ตอนที่388ปิดกล้องแล้ว

ตอนที่388ปิดกล้องแล้ว “กลับไปพักผ่อนเถอะเรื่องที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง”ผู้จัดการตบลงบนไหล่เขาเบาๆ“แต่ว่าเธอโชคดีจริงๆนะมีเรื่องวันนี้เกิดขึ้นอีกหน่อยคงไม่มีใครโง่ถึงขนาดใช้วิธีแบบนี้มาแกล้งเธออีก” ทว่าพรยศกลับไม่ได้คิดว่าเขาโชคดีตรงไหน คนที่มามุงดูเริ่มสลายตัวไปด้านพรยศก็นั่งเช็ดเครื่องสำอางในห้องแต่งตัวเงียบๆหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็ส่งข้อความหาจิดาภา “พี่สามคนของYIOใส่ร้ายผมแต่กลับโดนกรรมตามสนองเสียเองพี่เป็นคนช่วยผมใช่ไหมครับ?” นอกจากช่วยเขาจากเหตุการณ์ตื่นเต้นบนเวทีจิดาภาก็ได้ช่วยเหลือเขาไว้อีกครั้ง ด้านจิดาภาหลังจากเห็นข้อความก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร “ตั้งแต่วันที่แกก้าวเข้าสู่วงการนี้ก็แกต้องยอมรับด้านสว่างและด้านมืดทั้งหมดของวงการนี้ให้ได้เหตุการณ์วันนี้ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งถ้าฉันไม่อยู่ในวันนี้แกจะจัดการกับความตื่นเต้นและคนที่ใส่ร้ายแกยังไง?ทางที่แกต้องเดินยังอีกยาวไกลนักความกดดันที่ต้องได้รับก็มีอีกมาก” “แล้ว……พี่รู้ได้ยังไง?”พรยศกำโทรศัพท์แน่นเขาตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ “วันนั้นที่แกเล่าให้ฉันฟังฉันก็ให้ความสนใจพวกเขาไว้แล้วคนใดก็ตามที่ถือว่าเป็นคู่แข่งของแกก็สามารถลงมือกับแกได้ทั้งนั้นแกต้องรู้จักป้องกันตัวเองยิ่งแกโดดเด่นมากเท่าไหร่คนที่อิจฉาแกลับหลังก็จะมากขึ้นเท่านั้นคนที่ต่อหน้าทำดีกับแกอาจจะฉวยโอกาสแทงข้างหลังแกก็ได้” “นี่เป็นโลกที่แกต้องเผชิญถ้าฉันอยู่ฉันสามารถช่วยแกได้แต่ตอนที่ฉันไม่อยู่แกก็ต้องพึ่งตัวเอง” พรยศคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะโหดร้ายขนาดนี้ พี่สามของเขาสามารถต่อสู้อยู่ในวงการที่โหดร้ายขนาดนี้ได้ทว่าคนในตระกูลวีรภัทรเมธียังดูถูกเธอ……พวกเขาไม่มีสิทธิ์! “ธวลย์ฉันเคลียร์กับทางผู้รับผิดชอบรายการแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นหลังเวทีจะไม่ส่งผลอะไรกับเธอแต่ว่าพรุ่งนี้บรรดานักข่าวต้องเขียนข่าวแน่นอนพรุ่งนี้เช้าฉันจะส่งคนตามเธอไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจเรื่องนี้จะได้จบเสียที” “ครับขอบคุณพี่ธีริทธ์มากนะครับ”พรยศก้มหัวเป็นการขอบคุณเขาจะเชื่อฟังคำเตือนของจิดาภาเขาได้บทเรียนจากเหตุการณ์นี้แล้วในอนาคตเขาจะค่อยๆเข้มแข็งขึ้น เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงพริบตาก็ผ่านไปหลายเดือนแล้วภาพยนตร์เรื่อง《ไร่สาลี》สามารถปิดกล้องก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูร้อน! สองสามีภรรยาเจ้าของร้านค้าเล็กๆสามารถฝ่าฟันอุปสรรคมากมายและมีชีวิตรอดจากเหตุการณ์อันเลวร้ายพวกเขามองไร่สาลีด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและความยินดีจากภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อให้เห็นว่าความจริงใจเล็กๆสามารถทำให้เราหวนนึกถึงได้เสมอ จิดาภาซึ่งรับบทเป็นภรรยาสามารถสื่ออารมณ์ทุกข์ยากออกมาได้เป็นอย่างดีการเข้าคู่กับเจ้าพ่อการแสดงอย่างสมภพก็ไม่ได้กลบความโดดเด่นของเธอแต่อย่างใดเธอสามารถใช้ทักษะการแสดงของเธอเพื่อให้ทุกคนยอมรับในตัวเธอ! ทีมงานรู้สึกว่าการได้จิดาภามาร่วมงานในครั้งนี้ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์แบบ!ไม่มีนักแสดงหญิงคนไหนสามารถมาแทนที่เธอได้ภพธรที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับครั้งแรกก็รู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมากตั้งแต่จิดาภากลับเข้าวงการจนถึงวันนี้เธอก็เติบโตขึ้นมากทั้งการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าและร่างกายก็มีเสน่ห์มากขึ้น “ยินดีด้วยนะจิดาภาในที่สุดก็ปิดกล้องเสียทีภาพยนตร์เรื่องนี้สมบูรณ์แบบได้เพราะเธอ”ภพธรเดินถือช่อดอกไม้เข้ามามอบให้กับจิดาภาเพื่อเป็นตัวแทนแสดงความขอบคุณ “ขอบคุณผู้กำกับมากที่เชื่อมั่นและให้โอกาสฉันในครั้งนี้”จิดาภารับช่อดอกไม้มาพลางเอ่ยขอบคุณทีมงานทุกคนในกอง “วันนี้เป็นวันพิเศษแต่กลับไม่เห็นท่านประธานจิรภาสมาด้วยช่างน่าแปลกใจจริงๆ”ภพธรเอ่ยขึ้นพลางมองหาจิรภาสไปรอบๆ ทุกวันสำคัญของจิดาภาเขาไม่เคยขาดไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหนพวกเขาสามีภรรยาก็จะให้ความสำคัญกับฝ่ายตรงข้ามเป็นที่หนึ่งเสมอ “เขาจะมาแน่นอน”จิดาภาเอ่ยขึ้นแกมยิ้ม “อ้อใช่ผมได้ข่าวว่าธวลย์ออกอัลบั้มเดี่ยวแล้วเทศกาลดนตรีครั้งก่อนเขาก็คว้าแชมป์ด้วยนี่เก่งจริงๆ”ภพธรเป็นหนึ่งในคนส่วนน้อยที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของจิดาภาและพรยศ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พรยศตั้งใจปลอมตัวเป็นพิเศษเพื่อมาหาจิดาภาที่กองถ่ายภพธรเองก็เห็น “แน่นอนอยู่แล้วล่ะเขามีความพยายามมากแถมยังมีพรสวรรค์”จิดาภายิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ ตั้งแต่วันที่ออกรายการหลังจากYIOถูกตรวจสอบพบสิ่งต้องสงสัยประวัติด่างพร้อยก็ถูกขุดคุ้ยออกมาจนเต็มอินเทอร์เน็ตพรยศให้ความร่วมมือกับตำรวจในการตรวจสอบเป็นอย่างดีใช้หลักฐานในการแสดงความบริสุทธ์ของตัวเองทำให้ทุกคนให้ความสนใจกับนักร้องหน้าใหม่อย่างเขามากขึ้นบวกกับการโปรโมทของบริษัททำให้แฟนคลับของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกทั้งเขายังได้ไปออกรายการบ่อยๆสามารถพูดได้ว่าพรยศในตอนนี้ถือเป็นนักร้องอย่างเต็มตัวแล้ว “เพลงประกอบภาพยนตร์ของเราก็เลือกแล้วแต่ยังขาดนักร้องไม่รู้ว่าช่วงนี้เขามีคิวว่างหรือเปล่า?” “เรื่องนี้เป็นเรื่องงานฉันไม่สามารถตัดสินใจแทนเขาได้คุณไปติดต่อผู้จัดการเขาดีกว่า”จิดาภายิ้มตอบจากนั้นก็ออกจากกองไปพร้อมกับโรศนี ภพธรมองเธอจากไปอย่างเศร้าใจทุกคนต่างได้รับกำลังใจจากเธอเธอเป็นเหมือนกับเทพธิดาแห่งความโชคดีทำให้คนรอบข้างมีความสุข หมดคิวถ่ายของจิดาภาแล้วสมภพเองก็เช่นกัน ทว่านอกจากอยากตัวติดกับผู้ช่วยตัวน้อยตลอดเวลาเขาก็ไม่ต้องการดอกไม้หรือของขวัญอย่างอื่นถึงแม้ว่าจนถึงตอนนี้ผู้ช่วยตัวน้อยยังไม่รู้ถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอเลยก็ตาม วันนี้ภาพยนตร์เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการแก้ไขแต่เนื่องจากภาพยนตร์เรื่อง《ส่วนความทรงจำ》ได้คิวออกฉายในช่วงฤดูร้อนนักแสดงหลักอย่างจิดาภาชาครและคนอื่นๆก็ต้องรีบเดินสายโปรโมทแล้วภาพยนตร์ที่ต้องการออกฉายในช่วงฤดูร้อนมีไม่น้อยเลยทีเดียวหนึ่งในนั้นก็มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่มีชื่อเสียงรวมถึงภาพยนตร์แนวโรแมนติกอย่าง《วันนั้นในฤดูร้อน》และภาพยนตร์แนวแฟนตาซีอย่าง《เงาดำ》ล้วนเป็นภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยนักแสดงชื่อดังที่มีฐานแฟนคลับหนาแน่น! ยกตัวอย่างเช่นภาพยนตร์เรื่อง《เงาดำ》ถึงแม้เนื้อเรื่องจะโบราณใช้เอฟเฟกต์ง่ายๆแต่ก็สามารถเรียกคนดูได้เป็นจำนวนมากเพราะใช้นักแสดงที่กำลังโด่งดังให้นักแสดงโปรโมทสองสามประโยคก็สามารถเรียกแฟนคลับมาดูได้แล้วและนี่จึงเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของภาพยนตร์เรื่อง《ส่วนความทรงจำ》 ผู้ชมมักจะเอาภาพยนตร์เหล่านี้มาเปรียบเทียบกันโดยเฉพาะหลังจากจิดาภาซึ่งได้รับอุบัติเหตุในครั้งก่อนกลับมาถ่ายต่ออย่างเงียบๆทำให้ผู้ชมคิดว่าเธอเตรียมตัวลาจอเป็นครั้งที่สองความสนใจในตัวเธอจึงลดลง ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีเจ้าพ่อการแสดงอย่างชาครเป็นนักแสดงหลักแต่ก็ยากที่จะดึงเรตติ้งได้ วงการบันเทิงมักจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอไม่ได้ออกรายการหรือโฆษณาสักสองสามเดือนผู้ชมก็เกือบจะลืมจิดาภาคนนี้ไปแล้วความทรงเกี่ยวกับเธอก็เหลือเพียงรูปภาพและโปสเตอร์ไม่กี่รูปความสนใจที่เคยมีก็ค่อยๆลดลงตามกาลเวลา หลายคนก็รู้สึกเสียดายด้านพรยศซึ่งวิ่งวุ่นออกรายการก็ได้ยินบทสนทนาด้านลบจากทีมงานบ้างในบางครั้งเขาเองก็ได้ติดตามข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตอยู่บ้างหลังจากเห็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามจิดาภา“เลือกแสดงบทนี้จะไม่เสียใจในภายหลังใช่ไหม?”