ตอนที่371 ฉันจะแย่งตระกูลวีรภัทรเมธีกลับมา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่371 ฉันจะแย่งตระกูลวีรภัทรเมธีกลับมา
ตอนที่371 ฉันจะแย่งตระกูลวีรภัทรเมธีกลับมา จิรภาสจ้องตาของเธอ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “สองชั่วโมงที่แล้ว แม่ของคุณนัดพบนักข่าวที่โรงแรมking” “ทำไมกัน ญาณิดาบังคับให้ท่านทำอะไรกัน” จิดาภาเริ่มกระวนกระวาย เมื่อนึกไปถึงท่าทางการพูดเมื่อครู่ของรุจาภา ก็เริ่มกังวลยิ่งขึ้น จิรภาสก้าวเข้าไปกอดเธอ “ผมเดาว่าเป็นท่านที่อาจจะอยากออกมาชี้แจงเอง” ในเวลานี้เขาทำได้เพียงเป็นที่พึ่งให้กับจิดาภาเท่านั้น เขารู้ว่าจุดอ่อนของจิดาภามีเพียงคนที่รักเท่านั้น “เมื่อครู่ท่านมอบกล่องเครื่องประดับให้กับฉันค่ะ และบอกว่าต่อจากนี้ให้ฉันจะมีแต่วันที่ดี... จิรภาสคะ ฉันรู้สึกไม่ดีเลย” “ผมจะส่งคนไปคุ้มครองท่าน” จิรภาสรีบสั่งการตฤณทันที ภายหลังจิดาภาได้โทรไปยังตระกูลวีรภัทรเมธี แต่ได้รับข่าวเพียงว่ารุจาภานั้นออกไปเที่ยวเท่านั้น “ช่วงนี้ที่บ้านมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นไหม” พ่อบ้านของตระกูลวีรภัทรเมธีเป็นคนรับสาย เขานึกคิด และเล่าเรื่องเมื่อวานที่ญาณิดาและรุจาภามีปากเสียงกัน “คุณหนูสามครับ ปกติคุณหนูใหญ่จะกล่าวกระแหนะกระแหนเพียงเล็กน้อย แต่ไม่เคยกล่าวรุนแรงเกินไปดั่งเช่นเมื่อวาน...” เมื่อจิดาภาวางสาย ก็รีบโทรหาญาณิดาต่อ และถามในสิ่งที่สงสัย “พี่แกล้งแม่ฉันมาตั้งหลายปีแล้ว ยังไม่พอใจอีกหรือ ฉันจะบอกพี่ไว้นะ หากเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของฉัน ฉันไม่ปล่อยพี่ไว้แน่” “ฉันออกมาจากตระกูลวีรภัทรเมธี แต่พี่ก็ยังไม่ยอมปล่อยฉันไป” “ก็ย่อมได้ ฉันจะแย่งตระกูลวีรภัทรเมธีมา และจะสั่งสอนพี่ให้รู้สึกนึกถึงคำว่าเสียใจ” ญาณิดาที่ได้ยินคำเตือนของจิดาภา ก็หาได้แยแสไม่ “เธอไม่เห็นจะสนใจแม่ของเธอเลยแม้แต่นิด ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นล่ะ หรือว่าเธอเป็นหมาของตระกูลวีรภัทรเมธีจนเบื่อแล้ว ถึงได้วิ่งไปฟ้องลูกสาวกัน” “ฉันชอบแกล้งเธอแล้วอย่างไร เธอทำอะไรฉันได้บ้าง” ญาณิดากล่าวด้วยท่าทีสงบ ในใจของเธอนั้นเข้าใจมากกว่าใครๆ หากรุจาภาเกิดเรื่องเพราะการระรานของเธอ ไม่ต้องพูดถึงจิดาภา แค่ท่านจิรชยาก็ไม่ปล่อยเธอเอาไว้แล้ว และยิ่งมีจิดาภามาเสริม มีความเป็นไปได้ว่าท่านจิรชยาจะหอบเอาชีวิตของเธอไปทั้งหมด แต่เมื่อเรื่องมาถึงจุดจุดนี้แล้ว เธอจะยอมแพ้ให้กับจิดาภาได้อย่างไร “ญาณิดา พี่บังคับฉันเองนะ” จิรภาสได้เตรียมรถไว้แล้ว และพาจิดาภามายังโรงแรมkingทันที หวังว่าเรื่องทุกอย่างจะยังไม่สายจนเกินไป ในเวลาแบบนี้ เขายังสามารถทำอะไรได้อีกมาก... หลังจากที่ญาณิดารับสายจิดาภา ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “เธอถือดีอะไรกัน ถึงกล้ามาทำกับฉันแบบนี้” ญาณิดาสบถดังลั่นออฟฟิศ “คุณญาณิดา... เกิดเรื่องอะไรหรือครับ” ผู้ช่วยเอ่ยถาม “จิดาภาจงใจโทรมาหาฉัน เธอจะแย่งตระกูลวีรภัทรเมธี เพื่อให้ฉันเสียใจ” ญาณิดากำหมัดแน่น ก่อนจะยิ้มเย็น “เธอคิดว่าทุกคนจะต้องกลัวเธอหรืออย่างไร” ผู้ช่วยชะงักนิ่งไป “ราวกับไม่ใช่คำพูดของคุณจิดาภาเลยนะครับ” “เธอรู้เรื่องที่ฉันพูดฉีกหน้าแม่ของเธอที่ตระกูลวีรภัทรเมธี ดังนั้นจึงจงใจโทรมาเตือนฉัน แล้วยังบอกอีกว่า หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับแม่ของเธอ จะไม่มีทางปล่อยฉันอย่างเด็ดขาด เหอะ ฉันไม่เชื่อว่าแม่ที่อ่อนแอไร้กำลังของเธอจะกล้าลุกขึ้นมาทำอะไรได้ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีทีเดียว” “คุณญาณิดาจะลองโทรกลับไปถามที่บ้านดูหรือไม่ครับ” ผู้ช่วยเอ่ยแนะ หากนึกตามนิสัยการทำงานในอดีตของจิดาภา หากไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ เธอจะไม่มีทางลงมือทำเด็ดขาด “มีอะไรให้ต้องถามกัน เธอจะเป็นหรือตายมันเกี่ยวอะไรกับฉันกัน” ญาณิดาเหลือบสายตามอง เธอแทบอยากรีบไล่ให้รุจาภาไปตายไวๆ เสียด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องพินัยกรรมของท่านจิรชยา ญาณิดาไม่นึกตรวจสอบอีกต่อไป สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นใครที่ได้รับมันไป เธอในตอนนี้ที่กำลังครอบครองทุกอย่างไว้ในมือต่างหาก ที่เป็นผู้ชนะ ..... จิดาภายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ เธอกลัวว่าแม่ของเธอจะทำเรื่องที่โง่เง่าลงไปจริงๆ ความจริง หลังจากที่รุจาภาแต่งเข้าตระกูลวีรภัทรเมธี ก็อยากจะพูดความจริงออกไปอยู่ทุกๆ วัน เธอจะเป็นอย่างไรก็ได้ เพียงแค่ไม่สามารถทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอตกลำบากไปด้วยกันได้ จิรภาสเพียงสังเกตท่าทางของจิดาภา ก็รู้ทันทีว่าตอนนี้เธอกำลังทรมานขนาดไหน “ไม่เป็นไร...” “ท่านไปพบนักข่าว จะพูดอะไรได้กัน” จิดาภาส่ายหน้า “ฉันนึกไม่ออก ถึงได้กังวลอยู่แบบนี้...” จิรภาสกุมมือของเธอไว้แน่นอย่างเงียบๆ “หลังจากที่ได้พบหน้า ก็จะได้รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว อย่ากดดันตัวเอง ตฤณได้ติดต่อไปยังผู้จัดการของโรงแรมแล้ว จะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนครับ” “จิรภาสคะ...” “อย่ากังวลไป ผมอยู่ตรงนี้” คำพูดของจิรภาสมอบความกล้าหาญให้กับจิดาภา ทันใดนั้นเธอก็มีความเชื่อมั่นที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งหมด เพราะเธอรู้ดี ไม่ว่าเรื่องจะตกไปในทิศทางไหน ก็จะมีคนคนหนึ่งคอยสนับสนุนเธอจากด้านหลังอยู่เสมอ “ค่ะ ไปดูกัน