บทที่1 อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด   1/    
已经是第一章了
บทที่1 อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
บทที่1 อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ฉินจิ้งเวินนั่งอยู่บนเก้าอี้อันเย็นเยียบของโรงพยาบาล สีหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าและทุกข์ทน พ่อของเธอเสียชีวิตคาที่จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่วนแม่ของเธอนั้นอวัยวะภายในทั้งร่างเสียหายอย่างหนักอยู่ในช่วงความเป็นความตาย ในขณะที่น้องสาวที่ถึงแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก ต่อก็ถูกภาพนองเลือดที่เกิดขึ้นต่อหน้าทำให้ตกใจจนสลบไป จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น ความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนที่เกิดขึ้นทั้งหมดตกเป็นของพ่อเธอ ในขณะการชดเชยค่าเสียหายให้กับความตายของคนขับรถฝ่ายตรงข้ามและผู้บาดเจ็บทั้งหมดนั้นตกเป็นฉินจิ้งเวิน เพียงคนเดียว เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกินขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ทั้งกายและจิตใจของฉินจิ้งเวินราวกับพังทลายลงในทันใด และนี่ก็ยังไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเธอ บริษัทของพ่อล้มละลาย ทิ้งเอาไว้เพียงหนี้สินมหาศาล เจ้าหนี้ทั้งหลายล้วนตามมาที่โรงพยาบาล ถึงจะรับรู้ข่าวการตายของพ่อของเธอแล้วแต่ก็ยังคงไม่เลิกรา ไม่ยอมปล่อยฉินจิ้งเวินไป ฉินจิ้งเวิน นั่งร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตาสักหยดอยู่ที่นั่นเป็นเวลาเนิ่นนาน จนกระทั่งนางพยาบาลเดินเข้ามา “คุณหนู ฉิน กรุณาจ่ายค่ารักษาของคุณแม่และน้องสาวของคุณโดยเร็วด้วย หากยังไม่จ่ายค่ารักษาอีกเราจะทำการหยุดรักษาลง” “ค่ะค่ะ ฉันกำลังคิดหาวิธี” ตอนนี้แม้กระทั่งค่ารักษาพยาบาลฉินจิ้งเวิน ยังไม่มีปัญญาหามาได้ นับประสาอะไรกับเงินชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้ตายและเจ้าหนี้เหล่านั้น ต่อให้เธอขายชีวิตตัวเองก็ยังไม่พอชดใช้ แต่ตอนให้จะอับจนหนทางแค่ไหนเธอก็ยังคงต้องรีบหาหนทางมาให้ได้ ตอนนี้ไม่มีใครยินดีช่วยเหลือเธอ คนเดียวที่เธอคิดถึงขึ้นมาก็คือหชู่หยาง “หชู่หยาง.....” เธอเอ่ยเรียกชื่อของแฟนหนุ่ม แต่กลับไม่รู้จะเอ่ยปากยังไงต่อหลังจากนั้น “หาฉันมีธุระอะไร?” เสียงของหชู่หยางดังขึ้นมาตามสาย “แม่....แม่ของฉันป่วย ตอนนี้จำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉิน ฉัน....” ฉินจิ้งเวิน พยายามไม่สนใจความสับสนวุ่นวายภายในใจ เธอวางศักดิ์ศรีของตนเองลง และเอ่ยถึงความยากลำบากที่เผชิญอยู่ออกมาโดยตรง แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยจนจบ อีกด้านก็ตามมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาของ หชู่หยาง “เงิน? เธอกำลังยืมเงินฉัน? ยังจะมาหลอกเอาเงินฉันอีก?” “หลอกเอาเงิน? หชู่หยาง คุณหมายถึงอะไร?” ประโยคที่เอ่ยออกมาของหชู่หยาง ทำเอาเลือดในกายของเธอเย็นเฉียบขึ้นมากะทันหัน เธอไปทำอะไรไม่ดีหรอกหรือ หชู่หยางถึงกับคิดว่าเธอเป็นคนหลอกลวง? “เธอยังเสแสร้งอยู่อีก ตอนนี้หน้ากากของเธอถูกถอดออกมาแล้ว แต่กลับยังมาแสดงละครกับฉัน ฉินจิ้งเวิน เธอมันหน้าไม่อาย เพื่อเงินเธอถึงกลับกล้าสาปแช่งแม่ตัวเอง” “ฉัน... หชู่หยางฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร