ตอนที่363 สถานการณ์ตระกูลวีรภัทรเมธี   1/    
已经是第一章了
ตอนที่363 สถานการณ์ตระกูลวีรภัทรเมธี
ตอนที่363 สถานการณ์ตระกูลวีรภัทรเมธี “คุณน้าคะ ฉันเองก็มีวิธีในแบบของฉัน น้าตรวจสอบไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำไม่ได้นี่คะ ใช่ไหม” “ฉันตรวจสอบ ก็เพราะฉันห่วงใยลูกสาวของฉัน เธอล่ะ เพื่ออะไร” รุจาภาถามกลับ “หากตรวจสอบได้แล้วว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรก็ถือว่าเป็นโชคดี รอติดต่อเธอได้เมื่อไหร่ ใส่ใจเธอให้มากขึ้นก็แล้วกัน” คำพูดเพียงไม่กี่คำของท่านจิรชยา ราวกับมองทะลุความผิดปกติไป “ฉันเข้าใจเธอ แต่หากเธอยังปลอดภัย เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรจะต้องคุยกันแล้ว” กล่าวจบ ท่านจิรชยาก็ลุกขึ้นและเดินไปทางห้องอาหาร ญาณิดาแสยะยิ้มเยาะ และเดินตามไปทางเดียวกัน เพียงแค่ท่านจิรชยาเอ่ยปาก เรื่องนี้ก็จบลงแล้ว และรุจาภาก็ยังคงต้องข่มกลั้นดั่งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน รุจาภาตะโกนเสียงดังลั่นทั้งๆ ที่ยังยืนอยู่ที่เดิม “คุณพ่อคะ ญาณิดาเป็นหลานสาวของคุณ คุณปกป้องเธอ ไม่ต้องการเผยความในใจของเธอที่คิดร้ายกับจิดาภา ฉันก็ไม่โทษอะไรคุณค่ะ แต่เค.เอฟจะไม่เป็นแบบนี้ หากทางพวกเขาตรวจสอบได้แล้ว คุณยังจะปกป้องญาณิดาเฉกเช่นวันนี้อีกหรือไม่” รุจาภากล่าวจบ ก็หันหลังกลับขึ้นตึกไป ญาณิดากัดปากจนแดงก่ำ “คุณปู่คะ ไปทานข้าวก่อนเถอะค่ะ” ท่านจิรชยาเหลือบมอง ก่อนจะเดินไปข้างหน้า เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ คนของตระกูลวีรภัทรเมธีก็กลับเข้าห้องของตัวเองไป พรยศที่มองเห็นโอกาส ก็รีบเดินเข้าไปในห้องของท่านจิรชยา ท่านจิรชยานั่งอยู่ริมหน้าต่าง เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา ก็กวักมือเรียก “รู้สึกว่าปู่เปลี่ยนไปใช่หรือไม่” ท่านจิรชยาส่ายหน้าด้วยความขมขื่น สายตาทอประกายล้ำลึก “เมื่อก่อนในบ้านปู่นั้นให้ความเท่าเทียมกับทุกคน แต่ในตอนนี้ ปู่จำต้องประนีประนอม หลานรู้หรือไม่ว่าตอนนี้จิดาภาเป็นอย่างไรบ้าง” พรยศส่ายหน้า “ตรวจไม่พบข่าวคราวเลยแม้แต่น้อยครับ แต่เค.เอฟยังไม่ได้ออกหน้ามาชี้แจง บางทีการไม่มีข่าวคงจะเป็นข่าวที่ดีที่สุด” ท่านจิรชยาที่ได้ฟังคำพูดของเขาก็พยักหน้า “นอกจากเรื่องนี้แล้ว หลานยังอยากพูดอะไรอีกหรือไม่ หากเป็นเรื่องที่หลานอยากจะเป็นนักร้อง ปล่อยวางมันเสียก่อนซะ สถานการณ์ในบ้านตอนนี้หลานเองก็เห็นอยู่” “พี่สาวคนที่สามก็ยืนกรานในแบบตนเอง ส่วนพี่สาวคนโต... แค่กๆ ความจริงสิ่งที่ปู่หวังไว้มากที่สุดคือการพาพี่สาวคนที่สามของหลานกลับบ้านมา เพื่อมอบความหวังให้กับปู่” พรยศพลันชะงักนิ่ง ในช่วงเวลานี้เขารู้สึกได้ว่าท่านจิรชยาดูแก่ลงไปหลายปี และยังคงดูโดดเดี่ยวไร้หนทาง “คุณปู่ครับ... ผมไม่สนใจการทำธุรกิจจริงๆ” “แต่พี่คนโตของหลานสน แต่ใจเธอมันมืดมิด มอบตระกูลวีรภัทรเมธีให้กับเธอ ปู่จะวางใจได้อย่างไร” บางเวลาการต่อสู้เพื่ออำนาจก็เป็นสิ่งต้องห้ามของนักธุรกิจ “คุณปู่กำลังรอให้พี่สามเปลี่ยนใจอยู่ใช่ไหมครับ” พรยศเอ่ยถามเสียงแผ่ว ท่านจิรชยาไม่ได้ตอบอะไร แต่ความเงียบของเขาก็เหมือนกับยอมรับอยู่กลายๆ แล้ว เขาเข้าใจมากกว่าคนอื่นๆ ว่าเหตุใดจิดาภาถึงเลือกจะไปใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกนั่น และไม่ยินยอมที่จะกลับบ้าน เป็นเพราะการคุกคามของญาณิดา... “ต่อจากนี้ถ้าพี่ใหญ่ของหลานลงมือทำอะไร ให้รีบมาบอกปู่ทันที ถึงปู่จะแก่แล้ว แต่จะไม่ยอมปิดตาเป็นคนโง่อีกต่อไป” เขาได้ให้โอกาสที่มีเพียงหนึ่งครั้งกับญาณิดาไปแล้ว “ครับปู่ ผมเข้าใจแล้ว” ณ ระเบียงทางเดินของตระกูลวีรภัทรเมธีในเวลานั้น ญาณิดาก็ได้รับสายจากผู้ช่วย “คุณญาณิดาครับ จัดการเรื่องเสร็จแล้วครับ ทางผู้ผลิตได้ถอดคุณจิดาภาแล้ว และในวงการบันเทิงก็ได้เริ่มเผยแพร่แล้วว่าเธอคือนักแสดงหายนะ” “จัดการต่อไป ฉันต้องการให้ชื่อเสียงของเธอเสียหายจนโงหัวขึ้นมาไม่ได้อีกตลอดไป” ในตอนที่ญาณิดาวางสาย และหันหลังเตรียมจะกลับห้อง ก็พบพรยศยืนอยู่ข้างหลังของเธอ เธอรีบซ่อนมือถือไว้ข้างหลังในทันที “นายมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” “น่าจะตั้งแต่ที่พี่เริ่มพูดว่าต้องการให้ชื่อเสียงของพี่สามเสียหายจนโงหัวไปขึ้น” “พรยศ นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น” “พี่ใหญ่ พี่เป็นคนเช่นไร ผมรู้จักดี ไม่ต้องแสดงตอนอยู่ต่อหน้าผมหรอก หลายปีมานี้คุณน้าก็ระมัดระวังตลอดเวลาอยู่ในบ้าน ต้องมาเห็นของพี่ที่เป็นคนไล่พี่สามออกจากบ้าน คุณน้าก็ยังอดทน แต่อย่างไรพี่ก็ต้องได้รับบทเรียนเสียบ้าง” “นายพูดไร้สาระอะไรกัน ทำไมถึงได้พูดวกเข้าเรื่องของจิดาภาอยู่เรื่อย ฉันยังต้องไปจัดการธุระที่บริษัทอีก ไม่มีเวลามาคุยกับนายหรอกนะ” ญาณิดาปลีกตัวหลบสายตาของพรยศ และเดินหายไปทางบันไดที่อยู่ข้างๆ พรยศที่ยังยืนอยู่ที่เดิมได้แต่ส่ายหน้า ใจคนที่เต็มไปด้วยความโลภยากที่จะกู่กลับแล้ว นี่คือความสัมพันธ์ของตระกูลวีรภัทรเมธีอย่างนั้นหรือ หากคราแรกคนที่ออกไปไม่ใช่จิดาภา แต่เป็นญาณิดา บรรยากาศในตระกูลวีรภัทรเมธีตอนนี้จะดีขึ้นขนาดไหนกัน... หากญาณิดายังจะทำเช่นนี้ต่อไป ก็รอรับผลของการกระทำของตัวเองไว้ด้วย เป็นอีกครั้งที่รุจาภาได้แต่จ้องมองท่านจิรชยาถือหางให้กับความเลวร้ายของญาณิดา เธอโกรธจนเกินจะควบคุมได้ไหวแล้ว หลายปีที่ผ่านมาความเท่าเทียมของท่านจิรชยาคือความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเธอภายในตระกูลวีรภัทรเมธี