ตอนที่364 เชื่อผม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่364 เชื่อผม
ตอนที่364 เชื่อผม จิดาภาเชื่อใจจิรภาสมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ได้ถามอะไรมาก รอให้กลับไปถึงก่อนค่อยเอ่ยขึ้นอีกทีก็ย่อมได้ แต่บนโลกใบนี้นั้นไม่มีความลับใดๆ ที่ถูกปิดไว้ได้ โดยเร็วเธอก็ได้รู้ว่าตัวเองถูกถอดออกแล้ว “ฉันไม่รู้เลยค่ะ ว่าฉันถูกถอดแล้ว...” จิดาภาหันหน้าไปถามจิรภาส จิรภาสพยักหน้า “ครับ แต่ไม่เป็นไร คุณเหมาะสมกับบทละครที่ดียิ่งกว่านี้ ครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ก็พอครับ” จิดาภาเข้าใจ ดูเหมือนว่าจิรภาสจะยินยอมกับเรื่องนี้แล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องจดจำ หากสามารถจัดการเรื่องราวได้ จิรภาสย่อมไม่ปล่อยให้เธอมีโอกาสได้ยินเรื่องนี้เป็นแน่ เมื่อเขาตัดสินใจแล้ว เธอก็จะทำตามอย่างเต็มที่ เพราะเธอเข้าใจ จิรภาสจะใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อมอบโลกที่ดีที่สุดให้แก่เธอ การถ่ายโฆษณาในอดีต การได้รับเลือกนั่นถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เรื่องของข่าวลือ ต่อให้จัดการได้ แต่การที่จะเธอกลับไปกองถ่ายในตอนนี้ก็เป็นเพียงการสร้างความลำบากให้กับทุกคนเท่านั้น แทนที่จะต้องลำบากด้วยกัน เลือกจากไปเสียแต่ตอนนี้จะดีกว่า เธอในตอนนี้ยังไม่ทันได้คิด ว่าจิรภาสจะมีแผนใหม่เสียแล้ว ไม่มีจิดาภา คนป่าเถื่อนตอนคืนก็ไม่ต้องได้ฉาย “ฉันดูเหมือนคนที่มีความเชื่องมงายเช่นนั้นหรือคะ” จิดาภารู้สึกพูดไม่ถูก และวางโทรศัพท์ลง “ฉันคิดว่าฉันได้พูดอย่างชัดเจนแล้วนะคะ ทำไมเธอถึงยังไม่เข้าใจกัน จะต้องให้ฉันตายจริงๆ หรือคะ เธอถึงจะสบายใจ” “บนโลกนี้มีคนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอยู่ครับ” จิดาภาเม้มริมฝีปากแน่น “ค่ะ ฉันเห็นด้วย” “เชื่อผม ผมจะให้หลักที่ปลอดภัยแก่คุณ หากคุณยังต้องการเดินต่อไปในวงการนี้ จะไม่มีใครสามารถมาขวางคุณได้” คำพูดของเขาราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ใจของจิดาภาอบอุ่นขึ้นมา ..... จิดาภาโดนจิรภาสพากลับไปแล้ว แต่บาดแผลของสมภพยังไม่หายดี จึงยังต้องพักอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ ดังนั้นเจนจิราจึงต้องอยู่ต่อเพื่อดูแลเขา เธอไถโทรศัพท์เพื่อดูข่าวเหล่านั้น และด่ากราดด้วยความโมโห จนลืมไปว่าสมภพนั้นอยู่ข้างๆ ... “เมื่อครู่ฉันไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นนะคะ และคุณก็ไม่ได้ยินอะไรเช่นกัน” เจนจิราเอ่ยเสียงแผ่ว “ผมได้ยินทั้งหมด” สมภพหลับตาเพื่อพักผ่อน แต่ในใจกลับรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้น่ารักยิ่งนัก “คือ...” เจนจิราอยากจะอธิบาย แต่ไม่รู้ว่าจะพูดเช่นไร “ไม่ต้องกังวล จิดาภาอยู่ในวงการบันเทิงมานาน เรื่องนี้ทำอะไรเธอไม่ได้หรอก” สมภพลืมตาขึ้น แต่ที่น่าแปลกใจก็คือคำพูดของเขาที่ช่วยทำให้เจนจิราสบายใจขึ้นมา และสายตาของเขานั้นก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น จนเจนจิราอดที่จะชะงักไปไม่ได้ “ฉันเชื่อว่าพี่จิดาภาจะไม่ล้มลงเพราะข่าวพวกนั้น แต่พวกเขาพูดได้น่าเกลียดมาก พี่จิดาภาแค่อยากจะแสดงละครเท่านั้น ทำไมถึงไม่ปล่อยพี่เขาไปเสียที” เจนจิราถอนหายใจในทันที “น่าจะเพราะอิจฉาความสามารถและพรสวรรค์ของเธอ” เจนจิราที่ได้ฟังก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “เป็นเช่นนี้แน่นอน” “หากเป็นเพราะเหตุผลนี้ ก็หมายความว่าจิดาภาชนะฝ่ายตรงข้ามมาตลอด แล้วเธอจะโกรธอะไรกัน” เจนจิราคิ้วขมวด นั่นสิ และข้างกายของจิดาภาก็ยังมีจิรภาสคอยปกป้องอยู่ คิดไปคิดมา จิดาภาไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน สมภพที่เห็นว่าปลอบประโลมเธอได้แล้ว ก็หลับตาลง แต่ข้างนอกประตูนั้น พยาบาลหลายคนกลับจับกลุ่มกระซิบกระซาบกัน “สมภพที่เย็นชาต่อทุกคน ทำไมถึงดีกับผู้ช่วยตัวน้อยคนนั้นจัง” “เย็นชาโดยธรรมชาติกระมัง ทุกครั้งที่เข้าไปเปลี่ยนยาให้ เขาก็ไม่ได้สนใจใครนะ” “ไม่นะ ฉันเห็นว่าเวลาที่เขาคุยกับผู้ช่วยตัวน้อยคนนั้นดูอารมณ์ดีมากเลย” นั่นคือคนผู้ที่เป็นข้อยกเว้นของโลกใบนี้อย่างแท้จริง ..... เพียงจิดาภากลับมาถึงบ้าน ก็เห็นว่าพี่นัฎได้มาคอยแล้ว ทันทีที่เห็นเธอ พี่นัฎก็รีบปรี่เข้ามากอดจิดาภาไว้แนบแน่น ก่อนจะพูดกับเธอด้วยเสียงสั่นเทา “ฉันไปเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ทำไมเธอถึงผอมลงขนาดนี้ หรือว่าแอบอ่านสคริปต์ตอนดึกดื่นอีกแล้วใช่หรือไม่” “ฉัน...” “บอกกับเธอกี่ครั้งแล้ว ต้องห่วงสุขภาพของตัวเองด้วย หากเกิดเรื่องกับเธอ แล้วฉันจะทำอย่างไร” พี่นัฎรู้สึกพังทลายในทันที กอดจิดาภาไว้และร่ำไห้ “ตอนที่ฉันเห็นข่าวฉันร้อนรนจนแทบแย่ เธอโตแล้วนะ ทำไมถึงยังทำให้คนอื่นมาคอยกังวลอยู่กัน เธออยากให้ฉันตกใจจนตายหรือ” จิดาภารู้ว่าพี่นัฎห่วงใยเธอ ดังนั้นจึงยืนอยู่นิ่งๆ และเช็ดน้ำตาให้กับพี่นัฎ “เธอแต่งงานมาก็นานแล้วนะ นี่ก็ใกล้จะเปิดตัวแล้ว ทำอะไรก็คอยระวังด้วย หากไม่ทำเพื่อตัวเอง ก็นึกถึงบอสไว้ก็ได้” พี่นัฎสะอื้นไห้ “เป็นใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เลวนัก จับตัวได้จะทำให้รู้ซึ้งถึงคำว่าอยู่ไม่สู้ตาย” สายตาของจิดาภาเปล่งประกายเย็นยะเยือก เหตุผลที่เธอไม่ลงมือ ก็เพียงเพราะศีลธรรมในใจที่มีผู้อาวุโสของตระกูลวีรภัทรเมธีเท่านั้น ตอนนี้... เป็นเพราะตัวญาณิดาทั้งนั้น “แล้วฉันได้ยินมาว่าทางกองถ่ายตัดสินใจถอดเธอออก ทำไมถึงทำเช่นนี้กัน พวกเขากำลังผิดสัญญา หากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป บอสและเค.เอฟจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน” “จิรภาสจะแก้ไขได้” “ฉันจะรอยามที่บอสลงมือ ให้พวกเขาได้รู้ซึ้งซะบ้าง” เมื่อไม่ให้จิดาภาเข้าถ่าย และหากจะต้องเข้าไปปะทะกับส่วนความทรงจำ เช่นนั้นสู้ไม่ถ่ายเสียจะดีกว่า... “แล้วอีกเรื่อง จิรภาสบอกว่ามีคนต้องการพบฉัน ไม่ใช่พี่ใช่ไหม” จิดาภาถามอย่างขบขัน พี่นัฎกระแอมไอ “แน่นอนว่าไม่ใช่ เธอลองเดาดูสิ...” จิดาภาส่ายหน้า เธอนึกไม่ออกจริงๆ ว่าในเวลาแบบนี้ใครต้องการจะพบเธอกัน ในวงการนี้ คนที่เธอเรียกว่าเพื่อนได้เต็มปากมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น การจะเป็นเพื่อนกับใคร เธอทำด้วยความจริงใจ เพราะไม่ต้องการได้มิตรภาพที่ปลอมเปลือก “เธอหลับตาก่อน ฉันจะให้เขาเข้ามา” พี่นัฎยิ้มอย่างมีเลศนัย จิดาภาค่อนข้างจะเล่นเกมของพี่นัฎได้ย่ำแย่ เพราะเพียงเธอหลับตา ก็มีชื่อหนึ่งเด้งขึ้นมาในหัว และเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ริมฝีปากของเธอก็แย้มยิ้มทันที “ภพธรหรือ” พี่นัฎตื่นตะลึง “โอ้ นี่พวกเธอติดต่อกันก่อนหน้านี้แล้วหรือ ทำไมถึงเดาได้กัน” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากจิดาภาในตอนนี้ ก็คือภพธร ไปต่างประเทศเพียงไม่กี่เดือน เขายังคงดูเย็นชาดั่งเก่า แต่ให้ความรู้สึกราวกับคนที่ผ่านการฝึกฝนมามากมาย “ได้ยินข่าวของคุณในช่วงนี้ ผมทั้งกังวลและตกใจ ผมได้ เห็นตัวอย่างภาพยนตร์ของส่วนความทรงจำแล้ว คุณแสดงได้น่าตื่นตะลึงจริงๆ เมื่อรวมพรสวรรค์ของคุณและความพยายามอย่างหนักในช่วงหลังนี้ ในอนาคตคุณจะพัฒนาต่อไปอย่างฉุดไม่อยู่แน่ๆ” “ความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยมของคุณ เป็นการยืนยันตัวฉันที่ดีที่สุดเลย” จิดาภากล่าวยิ้มๆ ในใจนั้นเปี่ยมสุขอย่างถึงที่สุด ฉากที่เกิดขึ้นในอดีตราวกับเพิ่งเกิดขึ้นในเมื่อวาน เพียงกะพริบตา พวกเขาก็ได้ก้าวผ่านมันไปไกลแล้ว “เตรียมกลับประเทศมาพัฒนาตัวรึ” “อือ เพิ่งกลับมา ก็ได้ยินข่าวของคุณพอดี” ตอนนี้ภพธรไม่ได้เย็นชาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาเรียนรู้ที่จะยิ้มได้แล้ว ไม่ใช่รอยยิ้มเสแสร้ง แต่เป็นรอยยิ้มที่มาจากใจจริงๆ ดูเหมือนว่าการผ่านเรื่องราวมามากมาย จะทำให้เขาปล่อยวางเรื่องในอดีตได้แล้ว “มีข่าวใหม่ ทุกคนมาดูกัน” จิรภาสเดินออกมาจากห้องหนังสือ และแทรกประโยคสนทนาของพวกเขา
已经是最新一章了
加载中