ตอนที่374 ข่าวใหญ่

ตอนที่374 ข่าวใหญ่ “แต่ว่า แม่คะ...” “แม่ตัดสินใจแล้ว ชีวิตแม่ไม่เคยทำเรื่องใหญ่แบบนี้มาก่อน ทำได้เพียงอดทนให้คนอื่นรังแกและเห็นแก่ตัวใส่ ในตอนนี้แม่จะทำเพื่อเรียกความเคารพที่เราสองแม่ลูกพึงมีกลับคืนมา” จิรภาสเดินมาจากทางด้านหลัง และโอบกอดจิดาภาไว้ “เป็นความสมัครใจของท่านครับ” รุจาภาปาดน้ำตา ก่อนจะจับมือของจิรภาสและมือจิดาภามารวมกันและกุมไว้แน่น “แม่เห็นความรักของพวกลูกทั้งสองคนแล้ว ดีใจมากจริงๆ ต่อจากนี้ไม่ได้มีเพียงสามีที่จะคอยปกป้องจิดาภา แต่ยังมีความห่วงใยของแม่อีกด้วย” “บนโลกใบนี้ ไม่มีใครสามารถมาแยกพวกเราออกจากกันได้” น้ำตาของจิดาภาพลันไหลในทันที และยังคงไหลอย่างไม่หยุด... “ไม่ร้องแล้ว ลูกเป็นนักแสดงใหญ่แล้วนะ ต้องห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองด้วย” รุจาภาหัวเราะพร้อมลูบบ่าของลูกสาวไปมา “ตอนนี้ได้เวลาคิดบัญชีกับคนของตระกูลวีรภัทรเมธีแล้ว ญาณิดาก่อเหตุเกินเรื่องกับลูกไปมาก เธอไม่เหมาะสมที่จะได้ควบคุมบริษัทLGD” เพื่อปกป้องลูกสาวของเธอ เธอจะต้องทวงทุกอย่างกลับมา ญาณิดาต่างหากที่เป็นลูกของเมียน้อย ไม่เหมาะสมที่จะสืบทอดตระกูลวีรภัทรเมธี ในตอนนั้นเอง จิลลาก็ได้หยิบโทรศัพท์ของรุจาภาเข้ามา “ท่านจิรชยาโทรมา บอกอยากเจอหน้าพวกเธอ” “เจอหน้าได้ แต่ฉันจะไม่ไปหาพวกเขาที่ตระกูลวีรภัทรเมธี ตอนนี้เป็นพวกเขาต่างหากที่ต้องดิ้นรนมาพบฉัน ฉันอดกลั้นกับตระกูลวีรภัทรเมธีมานานหลายปี เพียงคำพูดไม่กี่คำไม่สามารถปลอบประโลมฉันได้ทั้งนั้น” จิลลาที่ได้ยินรุจาภาพูดเช่นนั้น ก็ยินดีจากใจจริง หญิงสาวที่กล้าจะลุกขึ้นสู้ ใครหน้าไหนก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้น ในอดีตที่จิดาภาตัดสินใจออกจากบ้านมา ก็เฉกเช่นเดียวกับรุจาภาในวันนี้ เด็ดเดี่ยวและเยือกเย็น บางครั้งประสบการณ์ที่เจ็บปวด ถึงจะสามารถทำให้รู้สึกเกิดใหม่ได้อีกครั้ง ฝ่าฟันทุกอุปสรรค และรั้งรอวันที่พวกเธอจะได้ใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง หลังจากที่นักข่าวได้เผยแพร่คลิปพบปะลงบนโซเชียล สื่อหลักก็ได้ถ่ายทอดการสัมภาษณ์ พร้อมทั้งแนบรูปหลักฐานประกอบอีกมากมาย “ข่าวใหญ่ แท้จริงแล้วจิดาภาไม่ใช่ลูกของเมียน้อย” “ความลับนับสิบปีของตระกูลวีรภัทรเมธี” “เพื่อปกป้องลูกสาว คุณนายใหญ่ได้ออกมาพูดแล้ว” ข่าวนี้ถูกกระจายอย่างแพร่หลายบนโซเชียลและโทรทัศน์ ติดยอดการค้นหาสูงอย่างไม่สามารถเอาลงได้ เนื่องจากอิทธิพลของจิดาภาและเรื่องผู้สืบทอดมรดกของตระกูลวีรภัทรเมธี เลยได้รับความสนใจจากคนภายนอกเป็นจำนวนมาก