แต่ตอนนี้ความยุติธรรมของตระกูลวีรภัทรเมธีได้เอนเอียงไปทางญาณิดาเสียแล้ว... หากครั้งนี้จิดาภาโชคร้ายเพราะการกระทำของญาณิดาจริงๆ ตระกูลวีรภัทรเมธียังจะปิดตาข้างเดียวต่อไปหรือไม่ จิดาภายังคงพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล และไม่รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในตระกูลวีรภัทรเมธี และไม่รับรู้ถึงเรื่องเปลี่ยนตัวนักแสดงเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เรื่องเกิดไป 48 ชั่วโมงแล้ว ในที่สุดเค.เอฟก็ได้ออกมาแถลงไข แจ้งว่าข่าวทั้งหมดในโซเชียลเป็นเพียงข่าวโคมลอย จิดาภาและสมภพได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตอนนี้ทางเค.เอฟกำลังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบอยู่ แต่คนภายนอกยังคงถกเถียงกันว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะดาวหายนะของจิดาภา และยิ่งนานก็ยิ่งแปลก จนสุดท้ายถึงขั้นกลายเป็นว่าจิดาภาได้เลี้ยงวิญญาณร้ายไว้ที่บ้าน ในวงการบันเทิงนั้นมีคนทุกรูปแบบ เพื่อความโด่งดังแล้ว ถึงขั้นมีคนไปขอพรกับเทพเจ้า แม้แต่คนที่เชื่อในความลับของธรรมชาติและดวงดาว จนถึงขั้นเลี้ยงปีศาจตัวน้อยไว้ในบ้านเพื่อความโด่งดังก็มี หลังจากที่จิดาภาเลิกรากับชเยศ เส้นทางของเธอนั้นก็ลำบากลำบน เส้นทางดวงดาวที่พบกับปัญหาแต่ก็คลี่คลายได้ในท้ายที่สุด ตอนนี้ก็ได้แต่งงานจิรภาส ราชาแห่งวงการบันเทิง ดังนั้น... คนภายนอกจึงเริ่มคิดกันว่าเธอใช้วิธีลับอย่างไรกันแน่ เมื่อมีคนนินทากันไปเช่นนี้ ข่าวลือก็ยิ่งแพร่สะพัด จนกลายเป็นควบคุมเอาไว้ไม่ได้ และยิ่งจะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเป็นเช่นนี้คงไม่มีใครกล้าที่จะร่วมงานกับจิดาภาแม้แต่คน ต่อให้จิดาภาจะมีบริษัทชั้นนำของวงการบันเทิงอย่างเค.เอฟคอยหนุนหลัง แต่เมื่อต้องโดนความกดดันจากข่าวลือของคนภายนอก เค.เอฟยังจะสนับสนุนเธอต่อไปอย่างนั้นหรือ หรืออาจจะเลือกที่จะอยู่เงียบ โดยให้จิดาภาหยุดพักผ่อนไปสักพักเสีย เค.เอฟคงจะใช้วิธีขั้นเด็ดขาด เพื่อหยุดข่าวลือจากคนภายนอกและโพสต์บนโซเชียล แต่ในวงการเช่นนี้ย่อมมีคนที่จดจำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน จิดาภาทำตามกำหนดการของจิรภาสและนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งวัน หลังจากนั้นเมื่อได้ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดถี่ถ้วน และไม่พบปัญหาอะไรแล้ว จิรภาสจึงเตรียมรถเพื่อกลับเข้าเมืองในทันที “มีคนต้องการพบคุณครับ พวกเราต้องกลับไปก่อน” “ใครคะ” “เมื่อไปถึงคุณจะรู้เองครับ” จิรภาสกุมมือของเธอไว้ ไม่มีความคิดที่จะปล่อยไปแม้แต่น้อย ในไม่ช้าไม่เร็วเขาจะทำให้จิดาภาได้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่ใครหน้าไหนก็แตะต้องไม่ได้
已经是最新一章了
加载中