บทที่9
บทที่ 9 นายแบบ
“เฮ้ย…ทำไมไม่มีคนเลยล่ะ? ตึกใหญ่ขนาดนี้น่าจะมีคนบ้างสิ”
กึก กึก กึก
“เอ่อ… ฮ่า ฮ่า เริ่มหลอนแปลกๆแล้วส-\"
หมับ!
“อร๊าก!!! อย่ามาลอกผมเลยนะครับเดี๋ยวผมทำบุญไปให้ไปสู่สุขคติด้วยเถอะ สาธุๆๆ”
ผมน้ำตาซึมเล็กน้อยพลางยองๆเอามือปิดหูปิดตาแน่นสนิทโดยไม่สนใจอะไรแล้วว่าคนด้านล่างจะเป็นผีรึเปล่า แต่ที่แน่ๆผมจะไม่เห็นไปมองเด็ดขาด
“อะ เอ่อ คือ…”
เอ๊ะ เสียงคนนิ?
ผมได้ยินเสียงที่ฟังยังไงคงไม่ใช่ผีมาหลอกแน่ๆก็ค่อยๆหันหน้าไปมองไล่ตั้งแต่ปลายเท้ายันหัว
\"อ้าว ไม่ใช่ผีแฮะ\"
“ฮ่าๆๆ นายเนี่ยแปลกคนจังนะที่นี่จะไปมีผีได้ไงเล่า”
คนที่ยืนหัวเราะผมอยู่นั้นแต่งชุดพนักงานบริษัททั่วๆไปที่จะมีที่ห้อยคอและชุดที่จะใส่อะไรก็ใส่ตามปกติ เขาเป็นผู้ชายสูง ขาว ตี๋ ยิ้มทีนี่คือลูกตาหายไปแล้วนั่นเอง
“ก็…แฮะๆๆ ลืมๆมันไปเถอะครับ”
ผมหัวเราะแห้งๆตามเขาไป
“อื้มๆ เออจริงด้วยนายน่ะไม่ใช่พนักงานที่นี่สินะมีอะไรรึเปล่าถึงได้มาอยู่ในสภาพนี้ได้เนี่ย”
สภาพที่…ไม่พูดต่อให้จบด้วยนะ ==
“ก็แบบว่าผมแค่อยากรู้น่ะครับว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าเห็นพนักงานที่อยู่ข้างนอกบริษัทนี้ดูกระวนกระวายแปลกๆ แต่ผมคงจะมายุ่งไม่เข้าเรื่องสินะครับงั้นผมกลับก่อนนะครับ”
ผมพูดจบก็เตรียมจะเดินออกจากตรงนี้ทันที แต่ก็มีเสียงของผู้ชายคนนั้นขัดไว้
“เดี๋ยวสินายน่ะ”
“ครับ? มีอะไรรึเปล่าครับ?”
“อืม…”
ผมหันหน้ากลับไปหาเขา แต่จู่ๆผู้ชายคนนั้นก็เดินมาอยู่ตรงหน้าผมแล้วจับไหล่ผมให้ผมยืนตัวตรงๆ แล้วยืนมองพิจารณาผมตั้งแต่หัวจรดเท้าของผม
“นายน่ะหน้าตาดีไม่เบานิ รูปร่างก็ถือว่าสมส่วน นายเป็นนายแบบหรืออะไรรึเปล่า?”
“ก็…ไม่นะครับ มีอะไรรึเปล่าครับ?”
