ตอนที่384ทุกคนต่างก็มีความลับ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่384ทุกคนต่างก็มีความลับ
ตอนที่384ทุกคนต่างก็มีความลับ “ช่วงนี้พวกเขากำลังมาแรงจริงๆถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของธวลย์เลยทีเดียว”โรศนีอธิบายเสริม แนวเพลงก็ใกล้เคียงช่วงเดบิวต์ก็ใกล้เคียงกัน “ลองไปถามทางพี่นัฏว่ามีหลักฐานชัดเจนหรือเปล่าตอนนี้ชื่อเสียงของพรยศยังไม่ค่อยดังถ้าพวกเขาเล่นสกปรกอยู่เบื้องหลังพรยศจะเสียเปรียบอย่างมาก” “ได้ค่ะฉันจะรีบติดต่อพี่นัฏ” “อ้อแล้วก็ให้พี่นัฏติดต่อทานวีร์เป็นการส่วนตัวด้วยยังไงเขาก็เป็นคนที่มีความสามารถควรจะได้รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะเกิดประโยชน์กับเขามากที่สุด” ขลุกอยู่กับลูกเสเพลของเศรษฐีทั้งหลายสักวันต้องเกิดปัญหาแน่ เธอไม่เคยทำร้ายใครก่อนแต่อย่างน้อยก็ต้องทำเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกทำร้าย ในวงการบันเทิงไม่มีใครสามารถทำร้ายคนที่เธอรักได้ การตัดสินใจของจิดาภานั้นมีเหตุผลเพราะในวงการบันเทิงเพื่อให้ตัวเองโด่งดังมีชื่อเสียงสามารถทำได้ทุกวิถีทาง “ฉันหวังว่าทุกสิ่งที่ฉันคิดนั้นเป็นเพราะฉันคิดมากไปเอง” โรศนีมองเห็นแววตาอันเด็ดเดี่ยวของจิดาภาจู่ๆเธอก็รับรู้ได้ถึงความเด็ดขาดจากคำพูดของจิดาภาเมื่อสักครู่ทุกการตัดสินใจของเธอล้วนเด็ดขาดเหมือนจิรภาสแต่ขณะเดียวกันเธอก็เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนไม่สามารถพูดได้ว่าเธอไม่มีความฝันหรือไม่มีเป้าหมายแต่เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาที่ต้องเลือกระหว่างถูกหรือผิดเธอก็ตัดสินใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไม่แปลกใจเลยที่จิรภาสจะชอบเธอผู้หญิงแบบนี้มีเสน่ห์จริงๆ จิดาภาพูดจบก็กลับไปจดจ่อกับบทภาพยนตร์ต่อยิ่งการถ่ายทำใช้เวลามากเท่าไหร่ยิ่งเป็นการทดสอบความอดทนของนักแสดงมากเท่านั้นเธอต้องรักษาความกระปรี้กระเปร่าให้เหมือนกับตอนเพิ่งถ่ายทำเพื่อไม่ให้เป็นการถ่วงความคืบหน้าของกองถ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอและสมภพล้วนเป็นคนที่มีมาตรฐานค่อนข้างสูงดังนั้นต้องทุ่มเทให้มากกว่าเดิม ในขณะที่โรศนีกำลังติดต่อหาพี่นัฏเธอก็ได้รายงานเรื่องนี้ให้กับจิรภาสด้วยเพราะนี่ก็ถือเป็นหนึ่งในงานของเธอและจิดาภาก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีถ้าหากโรศนีไม่ทำแบบนี้จิรภาสก็คงไม่ส่งเธอมาเป็นผู้ช่วยแทนเจนจิรา