ตอนที่ 48 ความจริงในชาติที่แล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 48 ความจริงในชาติที่แล้ว
ไป๋เจิ้นหลงวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทำงานตรงหน้าของไป่เซ ไป่เซที่กำลังทำงานอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเฉ่ยชา เมื่อเห็นใบหน้าถมึงทึงของเขาไป่เซจึงก้มดูโทรศัพท์บนหน้าจอปรากฏภาพของเธอกับคุณชายชาร์ลเธอก็รู้ทันทีว่าสาเหตุที่ไป๋เจิ้นหลงโกรธเพราะอะไร ไป๋เจิ้นหลงเมื่อรู้ว่าไป่เซดูเข้าใจแล้วก็เอ่ยถามด้วยความโกรธน้ำเสียงดุดัน \" คุณจะอธิบายยังไงกับสิ่งที่คุณทำลงไป \" \" อธิบายอะไร มันมีอะไรต้องอธิบายงั้นเหรอคุณชายชาร์ลเขาเป็นลูกค้าในห้างกระเป๋าตังค์เขาหายในฐานะที่เราเป็นผู้บริหารเจ้าของห้างฉันไม่ควรช่วยเขาหาเหรอคะ \" คุณชายชาร์ลคำนี้ฟังดูราวกับคนรู้จัก แต่เดี๋ยวนะผู้หญิงคนนี้รู้จักกับคุณชายชาร์ลได้ยังไง เหอะคนอย่างคุณชายชาร์ลน่ะเกรอกระเป๋าตังค์หายแล้วต้องหาเองคนโง่เท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่าเป็นแผนการของเขา \" คุณรู้จักกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมผมถึงไม่รู้ \" ไป๋เจิ้นหลงลดความโกรธลงถามออกไปด้วยความสงสัยเลิกคิ้วมองไป่เซ ไป่เซรู้สึกรำคาญเล็กน้อยจึงลุกขึ้นยืนจ้องไปที่เขาอย่างเด็ดเดี่ยว \" ไป๋เจิ่นหลงฉันจะรู้จักใครจำเป็นต้องรายงานคุณด้วยเหรอ \" \" จำเป็นเพราะคุณคือว่าที่ภรรยาของผม หรือว่าคุณออกไปเดททานข้าวสองต่อสองกับผู้ชายคนอื่นกลางค่ำกลางคืนคุณคิดจะทำให้ตระกูลไป๋เสียชื่อใช่มั้ย \" ไป๋เจิ้นหลงตั้งใจพูดยั่วโมโหไป่เซที่ยืนประจานหน้ากับเขา ไป่เซเริ่มโกรธแววตาเย็นชาขึ้นกว่าเดิม \" ไป๋เจิ้นหลงคุณเอาสมองส่วนไหนคิด ที่มาหาว่าฉันตั้งใจทำให้ตระกูลคุณเสียชื่อ ถ้าฉันจะทำให้ตระกูลคุณเสียชื่อเสียงจริงฉันคงไม่โง่ใช้วิธีนี้ทำให้ตัวเองเสียเปรียบจนเป็นคำครหาว่านอกใจคู่หมั้นหรอก \" ไป๋เจิ้นหลงเลิกคิ้วขึ้นพร้อมยกไหล่เล็กน้อยประมาณว่า \" ใครจะไปรู้ \" ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาไป่เซใช้ชีวิตอย่างสงบทุกวันคือทุ่มเทให้กับการศึกษาเรียนรู้งานกับไป๋เจิ้นหลงดูแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นมากไป่เซเริ่มรู้สึกดีกับไป๋เจิ้นหลงไป๋เจิ้นหลงเองก็เคารพใก้เกียรติในทุกการตัดสินใจของไป่เซการทำงานดำเนินไปอย่างราบรื่น เมื่อคิดถึงตรงนี้ไป่เซถอนหายใจเบาๆขี้เกียจที่จะทะเลาะกับ้ขาเธอต้องการใช้ชีวิตแบบสงบๆทุ่มเทกับงานให้มากที่สุดดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไป๋เจิ้นหลง \" เรื่องที่ฉันกับคุณชายชาร์ลพวกเรารู้จักกันโดยบังเอิญ วันนั้นที่คุณให้ฉันไปดูงานในห้างขณะที่เดินตรวจงานอยู่บังเอิญพบเขาทำกระเป๋าตังค์หล่นหายฉันจึงช่วยเขาหาจนเจอและเขาขอเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการขอบคุณฉันก็เท่านั้นเอง อ่อ แล้วรูปที่ดูเหมือนกอดอยู่นั่นก็ไม่ได้มีอะไรก็แค่รองเท้าพลิกเกือบล้มแล้วเขาช่วยไว้ ฉันบอกคุณหมดแล้วพอใจยังถ้าไม่มีไรแล้วขอตัว \" ไป๋เจิ้นหลงรู้ว่านั่นคือแผนที่คุณชายชาร์ลตั้งใจเข้าใกล้ไป่เซแต่สาเหตุที่เขาโกรธคือไป่เซถูกคนอื่นแตะเนื้อต้องตัวและไปทานข้าวสองต่อสองกับคนอื่น \" คุณนี่เสน่ห์แรงไม่เบานะ ผู้ชายถึงได้เข้าหาไม่ขาดสายอืมว่าที่ภรรยาของผมเนี่ยบริหารเสน่ห์ได้ไม่เบาเลยจริงๆ \" ไป๋เจิ้นหลงพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่แฝงด้วยการประชดประชัน \" คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง? \" ไป่เซถามออกไปด้วยความโมโห \" คุณบอกว่าคุณเพิ่งรู้จักแต่กลับยอมไปทานข้าวสองต่อสองคุณไม่รู้สึกว่าตัวเองใจง่ายไปหน่อยเหรอ \" คำว่าใจง่ายสำหรับไป่เซแล้วมันเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีเธอมากเธอรับไม่ได้เอาเสียเลย วันนั้นคุณชายชาร์ลไม่บอกว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักกับไป๋เจิ้นหลงหรือจะเรียกว่าญาติห่างๆก็ได้ละก็เธอก็คงไม่เกรงใจตกลงไปทานข้าวกับเขาหรอก แม่ของคุณชายชาร์ลมีศักดิ์เป็นป้าของไป๋เจิ้นหลงและเป็นพี่สาวของไป๋อี้เหรินแม่ของไป๋เจิ้นหลง \" ไป๋เจิ้นหลงคุณอย่ามาหาเรื่องนะ หรือคุณจะให้ฉันปฏิบัติกับเขาโดยไม่ไว้หน้าเลย ดีต่อไปญาติคนไหนของคุณฉันจะไม่เกรงใจทั้งนั้นถึงเวลานั้นอย่ามาตำหนิว่าฉันไม่ไว้หน้าคุณที่แสดงพฤติกรรมแย่ๆออกไปล่ะ \" ไป๋เจิ้นหลงอึ้ง : นี่ผู้หญิงคนนี้ทำเพื่อเราเหรอหรือว่าจะเริ่มมีใจให้เราแล้ว : เมื่อคิดได้แบบนี้ลึกๆเขาแอบดีใจอย่างมากแต่ก็แสร้งทำหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความเีใจออกมาทางสีหน้าและรู้สึกโกรธคุณชายชาร์ลที่ใช้วิธีนี้ชวนไป่เซไปทานข้าว เมื่อรู้สาเหตุที่ไป่เซยอมไปทานข้าวกับคุณชายชาร์ลเขากลับมาคิดทบทวนถึงนิสัยไป่เซ แท้ที่จริงแล้วถ้าไม่ใช่เพราะให้เกียรติญาติเขาหรือเพื่อไม่ให้คนอื่นมองว่าสะใภ้ตระกูลไป๋นั้นไร้มารยาทไม่เคารพให้เกียรติญาติพี่น้องล่ะก็ ด้วยนิสัยเธอคงไม่ยอมทานข้างสองต่อสองกับคนที่เพิ่งรู้จักแน่นอน : คุณชายชาร์ล นายเกิดมาเพื่อแย่งผู้หญิงของฉันรึไงกันที่ผ่านมาฉันยอมให้ แต่เธอคนนี้ไม่มีทาง : ไป๋เจิ้นหลงกำมือแน่นแววตาลุ่มลึกยากจะคาดเดาอารมณ์ได้ เมื่อก่อนตอนเด็กๆมัธยมต้นพวกเขาเรียนต่างประเทศพวกเขาอยู่ห้องเดียวกัน ใครมาชอบไป๋เจิ้นหลงสุดท้ายก็ตกเป็นแฟนของเขา แต่นั้นเพราะไป๋เจิ้นหลงไม่สนใจผู้หญิงพวกนั้น พอไป๋เจิ้นหลงกลับมาเรียนในประเทศปีนั้นเขามาเที่ยวหาไป๋เจิ้นหลงเป็นช่วงวัยมัธยมปลาย เขาพบว่าไป๋เจิ้นหลงและเจียผิงเฟยดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษด้วยใบหน้าที่สวยงามของเจียผิงเหอทำให้เขาชอบเธอมากและพยายามใกล้ชิดเธอ วันหนึ่งก่อนเขาจะกลับประเทศจึงตัดสินใจสารภาพรักกับเจียผิงเฟย \" ผิงเฟยพี่ชอบผิงเฟยนะพวกเรามาคบกันดีมั้ยพี่ตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกแล้วพี่อยากอยู่ใกล้ๆเธอเรามาเป็นแฟนกันนะ \" เจียผิงเฟยมองเขาอย่างสับสนมึนงงทำตัวไม่ถูกเพราะเธอคิดเพียงว่าเขาเป็นญาติของไป๋เจิ้นหลงเท่านั้น \" พี่ชาร์ลน้องขอโทษค่ะ น้องไม่ได้ชอบพี่ \" \" ทำไมล่ะหรือว่าน้องมีคนที่ชอบแล้ว คือไป๋เจิ้นหลงใช่มั้ย \" \" ใช่ค่ะ ผิงเฟยชอบพี่เจิ้นหลงและจะชอบตลอดไป \" \" แต่ไป๋เจิ้นหลงเขาไม่ได้คิดกับเธอแบบนั้นนะเขาคิดกับเธอแค่น้องสาว \" \" ไม่จริงหรอกค่ะ พี่เจิ้นหลงมอบจี้รูปหัวใจนี้ให้ผิงเฟยบอกว่ามันเป็นตัวแทนความรักของพวกเราพวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปพี่เจิ้นหลงพูดเองพี่ผิงเหอก็รู้ \" \" ผิงเฟยเธออย่าโง่นักเลยฟังดูก็รู้ว่าเขารักเธอแบบพี่น้องแบบเพื่อนเหมือนกับที่เขารักพี่ชายเธอ \" \" ไม่จริง ฉันไม่เชื่อที่พี่พูดหรอกพี่ไม่หวังดีอยากให้เราเลิกกันมาคบพี่ \" \" ผิงเฟย เธออย่าแกล้งโง่นักเลย ไป๋เจิ้นหลงเขาไม่ได้รักเธอแบบนั้นเธอตื่นสักที \" คุณชายชาร์ลโกรธจับเข้าที่ไหล่ของเจียผงเฟยเป็นจังหวะเดียวกับไป๋เจิ้นหลงเดินมาเห็นเข้าพอดี เจียผิงเฟยด้วยความเสียใจจึงร้องห่มร้องให้ยากที่จะยอมรับความจริง ไป๋เจิ้นหลงผลักคุณชายชาร์ลออกไปจนล้มลงกับพื้น \" ชาร์ลนายทำอะไรผิงเฟยน่ะ \" แล้วดึงเจียผิงเฟยเข้ามากอดปลอบใจเธออย่างอบอุ่น ความจริงเขาแอบหลบอยู่ด้านหลังตั้งนานแล้วเขาเองก็ชอบเจียผิงเฟยแต่ไม่รู้ชอบแบบไหนและชอบเจียผิงเหอเช่นกัน เมื่อเห็นว่าไป๋เจิ้นหลงยืนเหม่ออยู่ไป่เซหันไปหยิบกระเป๋าแล้วหมุนตัวเดินผ่านไป๋เจิ้นหลงไป ไป๋เจิ้นหลงดึงสติกลีบมารีบคว้าแขนไป่เซไว้พร้อมกับเอ่ยถาม \" คุณจะไปไหน \" ไป่เซอยากอยากจะทะเลาะกับเขาเพื่อหลีกเลี่ยงเธอเลือกที่จะเดินออกไปและเวลาที่ก็เที่ยงแล้ว \" ปล่อย! \" เธอเพิ่มระดับความเย็นชาขึ้นอีก \" จะไปไหนผมไปส่ง \" ไป่เซคาดไม่ถึงคนที่คอยจะหาเรื่องเธอนึกอยากจะไปส่งเธอเธอรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่น่าขำมาก \" ไป๋เจิ้นหลงคุณเป็นไบโพลาหรือไงเมื่อกี้ยังหาเรื่องฉันอยู่เลยตอนนี้จะมาเล่นบทคนดีคอยรับรถรับส่งฉันไม่ใช่นักแสดงฉันปรับอารมณ์ตามไม่ทัน ขอตัว \" พูดจบเธอก็ดึงแขนตัวเองออกจากมือของไป๋เจิ้นหลงแล้วเดินออกไปแต่ยังก้าวขาได้ไม่ถึงสองก้าวไป๋เจิ้นหลงก็เข้ามากอดเธอจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว \" ที่รักคุณจะไปไหนผมไปส่งนะ เมื่อกี้ผม...ผมขอโทษ ผมไม่อยากเห็นคุณใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่น หายงอนนะ \" ไป๋เจิ้นหลงเลือกที่จะง้อไป่เซดีกว่าปล่อยเธอออกไปคนเดียวแบบนี้มันเข้าทางคุณชายชาร์ลและคนที่จะได้รับความพ่ายแพ้คือเขาเขาไม่มีทางปล่อยให้ญาติเขาทำสำเร็จแน่นอน เพราะญาติเขาประกาศชัดเจนว่าสเปกเขานั้นคือไป่เซ ไป่เซตกใจเมื่อถูกสวมกอดแบบนี้เธอกลัวคนอื่นจะเข้ามาเห็น \" ปล่อยนะ ไป๋เจิ้นหลงคุณทำบ้านอะไร ปล่อย! \" \" ทำไมคุณกลัวอะไรเราไม่ได้ทำผิดศิลธรรมสักหน่อยคุณเป็นคู่หมั้นผมเป็นว่าที่ภรรยาผมผมกอดหอมว่าที่ภรรยามันผิดด้วยหรือ \" หูไป่เซร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเขาไม่อายแต่เธออายและเธอยังไม่ได้เคลียร์เรื่องนี้กับมู่มู่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้จริงจังเธอจะรู้สึกเศร้าทันทีและนิ่งไป เธอแกะมือเขาออกแล้วหันตัวมามองเขา \" ไป๋เจิ้นหลงเมื่อพูดถึงเรื่องนี้เรามาทำข้อตกลงกันมั้ย \" ไป๋เจิ้นหลงเลิกคิ้วขึ้นมองเธออย่างสงสัย \" ข้อตกลงเหรอ ข้อตกลงอะไรไหนลองว่ามาสิ \" \" เรื่องแต่งงาน \" \" อืม แล้วไงต่อ \" ไป๋เจิ้นหลงพูด เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าไป่เซกำลังคิดจะทำอะไร \" เมื่อฉันไม่ได้รักคุณ แต่จำเป็นต้องแต่งงานกับคุณ ฉะนั้นหลังแต่งงานเสร็จหลังจากนั้นหนึ่งปีเราก็อย่ากันจบกันด้วยดีต่างคนต่างอยู่ ตกลงมั้ย \" : ตกลงกับผีสิผู้หญิงคนนี้ยังคงรักไอ้คุณชายมู่นั่นถึงขนาดวางแผนหย่าหลังแต่งงานเลยเหรอฝันไปเถอะ : ลึกๆเขาก็เจ็บจี๊ดเขาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมายอมให้เธอด่ายอมถอยให้เธอยอมเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วในสิ่งที่เขาทำไม่ได้แต่กลับทำให้เธอด้วยความเต็มใจ แม้คำพูดของไป่เซจะทำให้เขาโกรธเขาก็ข่มมันเอาไว้ไม่ให้ความโกรธระเบิดออกมาและพูดอย่างใจเย็นว่า \" ผมไม่อย่า ครอบครัวผมไม่มีประวัติการหย่าร้างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน \" ไป่เซหมดคำจะพูดมองบนแว่บหนึ่งเบะปากแล้วมองไป๋เจิ้นหลงด้วยหางตา : เหอะ! ใครจะเชื่อนาย : \" งั้นก็แล้วแต่ แต่คุณจำไว้เลยว่าฉันไม่ได้รักคุณแล้วคุณก็ใช้เวลาที่เหลือน้อยนี้ถามตัวเองว่ารับได้มั้ยที่จะอยู่กับคนที่ไม่ได้รักคุณได้ถามตัวเองด้วยว่ารักฉันจริงหรือเปล่า \" ไป๋เจิ้นหลงดึงไป่เซเข้ามากอดเพื่อระงับความโกรธ ความเจ็บปวดในใจเพราะคำพูดของไป่เซราวดับพ่นเข็มออกมาเป็นพันเล่มทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจเขา \" คุณอยู่นิ่งๆอย่าขยับให้ผมกอดสักพักนะ \" เขาไม่อยากใก้ไป่เซเห็นความเจ็บปวดในใจที่กำลังจะปรากฏบนใบหน้าเขาทำได้เพียงกอดเธอไว้และคิดทบทวน ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นถึงผู้บริหารบริษัทชั้นนำของโลกยอมให้ผู้หญิงคนหนึ่งได้ถ้าไม่ใช่เพราะรักแล้วมันเพราะอะไรกันล่ะ ไป่เซงงกับพฤติกรรมแบบนี้แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกได้ถึงความเศร้าบางอย่างล่ะเธอไม่เข้าใจและไม่สนใจอีกต่อไป \" ไป่คุณมีหัวใจมั้ย? ทำไมผมรู้สึกว่าคุณไร้หัวใจ \" ไป๋เจิ้นหลงที่กอดเธออยู่พูดแต่น้ำเสียงปนเศร้าราวกับคนใจสลาย \" นี่คุณหมายความว่าไง คุณกำลังด่าว่าฉันใจดำเหรอ \" \" เปล่าหรอก ผมแค่ถามคุณ \" \" ถ้าฉันไม่มีหัวใจฉันไม่ยอมยืนให้คุณกอดแบบนี้หรอกเพราะฉันมีหัวใจและมีน้ำใจไงถึงยอมให้คุณกอด \" \" คุณหมายความว่าไง \" \" เมื่อกี้ฉันพูดทำร้ายจิตใจคุณเกินไปหน่อย ขอโทษ แต่คุณต้องเข้าใจฉัน ฉันในชาตินี้ไม่อยากเจ็บปวดเหมือนชาติก่อนแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณอธิฐานอะไรถึงได้มาเจอกันในชาตินี้อีก แต่คนที่คุณรักจริงๆทั้งชาติที่แล้วและชาตินี้คือใครคุณคงรู้ดี สมบัติของตระกูลคุณฉันจะไม่เอาไปแม้แต่บาทเดียวเรื่องนี้ครอบครัวคุณสบายใจได้ \" \" มันไม่ใช่แบบนั้นนะไป่ ผมรักคุณไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ผมก็รักคุณรักแค่คุณคนเดียวรักคุณจริงๆ \" \" ไป๋เจิ้นหลงคุณอย่าหลอกตัวเองเลย คุณทำอะไรไว้ฉันไม่ลืม แต่ก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะเกลียดคุณฉันปลงปล่อยวางกับเรื่องในชาติที่แล้วนานละไม่งั้นฉันคงไม่ปล่อยคุณและคนรักของคุณให้อยู่ดีถึงตอนนี้ \" ไป๋เจิ้นหลงกลัวจะเกิดการสูญเสียอีกครั้งเขากอดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิมไป่เซทิ้งมือลงด้านข้างไม่แม้แต่จะกอดเขายิ่งคิดเธอเองก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดี ไป๋เจิ้นหลงจับไหล่ไป่เซแล้วเอาเธอออกจากอ้อมกอดมองสายตาคู่งาม \" ไป่ไปกับผม ผมจะให้คุณได้รู้ ความจริงในชาติก่อน ความจริงที่เราสองคนไม่ทันได้รู้ในชาติก่อนก็มาจากกันไป \" พูดจบก็จูงมือไป่เซออกไปจากห้องทำงานลงลิฟต์ส่วนตัวพอถึงชั้นล่างก็ขึ้นรถแล้วขับออกไปจากบริษัทมุ่งหน้าไปยังบ้านที่เรียกว่าห้องสมุด รถแล่นบนถนนบรรยากาศภายในรถเงียบสงัดทั้งสองไม่มีการพูดคุยกันแม้แต่คำเดียว เมื่อถึงบ้านนั้นทั้งสองก็เปิดประตูลงจากรถไป๋เจิ้นหลงจูงมือไป่เซเดินขึ้นไปบนบ้าน ภายในบ้านเก็บรูปภาพเก่าๆแต่ละรุ่นๆติดตามผนังเมื่อเข้าไปชั้นสองรูปภาพเก่าๆโบราณคนในภาพสวมชุดตามยุคตามสมัย ไป่เซเหลือบไปเห็นรูปๆหนึ่งถูกปิดคลุมไว้ด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาว เธอเดินไปใกล้รูปนั้นด้วยความสนใจอยากรู้ว่าปิดไว้ทำไมกัน เธอยื่นมือไปดึงผ้าออก ตรงหน้าเธอปรากฏรูปคนหน้าคล้ายเธอในชุดจีนโบราณสีชมพูผมยาวสวย บนศรีษะประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับดูสวยงามมากจริงๆ ใบหน้าดูงดงามกว่าเธอในตอนนี้แก้มชมพูระเรื่อปากแดงฉ่ำดวงตากลมทรงสวยคิ้วโค้งงามได้รูปใบหน้าเรียวเล็กน่าทะนุถนอม เธอตกตะลึงดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่น่าเชื่ออีกรูปหนึ่งเป็นรูปของไป๋เจิ้นหลง เธอคิดว่าเป็นเพราะไป๋เจิ้นหลงต้องการหลอกเธอจึงสร้างภาพให้คนวาดรูปเธอแล้วมาวางไว้ในบ้านหลังนี้เมื่อคิดได้แบบนี้จึงถอยหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่สายตาเธอเหลือบไปเห็นตัวอักษรจีนโบราณระบุวันเดือนปีชัดเจน ดูจากน้ำหมึกและสีหมึกที่แต้มลงบนภาพวาดทำให้เธอตะลึงอีกครั้ง แม้เธอจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุแต่เธอก็พอจะเทียบได้ว่าหมึกที่ลงสีวาดภาพหมึกที่เขียนตัวอักษรนั้นน่าจะเกิดขึ้นถูกเขียนขึ้นในเวลาเดียวกัน \" ไปเถอะไปดูชั้นสามกัน ในนั้นมีข้อมูลที่ผมเชื่อว่าคุณอยากรู้ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าผมรักคุณจริง \" ไป่เซไม่พูดเธอรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อไป๋เจิ้นหลงจีบมือเธอและจูงมือเธอขึ้นไปบนชั้นสามทันที ภายในห้องที่กว้างขวางนี้เต็มไปด้วยหนังสือโบราณถูกจัดวางเรียงเป็นชั้นๆ มีแผ่นไม้ไผ่ที่มีความแคบและยาวถูกม้วนเป็นเกลียวจัดวางในตู้ไม้ให้ความรู้สึกราวกับย้อนไปอยู่ในหอสมุดยุคโบราณ ไป๋เจิ้นหลงไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งเล่มนั้นเนื้อกระดาษจะมีความขรุขระไม่ละเอียดอย่างกระดาษในสมัยนี้ บนปกเขียนว่า บรรพบุรุษตระกูลไป๋ ***ใครยังอยู่เป็นเพื่อนกันอยู่บ้างนะ*** นักเขียนและนักอ่านเป็นเพื่อนกันผ่านนิยาย ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน*** paizay***yafern
已经是最新一章了
加载中