ฉันไม่ได้...” แสดงละคร คำนี้ยังไม่ทันได้เอ่ยออกมาจากปาก เธอก็ถูกตัดบท “ฉินจิ้งเวิน เธอยังมาเอ่ยขอร้องหน้าด้านๆอะไรอีก ยังอยากจะสาปแช่งใครอีก? ฉันจะบอกอะไรให้ ต่อให้บ้านของเธอล้มละลายฉันก็จะไม่ให้เงินเธอแม้แต่สตางค์เดียว” ฟังออกได้ว่าหชู่หยางกำลังโมโหสุดขีด แต่ความโกรธของเขากลับช่างน่าขันสำหรับเธอ เห็นทีหชู่หยางคงรู้สถานการณ์ที่บ้านเธอแล้ว จึงอยากผลักไสให้พ้นตัว ขนาดคนที่เธอรักที่สุดยังรีบตัดรอนความสัมพันธ์ แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้ไม่อนุญาตให้เธอเย่อหยิ่งอะไรได้อีก ไม่ว่าหชู่หยางจะว่ายังไงเธอก็ยังคงต้องจับฟางเส้นสุดท้ายเส้นนี้ให้อยู่ “ฉัน....” ทันใดนั้นในตอนที่เธอกำลังจะเอ่ยขอร้องอย่างหมดท่า ในสายก็มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้น “ที่รัก น้ำเตรียมเรียบร้อยแล้ว ไม่รีบอาบจะเย็นเอานะคะ” “คุณรีบหน่อย ฉันรอคุณในห้องอาบน้ำ” น้ำเสียงอ่อนหวานราวกับสามารถหลอมให้คนละลายได้ดังขึ้น แต่แผ่นหลังของฉินจิ้งเวินกลับเย็นยะเยือก เสียงนี้.... “หชู่หยาง พวกคุณ..” “ได้ยินก็ดีแล้ว ฉันกำลังจะบอกเธออยู่พอดี อย่าคิดว่าจะหลอกฉันได้สมดั่งใจ ฉันก็ไม่ได้จริงใจอะไรกับเธอเช่นกัน” น้ำเสียงของหชู่หยางเย็นชาอย่างยิ่ง ดุจกำลังส่งฉินจิ้งเวินลงนรก “เรื่องหลอกลวงทั้งหมดที่คุณพูดเป็นเธอที่บอกคุณ?” “ใช่ เป็นเธอที่บอกฉัน แล้วเธอคิดจะทำอะไร? รังแกเธอ? ฉินจิ้งเวิน ฉันเตือนเธอเอาไว้ ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงของฉัน มีฉันอยู่เธออย่าได้ฝันจะทำอะไรได้” สายตัดลงอย่าไร้เยื่อใยหลังคำเตือนอันเกรี้ยวกราด นี่ยังคงเป็นผู้ชายคนนั้นที่เธอรักอยู่อีกหรือ? ความโกรธแค้น ความรู้สึกไม่เต็มใจระคนผิดหวังกลืนกินฉินจิ้งเวิน ในห้องผู้ป่วยVIP เฉียวซู่นเฉินที่สลบไปถึงสามวันในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมา รอบศีรษะของเขาพันไปด้วยผ้าก๊อซ บนใบหน้ามีรอยขีดข่วนเล็กน้อย คิ้วของเขาขมวดขึ้นจากความรู้สึกเจ็บปวดศีรษะ แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่สามารถกลบรัศมีความเป็นวีรบุรุษของเขาลงได้ “ทำไมถึงปวดหัวขนาดนี้” เฉียวซู่นเฉินลุกขึ้นนั่งพร้อมสบถเล็กน้อย ในขณะที่เฉียวหยู่พี่สาวของเขารีบเดินเข้ามาข้างเตียงด้วยความเป็นห่วง “ขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดนายก็ฟื้นแล้ว” “....” “คนขับรถของนายเสียชีวิตแล้ว” “สมควรตาย ผมจะทำให้คู่กรณีต้องชดใช้ราคาอันน่าเจ็บปวดนี้” เฉียวซู่นเฉินยกคิ้วขึ้น “ซู่นเฉิน คู่กรณีก็เสียชีวิตแล้วเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคู่กรณีของเราคือฉินจูน” “ฉินจูน?” เฉียวซู่นเฉินตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง คู่กรณีของเขาเหตุใดจึงเป็นฉินจูน? เป็นเรื่องที่ฉินจูนจงใจ หรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญกัน? “ไม่ผิด เป็นฉินจูน บนรถของฉินจูนยังมีลูกและเมียของเขาด้วย สถานที่เกิดเหตุของพวกนายเกิดขึ้นที่ทางด่วนสนามบิน ฉินจูนน่าจะกำลังหนีพวกเจ้าหนี้ด้วยความเร็ว ทางตำรวจสรุปว่าเขาขับรถด้วยความเร็วสูงอย่างยิ่งทำให้เสียการควบคุมและทะลุแผงกั้นออกมาชนกับรถของนาย” เฉียวหยู่เอ่ยถึงข้อสันนิษฐานเบื้องต้นของตำรวจให้เฉียวซู่นเฉินฟัง “.....” เฉียวซู่นเฉินนิ่งเงียบอย่างใช้ความคิด หากคิดตามที่เฉียวหยู่พูด เหตุอันน่าสลดนี้บางทีอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้น