ตอนที่383ถ้ามีคนใส่ร้ายพี่

ตอนที่383ถ้ามีคนใส่ร้ายพี่ “คุณอยากไปไหน?”จิรภาสถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ได้อยากไปไหนเป็นพิเศษแต่รู้สึกว่าวันนั้นควรจะทำอะไรที่พิเศษหน่อย”จิดาภาเงยหน้าสบตากับเขา“คุณรู้ไหมว่าวันนั้นเป็นวันอะไร?” “เป็นวันเกิดของคุณไงผมจำได้คุณอยากไปไหนผมจะพาคุณไปเอง”จิรภาสวางแก้วน้ำอุ่นลงบนมือของเธอ “พรยศบอกฉันว่าวันนั้นเขาจะได้ออกรายการครั้งแรกฉันอยากไปดูเขา” “ไม่มีปัญหาเดี๋ยวผมจัดการให้”จิรภาสตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาถึงแม้ว่าจิดาภาจะไม่เอ่ยถึงเขาก็คงจะไม่ปล่อยผ่านไปเฉยๆหรอกเพราะถึงยังไงก็เป็นวันเกิดแรกของเธอหลังการแต่งงานของพวกเขาเขาอยากให้เธอมีความทรงจำที่ดีในวันนั้น “งานของวันนี้ถ่ายเสร็จแล้วใช่ไหม?” จิดาภาพยักหน้ารับพลางจิบน้ำอุ่นไปด้วย“แต่ว่าฉากเมื่อกี้ฉันอยากถ่ายใหม่อีกรอบ” “ฉากเมื่อกี้มันสมบูรณ์แบบมากแล้วถ้าคุณมาตรฐานสูงมากไปจะทำให้ทุกคนในกองลำบาก”จิรภาสเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วงพลางโอบกระชับไหล่เธอ จิดาภาพยักหน้าแล้วมองสมภพที่ลากเจนจิราออกไปเธอเอ่ยขึ้นเสียงเบา“ความสัมพันธ์ของพวกเขาไปถึงไหนแล้ว?” จิรภาสส่ายหน้า“ถึงผมกับเขาจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแต่ในบางเรื่องเราก็แตกต่างกันมาก……” ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เจอกันบ่อยแต่จากที่จิรภาสรู้จักสมภพเขาคิดว่าความอดทนของสมภพน่าจะใกล้หมดแล้ว และที่ทำให้เขาข้องใจกว่าก็คือเจนจิราไม่ได้ชอบพอเสมภพเลยสักนิด! เสน่ห์ของเจ้าพ่อการแสดงถดถอยแล้วหรือ?หรือว่า…… …… ขณะที่พรยศกำลังเตรียมตัวจะออกรายการเขาก็รับรู้ถึงอำนาจมืดและการแย่งชิงในวงการบันเทิงแต่เขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากใครเพราะเขาต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเองในการยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิง รายการนี้เป็นรายการทอล์กโชว์ที่นักร้องหน้าใหม่ต่างให้ความสนใจมากที่สุดในระหว่างที่มีการพูดคุยกันจะมีการแทรกให้นักร้องแสดงทักษะความสามารถของตัวเองเพราะช่วงเวลาที่ออกอากาศเป็นช่วงนาทีทองที่มีผู้ชมมากที่สุดดังนั้นนักร้องที่ได้รับเชิญจะใส่ใจช่วงเวลาที่ต้องแสดงกันเป็นอย่างมาก ตอนที่พรยศเซ็นสัญญากับบริษัทเค.เอฟเขาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตนเองรวมถึงผู้จัดการส่วนตัวคนนั้นของเขา ในช่วงซ้อมการแสดงพรยศก็รออยู่หลังเวทีและเขาก็ได้ยินบทสนทนาของวงหน้าใหม่ที่อยู่ข้างๆอย่างไม่ได้ตั้งใจเพราะคนที่พวกเขาพูดถึงคือจิดาภา “ครั้งก่อนฉันเจอนักแสดงหญิงคนนั้นหน้าตาก็ดีหุ่นก็ดีนะคาดว่าความสามารถบนเตียงก็น่าจะไม่เลวเลยทีเดียวไม่อย่างนั้นประธานบริษัทเค.เอฟจะถูกใจเธอได้ยังไง?” “ขายาวๆคู่นั้นช่างมีเสน่ห์ถ้าฉันได้ลูบสักครั้งจะดีมาก!” “อย่างนายตัดใจเสียเถอะต้องฉันนี่สิรับรองว่าจะทำให้เธอขึ้นสวรรค์เลยล่ะ” โครม! พรยศเตะประตูด้านข้างเสียงดังโครมคนกลุ่มนั้นจึงหันมามองเขาในพริบตา พรยศจ้องหน้าพวกเขาอย่างไม่เกรงใจ“พวกนายพูดอะไรกัน?” คนกลุ่มนั้นจ้องเขากลับแล้วแสดงท่าทีไม่ใส่ใจอาการโมโหของเขาหนึ่งในนั้นยังหัวเราะเฮฮา“พวกเราพูดถึงนักแสดงหญิงคนนั้นมันไปเกี่ยวอะไรกับนาย?หรือว่านายเป็นคู่ขาอีกคนของเธอ?” “หยุดพูดเถอะเหมือนว่าหมอนั่นจะเป็นคนของบริษัทเค.เอฟ” คนที่พูดจาหยาบคายส่งเสียงสบถในลำคอ“บริษัทเค.เอฟแล้วยังไง?จะห้ามไม่ให้ใครพูดเหรอ?” “นายมาจากบริษัทไหน?”พรยศไม่ได้สนใจคำพูดเขาแต่กลับย้อนถาม “พอเถอะเพื่อนพวกเราพูดมากไปเองพวกเราไปกันเถอะ”มีสมาชิกคนหนึ่งออกมาห้าม พรยศมองพวกเขาอย่างมีความหมายจากนั้นก็หันหลังเดินจากไป แต่สมาชิกวงใหม่กลุ่มนั้นกลับยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “หมอนั่นหยิ่งผยองขนาดนี้ต้องสั่งสอนเสียหน่อยให้มันรู้เสียบ้างว่าใครใหญ่!” หลังจากที่พรยศจากไปเขาก็รู้สึกว่าการกระทำของตัวเองนั้นมุทะลุเกินไปแต่ตัดเรื่องอื่นออกไปยังไงจิดาภาก็เป็นพี่สาวของเขาจะมีใครทนฟังเรื่องแบบนี้ได้โดยไม่ตอบโต้กัน? ยิ่งไปกว่านั้นจิดาภาไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาพูดสักหน่อย! พรยศก็ย้อนกลับมาคิดว่าเมื่อก่อนตอนที่จิดาภาโดนด่าโดนวิพากษ์วิจารณ์โดนใส่ร้ายเธอจัดการยังไงกันนะ? ไม่ว่าโลกภายนอกจะพูดอะไรเธอก็ยึดมั่นในเส้นทางของตัวเองไม่ว่าจะเป็นเธอหรือจาริณีที่สามารถยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิงได้อย่างสง่างามจะมีใครไม่เคยถูกเข้าใจผิดหรือถูกใส่ร้ายบ้าง? พรยศหายใจเข้าเฮือกใหญ่แล้วต่อสายหาจิดาภา “พี่สามพี่ยุ่งอยู่หรือเปล่า?ผมมีคำถามอยากถามพี่” “ตอนนี้ไม่ได้ถ่ายแกมีอะไรหรือเปล่า”น้ำเสียงของจิดาภายังสงบนิ่งเหมือนเดิม “สมมุตินะ……สมมุติว่ามีคนใส่ร้ายพี่อยู่เบื้องหลังพี่จะจัดการยังไง?”