๋จึงทำให้อยู่กันอย่างยืนยาว \" สรุปคุณพ่อกับคุณแม่ตื่นเช้าแบบนี้มีอะไรหรือเปล่าครับ \" ไป๋เจิ่นหลงถามขึ้นอีกครั่ง \" ไม่มีไรหรอกเพียงแค่รอบอกข่าวดีให้ลูกแม่กับพ่อได้ฤกษ์งานหมั้นงานแต่งแล้วนะ \" ไป๋เจิ้นหลงดีใจอย่างมีแต่ก็เก็บอาการไว้พูดเพียงสั้นๆว่า \" ครับ คุณพ่อกับคุณแม่บอกไป่ด้วยละกันผมขอตัวไปบริษัทก่อนนะครับ \" พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันทีคุณแม่ไป๋อยากจะหยุดไว้แต่ก็ไม่ทันแล้วคุณแม่ไป๋มองคุณพ่อไป๋ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน คุณพ่อไป๋และคุณแม่ไป๋ชอบพากันตระเวนเที่ยวรอบโลกหลังจากไป๋เจิ้นหลงเข้ารับตำแหน่งคุณพ่อไป๋ก็มักพาคุณแม่ไป๋เที่ยวเสมอ ในห้องนอนไป่เซค่อยๆลืมตาขึ้นร่างกายรู้สึกสบายขึ้นมากแล้วเธอจึงค่อยๆลุกนั่งให้ร่างการปรับตัวได้สักพักก็เข้าไปในห้องน้ำ แปรงสีฟันถูกเตรียมไว้เรียบร้อยมียาสีฟันอยู่บนขนแปรงที่อ่อนนุ่มมุมปากเธอก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว หนึ่งเดือนผ่านไปไป๋เจิ้นหลงปฏิบัติดีกว่าไป่เซมาโดยตลอดดูเหมือนความสัมพันธ์ทั้งสองจะดีขึ้นเรื่อยๆไป่เซเองก็เริ่มมีใจรักไป๋เจิ้นหลงบ้างแล้ว แต่โบราณ์ว่าความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นานดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง ที่บริษัทไป๋หลงกรุ๊ป ไป๋เจิ้นหลงหลังจากเซ็นเอกสารบนโต๊ะเสร็จก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นข้อความที่เจียผืงเหอส่งเข้ามา พอเปิดดูก็เห็นว่าข่าวฮอตของวันนี้คือมีคนแอบถ่าย คุณชายชาร์ลทายาทนักธุรกิจแสนล้านควงหญิงสาวมาดนักธุรกิจหน้าคุ้นดินเนอร์ใต้แสงเทียนสองต่อสอง แล้วมีภาพทั้งสองคนนั่งทานข้าวด้วยกันมีภาพโอบไหล่ด้วยมุมกล้องเลยดูเหมือนกอดกัน บนวีดีโอเป็นการสัมภาษณ์คุณชายชาร์ลในชุสูทสีเทาเข้มฉายความหล่อในทุกองศา โดยมีนักข่าวคนหนึ่งถามว่า \" คุณชาร์ลครับได้ข่าวว่าคุณควงสาวนักธุรกิจดินเนอร์สองต่อสองสาวปริศนาคนนี้ใช่แฟนคุณหรือเปล่าครับ \" คุณชายชาร์ลมองกล้องแล้วยิ้มจากนั้นก็พูดว่า \" ตอนนี้ยังไม่ใช่แฟนครับ \" นักข่าวถามต่อไปว่า \" งั้นก็แสดงว่าอนาคตมีโอกาสพัฒนาเป็นแฟนได้ใช่มั้ยคะ \" \"ต้องรอลุ้นครับ \" คุณชายชาร์ลตอบ นักขาวหนุ่มถามต่อไปว่า\" แล้วตอนนี้คุณมีแฟนหรือยังครับ \" คุณชายชาร์ลตอบอย่างมีเสน่ห์ว่า \" ยังไม่มีครับ \" \" สเปกผู้หญิงของคัณชายชาร์ลเป็นแบบไหนครับ \" \" อืม สเปกผมไม่ต้องสูงมากครับพอน่ารักๆประมาณ160-165 ผมยาวหน่อยๆ ตาโต ปากกระจับอวบอิ่ม เก่งรอบด้านดูดี ดูมีค่าน่าสนใจ ถ้าเจอตามที่บอกแม้ต้องแย่งชิงก็สมควรต้องแย่งชิงครับ \" นักข่าวต่างพากันอึ้งตะลึงนึกไม่ถึงว่าคุณชายชาร์ลจะลงทุนแย่งผู้หญิงและยกย่องผู้หญิงในสเปกขนาดนี้ บรรดานักข่าวและเหล่าผู้หญิงที่เห็นข่าวก็รู้สึกอยากจะเป็นผู้หญิงในสเปกของเขาไปตามๆกัน ไม่มีใครรู้ผู้หญิงที่เขากล่าวถึงคร่าวๆนั้นคือใครมีเพียงไป๋เจิ้นหลงเท่านั้นที่รู้ดีกว่าใครการประกาศออกสื่อแบบนี้เท่ากับเป็นดารประกาศให้เขารู้ ไป๋เจิ้นหลงเลือดร้อนขึ้นหน้าดวงตาราวกับมีดที่แหลมคมที่พร้อมแทงเข้าไปตรงกลางหัวใจคนให้ตายอย่างไม่ทันได้ทรมาน ความโมโหโกรธเคืองดวงตามืดลงความเย็นชาความสุขุมเยือกเย็นได้เข้าครอบคลุมตัวเขาเอ่ยพึมพำเลดลอดไรฟันออกมาอย่างหนักแน่นน่ากลัว \" คุณชายชาร์ล คุณกล้าเกินไปแล้ว \" จากนั้นไป๋เจิ้นหลงก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินออกไปจากห้องมุ่งหน้าไปยังห้องข้างๆที่เชื่อมติดกันด้วยกระจกใสนั่นคือก้องรองประธานไป่ ไป่เซนั่นเอง **ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจนักเขียนนะคะ** ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
已经是最新一章了
加载中