ไม่ ต่อให้เป็นอุบัติเหตุ ต่อให้ฉินจูนนั้นได้ตายไปแล้ว แต่เขาก็จะไม่ยกโทษให้อีกฝ่ายเช่นกัน ความแค้นระหว่างเขากับตระกูลฉินชั่วชีวิตนี้ไม่มีวันแก้ไขลงได้ “ภรรยาและลูกของฉินจูนเป็นอย่างไรบ้าง?” เฉียวซู่นเฉินเอ่ยถามเสียงต่ำ “ภรรยาของฉินจูน บาดเจ็บสาหัส จนกระทั่งวันนี้ก็ยังอยู่ห้องไอซียู หมอบอกว่าโอกาสรอดชีวิตนับวันยิ่งน้อยลง ลูกสาวคนเล็กถูกกระแทกและทำให้ตกใจอย่างรุนแรงจึงยังสลบไม่ฟื้น ส่วนลูกสาวคนโตเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกจัดการเรื่อง” เฉียวหยู่ เอ่ยต่อ “อารองอาศัยช่วงไม่กี่วันนี้ที่นายหมดสติเริ่มลงมือกวนน้ำให้ขุ่นอีกแล้ว ตอนนี้คุณปู่ออกคำสั่งมา หากนายฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ให้แต่งงานมีลูกซะ นายจะต้องมีทายาทมาสืบสกุลเท่านั้น ท่านถึงสามารถมอบตำแหน่งผู้สืบทอดให้แก่นายได้อย่างสง่าผ่าเผย” “อารองถึงกับรีบร้อนทนไม่ไหวขนาดนั้นเชียว ยังไม่ทันรู้ว่าผมเป็นหรือตายเขาก็เก็บอาการไม่อยู่เสียแล้ว ดี ถ้างั้นผมจะทำให้ความหวังของเขาสูญสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน” เฉียวซู่นเฉินเอ่ยเสียงเย็น “ก็แค่อยากได้ทายาทสืบทอด? ในเมื่อคุณปู่อยากได้ ผมให้เขาก็จบ” ยามค่ำเฉียวหยู่ก็กลับไป เฉียวซู่นเฉินจึงออกไปสูดอากาศข้างนอก ตอนที่เขากำลังเดินผ่านสวนหย่อมของโรงพยาบาล เสียงร้องไห้อันทุกข์ทรมารทำให้เขาต้องชะงักฝีเท้าลง ฉินจิ้งเวินยืนอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งนั้น ไม่มีหน้าจะไปสู้กับแม่และน้องสาวของตน อีกทั้งยังรับไม่ไหวที่หชู่หยางมาหักหลังตนในเวลานี้ เธอจึงร้องไห้แต่กลับไร้น้ำตาจะหลั่งรินออกมาอย่างทรมาร “ทำไมกัน....ทำไมกัน....” ฉินจิ้งเวินก็ไม่รู้เช่นกันว่าตนเองกำลังถามอะไร เพียงแค่รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างช่างไม่ยุติธรรม ทั้งรู้สึกโมโหและเศร้าโศก ที่เจ็บปวดที่สุดก็คือไม่มีใครช่วยยิมยอมเหลือเธอเลยสักคน ในเวลานั้นเองท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นมืดหม่น ก่อนที่ฝนจะตกลงมาห่าใหญ่ น้ำฝนชะล้างคราบน้ำตา คราบน้ำตากลายเป็นน้ำฝน ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงที่กำลังร้องไห้ท่ามกลางในหยาดโตที่กระหน่ำลงมาทำให้เฉียวซู่นเฉินถึงกับต้องขมวดคิ้ว ในห้องอันมืดมนไม่มีแม้แต่แสงสว่างสักนิด มืดสนิทจนทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว ในขณะเดียวกันก็ทำให้ในใจรู้สึกราวกับกำลังถูกรบกวนไม่อาจสงบลงได้ ผู้ชายที่อีกสักครู่กำลังจะเดินเข้ามาจะเป็นอย่างไร เธอไม่มีทางรู้เลยสักนิด แต่เธอกลับประเคนตัวเองให้แก่เขา นี่หมายถึงต่อให้หชู่หยางมาหาเธอ พวกเขาก็ไม่ทางเป็นไปได้อีกแล้ว ไม่ทันได้มีเวลาให้ฉินจิ้งเวินชอกช้ำเสียใจไปมากกว่านี้ ประตูของห้องนอนอันมืดมิดก็ถูกผลักออก ได้ยินเสียงประตูดังขึ้นในใจของเธอก็รู้สึกหวาดกลัวราวขึ้นมาทันใด อีกทั้งยังมีความคิดที่จะหลบหนีออกไปขึ้นมาแวบหนึ่ง แต่ความจริงนั้นวางอยู่ตรงหน้าของเธอ เธอต้องการเงินถึงต้องทำเช่นนี้ จะไปมีคุณสมบัติอะไรที่จะหลบหนีกัน ชายคนนั้นปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว อาศัยความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมเดินเข้ามายังข้างเตียงและมองเห็นว่าผู้หญิงนั่งอยู่ที่นั่น แต่กลับไม่สามารถเห็นหน้าตาของเธอได้อย่างชัดเจน
已经是最新一章了
加载中