เมื่อจิรภาสฟังเธอรายงานจบก็ไม่ได้อารมณ์เสียแต่อย่างใดตอบกลับมาเพียงคำว่า“รู้แล้ว” …… พี่นัฏใช้เส้นสายจากเพื่อนเก่าแก่ในวงการใช้เวลาไม่นานก็ได้สิ่งที่น่าสนใจมาอยู่ในมือ หลักฐานที่จิดาภาอยากได้หาได้ไม่ยากบวกกับตฤณได้รับคำสั่งจากจิรภาสให้ช่วยเหลืออย่างลับๆไม่นานก็สามารถรวบรวมประวัติเสียหายของลูกเศรษฐีทั้งสองคนได้ทั้งเคยมีประวัติเลิกยาและยังมีปากเสียงกับตำรวจหลายครั้ง และที่สำคัญที่สุดตฤณได้ข้อมูลนี้มาโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างสืบหาข้อมูล ลูกเศรษฐีทั้งสองคนนี้มักจะมีพฤติกรรมแปลกๆในช่วงฝึกซ้อมมีความเป็นไปได้ว่าทั้งสองคนอาจจะกลับไปเสพยาอีกทั้งช่วงนี้ทั้งสองมักจะขอลาบ่อยๆและหายไปด้วยกัน…… ในวงการบันเทิงมีกฎข้อห้ามอยู่มากมายที่ไม่อาจฝ่าฝืนได้เสพยาคือหนึ่งในนั้น หลังจากจิดาภาทราบเรื่องก็พยักหน้ารับเรื่องนี้เป็นประโยชน์ต่อพวกเธอมากทีเดียว “พี่จิดาภาคะตอนนี้เราต้องทำยังไง?”โรศนีถามขึ้น “รอดูสถานการณ์ไปก่อนความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะต่อกรกับพวกเขาถ้าพวกเขาไม่หาเรื่องพรยศพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องมายุ่งเรื่องไร้สาระพวกนี้”เสียงเธอหยุดไปสักพัก“แต่ถ้าพวกเขาเล่นสกปรกฉันจะใช้วิธีนี้เพื่อให้เป็นบทเรียนกับพวกเขาและยังเป็นการทำให้พรยศได้รู้ว่าหลายเรื่องในวงการนี้มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เขาคิด” “……แต่ว่าวันที่คุณพรยศออกรายการเป็นวันเกิดของคุณพอดี” “อืม……วันเกิดมันมีทุกปีแต่พรยศเดบิวต์มีครั้งนี้ครั้งเดียว” นี่เป็นโอกาสที่พรยศคว้ามาได้ด้วยความยากลำบากจิดาภาก็อยากจะช่วยเขารักษาโอกาสนี้ไว้ ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้รุจาภาจะเป็นห่วงมาก “ถ้าหากว่าธวลย์ก็ยังแพ้ล่ะคะ?”โรศนีเอ่ยถามอย่างกล้าหาญแต่ก็เป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ “เช่นนั้นก็เป็นเพราะฟ้าลิขิตแล้วล่ะ”จิดาภาลุกขึ้นยืนแล้วเปลี่ยนเป็นชุดเข้าฉาก“ตอนนี้มาคิดๆดูแล้วตอนที่ฉันยังอยู่บ้านตระกูลวีรภัทรเมธีก็ไม่ได้ทำหน้าที่ลูกสาวและพี่สาวที่ดีตอนนี้มีโอกาสก็อยากทำให้ดีที่สุดในอนาคตถ้ามีลูกเป็นของตัวเองก็จะได้เป็นแม่ที่ดีของลูกได้” “ตอนนี้คุณวางแผนที่จะมีลูกแล้วเหรอคะ?” “จะว่าอย่างงั้นก็ได้……”ในแววตาของจิดาภามีร่องรอยของความสดใส ถึงแม้ว่าพวกเขาแต่งงานกันยังไม่นานแต่จิรภาสก็อายุสามสิบต้นๆแล้วคงมีความคิดที่อยากเป็นคุณพ่ออยากมีลูกเป็นของตัวเอง “ท่านประธานจิรภาสทราบไหมคะ?” “เขารู้จักฉันดีเขารู้แหละ” บางครั้งแค่มองตาจิรภาสก็เข้าใจเธอแล้ว