ตอนที่362 นักแสดงถูกเปลี่ยน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่362 นักแสดงถูกเปลี่ยน
ตอนที่362 นักแสดงถูกเปลี่ยน เรื่องราวยังคงร้อนระอุไม่หยุด ทีมกองถ่ายเองก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากทางผู้ผลิต เพราะผู้ผลิตต่างให้ความสนใจกับข่าวลือภายนอกเป็นอย่างมาก หนึ่งวันถัดมา ผู้กำกับก็ได้รับสายหนึ่ง “เรื่องนี้ต้องมีคำตอบ พวกเราต้องการเห็นการถ่ายทำภาพยนตร์เป็นไปอย่างราบรื่นเท่านั้น เพราะฉะนั้นหาทางที่เร็วที่สุดก็คือถอนจิดาภาซะ” “แค่นักแสดงสมทบคนหนึ่งเท่านั้น คนอื่นก็แสดงได้เช่นกัน ส่วนจะเป็นใครนั้นทางเราได้เลือกไว้แล้ว พรุ่งนี้คงจะไปรายงานตัวที่กองถ่าย” ผู้กำกับชะงักไปอึดใจ “แต่ว่าเราเริ่มกองไปแล้วนะครับ หากให้เปลี่ยนทั้งอย่างนี้คงจะไม่ดีเท่าไหร่กระมังครับ” เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดของผู้กำกับก็คือความสัมพันธ์ของจิดาภาและจิรภาส “มีตรงไหนที่ไม่ดีกัน ทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอทั้งนั้นที่ทำให้บ็อกซ์ออฟฟิศของเราลดลง หากพวกเราเสียรายได้ไป พวกนายรับผิดชอบได้อย่างนั้นหรือ นายรู้ไหมว่ากว่าที่เราจะเชิญสมภพมาได้มันยากขนาดไหน ฉันทนมองเงินของฉันถูกเททิ้งเป็นน้ำไม่ได้หรอกนะ” “แต่ว่าทางท่านประธานจิรภาส...” ผู้กำกับร้อนรนจนหัวหมุน เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายกับจิรภาสเช่นไร และจิดาภาก็เป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม ยังจะมีใครเล่นบทละครนี้ได้ดีกว่าเธออีกอย่างนั้นหรือ “เรื่องพวกนั้นทางเราจะจัดการเอง นายถ่ายให้ดีก็พอ” ผู้กำกับจึงทำได้แค่รับปากอย่างจนใจ และทางผู้ผลิตก็ได้ต่อสายหาตฤณโดยไว จิรภาสมองจิดาภาที่งีบหลับอยู่ข้างกาย ก่อนจะลุกออกไปจากห้องพักผู้ป่วย “ครับ จิรภาสครับ” “ประธานจิรภาส ผมคือปสันน์ครับ คุณจำได้ไหม เราเคยพบเจอกันครั้งที่แล้ว... คือ ร่างกายของภรรยาคุณเป็นอย่างไรบ้างครับ หากต้องการออกจากโรงพยาบาล ทางเราสามารถส่งรถไปรับได้นะครับ” ทุกคำที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา มันเต็มไปด้วยคำเยินยอและเสแสร้ง “คุณปสันน์มีเรื่องอะไรก็พูดมาตามตรงเถอะครับ” “เช่นนี้นะครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเงินทุนจากบริษัทของเรา เป็นเกียรติของพวกเรามากที่ได้ภรรยาของท่านมาร่วมแสดงด้วย แต่ว่า... ตอนนี้ข่าวของนอกนี้กำลังร้อนแรงเป็นอย่างมาก และสถานที่ถ่ายทำเองก็ทุรกันดาร เช่นนั้นควรให้คุณหญิงพักฟื้นดีกว่าหรือไม่ บางทีเรื่องหน้าอาจจะมีบทละครที่ดีกว่า...” “พวกเราได้ปรึกษากันแล้ว ว่าจะให้คนอื่นเข้ามารับบทแทน คุณเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ” ดังนั้น ผลสรุปมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นคือการถอดจิดาภา “ที่คุณโทรมาหาผม นั่นหมายความว่าคุณได้หารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถูกไหม” น้ำเสียงของจิรภาสเต็มไปด้วยความอันตราย สายตาทอประกายเย็นยะเยียบ ดูเหมือนว่าการที่ปิดบังความสัมพันธ์ของเขาและสมภพ จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง พวกเขาต้องการถอดจิดาภาอย่างนั้นรึ ย่อมได้ เช่นนั้นก็ตามหานักแสดงบทพระเอกคนใหม่ด้วยไปเลย “เรื่องนั้น... พวกเรายังมีโอกาสร่วมงานกันครั้งหน้านะครับ ผมรับปากเลยว่าหากมีบทที่เหมาะสมกับคุณหญิง เราจะติดต่อท่านเป็นคนแรกอย่างแน่นอน” “ผมทราบแล้ว” จิรภาสตัดสายด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบ มีเค.เอฟอยู่ แล้วจิดาภาจะรับบทเรื่องอื่นไม่ได้ได้อย่างไร หากจะถอดคนของเขา เช่นนั้นก็เตรียมรับผลที่จะตามมาได้เลย เมื่อวางสายไปแล้ว ปสันน์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ “ในที่สุดก็ถอดนักแสดงหายนะไปได้ เป็นศิลปินเค.เอฟแล้วอย่างไร สุดท้ายก็ต้องฟังผู้ผลิตเช่นเราอยู่ดี” “ท่านประธานรับปากพวกเขาจริงๆ หรือครับ” ตฤณคิ้วขมวด เขารู้สึกว่าเรื่องราวไม่ควรจะจบลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ ด้วยโทสะของท่านประธานของเขานั้น... ฝ่ายตรงข้ามคงรู้สึกว่าเส้นทางธุรกิจนั้นง่ายดาย ถึงได้กล้าเอาตัวเองมาเข้าปากถ้ำเสือเช่นนี้ จิรภาสกระแอมไอเบาๆ เหลือบมองตฤณ จนตฤณต้องเงียบในทันที ที่ทางผู้ผลิตตัดสินใจเช่นนี้ ไม่เพียงเปลี่ยนเพราะข่าวลือ แต่ทั้งยังเป็นเวลาที่พอเหมาะพอเจาะเช่นนี้อีกด้วย จนทำให้คนอาจจะไม่ได้คิดใคร่ครวญให้มาก ได้สิ ให้พวกเขาเปลี่ยนคนก็ได้... เมื่อจิดาภาไม่ได้แสดง ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถ่ายต่อไป จิรภาสยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา ก่อนจะหันหลังเดินไปทางห้องพักของสมภพ “ท่านประธานจิรภาส...” เจนจิราเปิดประตูออกมา ก็เจอกับจิรภาส “เธอไปทานข้าวก่อนเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับสมภพ” จิรภาสกล่าวเสียงเบา “ค่ะ” เจนจิราพยักหน้า ก่อนจะออกจากห้องพักผู้ป่วยอย่างเงียบๆ สมภพที่อยู่บนเตียงหน้านิ่วคิ้วขมวด “ใครให้นายออกคำสั่งกับคนของฉันกัน” “ทางผู้ผลิตจะถอดจิดาภา ดังนั้น... นายก็ออกซะ” จิรภาสดึงเก้าอี้มา และนั่งลงข้างๆ กัน เขาไม่เคยล้อเล่นในเรื่องแบบนี้มาก่อน สมภพ จึงพยักหน้ารับคำ “ทราบแล้ว” รังแกคนในครอบครัวของพวกเขา เขาย่อมไม่นิ่งเฉยอยู่แล้ว ต่อให้เขาชอบบทละครนี้ แต่ก็ต้องเลี่ยงความโกรธของจิรภาส หากเขาดึงดันจะแสดง เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางได้เข้าโรงเป็นแน่ สมองของทางผู้ผลิตถูกปิดตายแล้วรึ ก่อนจะหาเรื่องกับเค.