มือข้างหนึ่งของจิดาภาถือโทรศัพท์ส่วนมืออีกข้างก็กำหมัดแน่น “ฉันก็จะจำไว้ว่าพวกเขาเป็นใคร” “จากนั้นล่ะ?”แววตาของจิดาภาเริ่มเป็นประกาย “จากนั้นพวกเขาก็จงภาวนาว่าอย่ามาตกอยู่ในกำมือของฉันไม่อย่างนั้นละก็จะเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้เพราะฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเขามีโอกาสครั้งที่สอง” จิดาภาพูดจบก็เงียบไปสักพักแล้วจึงเอ่ยขึ้น“มีใครใส่ร้ายฉันเหรอ?บอกชื่อฉันมา” พรยศนิ่งไปสักพักแล้วจึงเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้จิดาภาฟัง เขาไม่คาดคิดว่าตัวเองจะพบเจอเรื่องแบบนี้เร็วขนาดนี้เพราะฉะนั้นตอนที่เขาเล่าให้จิดาภาฟังเขาจึงทำตัวนอบน้อมเหมือนกำลังขอคำแนะนำจากผู้อาวุโสกว่า “ผมรู้ว่าการกระทำของผมขาดการไตร่ตรองแต่ถ้าผมเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกผมก็ยังยืนยันที่จะทำแบบเดิม” “แกก็รู้ว่าแกไม่ควรใจร้อนครั้งต่อไปก็อย่าทำแบบนี้อีกในวงการนี้ไม่ได้ง่ายแบบที่แกคิด” จิดาภาบอกให้พรยศตั้งใจเตรียมตัวออกรายการหลังจากวางสายจากพรยศก็ต่อสายหาพี่นัฎทันที“ฉันต้องการข้อมูลเกี่ยวกับวงYIO” “วงบอยแบนด์ที่กำลังดังในช่วงนี้น่ะเหรอ?ได้ๆฉันจะไปหาให้เดี๋ยวนี้”พี่นัฏตอบกลับมาตามสาย โรศนีที่อยู่ข้างๆก็ได้ยินบทสนทนานี้ด้วยก็จดจำชื่อนี้เอาไว้แค่ช่วงระยะเวลาไม่นานเธอก็พบว่าจิดาภาเป็นคนที่ใส่ใจกับความสัมพันธ์มากไม่ว่าที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของเธอและตระกูลวีรภัทรเมธีจะเป็นอย่างไรพรยศก็ยังถือว่าเป็นน้องชายของเธอเรื่องในวงการบันเทิงที่เธอสามารถช่วยเหลือได้เธอก็จะช่วย ตอนนี้พรยศก็เหมือนกับตอนที่เธอเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ไม่นานพี่นัฏก็ส่งข้อมูลที่หาได้มาให้โรศนีหลังจากที่จิดาภาถ่ายคิวช่วงบ่ายเสร็จเธอก็ได้รับข้อมูลของวงน้องใหม่YIO “พวกเขาทั้งสี่คนเข้าวงการจากรายการเฟ้นหาไอดอลเมื่อปลายปีที่แล้วในนั้นเศรษฐ์และชยุตม์เป็นทายาทเศรษฐีพึ่งเงินสนับสนุนจากครอบครัวจึงมีโอกาสเข้าวงการทักษะการเต้นและร้องเพลงก็ธรรมดาแล้วก็ได้ข่าวว่าใช้ชีวิตเสเพลตอนเด็กก็เกเรเข้าออกผับบาร์เป็นว่าเล่นแถมยังมีประวัติการเสพยา” “ส่วนทานวีร์หัวหน้าวงของพวกเขาเป็นแชมป์ของรายการไม่มีประวัติเสียหายแถมยังมีความสามารถมากพวกเขาเซ็นสัญญากับบริษัทhgถ้าไม่ใช่เพราะทานวีร์พวกเขาไม่มีทางได้เดบิวต์ราบรื่นแบบนี้”