โรศนีมองจิดาภาที่อยู่ในกระจกเธอรู้สึกว่าเข้าใจเธอมากขึ้นตอนแรกเธอคิดว่าจิดาภามีจิรภาสคอยหนุนหลังแล้วคงจะแสดงหนังอีกไม่กี่เรื่องแล้วลาออกจากวงการไปทำหน้าที่ภรรยาเต็มตัว แต่จากการที่รู้จักกันมาพักใหญ่เธอก็พบว่าจิดาภาเป็นผู้หญิงที่มีความคิดเป็นของตัวเอง เธอไม่มีทางคล้อยตามใครง่ายๆและไม่มีทางให้ตัวเองเลือกทางเดินผิด เธอแค่พยามทุ่มเททำในสิ่งที่อยากทำทุ่มเทสานฝันของตัวเองให้เป็นจริงถึงแม้จะล้มเหลวก็คิดเสียว่าเป็นบทเรียนไม่ใช่มานั่งโทษตัวเอง ทั้งๆที่เธอสามารถก้าวเดินได้อย่างราบรื่นแต่เธอกลับเลือกที่จะใช้หยาดเหงื่อและความขยันของตัวเองมาปูทาง …… ไม่นานก็ถึงฉากที่ต้องโหนตัว อีกทั้งยังต้องถ่ายท่ามกลางสายฝนจิดาภาสวมชุดเข้าฉากศีรษะเปียกปอนไปด้วยน้ำ หลังจากได้ยินเสียงผู้กำกับสั่งคัตเธอก็ลงมายืนบนพื้นอย่างปลอดภัยแต่สมภพที่อยู่ข้างๆกลับพลัดตกลงบนเบาะรองด้านล่างทีมงานจึงรีบวิ่งเข้าไปดูพบว่าเขาไข้สูงจนสลบไปแล้ว เจนจิราคอยวิ่งวุ่นดูแลอยู่เคียงข้างทั้งต้องคอยป้อนยาและวัดไข้ของสมภพเป็นระยะในห้องพัก พอสมภพลืมตาขึ้นก็พบเธอนั่งอยู่ข้างเตียงดวงตาของเธอแดงเล็กน้อยและในตอนนั้นเองที่มุมปากเขาค่อยๆยกขึ้น“ต้องรอให้ผมป่วยก่อนสินะคุณถึงยอมอยู่กับผมแบบนี้” “คุณ……” “ถ้างั้นผมป่วยบ่อยๆดีกว่า”เขายกมือขึ้นมากุมมือของเจนจิราไว้“คืนนี้คุณต้องอยู่ดูแลผมที่นี่ไม่อย่างนั้นผมจะต้องตายแน่ๆ” “ถ้าฉันไม่อยู่กับคุณจะมีคนมาดูแลคุณอีกหรือไง?”เจนจิราถอนหายใจอย่างปลงๆ“มนุษย์ไม่ควรจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวแบบนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นยังไงก็ต้องมีคนคอยดูแลมนุษย์ต้องมีเพื่อนหรือญาติบ้าง” ขอบตาของเจนจิราแดงขึ้นไปอีก เธอเคยนอนอยู่บนเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลนานหลายปีเธอเข้าใจความรู้สึกที่โดดเดี่ยวไม่มีที่พึ่งเป็นอย่างดีเนื่องจากเธอทรมานจากโรคที่เป็นอยู่เธอจึงยอมผลักคนใกล้ชิดออกไปแล้วทนแบกรับความทรมานอยู่คนเดียว “ผมขี้เกียจสานสัมพันธ์กับคนอื่น” สมภพพูดประโยคนี้จบก็หลับตาลงอีกครั้ง เจนจิราชะงักไปเธออยากถามเขาเหลือเกินว่าถ้าขี้เกียจสานสัมพันธ์กับคนอื่นแล้วทำไมถึงเอาเธอมาเป็นผู้ช่วย?ทำไมถึงเลือกที่จะมาเป็นนักแสดงซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องพบปะผู้คนอยู่ตลอดเวลา?ในใจของเขามีความลับมากมายขนาดไหนกันนะ? คำถามที่กำลังจะหลุดออกจากปากก็ถูกกลืนลงไปทั้งหมด เจนจิรามองหน้าสมภพพลางเทน้ำอุ่นไปด้วยคิดไปด้วยเขาเป็นคนยังไงกันแน่? และจะมีใครที่สามารถทำให้เขาเปิดใจได้……
已经是最新一章了
加载中