สถานการณ์ที่พลิกพลันสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน ใครจะไปคิดกันว่าผู้หญิงที่ถูกด่าว่าเป็นเมียน้อยมาตลอดที่แท้แล้วคือตัวจริง และชายหนุ่มที่สง่างามของตระกูลวีรภัทรเมธีกลับเป็นคนสารเลวที่ทรยศภรรยาของตัวเอง ชาวโซเชียลที่ได้เห็นความจริงของจิดาภา ก็เริ่มถกเถียงประเด็นนี้กันอย่างร้อนแรง “หลังจากที่จิดาภาเกิดอุบัติเหตุ ก็มีข่าวลือแย่ๆ ออกมามากมาย ไม่เพียงถูกถอดตัวจากการแสดง แต่เกือบจะถูกขับไล่จากวงการบันเทิง... มาคิดดูในตอนนี้ หรือจะเป็นพี่สาวต่างแม่ของเธอที่เป็นคนทำกัน” “ตระกูลใหญ่นั้นน่ากลัวจริงๆ ไม่มีความเมตตาเลยสักนิด ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินและอำนาจ” “ฉันว่าเรื่องนี้คนที่ทำต้องเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลวีรภัทรเมธีเป็นแน่ ไม่มีจิดาภา ลูกของเมียน้อยคนนี้ก็ได้รับหมดทุกอย่างเลยไม่ใช่หรือ” “แต่เดิมที่ตระกูลวีรภัทรเมธีไล่จิดาภาออกจากบ้าน คงเป็นเพราะคุณหนูใหญ่ของตระกูลวีรภัทรเมธีเป็นคนสร้างเรื่องเป็นแน่...” ทุกคนในตระกูลวีรภัทรเมธี ที่เห็นญาณิดาคอยเอาแต่ระรานจิดาภา ก็หวังให้คนแบบเธอนั้นหายไปจากโลกของจิดาภาเสียที หากให้บอกว่าความทุกข์ทรมานของจิดาภาเกิดจากใคร ญาณิดาก็คือผู้ต้องสงสัยคนแรก “ในความจริงรุจาภาทนไม่ได้ที่ลูกสาวประสบอุบัติจนเกือบถึงแก่ความตาย ถึงได้ลุกขึ้นยืน นั่นคือความยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเป็นแม่” “ไม่รู้จริงๆ ว่าหัวของคุณหนูใหญ่ของตระกูลวีรภัทรเมธีเคยถูกประตูหนีบหรืออย่างไร คนเรามันแย่ได้ขนาดนี้เลยหรือ ตอนนี้คุณหนูใหญ่ก็กลายเป็นลูกของเมียน้อย ที่คือค่าตอบแทนที่ดีจริงๆ” “ตั้งแต่ที่จิดาภาออกมา ก็พึ่งพาตัวเองมาโดยตลอด ไม่เคยใช้ชื่อเสียงของตระกูลวีรภัทรเมธีเลยแม้แต่น้อย” คนของตระกูลวีรภัทรเมธีก็ได้เห็นการสัมภาษณ์ครั้งนี้เช่นกัน ความคิดของทุกคนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ท่านจิรชยานั่งเงียบอยู่ในห้องเป็นเวลานาน น้องอีกสองคนของตระกูลวีรภัทรเมธีที่ได้ยินข่าวนี้ ต่างก็ตื่นตะลึงเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ที่ตระกูลวีรภัทรเมธีเริ่มยุ่งเหยิง ก็เป็นเพราะญาณิดาทั้งนั้น วรพลได้แต่ซ่อนตัวอยู่ที่ห้องเก็บของของโรงแรม โดยไม่กล้าที่จะออกไป เขาไม่เคยคิด ว่ารุจาภาจะทำลงไปจริงๆ เขาปกป้องความลับนี้มานานหลายปี แต่กลับถูกเปิดเผยในที่สาธารณะเสีย แต่ในใจของเขานั้น ลึกๆ แล้วก็ไม่ได้เกลียดรุจาภา เขาเข้าใจ ที่เรื่องราวเพิ่งจะถูกเปิดเผยในวันนี้ ก็เพราะความดีของรุจาภาทั้งนั้น... ส่วนญาณิดา หลังจากที่ได้เห็นข่าวทั้งหมดในออฟฟิศ ก็แค่นเสียงเย้ยหยัน “ของปลอมสินะ ใครกันที่ช่วยจัดงานพบปะนี้ให้กับเธอ ข่าวลือทั้งนั้น ฉันจะเอาผิดเธอตามกฎหมายให้ดู” “แม่ของฉันคือลูกสาวของบริษัทออลล่า คอนซัลติ้ง เป็นภรรยาที่ถูกต้องของพ่อฉันต่างหาก” “ทั้งหมดมันเป็นเพราะรุจาภา ติดต่อกับนักข่าว เพื่อแสดงละครฉากนี้ ที่เธอพูดมันไม่ใช่ความจริง” ญาณิดาตบโต๊ะดังสนั่น ท่าทางราวกับคนบ้า มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะช่วยระบายความโกรธของเธอ... อย่างไรก็ตาม เธอไม่เชื่อว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ส่ายหน้าไปมา “คุณญาณิดา หลักฐานพวกนั้นนักข่าวได้ดูกันแล้ว ไม่ใช่ของปลอมหรอกครับ” “พวกเขาใช้อะไรตัดสินกัน ต้องได้รับสินบนแน่ๆ ถึงได้เขียนข่าวเช่นนี้ขึ้นมา” “แต่มีคนต่างมากมายที่ได้เห็น ไม่ใช่ของปลอมแน่นอน...” ญาณิดากัดปากแน่น พร้อมถลึงตาโต “ไม่ ฉันต่างหากที่เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลวีรภัทรเมธี ไม่มีทาง...” ผู้ช่วยที่เห็นท่าทางเช่นนั้นของญาณิดา ก็แต่ส่ายหน้าและถอยห่าง เวลานี้ญาณิดาได้รับการกระตุ้นอย่างรุนแรง เธอที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อหลักฐานมันฟ้องว่าเธอคือลูกของเมียน้อย ทุกอย่างที่เธอไล่ตามก็เป็นแค่ฟองสบู่เท่านั้น เธอทั้งน่าสงสารและน่าเศร้า... แต่หากเธอไม่ไปทำร้ายจิดาภาจนเกือบเสียชีวิต บางทีรุจาภาก็คงไม่พูดความลับที่ถูกปิดตายมานานหลายปี พูดไปก็เป็นญาณิดาที่ทำตัวเองทั้งนั้น ตอนนี้ทั้งโลกก็ได้รับรู้ถึงความชั่วร้ายของเธอ ที่คิดฆ่าน้องสาวของตัวเองเพื่ออำนาจ... เธอทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง และติดอยู่ในภวังค์ของตัวเอง แล้วเธอจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร และแล้วผู้ช่วยก็ได้รับสายจากท่านจิรชยา “ญาณิดายังอยู่ดีหรือไม่” “ไม่ค่อยดีครับ เธอในตอนนี้ไม่ได้พูดอะไร แต่ท่าทางดูหดหู่ทีเดียว” ผู้ช่วยตอบตามความจริง “พาเธอมาส่งเถอะ บางความผิด ก็ต้องให้เธอมายอมรับด้วยปากของตัวเอง” “เข้าใจแล้วครับท่านประธาน ผมจะไปส่งเธอเดี๋ยวนี้” ผู้ช่วยตกปากรับคำ “และ เธอถูกถอดออกจากทุกตำแหน่งในบริษัทLGD... มรดกของตระกูลวีรภัทรเมธี เธอไม่มีสิทธิ์ในตัวมันอีกต่อไปแล้ว” ผู้ช่วยที่ได้ยินคำพูดเช่นนั้นของท่านจิรชยา ก็มองญาณิดาด้วยความเห็นใจ ก่อนจะเดินไปตรงหน้า และโอบเธอลุกขึ้นมา “ท่านประธานบอกให้ผมส่งคุณกลับบ้าน” ในเวลานี้ ความรู้สึกของญาณิดาราวกับพังทลายลงมา เธอเข้าใจมากกว่าทุกๆ คน ว่าหากกลับไปแล้วจะเจอกับอะไร ญาณิดาหมดแล้วซึ่งความอดทน ก้มตัวร้องไห้ในอ้อมกอดของผู้ช่วยทันที