“ก็พอดีวันนี้นายแบบที่ทางเราจองตัวไว้ให้มาถ่ายแบบดันเกิดอุบัติเหตุกระทันหันน่ะสิวันนี้เลยวุ่นๆนิดหน่อยน่ะ”
“อ้าว แล้วถ้างั้นพนักงานคนอื่นๆล่ะครับพวกเขาควรจะอยู่ที่นี่บ้างสิแต่ผมไม่เห็นมีพนักงานคนอื่นเลย”
“ไม่แปลกหรอกที่นายจะเป็นไม่เห็น ก็ทุกคนในบริษัทน่ะไปอยู่ใจกลางบริษัทหมดแล้วที่ๆเราอยู่เนี่ยแค่ชั้นด้านล่างนะ”
“อ่อ แล้วคุณมาทำอะไรชั้นนี้ล่ะครับ”
“มาหยิบของน่ะแล้วดันมาเจอนายพอดีเลยแวะมาทักซะหน่อย งั้นฉันไปล่ะกลับดีๆล่ะ”
เขาว่าจบก็โบกไม้โบกมือแล้วเตรียมจะเดินออกจากห้องนี้ เอาไงดีล่ะ…นายแบบประสบอุบัติเหตุงั้นหรอแต่ถึงจะเรียกนายแบบคนอื่นๆมาอย่างกระทันหันยังไงซะก็อาจจะไม่ทันก็ได้
“อย่าพึ่งไปครับ!”
นั่นไง…ร่างกายไปไวกว่าคำตอบในหัวอีกแล้ว
“หื้อ? มีอะไรหรอ”
“ถึงผมจะไม่ใช่นายแบบแต่ผมก็พอจะช่วยพวกคุณได้นะครับ”
ในตอนนี้ผมเป็นใครก็ไม่รู้ เพราะงั้นผมก็ถือว่าไม่ได้โกหกนะในความหมายของผม ‘ไม่ได้เป็นนายแบบ’ มันคือเจ้าของร่างนี้จริงๆต่างหาก ในตอนนี้ผมอยู่ในร่างของเบอร์ลินผมควรจะทำในสิ่งที่มันจะหมายถึงเบอร์ลินไม่ใช่สิ่งที่หมายถึงตัวผมที่จริงๆแล้วเป็นนายแบบนั้นแหละเออ…
สรุปง่ายๆแหละว่าในตอนนี้ผมคือเบอร์ลิน เบอร์ลินไม่ได้มีอาชีพเป็นนายแบบเพราะฉะนั้นผมไม่ควรแอบอ้างอาชีพนี้โดยพละการเดี๋ยวมีเรื่องเอา
“นายจะบ้าหรอ นายแบบไม่ใช่ว่าหน้าดีอย่างเดียวจะทำได้นะ”
“ผมทราบครับ ผมจะทำหน้าที่นายแบบนี้เองขอแค่คุณมั่นใจในตัวผมแล้วผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”
ผมมองอีกฝ่ายด้วยสายตาจริงจังและมั่นใจกับคำพูดของตัวเองว่ามันจะเป็นอย่างที่พูด จนเขาเองก็มองผมนิ่งเหมือนกัน
“ก็ได้ๆๆ ฉันจะลองเชื่อนายดู”
“จะ จริงหรอครับ!?”
ว้าว ไม่คิดเลยว่าเขาจะตอบอย่างงี้ตอนแรกคิดว่าจะปฏิเสธซะแล้วนะเนี่ย
“แต่ฉันไม่ใช่คนเลือกนายมาเป็นนายแบบหรอกนะ ฉันก็แค่พนักงานคนนึงคนที่จะเป็นคนเลือกนายคือคุณลูก้ากับบอสของที่นี่เท่านั้น”
“ครับ ผมทราบครับเพราะงั้นช่วยพาผมไปหาพวกเขาทั้ง 2 ด้วยนะครับ”
“นายเนี่ย…ใจกล้าไม่เบาเลยนะ”
เขาว่าจบก็แสระยิ้มมุมปากออกมาก่อนจะเดินนำผมแล้วขึ้นลิฟต์ไป คุณลูก้างั้นหรอ…เขาเป็นถึงดีไซน์เนอร์ระดับโลกการเลือกนายแบบก็คงไม่ธรรมดาเช่นกันแต่บอสของที่นี่จะเป็นใครกันนะชักอยากจะเห็นซะแล้วสิ
แต่…ที่เขาพูดว่า ‘ใจกล้าไม่เบา’ เนี่ยหมายถึงอะไรกัน..