เอฟ ก็ควรพิจารณาหลักกำลังของตัวเองเสียก่อน ชายหนุ่มที่รักภรรยามากล้นแบบจิรภาส จะปล่อยให้พวกเขามารังแกจิดาภาได้อย่างไรกัน ..... ยามเช้าตรู่ที่ฟ้าเพิ่งจะสว่าง คนทั้งตระกูลวีรภัทรเมธีก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เพราะวันนี้เป็นวันที่ท่านจิรชยาจะออกจากโรงพยาบาล จึงไม่มีใครกล้าสร้างปัญหา “คุณปู่คะ อาหารเช้าได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นกับข้าวที่คุณปู่ชอบทั้งนั้นเลยค่ะ พวกเราตั้งใจเตรียมไว้รอเลยนะคะ” ญาณิดาประคองท่านจิรชยา และกล่าวเสียงเบา “คุณปู่ ผม...” พรยศเดินมาทางด้านข้าง ในตอนที่จะเอ่ยพูด ก็ถูกญาณิดาเอ่ยขัดทันที “พรยศ คุณปู่เพิ่งจะกลับถึงบ้าน มีเรื่องอะไรค่อยมาพูดกันทีหลัง” ญาณิดาส่งสายตาข่มขู่เขา เพื่อห้ามไม่ให้เขาบอกกับท่านจิรชยาเกี่ยวกับเรื่องของจิดาภา แต่อย่างไรท่านจิรชยาก็ไม่ใช่คนโง่ เขากำไม้เท้าในมือและหยุดเดิน เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยขึ้น “พูดมา จะพูดอะไร” พรยศกระแอมไอ ลอบมองท่าทีของญาณิดา ถึงแม้จะเป็นเพียงข่าวลือ แต่เค.เอฟยังไม่ลงมือ เช่นนั้นรอต่อไปก่อนดีกว่า พรยศเงียบไป ใจของรุจาภาก็ร้อนรน เธอปรี่เข้าไปหา และขวางทางท่านจิรชยาไว้ “คุณพ่อคะ ฉันมีเรื่องอยากจะพูดค่ะ” ท่านจิรชยาจ้องมองเธอ สายตามืดครึ้มพลัน รุจาภาไม่สนว่าสามีของญาณิดาจะขว้างหรือไม่ และเลือกย่างก้าวเข้าไปเบื้องหน้าของท่านจิรชยา “ฉันอยู่ในตระกูลวีรภัทรเมธีมาหลายปี และไม่ใช่คนที่กระทำตัวไม่เหมาะสม หากในวันนี้ฉันทำเพื่อตัวเอง ก็คงจะไม่พูดอะไรแม้แต่คำ แต่เพื่อลูกสาวแล้ว ฉันจึงอดทนต่อไปไม่ได้” “ก่อนหน้านี้ฉันคิดจะไปหาท่านที่โรงพยาบาล แต่ก็ถูกพวกเขาสองสามีภรรยาขวางเอาไว้ เมื่อหมดหนทาง จึงทำได้แค่มาพูด ณ ตรงนี้เท่านั้น” ท่านจิรชยาเหลือบมองญาณิดา ก่อนจะพยักหน้าให้รุจาภาได้เอ่ย “เรื่องอะไร” “จิดาภาได้รับบาดเจ็บขณะถ่ายทำ ตอนนี้ยังไม่มีข่าวออกมาเลยแม้แต่น้อย เป็นไปได้ว่า...” รุจาภากล่าวเช่นนี้ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “อะไรกัน เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมถึงเพิ่งจะมาบอกฉันฮะ” ท่านจิรชยาตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด “คุณปู่คะ ห้ามตื่นตระหนกนะคะ...” ญาณิดารีบเข้าไปประคองท่านจิรชยาลงนั่งทันที “ฉันส่งคนไปตรวจแล้วค่ะ ไม่ได้มีเรื่องอะไรร้ายแรงถึงขนาดนั้น เธอบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” “เธอไปตรวจสอบแล้วอย่างนั้นรึ ตอนนี้ไม่มีใครได้ข่าวอะไรทั้งนั้น เธอตรวจสอบด้วยวิธีใดกัน ฉันถึงขั้นส่งคนไปถามที่เค.เอฟ ก็ยังไม่ได้ข่าวอะไรเลย เธอที่เกลียดคนในวงการบันเทิงมาโดยตลอด เหตุใดถึงได้ข่าวมาไวนัก” ท่าทางของรุจาภาเต็มไปด้วยความกังวล
已经是最新一章了
加载中