ว่าท่านอยากจะพูดอะไรกับนักข่าว” ความสัมพันธ์ของเธอกับตระกูลวีรภัทรเมธีนั้นไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้ว ติดยอดค้นหาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เธอหาได้สนใจไม่ และรถก็ได้มาจอดที่หน้าโรงแรมโดยเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงความน่ารำคาญ พวกเขาจึงยังไม่ลงจากรถในทันที “ตฤณมาถึงแล้ว คุณแม่จองห้องพักเลข 1706 นักข่าวยังมากันไม่ถึง” “คุณไม่สนใจเลยหรือคะ” จิดาภาที่ได้ยินจิรภาสพูดคำว่าคุณแม่ออกมา ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกหดหู่ นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้เรียกรุจาภาด้วยคำนั้น “ท่านเป็นคนทำให้คุณได้ลืมตาดูโลก ไม่ว่าท่านจะเคยทำอะไรมา สำหรับผม ท่านคือคุณแม่ของคุณ และความจริงในใจของคุณ เพราะไม่ได้เกลียดอะไรแล้ว คุณถึงได้เป็นคนที่ปวดใจกับท่านมากที่สุด” “ให้ท่านมาอยู่ด้วยกันได้ไหมครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่พวกคุณสองแม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน ทุกอย่างจะต้องแก้ไขได้” จิรภาสนั้นมองทะลุถึงจิตใจของเสมอ ทั้งความรู้สึกสับสนของเธอที่ยังมีต่อแม่ และยังเรื่องที่เธอไม่กล้าพูดออกไปได้อีก จิรภาสเข้าใจเรื่องพวกนี้ทั้งหมด... จิดาภาพยักหน้าอย่างจริงจัง “ค่ะ ฉันจะฟังคุณ” เธอต้องการคนเช่นนี้เพื่อเป็นแสงสว่างให้ตัวเธอที่อยู่ท่ามกลางความมืด... และในเวลาเดียวกัน วรพลก็เริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง รุจาภาบอกว่าจะไปร่วมงานแต่งของลูกสาวเพื่อนเก่า แต่กลับคว้ากล่องเครื่องประดับที่อยู่ในห้องนอนไปด้วย และยามที่เธอไป ก็ไม่ได้ให้คนขับรถไปส่งเธอ วรพลไล่ถามเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทของรุจาภา พวกเขาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ได้ยินเรื่องที่รุจาภาจะไปร่วมงานแต่งเลย ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ถูกเข้าไปกันใหญ่ วิตกกังวลว่าเป็นเพราะคำพูดของญาณิดาที่ทำร้ายรุจาภาใช่หรือไม่... เมื่อคิดได้เช่นนั้น วรพลก็ตรงไปยังออฟฟิศของญาณิดาทันที “คุณพ่อมาได้อย่างไรคะ” ญาณิดามองวรพลที่มายังออฟฟิศของเธอโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า และถามด้วยความประหลาดใจ ยังไม่ทันที่วรพลจะเอ่ยพูด ผู้ช่วยของญาณิดาก็รีบวิ่งเข้ามาเสียก่อน “คุณญาณิดาครับ คุณนายนัดพบกับบรรดานักข่าว ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันแน่ครับ” “นายพูดว่าอะไรนะ” วรพลที่ได้ยินเช่นนั้นก็หน้านิ่วคิ้วขมวด “คุณพ่อคะ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” เป็นครั้งแรกที่ญาณิดาได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของวรพล
已经是最新一章了
加载中